วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 08:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 12:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


คิดว่าทำไงถึงหาย
แล้วระลึกชาติได้หล่ะ ทำไง
แล้วหลวงพ่อจรัญท่านรู้ภาวะจิตคนจริงหรือปล่าว (ตามที่ลือกัน)
แล้ว ทำไมคนที่ทำเพื่ออุดมการต้องถูกเข้าใจผิดเสมอเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2009, 22:06
โพสต์: 194

อายุ: 38
ที่อยู่: นันทบุรีศรีนครน่าน

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแจมด้วยครับคุณ boom_manman วิธีแก้ความหวาดกลัว ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งสอนไว้ในภยเภรวสูตร 12/26 มีดังนี้ครับ

เมื่อสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี พราหมณ์ชาณุโสณี ได้เข้าไปเฝ้าและทูลถามปัญหาว่า ภิกษูอยู่ในที่สงบสงัดในป่าหรือป่าเปลี่ยวและโดดเดี่ยว ยากที่จะอยู่ได้หรือยากที่จะทำจิตใจให้เป็นสมาธิได้ พระพุทธเจ้าทรงเล่าความหลังของพระองค์ครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ ก่อนที่จะได้ตรัสรู้ว่า ทรงเคยอยู่ในป่าและป่าเปลี่ยวมาแล้ว แต่เพราะทรงมีกาย วาจา และใจสะอาดสุจริต มีราคะและนิวรณ์ 5 สงบระงับแล้ว จึงไม่มีความหวาดกลัวหรือเกิดความหวาดกลัว เมื่ออย่ในป่าหรือป่าเปลี่ยวเช่นนั้น

ในตอนท้ายสูตร พระพุทธองค์ทรงเล่าเป็นเชิงแนะการแก้ความหวาดกลัวว่า ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังเดินอยู่ จะไม่ทรงยืนไม่ทรงนั่งและไม่ทรงนอนเลย จะทรงเดินจนกว่าความกลัวจะหายไป

ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังยืนอยู่ จะไม่ทรงเดิน ไม่ทรงนั่ง และไม่ทรงนอนเลย จะทรงยืนจนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป

ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนั่งอยู่จะไม่ทรงนอนไม่ทรงยืนและไม่ทรงเดินเลย จะทรงอยู่จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป

ถ้าความหวาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนอนอยู่ จะไม่ทรงนั่ง ไม่ทรงเดิน และไม่ทรงยืนเลย จะทรงนอนอยู่จนกว่าความหวาดกลัวจะหายไป. :b31:

สำหรับตัวผมเองน้อยครั้งที่จะตั้งสติมากกว่าการใส่หลวงพ่อโกยล่ะครับ(ไร้สติจริงๆ) s007 ต้องฝึกอีกนานครับ


แก้ไขล่าสุดโดย ไผ่ เมื่อ 16 เม.ย. 2009, 16:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2009, 22:06
โพสต์: 194

อายุ: 38
ที่อยู่: นันทบุรีศรีนครน่าน

 ข้อมูลส่วนตัว


boom_manman เขียน:

แล้วระลึกชาติได้หล่ะ ทำไง
แล้วหลวงพ่อจรัญท่านรู้ภาวะจิตคนจริงหรือปล่าว (ตามที่ลือกัน)
แล้ว ทำไมคนที่ทำเพื่ออุดมการต้องถูกเข้าใจผิดเสมอเลย


การระลึกชาตินั้นตามความเข้าใจแบบงูๆปลาๆของผม อาจมีสาเหตุมาจากดังต่อไปนี้
1. หลักวิทยาศาสตร์ สมองของมนุษย์เรามีความจำ(รอยหยักในสมองป เป็นเหมือนเมมโมรี่ชิป และได้ถ่ายเทข้อมูลตามกระบวนการสู่ยีนส์ หรือ ดีเอ็นเอ ข้อมูลจากมากจะน้อยก็อยู่ที่กระบวนการถ่ายเท(ต้องขออภัยที่ผมจำไม่ได้)ข้อมูล เมื่อเราตายไป ดีเอ็นเอ ของเรานั้นได้ถ่ายทอดลงสู่ลูกหลานเรา อีกไม่รู้กี่รุ่ร เจ้า ดีเอ็นเอตัวนี้ จะได้กลับมาเด่นที่รุ่นไหน เหมือนทฤษฏีที่เขาเอาหนูสองสี มาผสมพันธุ์กัน รุ่นไหนจะเหมือนพ่อเหมือแม่พันธุ์ พอได้เจอการเปิดข้อมูลโดยการที่เคยไปที่ไหนมาก่อน หรือเคยรู้จักสนิทชิดเชื้อใครมาก่อน ก็จะเกิดการ ระลึกได้ แต่ผมว่าทฤษฏีนี้ คงใช้ไม่ได้ในกรณีที่ลูกหลานคนอื่นมาระลึกชาติได้ว่าเคยเป็นปู่หรือคนในครอบครัวเรา
2. หลักศานานั้นผมคงอธิบายได้ไม่ค่อยดีเท่ากับการที่ท่านลองไปดูในกระทู้ การระลึกชาติในเวปนี้ครับ เรื่องบุญธรรมกรรมแต่งอาจเป็นคำตอบที่ผมพอจะรู้และเข้าใจได้ในขณะนี้ :b12:

เรื่องของหลวงพ่อจรัญนั้น ผมเองยังไม่เคยไปฝึกและปฏิบัติธรรมกับท่านผมก็ไม่สามารถให้คำตอบแก่ท่านได้ แต่เท่าที่ได้อ่านหนังสือของท่าน ผมคิดว่าท่านรู้ภาวะจิตจริงๆครับ

ส่วนเรื่องอุดมการณ์นั้น ถ้าอธิบายตามหลักรัฐศาสตร์คือ เรื่องของกลุ่มการเมืองและผลประโยชน์ ที่ไม่สามารถยอมใครได้ ยิ่งเรื่องของอำนาจ การได้อำนาจนั้นได้มาอย่างไร และการใช้อำนาจนั้นเหมือนกับการขี่หลังเสือ มีการใช้อำนาจตามหลักทศพิศราธรรมหรือไม่ แต่ผมว่าสรุปความแล้วก็หนีไม่พ้นเรื่องของ อัตตาของแต่ละคนครับ อย๋างที่ท่านพุทธทาสภิขุท่าได้ว่าไว้ คือ "ตัวกู ของกู"นั่นแหละครับ มันไม่มีสติกันหรอก กิเลส ตัณหามันปิดปังความถูกต้องหมด ใครคิดไม่เหมือนเรา คนนั้นผิด 555 :b32: มันถึงมีสีเสื้อหลายสีเกิดขึ้น ต้องขออภัยคุณด้วยที่เอ่ยเรื่องนี้ :b9: เรามันอยู่ในยุคเลยกึ่งพุทธกาลครับ ต้องทำใจ :b21: (น่าจะมีปิดตา ปิดหูมั่งเนาะ) แต่เราก็โชดดีที่สุดแล้วครับที่เกิดมาในพระพุทธศาสนา มหาสมบัติกองอยู่ตรงหน้าน้อยคนนักมองไม่เห็น และไม่เอา กลับไปเอาก้อนหินสีต่างๆมาใส่ และบอกว่ามันมีค่า ผมว่ามันมีค่าน้อยกว่าหินลูกรังที่มันสามารถใช้ประโยชน์ในการทำถนนให้สาธารณชนได้ใช้สัญจรอีกครับ.. :b9: หรือท่านว่าอย่างไร s001


แก้ไขล่าสุดโดย ไผ่ เมื่อ 19 เม.ย. 2009, 21:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขอบคุณมากครับสำหรับทุกเรื่องแต่อุดมการณ์ที่ผมกล่าวนั้นผมหมายถึงเอ่อทุกสิ่งยกเว้นการเมืองครับ แต่ก็ขอบคุณที่อุตส่าบอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 09:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


boom_manman เขียน:
คิดว่าทำไงถึงหาย
แล้วระลึกชาติได้หล่ะ ทำไง
แล้วหลวงพ่อจรัญท่านรู้ภาวะจิตคนจริงหรือปล่าว (ตามที่ลือกัน)
แล้ว ทำไมคนที่ทำเพื่ออุดมการต้องถูกเข้าใจผิดเสมอเลย


แงวๆๆไม่รู้สิ
:b16:

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 23:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


1. ก็เป็นสัณชาตญาณของมนุษย์ ทำไงให้หายกลัวคงยากเพราะมนุษย์มีกิเลสหนา ถึงหายกลัวผี ก็ยังกลัวตาย กลัวไปต่างๆนานา ตามตัณหาอุปทานพาไป :b40:

2. หลวงพ่อท่านรู้ท่านทราบอยู่ล่วงหน้าแล้ว เพราะเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าพึงมี :b43:

-รู้วาระจิต(คนนี้เคยไปทำกุศล อกุศลอะไรมาบ้าง หรือเคยโกงใครเขามาบ้าง คนนี้ทำปาณาติบาตติดมา60% ต้องเป็นอัมพาต คนนี้ช่วยอะไรไม่ได้แล้วต้องไปรถชนตายที่บ้านตัวเอง)

-รู้เวลาการเกิด การตาย (ไปเกิดที่ไหน จะตายที่ไหน)

-รู้กฏแห่งชาติก่อนเคยทำไรใครไว้ ต่อไปข้างหน้าจะเกิดอะไรบ้าง (จะต้องแก้ไขตัวเองยังไง ชดใช้กรรมยังไงบ้าง)

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 01:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


:b20: คุณ boom_manman ขยันตั้งกระทู้จัง :b12: สงสัยจะเร่งสะสมดาวใช่เปล่า :b12: :b27:
:b19: ไม่ได้แล้วเดี๋ยวกระผมต้องเร่งบ้างแล้ว.... :b19: สะสมดาว...สะสมดาว.... :b19:

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 08:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณ boom_manman ขยันตั้งกระทู้จัง สงสัยจะเร่งสะสมดาวใช่เปล่า
ไม่ได้แล้วเดี๋ยวกระผมต้องเร่งบ้างแล้ว.... สะสมดาว...สะสมดาว....


น้องอวบอั๋น ฯ หายไปนานเลยนะครับ คิดถึงจัง :b3: กลับมาเที่ยวนี้ จะค้นฟ้าคว้าดาวเลยหรอ :b16:
ก็ดีๆ เห็นด้วยๆ เป็นกำลังใจให้ :b32:
แต่ก่อนอื่นพี่กรัชกายมีเพลง “ปั้นดินให้เป็นดาว” ให้ฟังเป็นกำลังใจก่อน แต่เสียดาย หาเวอร์ชั่นใหม่
ไม่ได้ ได้แต่ของเก่ามา ฟังดู :b41: :b38:

http://www.imeem.com/glaibarn/music/Zp1KewpW//

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


boom_manman เขียน:
คิดว่าทำไงถึงหาย

ต้องทำความรู้จักกันก่อนครับ...พอรู้จักกันดีแล้วก็หายกลัวเองครับ
boom_manman เขียน:
แล้วระลึกชาติได้หล่ะ ทำไง

หมั่นพิจารณาเหตุ ปัจจัย ครับ
boom_manman เขียน:
แล้วหลวงพ่อจรัญท่านรู้ภาวะจิตคนจริงหรือปล่าว (ตามที่ลือกัน)

ไม่ทราบเลยครับ..ต้องไปถามหลวงพ่อท่านเองครับ.... :b32:
boom_manman เขียน:
แล้ว ทำไมคนที่ทำเพื่ออุดมการต้องถูกเข้าใจผิดเสมอเลย

เพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน มีเหตุผลไม่เท่ากัน มุมมองแตกต่างกัน

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ"boom_manman"ครับ


1. ถ้ากลัวผีคิดว่าทำไงถึงหาย

สมัยผมเป็นเด็กๆ จนถึงเป็นวัยรุ่น ผมก็กลัวผีมาก ยิ่งกลัวก็ยิ่งเจอ เจอผีจริงๆ ไม่ใช่ภาพหลอน หรือคิดไปเองแต่อย่างใด พอย้ายบ้านใหม่ นึกว่าจะไม่เจอผีอีกแล้ว ปรากฏว่าหนักกว่าเดิมอีก บ้านนั้นเต็มไปด้วยผี ไม่ใช่ผมเจอผีคนเดียวนะครับ พี่น้องแม่แม้แต่คนใช้ยังเจอเลย พวกเขาบอกถูกด้วยว่าเป็นผีตัวไหนตัวไหน เพราะในบ้านมีอยู่ 5 ตัว

ตอนหลังผมถูกผีอำมาก เลยแกล้งเลิกกลัวผี ด่าและท้ามันไปเลยว่า พวกมึงจะเอายังไงกับกูแน่วะ ตอนหลังผมรู้ว่าพวกนั้นไปเกิดไม่ได้ เพราะบุญไม่มี ต้องการให้เราช่วยทำบุญให้ ไอ้ผมก็ไม่เคยทำบุญทำสังฆทาน เลยลองนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้บรรดาผีที่มาหาผม ปรากฏว่าได้ผล ตอนนั้นผีที่บ้านของผมหายไปหมด แต่ผีในหมู่บ้านของผมเยอะเหลือเกิน ผมจึงช่วยแผ่เมตตาให้วิญญาณผีทุกตวง

พอยิ่งทำสมาธิ สมาธิยิ่งแกร่ง ยิ่งผมเจริญวิปัสสนาด้วย พลังจิตยิ่งสูงมาก สมัยก่อนผมแผ่เมตตาให้ผี 1 ตัว ต้องทำหลายครั้ง สมัยนี้เมื่อ 8 เดือนก่อนผมทำกัมมฐานแผ่เมตตาให้วิญญาณสัมภเวสี เปรต ฯลฯ ทุกตัวที่อยู่ในจังหวัดอุดรธานี แล้วแต่ว่าพลังจิตผมจะส่งไปได้ถึงไหนก็ถึงแค่นั้น ปรากฏว่าดวงวิญญาณ 200,000 ดวงมาหาผม เทวดาในโรงแรมที่ผมพักมาบอกผม เล่นเอาผมงง เพราะเมื่อ 1-2 ปีก่อนพายุนากีสพัดเข้าพม่า คนตายไปกว่า 100,000 คน ผมยังต้องใช้เวลา 5 วัน จึงจะช่วยส่งวิญญาณให้พวกเขาหมด (ส่งวันละ 2 หมื่นดวง เช้าส่ง 10,000 ดวง เย็นส่งอีก 10,000 ดวง)

เอ้า! โม้จนเพลิน วิธีไม่ให้กลัวผี ก็คือรักและเมตตาสงสารเขา แล้วพยายามอย่าไปคิดปรุงแต่งเป็นความกลัว ผมไปที่ใด เจอผีดุดุ(จนคุณคิดไม่ถึงว่าดุขนาดไหน)มามาก แต่ใจผมมีแต่ความรัก เมตตา กรุณา สงสาร ผมก็ทำสมาธิแผ่เมตตากรุณาไปให้เขา ปรากฏว่า ผีเหล่านั้นกลับกลายเป็นมิตรของผมทุกดวง

ผมเคยเจอคนเล่นของ เขาส่งทั้งกุมารทอง เสกหนังควายเข้าท้องผม และส่งวิญญาณดุๆมาหาผม แต่ทว่าวิญญาณเหล่านั้นไม่ทำร้ายผม กุมารทองที่ดุร้าย กลายเป็นด็กน่ารักมานอนข้างๆผม ผมก็เอ็นดู ลูบผมเขาเล่น

สรุป

อย่าไปคิดปรุงแต่งด้วยความกลัว แต่หัดคิดปรุงแต่งด้วยความรักและเมตตา แล้วความกลัวจะค่อยๆสลายลงไปทีละน้อย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ"boom_manman"ครับ(ต่อ)



2. แล้วระลึกชาติได้หล่ะ ทำไง

...เมื่อจิตมันนิ่งสงบอยู่ในฌาน 4 ระลึกชาติได้เป็นเรื่องธรรรมดาครับ ไม่ว่าคุณจะฝึกวิชาใดของใคร ขอให้จิตมันนิ่งสงบเท่านั้น มันระลึกชาติได้เอง

3. แล้วหลวงพ่อจรัญท่านรู้ภาวะจิตคนจริงหรือปล่าว (ตามที่ลือกัน)

...รู้ภาวะจิตคน มันก็เรื่องธรรมดาครับ ขอให้จิตมันนิ่งสงบเท่านั้น แม้ไม่ถึงฌาน 4 ก็รู้ภาวะจิตคนได้เช่นกัน ขนาดผมยังรู้ภาวะจิตคนเลย หลวงพ่อจรัญมีหรือที่จะไม่รู้

4. แล้ว ทำไมคนที่ทำเพื่ออุดมการต้องถูกเข้าใจผิดเสมอเลย

...กรรมมันนำทางไปเองครับ อุดมการณ์ของเสื้อเหลือง เสื้อแดง ทั้งหมดก็เกิดจากกรรมของเขายังเหลือเศษกรรมอยู่ จึงมาชดใช้ในชาตินี้ ทุกคนที่ยังไม่เข้าถึงนิพพานล้วนเป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิทั้งนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 16:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โอ้...นี่ตั้งคำถามหรือนี่...
ทำไงจะหายสงสัยดีกว่ามั๊ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แกก็น่ารักดีนะครับ ชื่อเดิมแกก็เพราะดีอยู่แล้ว
แต่แกคงกลัวคนจะจำแกได้ เลยต้องเปลี่ยนชื่อใหม่

เป็นชื่อใหม่ที่เก๋กว่าเดิมซะอีก เพราะไม่มีในพจนานุกรม
และหลุดพ้นไปจาก คลองแห่งความหมายใดๆที่เคยมีในโลก

ลึกซึ้ง ลึกซึ้ง :b30: :b30: :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันคนกลัวผีนี่ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไร น้องผมกลัวมาก เพื่อนก็กลัวจะทำไรเราก็ต้องไปเป็นเพื่อน ตัวผมเองทราบผีมีจริงแต่ไม่เคยกลัวนะครับ เคยเห็ฯมาก่อนด้วยก็ไม่เห็นมีไร สวดมนนั่งสมาธิให้ดี แต่ก่อนผมเองเคยบวชหลวงพ่อให้เฝ้าศพที่เมรเราเลยจะไส่พระไปก็มาคิดได้ว่า เอ้อ เราก็เป็นพระแล้วจะไส่พระอีกไม่ล่ะ ก็ไปไม่เห็นมีไรครับไม่ได้ท้านะครับรู้ว่ามี แต่อย่ากลัวสิ่งที่มองไม่เห็นอย่ากลัวใจตัวเองเลยอยู่กับปัจจุบันว่าตอนนี้ทำไรเห็ฯอะไร ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องคิดไปก่อนทำให้ใจเป็นทุก ทุกเพราะอะไรก็เพราะจิตปรุงแต่งไปเอง แต่ถ้ายังกลัวก็สวดมันบท 12 ตำนานเลือกที่เหมาะมาสักบท หากใจเราฝึกที่จะกลัวและปรุงแต่งความกลัวตลอดจิตจะเศร้าหมอง เมื่อตอนตายจิดเศร้าหมองจะนำพาไปสู่ภพที่ไม่ดีขอไห้ฝึกกรรมฐานบ้างนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 19:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


บัวศกล เขียน:
แกก็น่ารักดีนะครับ ชื่อเดิมแกก็เพราะดีอยู่แล้ว
แต่แกคงกลัวคนจะจำแกได้ เลยต้องเปลี่ยนชื่อใหม่

เป็นชื่อใหม่ที่เก๋กว่าเดิมซะอีก เพราะไม่มีในพจนานุกรม
และหลุดพ้นไปจาก คลองแห่งความหมายใดๆที่เคยมีในโลก

ลึกซึ้ง ลึกซึ้ง :b30: :b30: :b30:

:b32: :b32: :b32: ซึ้งจนหลับเลยเหรอครับ :b32: :b32: :b32: :b28:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 142 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron