ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การเห็นสี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=22048
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 02 พ.ค. 2009, 10:40 ]
หัวข้อกระทู้:  การเห็นสี

เห็น คือ เห็นทุกอย่าง

(ทุกอย่าง ที่เป็น "สี" ที่ปรากฏเฉพาะทางตา เท่านั้น)

แต่...ไม่ใช่ "การนึกถึง" รูปร่าง สัณฐาน.



.



ขณะเห็นจริงๆ

เราไม่ได้ "นึกเป็นคำ"

เช่น นั่นสีเขียว นั่นสีขาว ฯลฯ

แต่ หลังจากเห็นแล้ว

เราจึง"นึกคิด"ถึงรูปร่าง สัณฐาน

มีการ "จำ" รูปร่าง สัณฐาน

มีการ "จำ" เรื่องราวจากสิ่งที่ปรากฏทางตา

หลังจากการเห็นดับไปแล้ว.



.



อย่างเช่น เวลาที่เราฝัน

เราไม่ได้เห็น "สี" จริงๆ

แต่เป็นความจำ เป็นเรื่องราว.



.



"สิ่งที่ปรากฏทางตา"

จะไม่ใช่ "สี" ไม่ได้.!

เพียงแต่ว่า เมื่อเราเห็นแล้ว

"สัญญา" ก็จำ รูปร่าง สัณฐาน

จำเป็นเรื่องราว จากสิ่งที่เห็น

คือ จำเรื่องราว จาก "สี"

ที่ปรากฏทางตา นั่นเอง.



.



เวลาที่เราพูดถึงสิ่งใดๆ ก็ตาม

เช่น สัตว์ บุคคล สิ่งของ ฯ

เราก็จำได้ โดยไม่ต้องเห็น (สี)

เพราะว่า เราจำได้ เราเคยชิน

ว่า สิ่งนี้... มี "สี" อย่างนี้

ทั้งๆที่ ขณะนั้น

ก็ไม่ใช่ขณะที่เห็น"สี"จริงๆ



.



ในชีวิตปกติประจำวัน

เราไม่ได้มานั่งนึก ว่า สีอะไร.!

แต่เรากำลังจำ "เรื่องราว"



.



เพราะฉะนั้น ให้เข้าใจว่า

ขณะที่เราไม่ได้ไปเพ่งเล็งที่ "สี" อย่างนี้

พอเห็นแล้ว...เราก็ "นึก" เป็นเรื่องราวไปหมดเลย.!

เราต้องเข้าใจว่า....สีแดง สีเหลือง สีเขียว ฯลฯ

คือ สิ่งที่ปรากฏทางตา เท่านั้น.



.



"ไม่ใช่การจำชื่อ" ว่า นี่สีแดง นี่สีเหลือง ฯลฯ

แม้เราไม่ต้องบอกว่าเป็นสีแดง เราก็เห็นสีแดง.!



.



ถ้าถามว่า"เห็นอะไร.?" ในขณะนี้

ก็ต้องเข้าใจ ว่า...เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา

แม้ไม่บอกว่าเห็นสีอะไร ขณะนั้น คือเห็น "สี" แล้ว

เพราะว่า ขณะนั้น

เพ่งเล็งไปที่ "สี" ที่ปรากฏทางตา.



.



ถ้าเราเห็นกระเป๋า...แล้วถามว่า "เห็นอะไร.?"

เราก็คงบอกว่า...เห็น "กระเป๋า"

เราคงไม่บอกว่า เห็น "สีของกระเป๋า"

หมายความว่า ขณะนั้น เห็นสี แล้ว

แต่ (สัญญา) จำได้

ว่าเป็นสิ่งต่างๆ (เป็นบัญญัติ)



.



อย่างเช่น ถามถึงมะพร้าว...ก็ตอบว่า เห็นมะพร้าว

ทั้งๆที่ "สีเขียว" ของมะพร้าว ก็มีอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น ถ้าเราจำรูปร่าง สัณฐาน ของมะพร้าว

ก็คือ...เราจำ "เรื่องของมะพร้าว"

ซึ่งจริงๆ แล้ว...มะพร้าว ไม่ได้มีสีเขียว สีเดียว

สีขาวก็มี สีน้ำตาลก็มี สีอ่อน สีเข้มต่างๆ ฯลฯ

แต่ เราก็ตอบว่า...เราเห็นมะพร้าว.



.



หมายความว่า

ชีวิตประจำวันของเรา

สิ่งที่ปรากฏทางตา มี...แต่เราไม่สนใจ.

(เพราะขณะนั้น สติปัฏฐานไม่เกิด

ไม่มีปรมัตถ์ คือ "สี" เป็นอารมณ์)



.



เราสนใน "เรื่องราว" ของสิ่งที่ปรากฏทางตา

เรา ยึดถือ "เรื่องราว"จากสิ่งที่ปรากฏทางตา

และเราเข้าใจผิดว่า เรื่องราวนั้น เป็นของจริง

ทำให้เราเข้าใจผิด ว่า สิ่งที่ปรากฏทางตา(สี)

เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นสิ่งของ ต่างๆ



.



เพราะฉะนั้น...นี่ก็คือ

ขณะที่เรามี "สมมติบัญญัติ" เป็นอารมณ์

มีความทรงจำ คือ "สัญญา"

หมายถึง "สัญญา" ที่เป็น "อัตตสัญญา"

ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เราเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตา

และ มีการ "นึกถึง" รูปร่าง สัณฐาน

แล้วก็มี "บัญญัติ" (เป็นอารมณ์)

หลังจากที่เราเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตา.



.



ซึ่ง ตามความจริงแล้ว

สิ่งที่ปรากฏทางตา คือ "สี" เท่านี้น.!

เจ้าของ:  ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 02 พ.ค. 2009, 10:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเห็นสี

รสมน เขียน:
เห็น คือ เห็นทุกอย่าง

(ทุกอย่าง ที่เป็น "สี" ที่ปรากฏเฉพาะทางตา เท่านั้น)

แต่...ไม่ใช่ "การนึกถึง" รูปร่าง สัณฐาน.



.



ขณะเห็นจริงๆ

เราไม่ได้ "นึกเป็นคำ"

เช่น นั่นสีเขียว นั่นสีขาว ฯลฯ

แต่ หลังจากเห็นแล้ว

เราจึง"นึกคิด"ถึงรูปร่าง สัณฐาน

มีการ "จำ" รูปร่าง สัณฐาน

มีการ "จำ" เรื่องราวจากสิ่งที่ปรากฏทางตา

หลังจากการเห็นดับไปแล้ว.



.



อย่างเช่น เวลาที่เราฝัน

เราไม่ได้เห็น "สี" จริงๆ

แต่เป็นความจำ เป็นเรื่องราว.



.



"สิ่งที่ปรากฏทางตา"

จะไม่ใช่ "สี" ไม่ได้.!

เพียงแต่ว่า เมื่อเราเห็นแล้ว

"สัญญา" ก็จำ รูปร่าง สัณฐาน

จำเป็นเรื่องราว จากสิ่งที่เห็น

คือ จำเรื่องราว จาก "สี"

ที่ปรากฏทางตา นั่นเอง.



.



เวลาที่เราพูดถึงสิ่งใดๆ ก็ตาม

เช่น สัตว์ บุคคล สิ่งของ ฯ

เราก็จำได้ โดยไม่ต้องเห็น (สี)

เพราะว่า เราจำได้ เราเคยชิน

ว่า สิ่งนี้... มี "สี" อย่างนี้

ทั้งๆที่ ขณะนั้น

ก็ไม่ใช่ขณะที่เห็น"สี"จริงๆ



.



ในชีวิตปกติประจำวัน

เราไม่ได้มานั่งนึก ว่า สีอะไร.!

แต่เรากำลังจำ "เรื่องราว"



.



เพราะฉะนั้น ให้เข้าใจว่า

ขณะที่เราไม่ได้ไปเพ่งเล็งที่ "สี" อย่างนี้

พอเห็นแล้ว...เราก็ "นึก" เป็นเรื่องราวไปหมดเลย.!

เราต้องเข้าใจว่า....สีแดง สีเหลือง สีเขียว ฯลฯ

คือ สิ่งที่ปรากฏทางตา เท่านั้น.



.



"ไม่ใช่การจำชื่อ" ว่า นี่สีแดง นี่สีเหลือง ฯลฯ

แม้เราไม่ต้องบอกว่าเป็นสีแดง เราก็เห็นสีแดง.!



.



ถ้าถามว่า"เห็นอะไร.?" ในขณะนี้

ก็ต้องเข้าใจ ว่า...เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา

แม้ไม่บอกว่าเห็นสีอะไร ขณะนั้น คือเห็น "สี" แล้ว

เพราะว่า ขณะนั้น

เพ่งเล็งไปที่ "สี" ที่ปรากฏทางตา.



.



ถ้าเราเห็นกระเป๋า...แล้วถามว่า "เห็นอะไร.?"

เราก็คงบอกว่า...เห็น "กระเป๋า"

เราคงไม่บอกว่า เห็น "สีของกระเป๋า"

หมายความว่า ขณะนั้น เห็นสี แล้ว

แต่ (สัญญา) จำได้

ว่าเป็นสิ่งต่างๆ (เป็นบัญญัติ)



.



อย่างเช่น ถามถึงมะพร้าว...ก็ตอบว่า เห็นมะพร้าว

ทั้งๆที่ "สีเขียว" ของมะพร้าว ก็มีอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น ถ้าเราจำรูปร่าง สัณฐาน ของมะพร้าว

ก็คือ...เราจำ "เรื่องของมะพร้าว"

ซึ่งจริงๆ แล้ว...มะพร้าว ไม่ได้มีสีเขียว สีเดียว

สีขาวก็มี สีน้ำตาลก็มี สีอ่อน สีเข้มต่างๆ ฯลฯ

แต่ เราก็ตอบว่า...เราเห็นมะพร้าว.



.



หมายความว่า

ชีวิตประจำวันของเรา

สิ่งที่ปรากฏทางตา มี...แต่เราไม่สนใจ.

(เพราะขณะนั้น สติปัฏฐานไม่เกิด

ไม่มีปรมัตถ์ คือ "สี" เป็นอารมณ์)



.



เราสนใน "เรื่องราว" ของสิ่งที่ปรากฏทางตา

เรา ยึดถือ "เรื่องราว"จากสิ่งที่ปรากฏทางตา

และเราเข้าใจผิดว่า เรื่องราวนั้น เป็นของจริง

ทำให้เราเข้าใจผิด ว่า สิ่งที่ปรากฏทางตา(สี)

เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นสิ่งของ ต่างๆ



.



เพราะฉะนั้น...นี่ก็คือ

ขณะที่เรามี "สมมติบัญญัติ" เป็นอารมณ์

มีความทรงจำ คือ "สัญญา"

หมายถึง "สัญญา" ที่เป็น "อัตตสัญญา"

ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เราเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตา

และ มีการ "นึกถึง" รูปร่าง สัณฐาน

แล้วก็มี "บัญญัติ" (เป็นอารมณ์)

หลังจากที่เราเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตา.



.



ซึ่ง ตามความจริงแล้ว

สิ่งที่ปรากฏทางตา คือ "สี" เท่านี้น.!

กังวลมากไปรึปล่าว

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/