ท่านว่า “จิตอันใด ใจอันนั้น” เปรียบได้กับ น้ำในมหาสมุทร
น้ำที่สงบ คือ ใจ
ระลอกคลื่น คือ จิต
เมื่อจิตสงบก็คือ ใจ
เจริญธรรม
| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| “จิต” กับ “ใจ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=22740 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | มิตรตัวน้อย [ 02 มิ.ย. 2009, 14:56 ] |
| หัวข้อกระทู้: | “จิต” กับ “ใจ” |
ท่านว่า “จิตอันใด ใจอันนั้น” เปรียบได้กับ น้ำในมหาสมุทร น้ำที่สงบ คือ ใจ ระลอกคลื่น คือ จิต เมื่อจิตสงบก็คือ ใจ เจริญธรรม
|
|
| เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 02 มิ.ย. 2009, 20:21 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
| สาธุค่ะั คุณมิตรตัวน้อยหายไปนาน เหมือนกันน่ะค่ะ  คนไร้สาระเคยไปอ่านเจอค่ะ พระท่านว่า จิตกับน้ำมีธรรมชาติเหมือนกันอยู่ 3 ประการ 1. มีธรรมชาติไหลลงต่ำเสมอ 2. แปรไปตามภาชนะที่รองรับ 3. เดิมบริสุทธิ์ แต่สกปรกเพราะมีสิ่งเจือปน ธรรมสวัสดีค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | มิตรตัวน้อย [ 03 มิ.ย. 2009, 08:32 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
สวัสดีตอนเช้าครับ คุณไร้สาระ ไม่ค่อยได้คุยกันนะครับ ที่หายไปก็เพราะงานหลวงเยอะครับ เห็นด้วยครับ กับข้อที่ 1 และ 2 นะครับ แหะ ข้อที่ 3 ขอเอาคำของหลวงตาฯ วัดบ้านตาด มาอ้างครับ "จิตเดิม ผ่องใส ปภัสสร แต่เศร้าหมองไปเพราะกิเลสที่จรมา ท่านไม่ได้ว่า บริสุทธิ์ หากบริสุทธิ์ก็ต้องไม่มาเกิดสิ" เคยอ่านเจอใน "บอร์ดบทความธรรม" ครับ เจริญธรรม
|
|
| เจ้าของ: | มิตรตัวน้อย [ 03 มิ.ย. 2009, 09:23 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายจิตเดิมนั้นผ่องใส แต่อาศัยกิเลสที่เป็น อาคนฺตุเกหิ กิเลเสหิ กิเลสเข้าจรมา จิตใจจึงมัวหมองท่านว่าอย่างนี้ อ่านไปนี้พวกนักเรียนนี้โต้กันตาดำตาแดง ไอ้เราก็พลอยขึ้นเวทีฟัดกับเขาด้วย ครั้นกลับออกมาก็มีแต่พวกตาบอดทั้งหมด ไม่ได้มีใครได้สาระเป็นที่ระลึกต่อกันเลยนะท่านบอก ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายจิตเดิมผ่องใส แต่อาศัยกิเลสที่สัญจรเข้าไปคลุกเคล้ากันแล้วก็แสดงความเศร้าหมองออกมา คือออกมาภายนอก ทีนี้พวกเรียนทั้งหลาย เมื่อจิตผ่องใสแล้วจะมาเกิดทำไม ผู้ที่ไม่เกิดนั่นคือจิตท่านผ่องใส แล้วจิตผ่องใสมันมาเกิดได้ยังไง ก็อ่านถกเถียงกันนี้ก็ไม่มีใครลงใครแหละ มันไม่รู้ แต่เวลาไปปฏิบัติเข้าละซี นี่ละของจริงเข้าทีเดียวผางหมดเลย ไม่ไปถามใครเลยพอจิตเข้าไปถึง จิตผ่องใสนี้มันควรก็การเกิดอยู่โดยดี นั่นเวลาดูเข้าไปแล้วนะ จิตบริสุทธิ์กับจิตผ่องใสต่างกัน พอเข้าถึงความบริสุทธิ์แล้วผึงเลย ไม่มีคำว่าเกิดตายอีก แต่นี่ ท่านบอกว่า จิตผ่องใส ท่านไม่ได้บอกว่าจิตบริสุทธิ์ ไอ้พวกเอาผ่องใสมาฟัดกันทั้งกัดทั้งแย่งกัน ถ้าเป็นผ้าขี้ริ้วนี้ขาดเลยไอ้ปุ๊กกี้มันยังไม่ปล่อยนะ เราถึงได้มารู้เรื่องถึงเรื่องว่าจิตผ่องใสกับจิตบริสุทธิ์ ท่านไม่ได้พูดว่าจิตบริสุทธิ์ ในบาลีก็เห็นแต่ว่า จิตผ่องใส ดูก่อนภิกษุทั้งหลายจิตเดิมแท้ผ่องใสท่านว่างั้น จิตเดิมคือจิตอวิชชา นั่นผ่องใส จิตอวิชชาผ่องใสมากทีเดียว เพราะฉะนั้นผู้ปฏิบัติไปถึงขั้นนั้นจึงงงถูกอวิชชาตีหน้าผากได้สบายนะ มหาสติมหาปัญญาก็เถอะเข้าไปเจอทีแรก ถ้าประเภทพวกทันธาภิญญาที่รู้อย่างเชื่องช้าไปลำดับลำดา เว้นขิปปาภิญญาเสีย อันนี้ไม่มีปัญหาขิปปาภิญญาขาดสะบั้นไปพร้อมเลย : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน http://www.luangta.com/thamma/thamma_ta ... 90&CatID=2 |
|
| เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 03 มิ.ย. 2009, 15:28 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
| ขอบคุณค่ะ คุณมิตรตัวน้อย คนไร้สาระยอมรับค่ะ ว่าข้อท้ายเหมือน ๆจะพูดไม่ค่อยถูก สาธุค่ะที่กรุณาอธิบายให้ ได้ปัญญา
|
|
| เจ้าของ: | หล่อ ลูกแม่อ้วน [ 03 มิ.ย. 2009, 16:24 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
เราว่าจิต กะ ใจ มันก็อันเดียวกันแหละ....ไม่เห็นต้องเรียกหลายชื่อให้ งงงงง.... |
|
| เจ้าของ: | มิตรตัวน้อย [ 04 มิ.ย. 2009, 08:10 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
ที่เรียกหลายชื่อ เพราะอาการที่เกิดต่างกัน หากเรียกคลุมไปหมด ก็จะแยกไม่ออก แยกไม่เป็น สื่อสารกันไม่เข้าใจ ถ้าเข้าใจและรู้จัก "จิต" รู้จัก "ใจ" แล้วการฝึกจิตฝึกใจก็ทำได้ง่าย อย่างกิเลส ทุกคนเข้าใจ หน้าตาเป็นอย่างไร มีกี่ตัวกี่อย่าง ไม่รู้ แล้วจะสู้กับกิเลสได้อย่างไร เจริญธรรม
|
|
| เจ้าของ: | bonanza [ 04 มิ.ย. 2009, 19:46 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: “จิต” กับ “ใจ” |
|
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|