คำอธิษฐาน

เดชะบุญข้า
ตั้งจิตเจตนา ศรัทธาเปรมปรีดิ์
ชื่อว่าเข็ญใจ อย่าได้เกิดมี
แก่ตัวข้านี้ จนถึงนิพพานฯ

ทุกข์โศกโรคภัย
อัปรีย์จัญไร อย่าได้แผ้วพาน
ขอให้ชนม์ชีพ ข้ายืนยาวนาน
ได้บวชลูกหลาน สร้างการกุศลฯ

อุปัจเฉทกกรรม
อย่าได้ครอบงำ เข้าจราจล
เมื่อข้าดับจิต ชีวิตวายชนม์
เดชะกุศล ช่วยแนะนำไปฯ

แม้นเอากำเนิด
กลับชาติมาเกิด ให้สูงศักดิ์ศรี
ในวงศ์ประยูร สกุลผู้ดี
ขัตติยาศักดิ์ศรี มั่งมีเงินทองฯ

บิดามารดา
อยู่ในศีลห้า ศีลแปดพร้อมมูล
เมื่อยังมิได้ ขอใจเป็นบุญ
ผลธรรมอนุกูล มโนเปรมปรีดิ์ ฯ

เกิดชาติใดๆ
ห่างทุกข์คลายไข้ ขอใจยินดี
ศีลห้าประการ ผลทานบารมี
สมบัติทวี ยิ่งๆ ขึ้นไปฯ

ข้าขอพิษฐาน
คุณศีลคุณทาน กองการกุศล
สมบัติพัสถาน ปานพระสุชล
สำเร็จมรรคผล ดังนางมัลลิกา ฯ

ขอพบพระชินศรี
เอกองค์มุนี โปรดสัตว์สงสาร
ข้าขอเกิดทัน พบพระศรีอาริย์
ได้นมัสการ โดยสมปรารถนาฯ

ขอเป็นโอรส
ท้าวแดนจอมยศ ธิราชราชา
เป็นพระภิกขุณี ยินดีศรัทธา
ดับฃาติสังขาร เข้าสู่พระนิพพาน ฯ

คำอธิษฐานนี้ บันทึกจากการท่องจำของนางพวง นางเภา หุตานุกรม
พิมพ์เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2466 อธิษฐานบารมี เป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศ
ที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงบำเพ็ญเพียรอย่างยิ่งยวด
ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สำคัญตรงที่
ตั้งจิตไว้เป็นที่ตั้ง ใน..สิ่งที่ตนต้องการ

ส่วนจะเป็นไป ตามนั้นเร็วหรือช้า ก็ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย
อธิฐานจิต เป็นไป ได้ ทั้ง ดีและชั่ว

แต่ธรรมมะ พระพุทธเจ้า ทั้งหลายสอน
ให้ละ ชั่ว ทำดี ชะรำจิตให้ขาวรอบ

เช่น ถ้าตั้งใจ อยากเป็น เศรษฐี หรือ ตั้งจิตกำหนดใจให้เป็นใหญ่ว่า
ต้องการรวยเป็นเศรษฐี จิตก็ จะเพียร ขวนขวาย แหวกว่าย หาทางไปเอง
ตาม กำลัง แรงของความตั้งใจ ส่วนจะสมหวังในชาตินี้หรือ ชาติไหน
ก็ ..อย่างที่ว่า ขึ้นกับเหตุปัจจัย นำไป

อย่าง คนบางคน รวยแค่นี้ไม่พอ ก็ ต้องการเป็นนั่นเป็นนี้ ต้องการ
รวย อันดับขึ้น เขาก็ จะขวนขวาย ทำ บางที ก็ ไม่ได้ทำไปด้วยความสะอาด

แต่ อธิฐานคือ ที่ตั้งของการกำหนดจิตให้เป็นใหญ่ คือ อยากรวยก็ ยังเป็นที่พอใจแก่เขาอยู่

หากการจะตั้งจิต ให้กำหนดไว้เป็นใหญ่ หรือ เรียกว่า อธิฐานจิตนั้น
ควรต้องตั้งไว้ดีๆ ..ควรให้อยู่ในแนวพุทธคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

คือ ละชั่ว ทำดี ชำระจิตให้ขาวรอบหรือ บริสุทธิ ตั้งอธิฐานจิตอย่างนี้แล้ว
จิตก็ จะทำให้ จิตท่านๆ เป็นผู้ ยินดีในทาน ของตน แม้ ทานของผู้อื่น

ยินดีแม้จะมีพระของวัดบางแห่ง เน้น เรือง การทำทาน เพื่อ หวังความสุขสบาย
แม้จะ ..บอกตรงไปหน่อย ..แต่ ใจก็ พลอยยินดีไปกับทาน ของคนศรัทธานั้นได้

โดยที่ไม่ต้องคิดมาก เพื่อ ให้จิตเป็นกุศล

ดังนั้น การทำทาน คือ การลด การละ การคลาย จากความตระหนี่ ความงก ความถือแบก
ของทรัพย์สินสมบัติเงินทองที่เข้าไปยึดเหนี่ยว รั้งไว้ ด้วยความหวงแหน ..บุญก็ได้ตาม
ตั้งใจ ก่อน ให้ ขณะให้ หลังให้ ..มากน้อย ขึ้น เหตุปัจจัยของทานเหมือนกันอีก

การตั้งจิตอธิฐาน หาก ตั้งถูกแบบนี้ ความเบา สบาย แก่ตนก็ จะมีครับผม

การตั้งจิตอธิฐานก็ มี ความสำคัญ..พอประมาณ ดังนี้คับผม

ธรรมสวัสดีวันพระค่ะทุกท่าน

กล่าวกันว่า....

"ปกติแล้วคนที่จะอธิษฐานสิ่งใดให้สัมฤทธิ์ผลได้นั้น
ต้องมี สัจจะ สมบูรณ์ มี ความตั้งใจ ต้องเต็มเปี่ยม
มี อุเบกขา เป็นฐาน และมี บารมี เป็นตัวกำกับอธิษฐาน
หรือมีความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิเป็นองค์ประกอบ...."



โปรดติดตามกระทู้ที่สมบูรณ์ได้ใน

อ ธิ ษ ฐ า น ฤ ท ธิ์ : ความสำเร็จด้วยพลังอธิษฐาน โดย ศิยะ ณัญฐสวามี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=21159



อย่างไรก็ตาม....
ขออนุโมทนาสาธุการกับทุกๆท่าน
ที่ตั้งจิตอธิษฐานในทางที่ชอบ
และขอให้ทุกคำอธิษฐานจงสัมฤทธิ์ผล
ดังที่มุ่งหวังไว้ทุกประการด้วยนะคะ

ชีวิตที่สมบูรณ์ และสามารถเข้าถึงความสมหวังในทุกสิ่งทุกประการ
หรือแม้ในบางสิ่งบางประการ

ชีวิตนั้น ต้องผ่านการบ่มเพาะ ด้วยอุปสรรคนาๆประการ
ความทุกยากนาๆประการ และความผิดหวังที่นับไม่ถ้วน

ความยากลำบาก ทำให้ชีวิตเข้มแข็งขึ้น และช่วยเติมเต็มศักยภาพ

เมื่อความสามารถถึง ความสมหวังก็ตามมา
การบ่มเพาะบารมี ก็คือการบ่มเพาะอุปนิสัยในฝ่ายดี
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ

เมื่อบารมีเต็มเปี่ยม ความสามารถก็เต็มเปี่ยม
ความถึงพร้อมก็เต็มเปี่ยม ความสมหวังจึงเต็มเปี่ยม

ชีวิตจึงต้องบ่มเพาะบารมีทั้ง10ประการ หากต้องการความสมหวัง
และบารมีทั้ง10จะเต็ม ต้องอาศัยอุปสรรค และความทุกข์ยาก
เป็นเครื่องส่งเสริม

ทุกชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ล้วนต้องผ่านช่วงเวลาของความ
ยากลำบากมาแล้ว ถึงไม่ได้เจอชาตินี้ ก็ตองเคยเจอมาแล้ว
ตลอดอายุของการเวียนว่าย

ไม่ต้องอธิษฐาน ให้ได้แต่สิ่งดีๆ
หมั่นสั่งสมบารมี สิ่งดีๆก็จะตามมาเอง

สำคัญตรงที่ว่าตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิหรือเปล่า
คำอธิษฐานเป็นไปทั้งทางโลกียะ และทางโลกุตระ ได้ตามปรารถนา
ผู้มีปัญญาจึงอ้างเอาบุญกุศลนั้น เป็นเหตุเป็นปัจจัยไปในทางโลกุตระมีนิพพานเป็นที่สุดเถิด
สาธุ