วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 02:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
:b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23: :b23:

ก็คุณผู้เทคแคร์สัตว์ฯ เล่นก๊อปมาซะยืดยาวอย่างงี้ มันก็ตาลายมึนงง น่ะสิ ต้องสรุปเป็นใจความหรือต้องอ่านconceptของแต่ละย่อ
หน้าจึงจะอ๋อ :b11: :b13: :b13: :b11: :b13: :b11:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

เราเป็นคนไทย
รักชาติไทย
รักภาษาไทย

แล้วเราไปเรียนภาษาอังกฤษกัน
เพื่ออะไรหละครับ ว่านท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




bn.jpg
bn.jpg [ 3.03 KiB | เปิดดู 4376 ครั้ง ]
วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

เราเป็นคนไทย
รักชาติไทย
รักภาษาไทย

แล้วเราไปเรียนภาษาอังกฤษกัน
เพื่ออะไรหละครับ ว่านท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ


:b8: :b8: :b8:

เพื่อเผยแพร่ศาสนา
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

เราเป็นคนไทย
รักชาติไทย
รักภาษาไทย

แล้วเราไปเรียนภาษาอังกฤษกัน
เพื่ออะไรหละครับ ว่านท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ


:b8: :b8: :b8:


ขอตอบด้วยในทางโลกด้วยเหตุ ผลทางโลกว่า เพื่อการสื่อสารและการปรับตัวให้ทันกับโลกที่ไม่แน่นอนตลอดเวลา :b15:
ที่นี้ช่วยแนะนำผมที่สิครับว่า ปฏิสัมภิทา คืออะไร บุคคลประเภทไหนที่จะเข้าใจสิ่งนั้น และเราจะมีหนทางดำเนินไปอย่างไรเพื่อให้เข้าใจสิ่งเหล่านั้นน่ะครับ คือผมปัญญาน้อยจึงอยากถามเพื่อกระจ่างนะครับ ขอบคุณนะครับ :b15:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 00:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

ตามที่เรารู้ ๆ กันอยู่ว่า
พระสงฆ์มี ๒ พวก
๑. พระอริยสงฆ์
๒. สมมติสงฆ์


สงฆ์ในปัจจุบันนี้เป็นสมมติสงฆ์
น่าจะอนุโลมให้เรียนทางโลกได้บ้างนะครับ


:b8: :b8: :b8:


ก่อนอื่น..ต้องขออนุญาต..คุณวรานนท์..นะครับ..เห็นคุณชอบบอกว่าสงฆ์ มี 2 พวก
1. พระอริยสงฆ์ 2. สมมุติสงฆ์ แล้วบอกว่า สงฆ์ในปัจจุบันนี้เป็นสมมุติสงฆ์ ซึ่งไม่เป็นความจริง พระอริยสงฆ์ในปัจจุบันยังมีอยู่นะครับ ที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

สมมุติสงฆ์ กับ พระอริยสงฆ์ แยกกันที่คุณธรรม คือ พระที่มีคุณธรรมตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปเรียกพระอริยสงฆ์ได้ น้อยกว่านั้นลงมาจึงเรียกสมมุติสงฆ์ แม้ฆารวาสที่มีคุณธรรมตั้งแต่โสดาบัน จนถึง อนาคามี ก็เรียกเป็นพระอริยะเช่นกัน นะครับ / และ ปัจจุบันพระอริยะ ทั้งที่บวชเป็นพระ และเป็นฆารวาส มีอยู่ เป็นจำนวนไม่น้อย แต่เราไม่รู้เท่านั้นเอง

หากแม้ท่านเป็นสมมุติสงฆ์ก็กราบใหว้ได้ครับ เพราะท่านมีศีลตั้ง 227 ข้อ หากพระท่านใดผิลศีลผิดธรรมแม้สมมุติสงฆ์ก็ไม่ได้เป็น..

เข้ากระทู้..

พระไปเรียนทางโลกได้หรือไม่...ทางพระวินัย..ไม่ทราบ..แต่เห็นไปเรียนกันได้ไม่ถูกสึกก็คงไม่ผิดพระวินัย..

หากจะถามว่า..สมควรหรือไม่..ก็ขึ้นอยู่ที่ใจท่านเองครับ ว่าไปเรียนทางโลกนี้ประสงค์อะไร..เราคนนอกไม่รู้กับท่านหรอกครับ..จึงไม่อาจบอกว่าสมควรหรือไม่สมควรได้ครับ...ทางที่ดีอย่าทำใจเราให้วุ้นวายกับท่านเลย .. เอาใจมาใส่ใจเราดีกว่า..เพราะทุกข์ของเราเองมีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน..เอาเวลามาแก้ทุกข์ของตนเองจะดีกว่านะครับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนภาษาอังกฤษ ก็เพื่อ ให้สื่อสารกับคนที่พูดภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องและเข้าใจซึ่งกันและกัน
ไม่ใช่เรียนเพื่อไปประกอบอาชีพเป็นล่าม แปลหนังสือขาย เขียนตำราขาย ฯลฯ

ภิกษุ บวช เข้ามาในพุทธศาสนา มีหน้าที่อย่างเดียว คือ ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรม วินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตนเองรู้แจ้ง เห็นจริงด้วยจิตของตนเองแล้วนำหลักธรรมคำสอนที่ถูกต้องดีงามเหล่านั้นมาอบรม สั่งสอนญาติโยม(ตราบใดที่ตนเองยังไม่รู้อย่างแจ่มแจ้ง ด้วยจิตของตนก็ต้องทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกวันนี้รู้อย่างแจ่มแจ้งด้วยปัญญาในระดับคิดๆ หรือจินตนาการตามเท่านั้นก็มาบอกว่าตัวเองรู้แล้วเข้าใจพุทธศาสนาอย่างแจ่มแจ้งแล้ว แต่ตัวเองยังยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ (มันบ้า))

พอหน้าที่ของตนเองไม่ทำ ไม่ศึกษา ก็ไม่รู้ พอไม่รู้ก็มาทำมันก็มั่ว คิดเอง เออเอง ว่ามันดี มันถูก มันเหมาะสมแล้ว ก็เลยมีข่าวพวกภิกษุบ้าๆ ออกมาเป็นประจำ ไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศ ไปดำน้ำดูปะการัง ไปเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า มีย่ามสีชมพู มีเสริมหน้าอก แต่งหน้า รับจ้างตกแต่งสถานที่ รับจัดดอกไม้ตามงานต่างๆ รับจ้างสวดงานพิธีต่างๆ ดูดวง ใบหวย ปลุกเสกเครื่องราง ฯลฯ มหาเถรสมาคมก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถ้าไม่ออกข่าวครึกโครมก็ไม่ขยับ

ปฏิบัติธรรม ทำตัวให้เหมาะสมกับสมณะเพศ อาหารชาวบ้านก็หาให้กิน เครื่องนุ่มห่มชาวบ้านก็หาให้สวมใส่ ยารักษาโรคชาวบ้านก็หาให้ ที่อยู่ชาวบ้านก็จัดให้สร้างให้ บวชเข้ามาก็ประกาศแล้วว่า สละแล้วเพศฆราวาส จะถือสมณะเพศ จะมอบกายถวายชีวิตเพื่อเรียนรู้ตามพระพุทธเจ้า

แล้วภิกษุจะเรียนทางโลก ไปทำไม เพื่ออะไร มันจำเป็นจริงๆ หรือ

หลวงตามหาบัว ก็ไม่ได้เรียน
หลวงพ่อจรัญ ก็ไม่ได้เรียน
หลวงปู่เจี๊ยะ ก็ไม่ได้เรียน
หลวงปู่ขาว ก็ไม่ได้เรียน
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็ไม่ได้เรียน

