ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=21837 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | Passa [ 21 เม.ย. 2009, 20:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
ตัวกระผมเองมีเพื่อนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิอยู่สองคน ผมจึงอยากจะสอนธรรมะให้ครับ แต่ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เมื่อ... เพื่อนคนแรกเก่งวิทยาศาสตร์ เห่ออเมริกา (นิสัยก็ดีครับ) เขาก็(ท่าทาง)จะเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่ ๆ (มั้ง)ครับ [ไม่แน่ใจว่าเชื่อเท่าไหร่] แต่ไม่เชื่อในสวรรค์นรก ตอนถามเขาเขาก็ตอบว่า "นายเคยไปที่นรกสวรรค์หรือ ถึงมาพูดได้" กรณีนี้จะพูดในแง่วิทยาศาสตร์กับคนสมัยใหม่ ให้เขาเข้าใจง่าย ๆ แต่เชื่ออย่างไรดีครับ (อ้างด้วยว่า "เราเชื่อในวิทยาศาสตร์ เราไม่เชื่อในพระเจ้า - ยังไม่รู้เลยครับว่าพุทธศาสนาสอนอะไร) เพื่อนคนที่สอง มีนิสัยดีกว่าคนแรก แต่ชอบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เขาก็เป็นคนดีครับ แต่ว่าเนื่องจากว่าเขาอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่มีใครสอนเรื่องศาสนา เลยเข้าใจว่าพุทธศาสนาคือสอนเรื่องพระเจ้า ผมก็เลยอธิบายเขาว่าไม่ใช่ ๆ สอนเรื่องวัฏสงสาร และการพ้นทุกข์ เขาก็เข้าใจดีนะครับ (พออธิบายไปถึงตอนเทวดาลงมาจุติใหม่ได้ อ้าปากค้างไปเลย) อย่างไรก็ดี เขาไม่ใช่เรื่องกฎแห่งกรรมและภพภูมิครับ จะอธิบายให้เพื่อนทั้งสองคนเข้าใจอย่างไรดีครับ (ให้เปลี่ยนจากมิจฉาทิฎฐิมาเป็นสัมมาทิฏฐิ) ทั้งงัดกลยุทธ์กฎของนิวตัน และไอนสไตน์ ก็ท่าทางยังไม่ได้ผลครับ เพื่อนคนแรกเขามองผมแบบว่าผมเป็นคน "งมงาย" หรือว่าผมน่าจะวางเฉยดีครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 21 เม.ย. 2009, 20:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
ก่อนอื่น สอนตัวเราให้ดีก่อน เอาตัวเรารอดก่อน เอาตัวเราให้เข้าใจก่อน ตัวเราเข้าใจดีแล้ว ค่อยช่วยคนอื่น จึงจะชื่อว่าเจริญรอยตามพระพุทธเจ้า อ้างคำพูด: ๒. การฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทรมานฝึกหัดพระองค์จนได้ตรัสรู้ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พุทฺโธ ผู้รู้ก่อน แล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ สตฺถา จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัยบารมีควรแก่การทรมานในภายหลัง จึงทรงพระคุณปรากฏว่า กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต ชื่อเสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกัน ปรากฏว่าท่านฝึกฝนทรมานตนได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนกแจกธรรม สั่งสอนประชุมชนในภายหลัง ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าบุคคลใดไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้ว และทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษ ปรากฏว่า ปาปโกสทฺโท คอเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจตุรทิศ เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์สาวกเจ้าในก่อนทั้งหลาย จาก มุตโตทัย รจนาโดยพระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) ลูกศิษย์ผู้ติดตามปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่มั่นอย่างใล้ชิดเป้นเวลานาน ได้รวบรวมคำสอนของหลวงปู่มั่นออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ http://www.fungdham.com/download/book/a ... un/024.pdf วิธีสอนธรรมะอย่างหนึ่งที่ดีที่สุดคือสอนด้วยความเงียบ กล่าวคือไม่ต้องไปสอน แต่เราทำให้ดู ปฏิบัติให้ดู ว่าชาวพุทธที่เข้าถึงพระธรรมเป็นอย่างนี้อย่างนี้ ใช้ชีวิตอย่างพุทธให้ดู มองโลกอย่างพุทธให้ดู วางตัวอย่างพุทธให้ดู คนที่เขาได้รับความเย็น ความสงบ ไม่วุ่นวายจากเรา เขาเห็นกับตา แล้วเด๊่ยวเขาก็จุดธูปถามเอง ขนาดคุณแม่ผม ผมยิ่งอยากจะให้ท่านรู้อะไรอย่างที่ผมรู้ให้หมด ผมพยามยังไง ก้ยังไม่เอานะ ยังไม่สามารถจะรับได้ ผมเลยเลิกพูด แต่แสดงธรรมด้วยความเงียบ แสดงด้วยการคิด พูด ทำ อย่างพุทธ ถ้าเขาด่าเรา เราด่าตอบ อันนี้ยังใช้ไม่ได้ เพราะชาวพุทธ ต้องไม่ผิดศีล 5 ต้องไม่ด่าตอบ ต้องอดทนอยู่แล้วเฝ้าดูความคิดความรู้สึกเหล่านั้นไป จึงจะเรียกว่าชาวพุทธ ขนาดพระพุทธเจ้า ยังไม่สามารถจะพาพระมารดาแจ้งในนิพพานได้เลย ดลบันดาลให้พระบิดาแจ้งนิพพานก้ยังไม่ได้ เรื่องธรรมะนี้ ถ้าคนรับเขาไม่พร้อม ทำยังไงเขาก็ไม่รับ รับไม่ได้ คนให้ต้องวางอุเบกขา ถ้าไม่วางแปลว่าตันหาจัด อยากบงการจิตใจผู้อื่น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 21 เม.ย. 2009, 20:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
พระพุทธศาสนามีคำสอนมากมายหลายมุม เราเองพึงเลือกหยิบเอาตรงที่เหมาะแก่ผู้ฟังสิครับ แม้ พระพุทธเจ้าเองจะแนะนำใครก็ดูอัธยาศัยของผู้ฟังเช่นกัน เมื่อเป็นดังนี้เราเองก็พึ่งศึกษาหลักธรรมให้กว้างขึ้น |
เจ้าของ: | -dd- [ 21 เม.ย. 2009, 21:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
การเสนอธรรมะให้แก่บุคคลอื่นนั้น ต้องระมัดระวังเหมือนกัน...ประการแรก เราต้องมั่นใจในความเข้าใจของเราว่า เราเรียนและศึกษาไว้ดีแล้ว เห็นประโยชน์ พึงจะนำประโยชน์นี้ให้เกิดแก่บุคคลอื่น.....ประการที่สอง เมื่อเห็นประโยชน์แล้ว ย่อมกระทำการเลือกบุคคลที่จะให้ด้วย เหมือนชาวนาผู้มีพันธ์พืชดี ย่อมเลือกสรรที่นาอันอุดมนั้นลงหว่านเมล็ดพืชลง ย่อมได้ผลไพบูลย์ยิ่งนัก.. การที่จะพิจารณาบุคคลที่จะให้นั้น การให้ทุกชนิด อย่าว่าแต่จะเป็นการให้ธรรมทานเลย แม้การให้ข้าวของเงินทอง ผู้ให้ก็ต้องพิจารณาบุคคลที่จะรับด้วย กาลด้วย เทศะด้วย ชุมชน บริษัทด้วย...หากให้ผิดบุคคล ผิดกาล ผิดเทศะ ผิดชุมชน ผิดบริษัท ย่อมก่อทุกข์ทั้งผู้ให้และผู้รับ จึงต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบ...ยิ่งเป็นการให้ธรรมะอันเป็นเรื่องที่ ต้องอาศัยปัจจัยร่วมหลายๆอย่างแล้ว ยิ่งต้องพิจารณามากขึ้นไปอีก ......บางคนพอพูดเรื่องธรรมะ เขาก็เกิดโทสะ ดูหมิ่นเหยียดหยามพระธรรมคำสอน หรือล่วงเกินศาสนาในแง่ต่างๆก็มี...หรือบางคนฟังแล้วก็เกิดรำคาญในผู้ให้ เสียจริงๆ พูดอะไรขัดใจมาก..หรือบางคนมีศรัทธา แต่ยึดมั่นในตัวบุคคล เช่นศรัทธาพระรูปนี้รูปนั้น ก็หาความพิจารณาในแง่ธรรมยาก เอาแต่พระของฉันเป็นเกณฑ์ ....หรือแม้แต่บางคน ความเข้าใจของเขาคลาดเคลื่อนแต่เขาก็ยึดในความเห็นนั้นไม่เปิดใจรับฟังผู้ อื่น.... อย่างนี้ ผู้ฟังอาจเกิดความดูแคลนในผู้ให้ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่เกิดบาปขึ้นโดยไม่ควร... ในโลกนี้ สิ่งที่รับได้ยากแม้เป็นการให้ฟรีๆ แต่ก็หาผู้รับยากเต็มที ได้แก่ พระสัทธรรมนั่นเอง..ใครที่มีบุญเก่าที่ทำไว้ด้วยดีแล้ว ย่อมแสวงหา ขวนขวาย เพียงหยอดถ้อยคำอิงอรรถ อิงธรรมเพียงเล็กน้อย ก็เฝ้าติดตามถามไถ่ เฝ้าหาความรู้เพิ่มเติม อย่างนี้ ก็รู้ทันทีว่า เขาเป็นที่นาอุดม คือเมล็ดพืชที่หว่านลงไปแล้วไม่แห้งตาย หรือไม่เน่าไปเสีย ก่อให้เกิดผลทั้งผู้ให้และผู้รับ.... .บุคคลที่จะมาเป็นผู้รับธรรมะนั้น ผู้ให้ย่อมฉลาดพิจารณาว่า สมควรให้เท่าใด..บางคนพอเห็นผู้รับสนใจก็ว่ากันยาวตั้งแต่ทาน ศีล ภาวนา อริยสัจสี่ ไปโน่นทีเดียว ผู้ฟังครั้นพอจะเกิดศรัทธาบาง ก็เกิดปริวิตกไปกันเสียมากว่า โอหนอ ช่างยากเย็นเสียจริงๆ ชะรอยเราจะไม่ใช่เป็นคนมีบุญพอหรอกกระมัง...ศรัทธาที่พอจะตั้งขึ้นก็มีอัน มอดลงไปด้วยความขาดการพิจารณาของผู้ให้ไปเสียก็มี อย่างนี้ก็มีเยอะ..... ค่อยๆเริ่ม ค่อยๆแนะ ดูอัธยาศัยของผู้รับด้วยไปในที ก็จะเกิดความเข้าใจเองว่า เท่าไร เมื่อไหร เรื่องอะไร จึงจะเหมาะ จึงจะควร.. ส่วนการฟังธรรมนั้น ผู้ฟังจะไม่สามารถจะเข้าถึงอรรถความหมายอันลึกซึ้งได้เพียงชั่วการฟังครั้ง หรือสองครั้งเลย ต้องฟังกันเรื่อยไป เพราะเป็นเรื่องนามธรรมเป็นส่วนมาก แง่มุมที่ฟังแต่ละครั้งแม้จะเป็นเรื่องเดิม ผู้ฟังก็เกิดรู้เพิ่มไปต่างๆกันเพราะปัจจัยของผู้ฟังนั้นต่างกันไปด้วย... ดังนั้น พึงเห็นคุณของการฟังธรรม ศึกษาธรรมให้ดีเถิด เพื่อจิตที่เป็นกุศลประกอบปัญญาจะเกิดขึ้นแก่เราเพื่อเป็นที่พึ่งต่อไปในภาย ภาคหน้าตลอดกาลนาน... .. ขออนุโมทนาในกุศลจิตคิดเกื้อกูลคนอื่นครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 21 เม.ย. 2009, 21:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
คามินธรรม เขียน: ก่อนอื่น สอนตัวเราให้ดีก่อน เอาตัวเรารอดก่อน เอาตัวเราให้เข้าใจก่อน ตัวเราเข้าใจดีแล้ว ค่อยช่วยคนอื่น จึงจะชื่อว่าเจริญรอยตามพระพุทธเจ้า อ้างคำพูด: ๒. การฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทรมานฝึกหัดพระองค์จนได้ตรัสรู้ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พุทฺโธ ผู้รู้ก่อน แล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ สตฺถา จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัยบารมีควรแก่การทรมานในภายหลัง จึงทรงพระคุณปรากฏว่า กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต ชื่อเสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกัน ปรากฏว่าท่านฝึกฝนทรมานตนได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนกแจกธรรม สั่งสอนประชุมชนในภายหลัง ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าบุคคลใดไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้ว และทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษ ปรากฏว่า ปาปโกสทฺโท คอเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจตุรทิศ เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์สาวกเจ้าในก่อนทั้งหลาย จาก มุตโตทัย รจนาโดยพระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) ลูกศิษย์ผู้ติดตามปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่มั่นอย่างใล้ชิดเป้นเวลานาน ได้รวบรวมคำสอนของหลวงปู่มั่นออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ http://www.fungdham.com/download/book/a ... un/024.pdf วิธีสอนธรรมะอย่างหนึ่งที่ดีที่สุดคือสอนด้วยความเงียบ กล่าวคือไม่ต้องไปสอน แต่เราทำให้ดู ปฏิบัติให้ดู ว่าชาวพุทธที่เข้าถึงพระธรรมเป็นอย่างนี้อย่างนี้ ใช้ชีวิตอย่างพุทธให้ดู มองโลกอย่างพุทธให้ดู วางตัวอย่างพุทธให้ดู คนที่เขาได้รับความเย็น ความสงบ ไม่วุ่นวายจากเรา เขาเห็นกับตา แล้วเด๊่ยวเขาก็จุดธูปถามเอง ขนาดคุณแม่ผม ผมยิ่งอยากจะให้ท่านรู้อะไรอย่างที่ผมรู้ให้หมด ผมพยามยังไง ก้ยังไม่เอานะ ยังไม่สามารถจะรับได้ ผมเลยเลิกพูด แต่แสดงธรรมด้วยความเงียบ แสดงด้วยการคิด พูด ทำ อย่างพุทธ ถ้าเขาด่าเรา เราด่าตอบ อันนี้ยังใช้ไม่ได้ เพราะชาวพุทธ ต้องไม่ผิดศีล 5 ต้องไม่ด่าตอบ ต้องอดทนอยู่แล้วเฝ้าดูความคิดความรู้สึกเหล่านั้นไป จึงจะเรียกว่าชาวพุทธ ขนาดพระพุทธเจ้า ยังไม่สามารถจะพาพระมารดาแจ้งในนิพพานได้เลย ดลบันดาลให้พระบิดาแจ้งนิพพานก้ยังไม่ได้ เรื่องธรรมะนี้ ถ้าคนรับเขาไม่พร้อม ทำยังไงเขาก็ไม่รับ รับไม่ได้ คนให้ต้องวางอุเบกขา ถ้าไม่วางแปลว่าตันหาจัด อยากบงการจิตใจผู้อื่น ผมรับไม่ได้ที่คุณดูถูกพ่อแม่ตัวเอง |
เจ้าของ: | -dd- [ 21 เม.ย. 2009, 21:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
อ้างคำพูด: ผมรับไม่ได้ที่คุณดูถูกพ่อแม่ตัวเอง โอย ผมหัวเราะ post ข้างบน จนไม่มีแรงแล้วครับ ...5555555+++ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 21 เม.ย. 2009, 21:44 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร | ||
dd เขียน: โอย ผมหัวเราะ post ข้างบนจนไม่มีแรงแล้วครับ ...5555555+++ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ผมแค่อยากสอนหน่ะ มีแต่ลูกทรพีเท่านั้นแหละที่ดูถูกพ่อแม่ตัวเองหน่ะ ![]()
|
เจ้าของ: | Passa [ 21 เม.ย. 2009, 21:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
หมายเหตุ: ผมไม่ได้ตั้งกระทู้นี้เพื่อให้ทะเลาะกันนะครับ ขออนุโมทนาความเห็นที่เป็นประโยชน์ทั้งหลายด้วยครับ ![]() |
เจ้าของ: | Passa [ 21 เม.ย. 2009, 21:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
boom_manman เขียน: dd เขียน: โอย ผมหัวเราะ post ข้างบนจนไม่มีแรงแล้วครับ ...5555555+++ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ผมแค่อยากสอนหน่ะ มีแต่ลูกทรพีเท่านั้นแหละที่ดูถูกพ่อแม่ตัวเองหน่ะ ![]() ขออนุญาตให้สตินะครับ การที่ส่อเสียดคนอื่นนั้นเป็นมิจฉาวาจา ดังนั้นกรุณาไตร่ตรองดี ๆ ว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่นะครับ ก่อนที่ท่านจะผิดศีลไปมากกว่านี้ |
เจ้าของ: | -dd- [ 21 เม.ย. 2009, 21:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 21 เม.ย. 2009, 21:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
คุณ จขกท ลองดูนี่เพิ่มนะครับ การเผยแผ่ธรรมะแก่บุคคลอื่น - หลวงพ่อพุธ ฐานิโย viewtopic.php?f=7&t=21530 |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 21 เม.ย. 2009, 21:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
คามินธรรม เขียน: รู้สึกคุณจะเน้นว่าคุณหวังดีกับผมจังนะ หวังดีกับตัวเองก่อนเถอะ พระท่านว่า ทำตัวเองให้ดีพร้อมเสียก่อนจะไปตักเตือนผู้อื่น คุณบกพร่องหลายจุดเลย เส้นผมบังภูเขา |
เจ้าของ: | บัวศกล [ 22 เม.ย. 2009, 00:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
แนะนำเท่าที่รู้จริง เฉพาะในยามที่เขาตั้งใจถามด้วยความอยากรู้ สรรหาปัญหา ตามแนวของธรรมะ ยิงใส่ให้เขาตอบ เช่นอาจถามว่า แกรู้รึเปล่า ว่าจิตของแกอยู่ตรงไหน ทำงานยังไง ขยันถามไปเรื่อยๆตามโอกาส ให้เขาเป็นผู้ฉลาด ที่สำคัญ ควรเน้นหาคำถาม ที่สามารถทำให้เขาต้อง ลำบากลำบน และทำให้จนให้ได้ การเสนอตัวเป็นผู้ถาม น่าจะดีกว่าการดึงความสนใจเขาเข้ามา ด้วยการสอน เขาอาจต้องไปค้นคว้า หลักคำสอนของศาสนา หากเจอคำถามที่ฉลาด และถูกจังหวะ ถูกเวลา สักหลายๆครั้ง |
เจ้าของ: | walaiporn [ 22 เม.ย. 2009, 06:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
Passa เขียน: ตัวกระผมเองมีเพื่อนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิอยู่สองคน ผมจึงอยากจะสอนธรรมะให้ครับ แต่ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เมื่อ... เพื่อนคนแรกเก่งวิทยาศาสตร์ เห่ออเมริกา (นิสัยก็ดีครับ) เขาก็(ท่าทาง)จะเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่ ๆ (มั้ง)ครับ [ไม่แน่ใจว่าเชื่อเท่าไหร่] แต่ไม่เชื่อในสวรรค์นรก ตอนถามเขาเขาก็ตอบว่า "นายเคยไปที่นรกสวรรค์หรือ ถึงมาพูดได้" กรณีนี้จะพูดในแง่วิทยาศาสตร์กับคนสมัยใหม่ ให้เขาเข้าใจง่าย ๆ แต่เชื่ออย่างไรดีครับ (อ้างด้วยว่า "เราเชื่อในวิทยาศาสตร์ เราไม่เชื่อในพระเจ้า - ยังไม่รู้เลยครับว่าพุทธศาสนาสอนอะไร) เพื่อนคนที่สอง มีนิสัยดีกว่าคนแรก แต่ชอบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เขาก็เป็นคนดีครับ แต่ว่าเนื่องจากว่าเขาอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่มีใครสอนเรื่องศาสนา เลยเข้าใจว่าพุทธศาสนาคือสอนเรื่องพระเจ้า ผมก็เลยอธิบายเขาว่าไม่ใช่ ๆ สอนเรื่องวัฏสงสาร และการพ้นทุกข์ เขาก็เข้าใจดีนะครับ (พออธิบายไปถึงตอนเทวดาลงมาจุติใหม่ได้ อ้าปากค้างไปเลย) อย่างไรก็ดี เขาไม่ใช่เรื่องกฎแห่งกรรมและภพภูมิครับ จะอธิบายให้เพื่อนทั้งสองคนเข้าใจอย่างไรดีครับ (ให้เปลี่ยนจากมิจฉาทิฎฐิมาเป็นสัมมาทิฏฐิ) ทั้งงัดกลยุทธ์กฎของนิวตัน และไอนสไตน์ ก็ท่าทางยังไม่ได้ผลครับ เพื่อนคนแรกเขามองผมแบบว่าผมเป็นคน "งมงาย" หรือว่าผมน่าจะวางเฉยดีครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ ![]() พอๆกันเลยค่ะ เมื่อก่อนเคยเจอสถานการณ์แบบที่คุณพูดมา คือ ถ้าตัวเราเองรู้แค่ไหน เราก็บอกหรือแนะนำเพื่อนได้แค่นั้น ก็ขนาดตัวเราเองบางอย่างยังคลุมเครือเลย ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแล้วจะพูดให้เพื่อนเชื่อได้ยังไง พูดเท่าที่คุณเข้าใจชัดเจนมากที่สุดสิคะ อะไรที่ยังไม่ชัดเจนก็อย่าไปพูด พูดแล้วเห็นว่าขัดใจกัน ก็อย่าไปพูด รักษามิตรภาพไว้ก่อนค่ะ ปล่อยเพื่อนไปก่อน ![]() |
เจ้าของ: | O.wan [ 22 เม.ย. 2009, 07:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมะให้เพื่อนสมัยใหม่อย่างไร |
![]() พูดไปเค้าก็ไม่ใส่ใจฟังเลยหยุด ![]() ![]() นอนดึกได้ แต่เช้าปิดเทอมนี้ ต้องตื่นใส่บาตรกับแม่นะ วันพระยิ่งต้องใส่ เสาร์-อาทิตย์ ยกให้ ถ้าไปวัดก็สอนตั้งแต่การแต่งตัวให้เหมาะสม ความนอบน้อม อาจจะไม่ถูกใจเราบ้าง ก็ต้องทำไม่รู้ไม่เห็นนะ เราหมั่นสอนกึ่งสั่ง อย่างน้อยเค้าก็จะเริ่มซึมซับไป 10-20% ก็ยังดี กว่าเค้าจะโตเป็นผู้ใหญ่ รู้อะไรมากขึ้นเค้าก็จะทำได้เอง เพราะเราเคยถูกพ่อสอนมาแบบนี้ โดยเฉพาะสวดมนต์ก่อนนอน เวลาเค้าไปโรงเรียนยังสวดแบบนกแก้วนกขุนทองทุกเช้า แม่ก็ขอสั้นๆก่อนนอน ไหว้คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระคุณพ่อแม่ และครูบาร์อาจาย์ แค่นั้นเพราะเด็กวัยนี้ก่อนนอนต้องฟังเพลง เราก็จะอยู่กับเค้า แม่ขอแค่2นาที เพื่อแม่ให้เค้ามีสมาธิตั้งใจจริง ![]() แต่กว่าจะได้แบบนี้เราต้องเย็นเถอะโยมนะคะ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |