ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เห็นใจจัง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=22438
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  มะเดี่ยว [ 21 พ.ค. 2009, 14:29 ]
หัวข้อกระทู้:  เห็นใจจัง

เข้ามาอ่านแต่ไม่เข้าระบบ อ่านแล้วมันมีความรู้สึกว่าน่าเห็นใจเวปมาสเตอร์มาก เพราะคนโพสแต่ละคน (ส่วนน้อยนะ) ตอบกระทู้แบบตามใจตนเองไม่ดูข้อที่เรียกว่าเบ่ง..เวปธรรมะนะครับ..ไม่ใช่เวปนักเลง..เห็นใจคนดูแลด้วย.. :b33: :b33:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 21 พ.ค. 2009, 14:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นใจจัง

ต่างคน ต่างใจ ต่างที่มา ต่างความคิด
ก็ย่อมมีขัดแย้ง กันบ้างเป็นธรรมดา
เราก็อย่าเอาใจไปผูกไปยึดติดแล้วกัน
เดี๋ยวจะไม่สบายใจเปล่าๆ นะ :b1:

ต่างคนต่างก็ทำตามหน้าที่ของเขา
จะให้ถูกใจทุกคนก็เป็นไปไม่ได้
เห็นใจเขาก็ส่งกำลังใจให้เขาด้วยแล้วกันครับ :b8:

เจ้าของ:  มะเดี่ยว [ 21 พ.ค. 2009, 14:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นใจจัง

อมิตาพุทธ เขียน:
ต่างคน ต่างใจ ต่างที่มา ต่างความคิด
ก็ย่อมมีขัดแย้ง กันบ้างเป็นธรรมดา
เราก็อย่าเอาใจไปผูกไปยึดติดแล้วกัน
เดี๋ยวจะไม่สบายใจเปล่าๆ นะ :b1:

เห็นใจเขาก็ส่งกำลังใจให้เขาด้วยแล้วกันครับ :b8:

สาธุครับท่านก็เป็นบางครั้งครับ เข้าอ่านธรรมะเพื่อความสบายใจแต่เจอนักเลงเยอะจัง..เฮ้อ..แต่ส่วนดีมีมากกว่าก็เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านครับ.. :b8:

เจ้าของ:  shimai [ 21 พ.ค. 2009, 14:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นใจจัง

:b8: ต่างคนต่างจิตต่างใจนะค่ะ ต่างพ่อแม่ ต่างชั้นวรรณะ ต่างเพศ ต่างความคิด การที่คนเราจะคิดคนเราจะทำ มันอยู่ที่ตัวเราว่าเรารู้สึกกับสิ่งที่ได้รับนั้นอย่างไร บางคนเข้ามาตอบเพื่อคลายความกลุ้ม อยากรู้ว่าคนอื่นจะคิดกับการตอบของตัวเองแบบไหน บางคนก็เป็นกลาง ทุกคนตอบก็คิดว่าความคิดของตัวเองดีที่สุดแล้ว บางทีก็เข้าไปอ่านกระทู้บางกระทู้ คนตั้งกระทู้มีเนื้อหาสาระดี หัวข้อน่าอ่าน มีความหมายต่อสมาชิก แต่บางท่านตอบก็ทำเอาคนตั้งกระทู้ไม่ได้คำตอบ คือตอบไม่ตรงกระทู้ เสริม เติมแต่ง ไม่ได้ช่วยกันออกความคิดเห็น แต่แย่งกันออกความคิดเห็น พูดจากระทบกระทั่งกัน (อันนี้รู้สึกเองนะค่ะ) แต่ทุกท่านระลึกไว้เสมอว่า คนทุกย่อมรักตนเอง ย่อมเห็นแก่ตนเองกันทั้งนั้น มีน้อยคนที่รู้สึกว่าอยาก "แบ่งปัน" :b8:

เจ้าของ:  มะเดี่ยว [ 21 พ.ค. 2009, 15:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นใจจัง

shimai เขียน:
:b8: ต่างคนต่างจิตต่างใจนะค่ะ ต่างพ่อแม่ ต่างชั้นวรรณะ ต่างเพศ ต่างความคิด การที่คนเราจะคิดคนเราจะทำ มันอยู่ที่ตัวเราว่าเรารู้สึกกับสิ่งที่ได้รับนั้นอย่างไร บางคนเข้ามาตอบเพื่อคลายความกลุ้ม อยากรู้ว่าคนอื่นจะคิดกับการตอบของตัวเองแบบไหน บางคนก็เป็นกลาง ทุกคนตอบก็คิดว่าความคิดของตัวเองดีที่สุดแล้ว บางทีก็เข้าไปอ่านกระทู้บางกระทู้ คนตั้งกระทู้มีเนื้อหาสาระดี หัวข้อน่าอ่าน มีความหมายต่อสมาชิก แต่บางท่านตอบก็ทำเอาคนตั้งกระทู้ไม่ได้คำตอบ คือตอบไม่ตรงกระทู้ เสริม เติมแต่ง ไม่ได้ช่วยกันออกความคิดเห็น แต่แย่งกันออกความคิดเห็น พูดจากระทบกระทั่งกัน (อันนี้รู้สึกเองนะค่ะ) แต่ทุกท่านระลึกไว้เสมอว่า คนทุกย่อมรักตนเอง ย่อมเห็นแก่ตนเองกันทั้งนั้น มีน้อยคนที่รู้สึกว่าอยาก "แบ่งปัน" :b8:


สาธุครับ..แต่บางทีมันก็คันปากเหมือนกันครับ.. เพราะจากการตอบกระทู้ดูแล้วเป็นความสะใจตนเองก็มี...เสียดสีบ้าง..กระทบบ้าง..เพื่อนเขาเล่าให้ฟังก่อนจะเข้ามาดูที่เวปครับ..มาดูแล้วมีจริงๆ..คนที่เอาความสะใจในการตอบ..ผมอดที่จะไม่ได้ แต่เป็นแค่กำลังเล็กๆ แต่บอกตรงๆ ว่า เห็นใจผู้ก่อตั้งและทีมงาน..สร้างเวปธรรมะมาเพื่อประโยชน์แก่สาธุชนคนรักการปฏิบัติธรรมหรือสร้างความดี.. :b8: :b12: :b12:

เจ้าของ:  คนล่าฝัน [ 21 พ.ค. 2009, 16:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เห็นใจจัง

น ปเรสํ วิโลมานิ
น ปเรสํ กตากตํ

ไม่ควรใส่ใจในคำแสลงหูของผู้อื่น
ไม่ควรแส่ในธุระที่เขาทำ และยังไม่ทำ


ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น
รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก
บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น
บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน
พูดไพเระาตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย
ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา
เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา
เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็ยภัยแก่เรา
บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล
นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน
เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้
รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง
รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย
รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย
อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์
ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้
นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา
ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น
แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม
ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ
ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน
ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก
ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว
ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป
ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป
เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน
บัณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม


:b8: ไปเจอมาครับแบบนี้ไม่รู้ว่าจะคนว่ามั๊ยนี่.. :b1: :b1: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/