แต่ท่านก็สั่งสอนชาวบ้านได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ล้าสมัยและเกิดประโยชน์สูงสุดกับชาวบ้าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




pharmalai_07.jpg
pharmalai_07.jpg [ 161.53 KiB | เปิดดู 4335 ครั้ง ]
อย่างน้อยที่สุดภิกษุควรคิดว่า เงินที่ไช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง หรือ อาหาร วัดวาอาราม และทุกอย่างที่จะมีได้ ล้วนเป็นเงินบริจาคทั้งสิ้น เมื่อบริจาคมาแล้วย่อมไม่ไช่ของคนได้คนหนึ่ง เงินที่เรี่ยไรมาทุกบาท แล้วเราเองสร้างบุญกุศลอะไรบ้างแค่ไหนกัน หากไม่คิดแล้วย่อมต้องสวมเขาไส่ขนเพื่อไปชดใช้กันไม่จบสิ้น แต่บางคนอาจบอกได้ว่า เงินนี้ไม่ไช่บริจาคเป็นเงินที่ทำกิจต่าง ๆ ได้มา เช่น รับจัดดอกไม้ ทำบายศรี จัดงานต่างในงานมงคล จัดเวที ดูดวง สะเดาะเคราะห์ ไบ้หวย ปลุกเสกเครื่องรางขาย ขายพระ ไล่ผี ทำคุณไสย หรือต่าง ๆ ที่อีกมากมายก็พึงพิจารณาดูเถิดว่า เหมาะสมหรือไม่ ไช่กิจของสงฆ์หรือไม่ เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานหรือไม่ หรือที่ไส่ซองมาให้ตามศรัทธาก็พึงพิจารณาตามปัญญาและความเหมาะสมเถิด ภิกษุมีความโชคดีแล้วที่ได้บำเพ็ญเพื่อมรรคผล หากหมดจากพุทธกัปนี้ไป เมื่อพระศาสนาหมดหรือเข้าสู่สุญกัป ย่อมไม่แม้ พระพุทธเจ้าชี้นำ พระธรรมคำสอน และพระสงฆ์ผู้สืบทอด ย่อมมืดมนไม่มีทุกสิ่งที่จะชี้ทางเราได้เลย ไม่รู้แม้วิธีปฏิบัติหรือกระทั่งพระสงเป็นอย่างไร แล้วต้องรอไปอีกนานแค่ไหนกัน กี่กัป กี่มหากัป กี่อสงขัย แค่เพื่อเกิดเป็นคนที่ทันพระศาสนา
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หลวงพ่อจรัญ ก็ไม่ได้เรียน

ขอขยายความคำพูดนี้หน่อยนะครับ คำว่าไม่ได้เรียนของท่านเนื่องด้วยขณะที่ท่านศึกษาอยู่โยมแม่และโยมยายต้องการให้ท่านบวช 1 พรรษาเพื่อให้พ่อแม่ได้บุญจากการบวชในร่มกาสาวพัตร์ แต่เมื่อครบพรรษามีเหตุให้ไม่สามารถลาสิกขาได้ทำให้ท่านบวชต่อ
จนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนรายละเอียดตก็อ่านได้ตามข้างล่างนี้

วิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๔๘๗ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนสุวิทดารามาศ จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. ๒๔๙๒ สอบไล่ได้นักธรรมโท ณ สำนักเรียนวัดแจ้งพรหมนคร อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี สามัญศึกษา
พ.ศ.๒๔๙๓ ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน กับพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพธิ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
พ.ศ.๒๔๙๔ ศึกษาปฏิบิติธรรมฐาน กับหลวงพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ และท่านเจ้าคุณอริยคุณาธร (เส็ง ปุสโส) วัดเขาสวนกวาง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ.๒๔๙๕ ศึกษาทำเครื่องลางของขลัง น้ำมันมนต์ กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและ พระครูวินิจสุตคุณ (หลวงพ่อสนั่น) วัดเสาธงทอง จังหวัดอ่างทอง และ หลวงพ่อจาด วัดบ้างสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
พ.ศ.๒๔๙๖ ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน กับท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชย์พระราชสิทธิมุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพ
พ.ศ.๒๔๙๘ ศึกษาพระอภิธรรม กับอาจารย์เตชิน (ชาวพม่า) ณ วัดระฆัง กรุงเทพฯ
- ศึกษาการพยากรณ์ จากสมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ กรุงเทพฯ
- ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาศาสตร์ทางจิตกับ พ.อ.ชม สุคันธรัต
- เดินธุดงค์รอนแรมหาที่สงบ เพื่อจำศีลภาวนาตามป่าเขตลำเนาไพรทางภาคเหนือ (เป็นต้น) :b39: :b39: :b40:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากพุทธศาสนา ได้คนอย่างคุณ บัว4เหล่า และคุณ nene ไปบวช

ศาสนาของเรา คงมีพระที่น่ากราบ และศาสนานี้ก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น

แต่ในโลกของความเป็นจริง คนอย่างคุณมีน้อยเหมือนเขาวัว

ศาสนา จึงมัวหมอง อ่อนแอ และไร้ทิศทางที่จะเยียวยาได้สำเร็จ


ขออนุโมทนากับใจรักศาสนาของคุณด้วย พวกเราคงทำได้เท่าที่ทำ
จะมากรึจะน้อย จะวิธีเดียวกันรึแตกต่าง จะตรงลงไปรึจะคอยอ้อม
ก็แล้วแต่จริตนิสัย ความสามารถ โอกาส และ วิถีธรรมชาติที่แฝงอยู่
อย่างเป็นกฏเกณฑ์ ถึงจุดหนึ่งศาสนาต้องเป็นไป เพราะนี่ก็คือส่วนหนึ่ง
ของการไหลมาบรรจบของวงจร ซึ่งเคยเกิดมาแล้ว และจะเกิดขึ้นอีกเป็นธรรมดา


เราแค่มีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด เท่าที่ทำได้ ทั้งเพื่อตัวเอง และเพื่อผู้อื่น
ตราบที่พลังยังมี และชีวิตยังคงอยู่


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขอโทษนะครับ คือข้างต้นเขียนผิด ผมตอบในหัวข้อนี้ 4 ครั้งแล้วครับตั้งแต่หน้าแรกคุณ nene ช่วยไปอ่านทุกตัวด้วยครับถ้าผิดถูกหรือขัดกันยังไงผมขอคำชี้แนะด้วยล่ะกันครับ แต่จะอ่านหรือไม่ก็ไม่เป็นไรครับมีคำแนะนำดี ๆ ให้ผมก็ขอบคุณแล้วครับ


:b8: ข้าน้อยกลับไปอ่านกลับไปกลับมาหลายเที่ยวแล้วขอรับ การตอบของท่านcmessage ไม่สนับสนุนการให้พระเรียนทางโลก เหมือนกันขอรับ และกราบขออภัยท่านอีกครั้งที่ยกกระทู้ของท่านมาอ้างตอบด้วยความไม่ระมัดระวัง ไม่ทราบว่าท่านพอใจหรือยังขอรับในความผิดของข้าน้อย และต่อไปจะพยายามอ่านและตอบด้วยความระมัดระวัง ขอรับ :b7: :b3: และกระทู้นี้คงจะเป็นเหมือนกระทู้เรื่องการอตัญญูต่อพระพุทธรูป ที่โดนล็อคไปแล้ว อาจเป็นเพราะเวปนี้เขามีทางเดินสำหรับพวกเขาเอง คงไม่ชอบให้ใครมาตอบแทนพวกทางทีมงานของเขา อ่าน ๆ ดูแล้วคงเดินกันคนละเส้นทางกัน ดังนั้นข้าน้อยจะขอลาจากเวปนี้ เพราะการศึกษาธรรมะไม่ตรงจริต ของข้าน้อยเลย ........ สิ่งใด ที่ข้าน้อยล่วงเกินทุก ๆ ท่านที่ข้าน้อย กระแทกแดกดันลงไป ก็ขออโหสิ.......ให้ข้าน้อยด้วยละกัน ถ้าไม่ให้ ก็ไปเจอชาติโน้น ๆๆๆๆ หรือท่านนิพพานไป อย่างไรเสียข้าน้อยก็ตกนรกอยู่แล้ว ไม่เป็นไรน่า ..ตกมาหลายกัปหลายกัลป์แล้วจะต้องตกอีกก็คงไม่กลัวแล้วหละ . :b4: :b4: แต่ก็น่าจะมีวันที่ถึงนิพพานมั่งแหละ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 17:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nene เขียน:
อ้างคำพูด:
อ่าน ๆ ดูแล้วคงเดินกันคนละเส้นทางกัน ดังนั้นข้าน้อยจะขอลาจากเวปนี้ :b8:


เพิ่งเจอคุณได้ไม่นาน จริง ๆ ก็ติดตามการตอบกระทู้ของคุณอยู่
และมองเห็นการนำเสนอในแง่มุมที่มีประโยชน์ ของคุณ...อยู่มาก
และยังมองเห็นประโยชน์อีกมากที่คุณจะถ่ายทอดออกมา...
แต่วันนี้คุณมากล่าว...ขอลา

ขอโทษ...ที่ผมอยากจะโน้มน้าวให้คุณอยู่...แต่ผมทำไม่ได้
เพราะผมปัญญาทึบเกินกว่าจะหาคำใดมากล่าว...
เฮ้อ...ช่วงนี้ผมเป็นอะไรไป... :b10: :b10:
ดูจะ "ขอโทษ" บ่อยจัง ทำไมจะทำอะไรผมก็รู้สึกผิดไปหมดเลย...
แม้แต่คุณจะไป ผมยังอดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้...
ที่ผมไม่มีปัญญามากพอที่จะขุดหาคำกล่าวใด ๆ มายับยั้งคุณเอาไว้...
ถ้าคุณยังอยู่...คุณพอจะช่วยอธิบายให้ผมหลุดจาก อารมณ์ "ผีขอโทษ" เข้าสิงได้รึเปล่าครับ...
นี่ผมเพี้ยนไปแล้วใช่รึเปล่าครับ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่าน yahoo เกิดอาการเศร้าอีกแล้วหรือขอรับ
ไม่รู้จะปลอบใจท่านอย่างไรดี

ขอแก้ไขข้อมูลนะครับ เพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสมกับกระทู้ :b1:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อมิตาพุทธ เขียน:
ท่าน yahoo เกิดอาการเศร้าอีกแล้วหรือขอรับ
ไม่รู้จะปลอบใจท่านอย่างไรดี


ความเศร้า...กับความเงียบ...มันคล้ายกัน แต่มันไม่เหมือนกันท่าน
ไม่ต้องปลอบหรอกครับ...ผมเป็นปกติครับ...
เพียงแต่ช่วงนี้มีประเด็นธรรมให้ขบครับ...ซึ่งผมจะค่อนข้างเงียบครับ...
เพราะต้องรักษาระดับ...ความสมดุล...
ถ้าจะคุย...คือคุยเรื่องเบา ๆ ครับ...

:b38: :b38: :b38:

อ้างคำพูด:
ช่วงนี้ผู้น้อยก็รู้สึกเหนื่อยๆ หัวสมองทื่อๆยังไงไม่รู้ คิดอะไรไม่ค่อยออก :b10:
ในใจก็อยากจะปลีกวิเวก


ผมก็คงได้แต่ให้กำลังใจคุณเช่นกัน...
เหนื่อย...ก็หาเวลาพักสักนิดนะครับ...
...ลองย้อนกลับไปอ่านบทกลอนของตัวเอง...
เวลาผมเหนื่อย ๆ ผมก็อ่านบทกลอนของคุณครับ...

:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ดังนั้นข้าน้อยจะขอลาจากเวปนี้ เพราะการศึกษาธรรมะไม่ตรง
จริตของข้าน้อยเลย ........ สิ่งใด ที่ข้าน้อยล่วงเกินทุก ๆ ท่านที่ข้าน้อย กระแทกแดกดันลงไป
:b39: :b39:
ว่าแต่จะลาไปไหนหรอครับคุณnene(;ว่าแต่ใช่คุณทิดหนานป่าว:??)
ถึงจะตอบหรือไม่เห็นด้วยแล้วไม่ตรงกับความคิดเห็นคนส่วนใหญ่ ก้ไม่ได้ความว่าคุณมีความเห็นที่ผิดนะครับ ความเห็น ความคิดที่เป็นประโยชน์ มักจะเกิดขึ้นในสองทางเสมอ ซึ่งกระทู้ที่หยิบยกมานี้ก็ตอบได้ 2 ทางก็คือทางแรกพระไม่ควรจะมาวุ่นกับทางโลกมากเกินไป ถึงแม้จะพูดถึงการเรื่องการศึกษาซึ่งส่งเสริมภูมิปัญญาของผู้เป็นพระเป็นอย่างดี
และทำให้ทันสมัยแต่อย่าลืมการมาศึกษาทางโลกมาก ก็ทำให้ต้องรับกิเลสจากโลกเข้าไปโดยไม่รู้ตัวด้วยเหตุผลที่ว่าการศึกษาทางโลก
ไม่มีคำว่า"สิ้นสุด"มีแต่ศึกษาไปเพื่อจุดประสงค์สนองความต้องการผู้ใช้ ผู้บริโภค
อุปโภค หรือ การบริการ :b40:
หรือ จะตอบแบบที่2 ก็คือความรู้ที่ทางบุคคลที่เรียกว่าพระมีหากเพียงแต่อยู่ในวัดศึกษาแต่ปริยัติ
ปฏิบัติ ปฏิเวธ อย่างเดียวย่อมที่จะไม่รู้โลกภายนอก ควรมาขนขวายหรือรับรู้ข่าว
สารเสียบ้าง จะทันต่อเหตุการณ์และสถานการณ์ที่เป็นอยู่จริง ทำให้ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีที่เจริญไปตามโลกาภิวัฒน์เพราะ
ผู้เป็น พระต้องอาศัยการศึกษาทางโลกเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเรื่องของการใช้ภาษา
การเทศน์ การติดต่อประสานงาน ความรู้่ทางการแพทย์ รวมไปถึงการพัฒนาวัด หากไม่มีความรู้ทางโลกเลย การจะปรับปรุงศาสนาสถานภายในวัด หรือพัฒนาทั้งคนและพระภายในวัดก็อาจจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง เพราะว่า..
"การศึกษานั้น" เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าส่งเสริม แม้แต่ตัวพระองค์เองก็ทรงสำเร็จ
ปริญญาเอก ถึง18 ด๊อกเตอร์ ก่อนจะไปออกบวช แม้บวชจนสำเร็จเป็นอรหันต
สัมมาสัมพุทธะ แล้วก็ยังเน้นถึงคำว่า ."สัมมาอาชีวะ" ซึ่งการเลี้ยงชอบตัวนี้ก็มี
พื้นฐานจาก การศึกษา นี่แหละเป็นตัวสำัคัญสุดถึงสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
ได้ :b39:

ดังนั้นจึง เห็นได้ว่าไม่จะตอบว่า เห็นด้วย หรือไม่เห็น ด้วยก็คือสิ่งดีทั้งนั้น
ที่เป็นการระดมความคิดสำหรับหัวข้อนี้ ส่วนตอบไปแล้วมีคนไม่เห็นด้วย
หรือเราอาจจะพูดไปโพสท็ไปแล้วเหมือนมีอาการไม่พอใจทำให้คนอื่นไม่พอใจตาม
ก็เป็น.."เรื่องธรรมดา" อีกนั่นแหละ คนเรายังไงเมื่อยังไม่สามารถดับทุกข์ได้สนิท
ก็ยัง ต้องโกรธ ไม่พอใจ หรือน้อยใจ หรือดีใจ (จะเรียกว่า สบายใจ ไม่สบายใจ และ
เฉยๆไม่รู้สึกอะไร ก็คืออารมณ์เวทนาที่มีอยู่ครบทั้ง3ในตัวมันเองนะ
เป็นเวทนานุปัสสนา 3 ข้อที่ทุกคนต้อศึกษาและเรียนรู้กับมันให้มากๆทุกๆวันครับ)
สรุปก็คือ K nene ก้ไม่เหนต้องลาไปไหนเลยเพียงแค่กระทู้นี้กระทู้เดียว เลย อยู่แสดงความคิดเห็นเหมือนก็โอเคอยู่แล้วนะ ไม่ต้องคิดอะไรจนเกินไป หากคุณลาไปจากเวปนี้สักพักเหงาๆคิดถึงเพื่อนๆในนี้ เช่น K yahoo, k กบ
นอกกะลา, K อมิตาพุทธ, Kบัวศกลหรือใครต่อใคร ก็เปนไปได้อยากจะเข้ามาโพสท์เหมือนเดิมอีกน่ะ :b9:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 202 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron