วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 23:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ฉันหวังดี

ฉันหวังดี เธอใยเล่า ไม่เข้าใจ
กลับเฉไฉ ไม่ทำ ตามคำฉัน
ตัวฉันนั้น รู้จริง ทุกสิ่งอัน
เธออย่าหวั่น จงทำตาม ความหวังดี

ฉันอุตส่าห์ คิดแทน ให้กับเธอ
หมดพลั้งเผลอ จักเลิศ ประเสริฐศรี
ความคิดฉัน นั้นเหนือใคร ในปฐพี
เธออย่ารู้ อย่าชี้ ฉันคิดแทน

ฉันหวังดี ด้วยจิตชอบ ใช่ครอบงำ
สุดเลิศล้ำ น้ำใจ ไม่หวงแหน
ขอเธอจง อย่าลบหลู่ หรือดูแคลน
จงอย่าตั้ง ข้อแม้น ให้เพลียใจ

ฉันหวังดี เธอกลับว่า ฉันหวังร้าย
ทำฟูมฟาย ห่อเหี่ยว เที่ยวร้องไห้
ไม่รู้จัก รักดี นี่กระไร
โอ้ไฉน ...ใยจึงชัง ผู้หวังดี


ตรงประเด็น
16 พค. 2552


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ ปล่อยรู้ ท่านได้ร่วมต่อกลอน ดังนี้


หวังดี...ต้องไม่มีฉัน

ฉันหวังดี หวังให้ดี มีที่เธอ
แต่อาจเผลอ มอบดีเกิน เพลินไปหน่อย
ดีที่ให้ ไม่ได้ตรวจ ทานเรียบร้อย
ความอร่อย จึงไม่ครบ จบสมบูรณ์

ฉันหวังดี หวังให้เธอ นั้นยอมรับ
แต่ดีกลับ ทำฉันเพลีย จนเสียศูนย์
ทำไมหนอ ดีที่ให้ ไม่เพิ่มพูล
ไม่เกื้อกูล จูนต่อเติม เสริมเพิ่มดี

เมื่อตรวจดู จึงทำ ให้รู้ว่า
ดีนั้นหนา ฉันคาดหวัง มันเต็มที่
ฉันหวังให้ เธอรับฉัน นั้นมีดี
หวังที่มี ฉันหวังนั้น จึงวังเวง

หวังที่ดี ต้องไม่มี ฉันที่หวัง
ดีทุกอย่าง หวังให้ไป ใจไม่เคว้ง
ไม่มีฉัน มีแต่ดี ที่บรรเลง
ธรรมครื้นเครง ไม่เพ่งโทษ ไม่โกรธกัน

ธรรมพี่หมอ ตรงประเด็น เห็นสัจจะ
พี่อโศกะ ปรมัติธรรม นำเล่าขาน
ตะเกียงแก้ว สุญญตา พาชำนาญ
ปล่อยรู้นั้น ไม่มีฌาน ญาณใดเลย

หวังดี ไม่มีฉัน นั้นประเสริฐ
ดีเลอเลิศ ฉันไม่ใช่ คนที่เผย
ดีเหนือดี ต้องไม่มี คนอยู่เลย
ดีเสบย ดีสมหวัง ฉันนั้น ต้องไม่มี...


ปล่อยรู้
17 พค 2552


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ดี...ที่ยัง "ต้องเป็น เช่นฉันหวัง"
ดี...จัดตั้ง เป็นดี ที่ยึดมั่น
ดี...ที่แท้ ดีที่ถูก ไม่ผูกพัน
ดี...ที่"ไม่ มีตัวฉัน หวังให้ดี"

จักเป็นดี ที่พิสุทธิ์ พระพุทธสอน
ดีแน่นอน ล้ำเลิศ ประเสริฐศรี
"ก็...จักเหลือ แต่ปัญญา และปราณี"(ขอยืมสำนวนท่านพุทธทาสมาใช้)
ไม่ต้องมี ดีแบบฉัน...มันวุ่นวาย

ตรงประเด็น
17 พค 2552

.......................................

จะเป็นกันไปทำไม ขั้นบัญญัติ ขั้นปรมัตถ์

จะเป็นกันไปทำไม นักปริยัติ นักปฏิบัติ นักปฏิเวธ

จะเป็นกันไปทำไม พระอริยบุคคล... ที่พระพุทธองค์ท่านทรงบอกแลนด์มาร์คเอาไว้ให้ว่า เวลาเดินตามแผนที่ที่พระองค์ประทานไว้ให้จะมีจุดสังเกตุดังนี้ๆ ว่ากำลัง เดินอยู่ในเส้นทางแห่งอริยมรรค ท่านไม่ได้ประสงค์ให้ยึดมั่นถือมั่นใดๆกันเลย

จะเป็นกันไปทำไม แนวทางที่ดีที่สุด สำนักอันดับหนึ่ง ลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ดีที่สุด...

"เป็น" นั้น คือ ภพ
มันยังคงเป็นภพเป็นชาติ มันก็ทุกข์

หลวงปู่ชา
ท่านจะสอนอยู่เสมอๆ ว่า เป็นอะไรแล้ว ก็ให้มันแล้วกันไป...
ใน บทธรรม เรื่อง ไม่แน่เครื่องวัดพระอริยเจ้า

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=8883

พอใจมันรู้อะไรปุ๊บ ส่งออกเลย มันรู้อะไรมาปุ๊บก็ส่งออกเลยตัวจิตสังขารมันปรุงแต่งก็ไม่รู้เรื่องของมัน มันก็ว่าฉันเป็นปัญญา มันปรุงแต่งแยกขยายหลายอย่างหลายประการ ชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ หลายอย่างละเอียด ก็จิตสังขารนี้มันก็คล้ายกับปัญญา ถ้าคนไม่รู้มันก็ว่าปัญญาดีๆนี่แหละ แต่ว่าเมื่อถึงคราวมันแล้ว หาความจริงไม่มีอะไร เมื่ออารมณ์ที่ไม่พอใจเป็นทุกข์เกิดขึ้นได้ อยู่นั่นมันจะเป็นอะไร มันจะเป็นปัญญาอะไรไหม มันเป็นตัวสังขารทั้งนั้นแหละ

ดังนั้นอิงพระเสียดีกว่า ที่ผมเคยเล่าให้ฟังเรื่อยๆ ปฏิบัตินั่นแหละ แอบเข้าไปหาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าอยู่ตรงไหนนะ ยังอยู่ทุกวันนี้ แอบเข้าไปหาท่านเถอะ อะไรล่ะ คืออนิจจัง แอบเข้าไปหาท่าน ไปกราบท่านซะ อนิจจังมันของไม่แน่นั่นแหละ เอาตรงนั้นแหละหยุดได้ตรงนั้นแหละก่อน ถ้ามันบอกว่า "ฉันเป็นโสดาบันแล้ว"ไปกราบท่านเถอะ ไม่แน่เลย ไปกราบท่าน ท่านจะบอกว่า มันไม่แน่ สกิทาคาแล้วก็กราบท่านเถอะ ท่านจะบอกอยู่คำเดียวว่าไม่แน่ เป็นอนาคามีไปกราบท่านเถอะ ท่านจะบอกอยู่คำเดียวว่ามันไม่แน่ ไปถึงพระอรหันต์ไปกราบท่าน ท่านก็ยิ่งเอาใหญ่ ยิ่งไม่แน่ เราจะได้ฟังคำของพระบ้าง คือ ไม่แน่ แล้วก็ไม่ยึดนั่นเอง อย่าไปยึดงูๆปลาๆ อย่ายึดแล้วไม่วาง อย่าจับไม่วาง ยึดมาดูเป็นสมมติเฉยๆ ผลที่สุดก็ส่งให้วิมุตติ มันเป็นไปแต่อย่างนั้น ต้องมีสมมติ ต้องมีวิมุตติ


หลวงปู่ มท่านกล่าวหนักกว่านี้อีก
"มรรค ผล นิพพาน ก็ไม่ต้องไปเอา"

ตอนนี้ ทางสังคมโลกก็วุ่นวายมาก
ดูให้ดีๆ เป็น เพราะ กูถูก-กูเก่ง-กูดี
ดีกันจน เป็นจลาจล..... แทบจะเห็นสงครามกลางเมืองกันอยู่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2009, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2009, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
อ้างคำพูด:
ตรงประเด็น เขียน:
ดี...ที่ยัง "ต้องเป็น เช่นฉันหวัง"
ดี...จัดตั้ง เป็นดี ที่ยึดมั่น
ดี...ที่แท้ ดีที่ถูก ไม่ผูกพัน
ดี...ที่"ไม่ มีตัวฉัน หวังให้ดี"

:b47: บทกลอนที่คุณตรงประเด็นโพสต์ท่อน
ตรงนี้ลึกซึ้งกินใจมากค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดมากทีเดียว

:b47: เพราะยังมีตัวฉัน ฉันจึงอยากดี
เพราะยังมีตัวฉัน ฉันจึงอยากเป็น
เพราะยังมีตัวฉัน ฉันจึงอยากไม่เป็น
จริง ๆ ท้ายสุดเราไม่เคยได้อะไรกันเลย
แต่เราก็ยังหวัง เพราะยังมีตัวตน ยังปกป้องตัวตน
กันอยู่ คนไร้สาระมองเห็นแต่กิเลสเป็นเงา
ตามตัวทั้งวัน แม้กระทั่งแค่ปลายดินสอทู่ กิเลส
มันยังแว็บ มาปกป้องทันที ขุ่นเคืองเล็กน้อย
่ทุกวันนี้ ยังนับหนึ่งอยู่เลยค่ะ

:b8:
สาธุด้วยความเคารพค่ะ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2009, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีฉัน...เหลือไว้ แค่หวังดี
สุขแบบนี้ จะมีอยู่ นานแค่ไหน
ธรรมอันนี้ ก็ต้องมี จางจากไป
และสุดท้าย ก็สิ้นสุด ที่หยุด ดี

ช่างไม่รู้จักอายเขาจริงๆเลยเรา :b32: :b32:
เขาแต่งกันซะยาวเหยียด....ไอ้เรามาบาทเดียวก็ไปต่อไม่เป็นซะแล้ว :b9: :b9:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2009, 16:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
ไม่มีฉัน...เหลือไว้ แค่หวังดี
สุขแบบนี้ จะมีอยู่ นานแค่ไหน
ธรรมอันนี้ ก็ต้องมี จางจากไป
และสุดท้าย ก็สิ้นสุด ที่หยุด ดี

ช่างไม่รู้จักอายเขาจริงๆเลยเรา :b32: :b32:
เขาแต่งกันซะยาวเหยียด....ไอ้เรามาบาทเดียวก็ไปต่อไม่เป็นซะแล้ว :b9: :b9:




คุณ nad แต่งกลอนดีน่ะ


กลอนดี ไม่ได้อยู่ ที่ว่า กี่บาท

แต่อยู่ที่ พลังแห่งบทกลอน

บทกลอนที่อมตะของท่านพุทธทาสบางบท แค่สองบาทเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 07:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
ไม่มีฉัน...เหลือไว้ แค่หวังดี
สุขแบบนี้ จะมีอยู่ นานแค่ไหน
ธรรมอันนี้ ก็ต้องมี จางจากไป
และสุดท้าย ก็สิ้นสุด ที่หยุด ดี

ช่างไม่รู้จักอายเขาจริงๆเลยเรา :b32: :b32:
เขาแต่งกันซะยาวเหยียด....ไอ้เรามาบาทเดียวก็ไปต่อไม่เป็นซะแล้ว :b9: :b9:


คราวหลังอาย ๆ ไว้บ้างก็ดีนะท่าน นุ่งสั้น...บ่อย ๆ มันล่อตะเข้
เดี๋ยวมันโผล่มางาบ...แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือน
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ไฟ


ไฟใน(กิเลสในใจตน) ท่านว่า อย่านำออก
ไฟนอก(กิเลสในใจผู้อื่น) ท่านว่า อย่านำเข้า
ไฟกิเลส ฟืนไฟ ใจแผดเผา
ย่อมโศกเศร้า โศกา ทั่วหน้ากัน

ขันติ ปรมัง ตโป ตี ติกขา
เผากิเลส มีปัญญา ไม่หุนหัน
ไฟธรรมเย็น เป็นไฟ ไม่มีควัน
ค่าอนันต์ เผาบาปพราก จากสันดาน

"มีสติ" เผากิเลส เหตุแห่งทุกข์
จักถึงสุข สงบใจ ไม่ร้าวฉาน
"ขาดสติ" กิเลสเผา เราเป็นถ่าน
อลหม่าน ก่อปัญหา จลาจล

สติตั้ง ยั้งคิด ไม่ผิดพลาด
จึงจัดว่า เดินทางปราชญ์ สู่มรรคผล
มีน้ำใจ ให้แบ่งปัน ทุกชั้นชน
จึงจักพ้น วนวัง แห่งกรรมเวร


ตรงประเด็น
20 พค 2552


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร