ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
จากผับสู่วัด http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=21887 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | -dd- [ 24 เม.ย. 2009, 11:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | จากผับสู่วัด |
ชีวิตผมเอง ^^ ถ้าไม่ดีก็แจ้งลบได้เลยครับ อยากลองจะเป็นกำลังใจให้ วัยรุ่นที่ไม่เคยเข้าวัด ____________________________________________________________ ในยุคที่โลกนั้นเต็มไปด้วยแสงสี เต็มไปด้วยวัตถุนิยม ได้เปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคมสมัยก่อนที่เต็มไปด้วยความร่มเย็น ความเย็นกายสบายใจ และความอบอุ่นของวัด กลายเป็นความรู้สึกถึงความอึดอัดจนทำให้หลายๆคนที่ให้ชื่อตัวเองว่า "คนรุ่นใหม่ หรือวัยรุ่น" นั้น กลับบอกว่า ไม่กล้าเข้าวัดเพราะว่า "กลัวร้อน" ตัวผมเองนั้นถ้าจะนับว่าเป็นคนที่ยังนับว่า เป็นวัยรุ่นอยู่นั้น ก็อาจจะนับเป็นวัยรุ่นตอนปลายๆ (ใกล้ๆจะเบญเพศ) เพราะถ้าถือตามคติโบราณแล้ว เบญเพศ นั้นเป็นช่วงอายุที่คนสมัยก่อนนับว่าเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่น เข้าสู่ช่วงที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เพราะฉะนั้น ผมอาจจะนับเป็นคนสมัยใหม่กับเค้าได้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าใครจะบอกว่า วัยรุ่นเข้าวัดแล้วร้อนนั้น ผมบอกได้เลยว่า ผมนั้นเป็นคนนึงที่ควรจะร้อนมากๆเลยหล่ะที่จะเข้าวัด เพราะสมัยก่อนที่ผมจะเข้าวัดนั้น ผับ บาร์ หรือร้านเหล้านั้น เปรียบเสมือนห้องนั่งเล่นของผมเลย ใช้เวลาอยู่มากกว่าบ้านซะอีก รู้สึกว่าการไปอยู่ที่ร้านเหล้านั้น เป็นการผักผ่อนใจให้เย๊นเย็นหลังจากที่เหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวัน ทุกๆวัน ผมไปตั้งแต่ 2 ทุ่มยันร้านเลิก (ตี 2) กว่าจะกลับบ้านมาก็ตี 4 และ 7 โมงเช้าตื่นไปทำงานอีกละ อยู่ร้านเหล้ามากกว่าบ้านจริงๆ แต่สิ่ง ที่เปลี่ยนแปลงตัวผมนั้นเกิดมาจากการที่ผมได้เจอกับคนที่ผมรักและชักจูง (แกมบังคับ) เข้าหาพระพุทธศาสนา ตัวผมเองนั้นแม้จะเคยบวชมาก่อน แต่เป็นการบวชสั้นๆ หลังเรียนจบเพื่อมอบบุญให้กับพ่อแม่ผู้มีพระคุณ ในเวลานั้นตัวผมเองก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย เปลี่ยนได้ก็แค่ระยะเวลาสั้นๆ เคยคิวด่าจะตื่นมาทำวัดตอนเช้าตอนตี 4 แม้ว่าจะหลังสึกออกมา แต่ความตั้งใจที่ขาดความมุ่งมั่นจิงๆ ก็ทำให้ผมไม่เคยที่จะได้อยู่ในร่องในรอยอีกเลย เนื่องจากแฟนของผม นั้นศรัทธา และชอบในพระพุทธศาสนามาก และชอบที่จะปฏิบัติธรรมอย่างที่แท้จริง พอผมมาคบกันกับแฟนคนนี้ ขั้นแรกเลยโดนบังคับให้ "ถือศีล 5" ซึ่งในใจผมตอนนั้นนะ คิดว่า ศีล 5 โอย ใครจะถือได้ ชีวิตคนเรามันต้องมีการเข้าสังคมสิ มีเพื่อนมีฝูง ทำงานทำการ มันก็ต้องมีบ้างที่จะผิดศีลบางข้อไม่เคยเข้าใจเลยว่า การถือศีลที่ดีนั้นจะเป็นยังไง จะให้ประโยชน์อะไรกับเรา มันกลับทำให้เราลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัดซะอีก แต่การที่ผมต้องถือ ศีลแบบ "จำใจ" ในตอนแรกเพราะโดนถูกบังคับ และตัวผมเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะตามใจแฟนมากๆ ละไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ผมตั้งมั่นว่าควรจะถือศีลขนาดนั้น และทำให้จิตใจผมนั้นได้สงบลงมากๆ เพราะเนื่องจากการที่ผมได้รักษาศีลนั้นทำ ให้ไม่มีอะไรต้องมากังวลใจมาก ในสมัยก่อนนั้นผมสารภาพได้เลยว่า ผิดศีลแทบจะทุกๆข้อ ทำให้แต่ละวันต้องร้อนใจบ่อยๆครั้งเวลาทานเหล้า ตื่นเช้าไปทำงานก็ต้องกลัวว่าจะมีคนได้กลิ่นเหล้ารึเปล่า จากการที่ต้องกังวลว่าใครจะจับได้หรือเปล่าว่าผมไปโกหกอะไรเค้าไว้ กลัวว่าผู้หญิงที่ผมคบแต่ละคนจะรู้เรื่องกันรึเปล่า ความจะแตกหรือไม่ สารพัดจะทำให้ผมมีเรื่องต้องค่อยระแวงระวังไม่เว้นแต่ละวัน ผลของมัน นั้นยิ่งกว่าที่ผมคาดไว้เยอะ สุขภาพผมดีขึ้นแข็งแรงป่วยน้อยลงมาก เนื่องจากว่าไม่ต้องเข้าร้านเหล้า และต้องนอนเวลาดึกๆ ทำให้พักผ่อนไม่พอ จากการที่ผมถือศีลข้อ 4 (ไม่โกหก) นั้นทำให้เวลาผมไปหาลูกค้านั้นคุยงานประสบความสำเร็จมากขึ้นอย่างมาก ลูกค้ามีความเชื่อถือในสิ่งที่ผมพูดมากขึ้น จนทำให้เกิดผลงานจนสามารถได้เพิ่มเงินเดือนขึ้นเลยด้วยซ้ำ น่าอัศจรรย์มากจริงๆ หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสเข้าไปปฏิบัติธรรม (คล้ายๆแกมบังคับนิสๆ ที่บอกว่านิสๆเพราะตัวผมเองก็เต็มใจ) นั้นทำให้ผมได้เห็นในสิ่งที่ยิ่งกว่าการถือศีลมากขึ้นไปอีก หลังจากนั้นผมได้ศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเพิ่มเติม จากหนังสืออ่านเล่นต่างๆ กลับกลายเป็นหนังสือคำสอนของพระอาจารย์หลายเล่มเข้ามาแทนที่ในชีวิตผม ต่อ จากนั้นผมได้มีโอกาสพบกับพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโช ครูบาอาจารย์ที่สอนได้ตรงจริตนิสัย ได้โอกาสน้อมนำคำสอนของพระอาจารย์มาลองปฏิบัติ ผมรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของชีวิต รู้สึกได้ว่า ความร่มเย็นและความสุขที่แท้จริงในชีวิตคืออะไร จากที่เคยคิดว่าผับบาร์ ร้านเหล้านั้นเย็นสบาย แต่พอนึกย้อนกลับไปดูแล้ว แต่ละวันเราต้องร้อนใจที่จะตามกิเลสของเราที่อยากจะไปทุกวันๆ เพราะคิดว่าเข้าไปแล้วจะมีความสุข พอเข้าไปแล้วก็ต้องดื่มเหล้า เฮฮากับเพื่อน พอเช้ามาก็คุยอวดกันว่า เมื่อวานสนุกอย่างโง้น วันนี้เฉยๆ ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่อย่างงี้ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยรู้เลยว่า ชีวิตของผมนั้น มันร้อนขนาดไหนมันต้องวิ่งตามกิเลสทั้งวัน วิ่งเข้าผับไม่พอยังต้อวิ่งตามหาความสนุก ปรุงความสนุกไม่งั้นรู้สึกว่า แหมวันนั้นไปไม่คุ้มเลย ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ตัวเองร้อนขนาดนั้น กลับคิดว่าทางนี้แหละเป็นหนทางที่จะพักผ่อนและเย็นสบายของชีวิต จาก การที่ผมหันหลังให้ผับบาร์ หันหน้าเข้าสู้ทางธรรมนั้นทำให้ชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงมากมาย แน่นอนแรกๆก็เจอะเจออุปสรรคบ้าง เพื่อนชวนไปทานเหล้าบ้างอะไรบ้าง ผมก็เห็นถึงใจของผมที่มันอยากจะกิน บางทีใจมันก็คิดว่า แหม ไม่ได้ทานมานานแล้วนิดหน่อยน้า (ยังมีแอบเสียดายกิเลส) ความอดทนอดกลั้น และความตั้งใจที่ผมตั้งใจมั่นนั้น ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวของผมเอง แต่ยังเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างผมด้วย สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือจากที่คนรอบๆข้างผมนั้นมีแต่พวกชวนเข้าผับ ทานเหล้า กลับกลายเป็นเจอ กัลยาณมิตรหลายๆคนที่ชักชวนกันคุยในเรื่องพระพุทธศาสนา มีตั้งแต่เรื่องทำทาน ถือศีล พระเครื่องบ้างอะไรบ้าง จนถึงการ ปฏิบัติที่เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาจริงๆ ผมได้ปฏิบัติธรรมมาระยะ นึงตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์และได้ศึกษาประวัติ และคำสอนของท่านทั้งหลาย กลั่นกรองและน้อมนำทางสายเอกของพระพุทธศาสนาซึ่งนำไปสู่ความพ้นทุกข์ที่แท้ จริงมาใส่ตัว ทำให้ผมได้เจอกับความสุข และร่มเย็นที่แท้จริงของชีวิต บางครั้งเพียงแค่นึกถึงคำสั่นสอนของครูบาอาจารย์ ความสุขนั้นได้เอ่อล้นขึ้นมาเป็นปิติในใจ ตัวผมเองนั้นยังไม่ถือว่า เป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมได้ถึงขั้นหรือว่าเก่งกาจอะไรกับเค้าหรอก แต่สิ่งที่ผมได้รู้และได้เห็นจริงๆก็คือ ความร้อนใจ ในชีวิตของผมนั้นมันหล่นหายไปเยอะเลย ความเศร้าใจที่เราเคยรู้สึกว่ามันไม่เคยจะจากไปจากใจของเราเลย ได้หล่นหายไป เจอสิ่งต่างๆ เจออุปสรรคหลายๆอย่าง ที่เข้ามากระทบกับชีวิต แต่เราก็สามารถสู้กับมันและไปกับมันได้อย่างที่เราไม่ได้ทุกข์ใจขนาดแต่ก่อน คนรอบๆตัวผมได้เห็นและได้มีการถามไถ่ถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวผมอย่างมาก ผมได้ตอบอย่างมีความสุขทุกครั้งว่า พระพุทธศาสนานั้นเป็นของจริง ผม ขอเป็นอีกสัก 1 คนที่เป็นพยานว่า "วัด" นั้นยังคงเป็นสถานที่ๆสามารถทำให้เย็นกายสบายใจได้มากกว่า ผับบาร์ ไม่ใช่ว่าการปฏิบัติธรรมนั้นจะเป็นสิ่งที่เฉพาะสำหรับคนมีอายุเสมอไป ทำไมหล่ะ ทำไมเราต้องรอจนถึงแก่ถึงจะต้องเจอกับความสุขที่แท้จริง ทำไมหล่ะ เราถึงจะต้องวิ่งตามความร้อนใจจนถึงแก่เราถึงจะได้เจอกับความสุขและความร่ม เย็นของชีวิต ผมขอให้มาลองดู มาลองดูในสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา เพราะผมก็ไม่เห็นว่าจะต้องหาคำตอบอะไรของคำถามที่ว่า "เราจะรอที่จะมีความสุขที่แท้จริงเมื่อแก่ทำไม ในเมื่อเราสามารถยืดเวลาความสุขได้มากกว่า ถ้าเราเริ่มในวันนี้" By : Sangtean http://larndham.net/index.php?showtopic=33827 |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 24 เม.ย. 2009, 11:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
งดงาม งดงาม
บัวค่อยๆ ผุดขึ้น อีกไม่นานคงพ้น พ้นแล้วจึงบาน บานแล้วส่งกลิ่นหอม เป็นความหวังแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่นต่อไป สาธุ สาธุ |
เจ้าของ: | pimz [ 24 เม.ย. 2009, 12:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
สาธุ สาธุ เราก้อเคยใช้ชีวิตแบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่หนักขนาดนี้ ![]() ตอนนี้ก้อหันมาเข้าวัด ฟังธรรมเยอะขึ้น รู้สึกดีมากๆเลย |
เจ้าของ: | jintana63 [ 24 เม.ย. 2009, 12:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณโชคดีค่ะที่มีนางฟ้า (แฟนคุณ) ช่วยฉุดคุณ ออกมาจากนรกบนดิน ส่วนตัวดิฉันก็พยายามฉุดคนในบ้านแต่ ไม่ไหวค่ะดื้อมากๆ (สงสัยไม่ใช่นางฟ้าแน่เลย) ขอชมเชยคุณค่ะ ที่เข้มแข็ง |
เจ้าของ: | be_grace [ 24 เม.ย. 2009, 15:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
คล้ายกันเลยค่ะ ว่างๆ จะมาแชร์ด้วย |
เจ้าของ: | อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 24 เม.ย. 2009, 15:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
![]() ![]() ![]() ![]() โดยส่วนตัวกระผม....ไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนเท่าไร แต่ไปได้ครับ หากจำเป็นต้องไป...และก็ต้องรักษามรรยาท...ก็ต้องทำสนุกร่าเริงไปกับเขา...เดี๋ยวงานจะไม่สนุกเอา.....แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้เห็นว่าจะสนุกเท่าไร....กลับมองไปมองมาเหมือน..กระผมกำลังไปเที่ยวนรกที่มีวิญญาณ...เต้นเร่าร้อนในอบายภูมิ..ดูแล้วสังเวสใจครับ ![]() ไม่ได้บอกว่าตนเองดีกว่าคนทั่วไป...แต่มันเป็นความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆทุกครั้งที่ไปเที่ยวกลางคืนครับ หรือเพราะผม.....แก่แล้วก็ไม่รู้....... ![]() |
เจ้าของ: | papirus [ 24 เม.ย. 2009, 15:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
สุดยอดเลยครับ ได้สิ่งดี ๆ เข้ามาสู่ชีวิตทั้งทางโลก (แฟน) และทางธรรม |
เจ้าของ: | หล่อ ลูกแม่อ้วน [ 24 เม.ย. 2009, 16:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
เยี่ยมๆๆ.....ผมอยากมีแฟนเช่นนี้บ้างจังเลย....แต่เค้าไม่รักเราสินะ... |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 24 เม.ย. 2009, 16:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
ธรรม..ย่อมนำความสงบสุขมาสู่ชีวิต...สาธุ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เหม่งตุ๊ก [ 24 เม.ย. 2009, 20:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 25 เม.ย. 2009, 01:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
จะเรียกว่า "มืดมาสว่างไป" ดีไหม แต่ผมขอเรียกว่า สว่างน้อยไปสว่างมาก จะดีกว่า อ่านๆ ดูแล้ว คล้ายเรื่อง X-MEN ORIGINS: WOLVERINE หรือไม่ก็ Batman: BEGIN ![]() ![]() ![]() อ้างคำพูด: (1)เนื่องจากแฟนของผม นั้นศรัทธา และชอบในพระพุทธศาสนามาก และชอบที่จะปฏิบัติธรรมอย่างที่แท้จริง พอผมมาคบกันกับแฟนคนนี้ ขั้นแรกเลยโดนบังคับให้ "ถือศีล 5" ซึ่งในใจผมตอนนั้นนะ คิดว่า ศีล 5 โอย ใครจะถือได้ ชีวิตคนเรามันต้องมีการเข้าสังคมสิ ![]() (2)ผม ขอเป็นอีกสัก 1 คนที่เป็นพยานว่า "วัด" นั้นยังคงเป็นสถานที่ๆสามารถทำให้เย็นกายสบายใจได้มากกว่า ผับบาร์ ไม่ใช่ว่าการปฏิบัติธรรมนั้นจะเป็นสิ่งที่เฉพาะสำหรับคนมีอายุเสมอไป ทำไมหล่ะ ทำไมเราต้องรอจนถึงแก่ถึงจะต้องเจอกับความสุขที่แท้จริง ทำไมหล่ะ เราถึงจะต้องวิ่งตามความร้อนใจจนถึงแก่เราถึงจะได้เจอกับความสุขและความร่มเย็นของชีวิต ผมขอให้มาลองดู ![]() พบว่า 2 ข้อความที่พูดถึงสอดคล้องกับสำนวนที่ว่า "แฟนหมายถึงพัด" ได้เป็นอย่างดีครับ **ว่าแต่ K อมิตาพุทธ, K be_grace และ K อื่นๆ ไม่อยากมา share ความเป็นมาเหมือน K dd บ้างหรอครับ ![]() |
เจ้าของ: | Tαhquαriμs [ 25 เม.ย. 2009, 01:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
อวบอั๋นขั้นสุดท้าย เขียน: ![]() ![]() ![]() ![]() โดยส่วนตัวกระผม....ไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนเท่าไร แต่ไปได้ครับ หากจำเป็นต้องไป...และก็ต้องรักษามรรยาท...ก็ต้องทำสนุกร่าเริงไปกับเขา...เดี๋ยวงานจะไม่สนุกเอา.....แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้เห็นว่าจะสนุกเท่าไร....กลับมองไปมองมาเหมือน..กระผมกำลังไปเที่ยวนรกที่มีวิญญาณ...เต้นเร่าร้อนในอบายภูมิ..ดูแล้วสังเวสใจครับ ![]() ไม่ได้บอกว่าตนเองดีกว่าคนทั่วไป...แต่มันเป็นความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆทุกครั้งที่ไปเที่ยวกลางคืนครับ หรือเพราะผม.....แก่แล้วก็ไม่รู้....... ![]() ผมก้อรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันครับ จะไปเที่ยวกลางคืนก้อเฉพาะจำเป็นต้องไปจริงๆ ตามมารยาท เพราะใจจริงไม่อยากวิ่งเข้าไปหาอบาย มันเป็นที่อโคจรครับ มนุษย์ไม่พึงกล้ำกลายเข้าไป |
เจ้าของ: | อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 25 เม.ย. 2009, 01:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
พบว่า 2 ข้อความที่พูดถึงสอดคล้องกับสำนวนที่ว่า "แฟนหมายถึงพัด" ได้เป็นอย่างดีครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ไผ่ [ 27 เม.ย. 2009, 11:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
ยินดีและดีใจกับคุณดีดี ที่ได้แฟนที่ดี อย่างนี้เค้าเรียกว่าคู่บุญรึเปล่าน๊า มีคู่ที่ผลักดัน ส่งเสริม ชีวิตที่ดีให้กันและกัน ดั่งคำ ที่ว่า "เบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งมักมีเงาของผู้หญิงอยู่เบื้องหลังเสมอ" ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 27 เม.ย. 2009, 23:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จากผับสู่วัด |
คนเราบางครั้งก็ได้ดีเพราะแฟนนะครับ น่าอนุโมทนากับผู้ที่มีแฟนดีจริงๆ ![]() ![]() พบว่า 2 ข้อความที่พูดถึงสอดคล้องกับสำนวนที่ว่า "แฟนหมายถึงพัด" ได้เป็นอย่างดีครับ ===> ชอบจะเอาไปใช้ก็ได้ครับK อวบอั๋น แต่ถ้าตัวเราเป็นพัดก็ดีนะ จะได้พัดคนที่อยู่ข้างๆเราให้เย็นจิต เย็นกายไปตามๆกัน ![]() กรรม..คือเจตนา เป็นที่ตั้งของ...เวทนา ![]() ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต หากกลับใจก็คือฝั่ง. ![]() พึงชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ ![]() ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ ![]() ถ้าเราไม่เป็นผู้ให้ก่อนแล้วเราจะเป็นผู้รับได้อย่างไร ![]() ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง ![]() สติปัญญา เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต มีคุณค่าอย่างเหลือที่จะประมาณได้ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |