ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=21468 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 04 เม.ย. 2009, 07:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” ปัจจุบันมีวัดร้างอยู่เป็นจำนวนมาก หลายแห่งกลายเป็นเพียงสถานที่ซึ่งมีไว้เพียงท่องเที่ยวเพื่อให้ระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาเมื่อครั้งที่เคยรุ่งเรือง ขณะที่แนวโน้มของพระภิกษุในประเทศไทยได้ลดจำนวนลงไปจากปีละ ๓ แสนรูป เหลือเพียงแสนกว่ารูป บางส่วนเบี่ยงเบนทางเพศ บางส่วนเป็นพระที่ศึกษาเพื่อเตรียมจะสึกออกไปทำงานประกอบอาชีพในทางโลก บางส่วนเตรียมสึกไปแต่งงาน นี่คือสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ท่านผู้รู้และปฏิบัติชอบท่านหนึ่ง แสดงทัศนะเอาไว้ว่า “ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากพระส่วนหนึ่งไม่มีความรู้ในพระธรรม จึงไม่สามารถครองตนรักษาศีลอย่างบริสุทธิ์ได้ ซึ่งสวนทางกับฆราวาสที่อยู่ในยุคที่ต้องการไขว่คว้าหาธรรมะดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการนำทางชีวิต ดังนั้น สงฆ์ไม่ว่าพระภิกษุหรือพระภิกษุณี ที่ถือเอาการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เดินตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด น่าจะเป็นที่พึ่งในยามยากให้แก่ชาวบ้านได้ดีในยามนี้” สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งที่จะเขียนถึง คือ “สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม” ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อันมีความหมายเป็นมงคลว่า “อารามแห่งความดับทุกข์” โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการก่อตั้งสำนักมี ๒ ประการ คือ (๑) เพื่ออนุเคราะห์แก่สตรีที่ตั้งใจมาดำเนินชีวิตบนวิถีแห่งศีล สมาธิ ปัญญา ตามรอยพระพุทธเจ้า โดยมี “ท่านภิกษุณีนันทญาณี” เป็นผู้อบรมสั่งสอนตามพระพุทธพจน์ และ (๒) เพื่อรองรับผู้ปฏิบัติธรรมจากหน่วยงานราชการ เอกชน และผู้สนใจใฝ่ธรรมทั่วไป ที่ได้ติดต่อขอเข้ารับการอบรมธรรมะ ทั้งในรูปแบบค่ายอบรม และเข้ามาปฏิบัติเป็นการส่วนตัว ภิกษุณีนันทญาณี (อดีตแม่ชีรุ้งเดือน สุวรรณ) สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม ประกอบไปด้วยภิกษุณี, สามเณรี, แม่ชี และอุบาสิกาประจำ ฯลฯ ถือเป็นธรรมสถานแห่งแรกของประเทศไทยที่มีนักบวชสตรีอยู่ร่วมกันเป็นคณะสงฆ์ โดยหากเป็นภิกษุณีจะถือศีล ๓๑๑ ข้อ ส่วนสามเณรีนั้นถือศีล ๑๐ ข้อ ทั้งหมดยึดถือการปฏิบัติตนตั้งอยู่ในศีล ภาวนา สมาธิ อย่างเคร่งครัด ฉันอาหารมังสวิรัติวันละมื้อเดียว ไม่สวมใส่รองเท้า ไม่ใช้เงิน และฝึกฝนการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีวิถีชีวิตในแบบกินง่ายอยู่ง่าย เน้นความสมถะ ไม่เบียดเบียน มุ่งศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎกเพื่อการพ้นทุกข์ โดยมี “ภิกษุณีนันทญาณี” หรือ “อดีตแม่ชีรุ้งเดือน สุวรรณ” เป็นประธานภิกษุณีสงฆ์ จากที่ได้เข้าร่วมค่ายปฏิบัติธรรมเป็นระยะเวลา ๕ วัน ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๐ มีนาคม ๒๕๕๒ ร่วมกับกลุ่มนักศึกษาชายหญิงของคณะอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กว่า ๑๐๐ ชีวิต และยังมีผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมอีกหลากหลายอาชีพ ที่เดินทางเข้ามาเพื่อศึกษาหาความรู้ทางธรรมเป็นการส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศของสถานที่ซึ่งสงบร่มรื่นและเป็นใจอย่างยิ่ง กับความตั้งใจมาใฝ่ดีให้สัมฤทธิผล การเข้ามาปฏิบัติธรรมที่สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธารามนั้น สิ่งที่ผู้ปฏิบัติธรรมควรเตรียมมา คือ ชุดสีขาว และของใช้ตามจำเป็น เช่น ไฟฉาย รองเท้าแตะ และของใช้ส่วนตัว สำหรับทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น ส่วนสิ่งฟุ่มเฟือย หรือเครื่องสำอาง เครื่องประดับต่างๆ ให้งดเว้น ในฐานะผู้ไม่เคยเข้าร่วมปฏิบัติธรรมมาก่อน ได้เคยผ่านเข้ามาสอบถามกับภิกษุณีปัญญาวรี ที่สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธารามครั้งหนึ่ง ท่านตอบสั้นๆ เพียงว่า “การมาปฏิบัติธรรมในที่แห่งนี้ เตรียมแต่ชุดขาวมาก็พอ แต่หากไม่มีก็ไม่เป็นไร วัดมีให้ ขอเพียงให้เตรียมใจมาปฏิบัติธรรมก็พอแล้ว” อย่างไรก็ตาม การเปิดค่ายปฏิบัติธรรมของ “สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม” นั้น จะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน-อยู่ หรือค่าวิทยากร กับผู้เข้าปฏิบัติธรรม ที่ผ่านมาหากหน่วยงานใดจะติดต่อเข้ามาขอเปิดค่ายปฏิบัติธรรม ทางภิกษุณีนันทญาณีจะจัดสรรเวลาในการเปิดอบรมให้ แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารการกิน การจัดการค่าย โดยใช้สถานที่ของนิโรธารามนั้น หน่วยงานผู้ร้องขอจัดค่ายจะเป็นฝ่ายดูแลจัดการค่าใช้จ่ายเอง ทั้งเรื่องการจัดจ้างแม่ครัวและค่าอาหาร วัดเพียงแต่มอบหมายให้นักบวชสตรีเข้ามาดำเนินการบรรยาย อบรมการปฏิบัติธรรมะ และให้โดยไม่รับค่าตอบแทน ส่วนเมื่อเข้ามาอยู่ร่วมค่าย หรือเป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่นิโรธารามแล้ว ผู้นั้นจะต้องรักษาศีล ๘ คือ งดเว้นไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ละเมิดประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด ไม่ดื่มสุราเมรัย และเพิ่มเติมข้อปฏิบัตินอกเหนือจากศีล ๕ ขึ้นมาอีก คือ งดเว้นการร้องรำทำเพลง-ดูมหรสพ และฮัมเพลง งดเว้นนอนบนฟูก หรือที่นอนหมอนสูง งดเว้นการใช้เครื่องสำอาง แป้ง ของหอมทุกชนิด และงดสวมใส่เครื่องประดับต่างๆ กิจวัตรประจำวันของผู้ปฏิบัติธรรม ประกอบด้วย การสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นร่วมกับนักบวช ฝึกภาวนาด้วยการเดินจงกรม นั่งสมาธิ บริโภคอาหารมังสวิรัติสองมื้อ คือ เวลา ๐๗.๐๐ น. และ ๑๑.๓๐ น. โดยงดรับประทานอาหารขบเคี้ยวทุกชนิด หลังเวลา ๑๒.๐๐ น. เป็นต้นไป ตารางชีวิตในสถานธรรมแห่งนี้ คือ การตื่นนอน ๐๓.๓๐-๐๔.๐๐ น. และเข้านอนไม่เกิน ๒๔.๓๐ น. ห้ามส่งเสียงดัง และทำความเพียรด้วยการช่วยเหลือทำความสะอาดวัดตามสมควร กรณีของผู้ปฏิบัติธรรมที่เป็นชาย นิโรธารามจะอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติธรรมภายในวัดได้แบบไปกลับ แต่จะอนุญาตให้ค้างแรมในวัดได้ เฉพาะช่วงที่มีการเปิดค่ายปฏิบัติธรรมเท่านั้น สำหรับตัวอย่างของการบรรยายธรรม ที่ภิกษุณีนันทญาณีได้สอนเรื่องความจริงไว้ว่า “ร่างกายเป็นเพียงกองดินน้ำลมไฟ ประกอบไปด้วยถุงทุกข์ เช่น ถุงเลือด ถุงขี้ ถุงน้ำเลือด ถุงน้ำเหลือง ที่ต้องคอยดับทุกข์ด้วยการกิน ด้วยการถ่าย ไม่ควรยึดติด สุดท้ายก็ต้องตาย ดังนั้นไม่ควรไปยึดติด ไม่ควรไปยึดถือ ไม่ควรหลงใหลว่าเป็นของเรา เมื่อชีวิตของทุกๆ คนเป็นถุงดินน้ำไฟลม เป็นถุงขี้ซึม และเป็นถุงทุกข์ ที่ต้องคอยดับทุกข์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่เราจะต้องมานั่งผ่อนบ้านราคาแพงๆ เพื่อให้ถุงขี้ซึมได้อยู่ หรือให้ถุงขี้ซึมต้องไปนั่งอยู่ในรถวอลโว่ราคาแพงๆ” ภิกษุณีนันทญาณี อธิบายและยกตัวอย่างจนทำให้หลายคนเห็นภาพ นอกจากการเตือนสติให้เรามองกายเป็นเพียงกองดินน้ำไฟลม เพื่อที่จะไม่ต้องไปยึดติดว่า กายเป็นของเรา ภิกษุณีนันทญาณีและคณะนักบวชสตรีของนิโรธาราม ยังงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ แต่บริโภคมังสวิรัติวันละมื้อเดียว เพื่อละเว้นการเบียดเบียนสัตว์ พร้อมกับยกตัวอย่างว่า “หากใครกินกุ้งเต้น วันหนึ่งก็อาจจะต้องประสบเคราะห์กรรมเหมือนกุ้ง คือไปเต้นในซานติก้าผับ” เรื่อง - ภาพ... “ขวัญดาว จิตรพนา” หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ • ประวัติและปฏิปทา ภิกษุณีนันทญาณี (อดีตแม่ชีรุ้งเดือน สุวรรณ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=35661 • ภิกษุณีนันทญาณี (อดีตแม่ชีรุ้งเดือน สุวรรณ) ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา ประจำปี ๒๕๕๒ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20851 • กรณี...ภิกษุณีนันทญาณี (อดีตแม่ชีรุ้งเดือน สุวรรณ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=36106 • แผนที่สำนักปฏิบัติธรรมนิโรธาราม http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=808 |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 13 พ.ค. 2009, 21:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
สาธุครับ |
เจ้าของ: | ningnong [ 13 พ.ค. 2009, 23:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
อนุโมทนา สาธุ ครับ |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 07 มิ.ย. 2009, 10:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
เจ้าของ: | พาฝัน [ 07 พ.ย. 2009, 13:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
อยากไปศึกษาธรรมที่นี้บ่างจังต้องทำอย่างไรบ่างค่ะไปคนเดียวค่ะเพราะเบื่อชีวิตเต็มทนแล้วอยากสงบจิตใจบ่างค่ะ |
เจ้าของ: | chulapinan [ 08 พ.ย. 2009, 15:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
จะดับทุกข์ ต้อง ดับที่เหตุแห่งทุกข์ค่ะ เหตุแห่งทุกข์มาจากทั้งชาติอดีต ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ นั่นเป็นทางธรรม คนละแบบกับเหตุแห่งทุกข์ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น บอกได้อย่างเดียวว่า ทำดี ละชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ แล้วก็ถือศีล ทำสมาธิ แล้วได้ปัญญา |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 09 พ.ย. 2009, 04:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
อนุโมทนา สาธุค่ะ |
เจ้าของ: | bbb [ 09 พ.ย. 2009, 08:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
เยี่ยมมาก ๆ เลยครับ |
เจ้าของ: | คุณธรรมประจำใจ [ 31 มี.ค. 2010, 13:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
ฉันก็ไปที่นั้นบ่อยค้า เป็นลูกศิษย์อยูที่นั้น ถ้าใครอยากไปนะค้า ก็ให้ไปในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนะคะ นิโรธาราม ยินดีต้อนรับคะ |
เจ้าของ: | Bwitch [ 31 มี.ค. 2010, 13:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดับทุกข์-ทุกข์ดับ ที่...“อารามแห่งความดับทุกข์” |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |