ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สมาธิสั้น http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20960 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | บัวไฉน [ 08 มี.ค. 2009, 17:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | สมาธิสั้น |
![]() กรุณาเล่าให้ฟังบ้าง (นำมาลง) จะเป็นพระคุณยิ่ง ![]() หรือว่า มาเป็นกันตอนโตแล้ว ? |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 08 มี.ค. 2009, 18:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิสั้น |
สาเหตุของโรคโรคสมาธิสั้น ![]() ![]() =======>http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=guitar-captain-cartoon&month=07-2008&date=31&group=3&gblog=5 copy มาบางส่วน อย่างไรก็ตามสิ่งที่พึงระลึกไว้เสมอก็คือ สมาธิสั้น ไม่ได้เกิดจากความผิด หรือความบกพร่องของพ่อแม่ หรือการเลี้ยงดูเด็กที่ผิดวิธี ถึงแม้ว่าการเลี้ยงดูบางลักษณะ (เช่นการขาดระเบียบวินัยในบ้าน) อาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น ![]() โรคนี้ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดูที่ไม่ดี แต่การเลี้ยงดูที่ไม่ดี ทำให้เด็กมีอาการคล้ายโรคนี้ และในเด็กที่เป็น ![]() |
เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 09 มี.ค. 2009, 08:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิสั้น |
![]() ![]() ![]() ไม่มีความรู้ด้านนี้ มีแต่กำลังใจส่งไปให้ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาญวิทย์ [ 09 มี.ค. 2009, 11:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิสั้น |
สมาธิสั้น-ไฮเปอร์ กลุ่มอาการเด็กสมาธิสั้น Attention Deficit Hyperactivity Disordes (ADHD) โดย น.พ. จอม ชุ่มช่วย ร.พ. ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ กลุ่มอาการสมาธิสั้น เกิดจากความผิดปกติของสมอง โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนว่า อะไรที่ทำให้สมองมีความผิดปกติ แต่จากวิทยาการและวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมีผลพอ พิสูจน์ได้ว่าน่าจะเป็นผลมาจากพันธุกรรม แต่ว่าพันธุกรรมจะมีส่วนอย่างใดและมีการถ่าย ทอดอย่างไร ยังไมีมีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่มีผลต่อสมองทำให้การทำงานของสมองบาง ส่วนเกิดการบกพร่อง โดยเฉพาะสมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสมาธิของคนเรา ทำให้เกิด การทำงานที่ไม่สัมพันธ์กันต่อระบบสั่งงานอื่นๆ อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในอดีตมีชื่อเรียกเกี่ยวกับกลุ่มอาการเหล่านี้ได้ในหลายชื่อเช่น Hyper Kinetic Disorders / Minimal Brain Abnormality / Minimal Brain Disfunction แต่จากการศึกษาในปัจจุบันเรารวมเรียกกลุ่มอาการต่างรวมมาเป็น Attention Defecit Hyperactivity Disorders (ADHD) หรือใน บ้านเรานิยมเรียกว่า โรคเด็กไฮเปอร์ จากการทำการวิจัยสำรวจเด็กไทยในเขตกรุงเทพมหานครพบว่ามีเด็กในกลุ่มสมาธิสั้นประมาณ ร้อยละ 5-10 ของเด็กวัยเรียนหรือประมาณ 2-3 คนในห้องเรียนขนาด 50 คน สำหรับในต่างประเทศพบได้ประมาณร้อยละ 3-15 ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและระบบการศึกษา อาการที่สำคัญของเด็กกลุ่มสมาธิสั้นแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญุ่ๆคือ 1. อาการซนมากกว่าปกติ (Hyper Activity) ลักษณะความซนจะมากกว่าเด็กทั่วๆไป ซนแบบ ไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุข ลุกลี่ลุกร้น ตลอดเวลา 2. อาการสมาธิสั้น สามารถสังเกตุได้โดยเด็กจะมีความวอกแวกง่าย แม้แต่สิ่งเร้าเล็กๆน้อยก็สามารถ ทำให้เด็กเสียสมาธิได้แล้ว เข่น ในขณะที่เด็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ พอมีเสียงดังเบาๆเช่นเสียงของตก พื้น หรือกิ่งไม้หล่นบนพื้น กลุ่มเด็กพวกนี้จะหันไปหาแหล่งต้นเสียงทันที หรือขณนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน พอมีคนเดินผ่านก็จะหันไปดูโดยทันที เป็นลักษณะเป็นความไวต่อสิ่งเร้าภายนอกโดยผ่านทางตา/หู นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากสิ่งเร้าภายในตัวของเด็กเอง ในกรณีนี้จะแสดงออก ในลักษณะอาการเหม่อลอย นั่งนิ่งๆ เป็นระยะเวลานานๆ เหม่อบ่อย เป็นต้น กลุ่มอาการสมาธิสั่นนี้ยังแสดงออกในรูปของการทำงานไม่ค่อยสำเร็จ เพราะในขณะที่กำลังทำงาน อย่างหนึ่งอยู่นั้น ใจก็จะคิดวอกแวกไปคิดถึงเรื่องอื่นๆต่อไป ทำให้งานกว่าจะเสร็จได้ต้องใช้เวลานาน ต้องค่อยจ่ำจี้จ่ำไชงานถึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้ 3. อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsive) เด็กมักจะแสดงออกในลักษณะที่รอคอยไม่เป็น ยกตัวอย่าง เช่น ในขณะที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ เมื่ออยากจะพูดเด็กก็จะพูดแทรกขึ้นมาในทันที โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม โดยเด็กจะไม่สามารถอดใจทนรอให้การสนทนานั้นเสร็จเสียก่อน หรืออีกตัวอย่างเช่นผู้ปกครองเด็กบอกให้ช่วยหยิบน้ำให้แก้วหนึ่ง ลุกจะรีบว่างไปหยิบเอาแต่แก้วมายื่น ให้ เหมือนกับยังไม่ทันฟังคำร้องขอให้เสร็จก่อน ก็รีบวิ่งไปก่อนเสียแล้วจะแสดงออกในลักษณะรีบเร่ง หุนหันพลันแล่น รอคอยไม่เป็น มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อกับตัวเด็กได้ง่าย ซึ่งลักษณะอาการสำคัญทั้ง 3 ของกลุ่มเด็กสมาธิสั้นข้างต้น เด็กอาจมีลักษณะครบทั่ง 3 กลุ่มได้ หรือ โดยอาจมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่เด่นหรืออาจมีลักษณะเด่นร่วมกัน 1-2 อาการเลยก็ได้ สรุปลักษณะที่สำคัญของเด็กสมาธิสั้นคือ วอกแวกง่าย ทำงานไม่ค่อยเสร็จ ซนไม่อยู่นิ่ง หุนหันพลันแล่น ดังนั้นการวินิจฉัยจึงมักต้องเปรียบเทียบกับเด็กธรรมดาทั่วๆ ไป ที่สำคัญคือมักทำงานใดๆ ไม่ค่อยสำเร็จและชอบรบกวนเด็กอื่นๆ มากกว่าปกติทั่วๆไป แม้แต่การเล่นก็เล่นก็มักเล่นไม่จบ เช่นการเล่นต่อตัวต่อเลโก้ โดยเด็กทั่วไปในวัย 7-8 ขวบ น่าจะนั่งเล่นตัวต่อเลโก้จนได้เป็นรูปเป็นร่างได้ แต่ในเด็กกลุ่มสมาธิสั้นอาจทำไม่สำเร็จ เรามักจะใช้เกณฑ์ของกลุ่มเด็กปกติทั่วไปเป็นเกณฑ์ในการช่วยเปรียบเทียบตัดสิน เช่นเด็กวัยประมาณ 7 ขวบจะสามารถนั่งเล่นอยู่กับที่ได้นานประมาณ 15-30 นาที แต่ถ้าเด็กที่นั่งเล่นอยู่กับที่ไม่ได้ก็ให้ฉุก คิดไว้ก่อน เป็นต้น เมื่อกลุ่มเด็กสมาธิสั้นนี้ ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ รักษาอย่างถูกวิธีในวัยเด็ก เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็มีผลผลต่อเนื่องให้เป็นผู้ที่ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง ณจุดนี้อาจแยกเป็น 2 กลุ่มได้คือ - กลุ่มหนึ่งจะแปรเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเกเร กร้าวร้าว ต่อต้านสังคม - อีกกลุ่มจะกลายเป็นคนที่ไม่กล้า กลัว ซึมเศร้า หงอยเหงา คนในกลุ่มนี้จะมองตัวเองไม่ดี ไร้ค่า อาจถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ ทั้งสองกลุ่มข้างต้นมักจะพบได้บ่อนในกลุ่มเด็กสมาธิสั้นที่เริ่มโตขึ้น แต่ก็มีบ้างบางส่วน ที่อาจจะไปในทิศทางที่ดี สาเหตุเนื่องจากมีพรสวรรค์ด้านอื่นเป็นพิเศษมาช่วยชดเชย มาช่วยทำให้เด็กมีความภูมิใจ หรือมีสภาพแวดล้อมและพ่อแม่มีความเข้าใจลูกเป็นอย่างดีคอยดูแล ในวัยเรียนกลุ่มเด็กอาการสมาธิสั้นจะมีผลกระทบต่อการเรียน เด็กกลุ่มนี้จะไม่คอยมีช่วงที่มีสมาธิ สำหรับการตั้งใจเรียน มีแนวโน้มที่จะล้มเหลวในการเรียนสูงถ้าไม่ได้รับการดูแลและเข้าใจเป็นอย่างดี เช่นในการเรียนบทเรียนวันนี้ยังไม่ทันจะทำความเข้าใจดี ในวันรุ่งขึ้นก็มีบทเรียนใหม่เข้ามาอีกแล้ว ทำ ให้การเรียนไม่ค่อยทันเพื่อน แปรเปลี่ยนไปเป็นการเบื่อไม่อยากเรียนไป อาจมีบ้างที่ให้ผลเป็นดีในทางกลับกันคือ เด็กมีพรสวรรค์ทางด้านไอคิว บวกกับอาการสมาธิสั้นทำให้ สามารถฟังการสอนแบบผ่านๆก็สามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี ทั้งๆที่แสดงออกเหมือนไม่ได้ตั้งใจฟังที่ ครูสอนเลย ลักษณะอย่างนี้บางครั้งก็กลับกลายไปเป็นผลเสียต่อเพื่อนเรียนข้าง เพราะในช่วงไม่มีสมาธิ ก็จะไปรบกวนสมาธิของเด็กข้างพลอยทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนไปด้วย อาจดูเหมือนเป็นตัวปัญหา ของชั้นเรียน ทำให้ความสัมพันธืต่อคนอื่นไม่ดีไปด้วย เมื่อเราสังเกตุลักษณะอาการของเด็กและสงสัยว่าน่าจะเป็นกลุ่มอาการสมาธิสั่นแล้ว ผู้ปกครองควรจะ พาไปพบจิตแพทย์เพื่อให้ผู้ชำนาญทำการทดสอบวินิจฉัยให้ชัดเจนแน่นอนก่อน แล้วค่อยไปสู่การทำการ รักษาต่อไป ในการรักษานอกจากการใช้ยาร่วมด้วยแล้วทางด้านผู้ปกครองต้องมีส่วนช่วยในการรักษา ในการตระเตรียมสภาพแวดล้อมโดยมีหัวข้อหลักๆ 3 ประการดังนี้ 1. ต้องมีการจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่มีสิ่งรบกวนและสิ่งเร้าต่อเด็กมากเกินไป พยายามจัดห้อง หรือบ้านให้มีระเบียบเช่นไม่มีของเล่นวางเกลื่อนไปหมด ไม่มีบรรยากาศวุ่นวายสับสน เสียงตะโกนโวก เหวกเปิดเสียงเพลงดัง จนเด็กไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้เลย แม้แต่การพาไปเที่ยวนอกสถานทีก็ไม่ ควรพาไปในที่อีกกระทึก วุ่นวายเสียงดัง เป็นต้น 2. การช่วยเสริมสร้างวินัยในตัวเด็ก เพราะจะเป็นตัวนำไปสู่การรู้จักควบคุมตนเอง เป็นการเสริมทางอ้อมให้รู้จักรวบรวมสมาธิได้แก่ - การสร้างเสริมวินัยในกิจวัตรประจำวัน โดยการจัดตารางงานให้ทำเป็นเวลา สร้างระเบียบพื้นฐานใน บ้านแบบกิจวัตรว่าใครจะช่วยจัดการอะไรบ้าง ใครถูพื้น ใครกวาดบ้าน ใครล้างจาน เป็นประจำ - วินัยในการตรงต่อเวลา ฝึกให้เด็กมีตารางเวลาในการทำงาน ว่าควรทำอะไร ในเวลาไหนที่จะเสร็จเมื่อใด เป็นต้น การสร้างระเบียบต่างๆ ข้างต้น ควรเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีทางสำเร็จถ้าจะให้ทำได้ ทุกอย่างในเวลาสั้นๆ ทันทีทันใด และที่สำคัญผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างในตอนเริ่มต้น และค่อยๆลดตนเองลงที่ละน้อย จนเด็กสามารถทำด้วยตนเองทั้งหมด 3. การหากิจกรรมช่วยเสริมทักษะ เช่นการเรียนดนตรี การเรียนศิลปะ การอ่านหนังสือ กีฬา หลีกเลี่ยง เกมส์ กีฬา หรือกิจกรรมที่มีความรุนแรงเพราะจะกลับกลายไปกระตุ้นอาการสมาธิสั้น เป็นการทำให้ อาการแย่ลงไปอีก พ่อแม่ต้องมีความเข้าใจ อดทน มีความหนักแน่นในหลักการ และที่สำคัญต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการ ลงโทษ โดยเปลี่ยนเป็นการลงโทษโดยการตกลงกันไว้ก่อนแทน เช่น งดเวลาการดูโทรทัศน์ลงแทน เมื่อ ทำไม่ตรงตามกติกา เป็นต้น ผู้ปกครองสามารถพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อการตรวจยืนยันและการรักษาได้ตามโรงพยาบาลใหญ่ของรัฐ เช่น ร.พ.จุฬา/รามา/ศิริราช/พระมงกุฏ/ภูมิพล/วชิระพยาบาล เป็นต้น หรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง เช่น ร.พ.บ้านสมเด็จ /ร.พ.ระสาทไวทโยปถัมภ์ /ร.พ.ศรีธัญญา เป็นต้น By: http://www.autismthai.com ****การหัดนั่งสมาธิช่วยได้เยอะมากนะครับ โดยเฉพาะสติปัฎฐาน 4 ครับผม |
เจ้าของ: | AAAA [ 09 มี.ค. 2009, 20:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิสั้น |
สมาธิสั้น เป็นโรคชนิดนึง เกิดจากความผิดปกติของสมอง (ศึกษาได้จากบทความที่คุณอินทรีย์5 และคุณชาญวิทย์ นำมาโพสต์) แต่อย่างไรก็ตาม โรคสมาธิสั้นนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เกินจะเยียวยา เพราะเรายังสามารถแก้ไขและข้ามพ้นความบกพร่องนี้ไปได้ ขอให้เชื่อความตั้งใจจริง ความสามารถ และศักยภาพของมนุษย์ ว่าสามารถแก้ไขปัญหาความบกพร่องต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ เท่าที่ทราบ คนที่เป็นโรคสมาธิสั้น ควรไปพบแพทย์ เพื่อจะได้รักษาให้ตรงตามอาการ และบางครั้งอาจจะต้องทานยาปรับสารเคมีในสมอง นอกจากนี้แล้ว ควรฝึกการทำสมาธิ สวดมนต์ ไหว้พระ ทำให้บ่อยๆ ทำให้ต่อเนื่อง ทุกๆ วัน จนเป็นนิสัย ![]() ไมเคิล เฟลป์ส (Michael Phelps) นักว่ายน้ำชาวสหรัฐฯ ฉลามหนุ่มฮีโร่ผู้ที่สามารถคว้าเหรียญทองมากที่สุดถึง 8 เหรียญ แถมยังทำลายสถิติโลกที่เคยทำไว้อีกหลายรายการ ในโอลิมปิกเกมส์ (Olympic Games) 2008 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในวัยเด็ก เขาถูกวินิจฉัยว่า เป็นโรค ADHD หรือโรคสมาธิสั้น แต่ด้วยจิตใจที่ไม่ยอมจำนน จิตใจนักต่อสู้ ในที่สุดเขาก็สามารถพัฒนาตนเองจนก้าวพ้นข้อบกพร่องนี้ไปได้ |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 10 มี.ค. 2009, 00:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิสั้น |
วิธีบำบัดโรคสมาธิสั้นในเด็ก 1. อย่าเปิดทีวี ให้มีเสียงดังจนเกินไป หรือสภาพแวดล้อมในบ้านต้องไม่วุ่นวายหรือมีการทะเลาะกันบ่อยครั้ง ![]() 2. หามุมสงบสำหรับเด็ก เพื่อให้เกิดสมาธิในการทำการบ้าน 3. ฝึกฝนวินัยให้เด็ก สร้างกรอบกฎเกณฑ์ มีตารางเวลาชัดเจน ไม่ปล่อยละเลยหรือตามใจจนทำให้เด็กติดเกม 4. มีการสื่อสารที่สั้น กระชับ ชัดเจน หากไม่แน่ใจให้เด็กทบทวนว่าสิ่งที่สั่งสอนไปคืออะไรบ้าง 5. มีความเข้าใจในพฤติกรรมของเด็กสมาธิสั้นอย่างจริงจังและจริงใจ 6. จัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้เกิดความมีระเบียบ ไม่ปล่อยให้บ้านรกรุงรัง 7. อย่าทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองมีปมด้อย 8. ไม่ควรจับกลุ่มให้เด็กสมาธิสั้นอยู่ใกล้ชิดกับเด็กที่มีปัญหาแบบเดียวกัน เพราะจะทำให้กลายเป็นเด็กที่เกเรก้าวร้าวได้ 9. ส่งเสริมจุดแข็งข้อดีในตัวเด็ก เพื่อให้เด็กรู้สึกดี และเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง 10. จัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ และใช้พลังงานส่วนเกินอย่างเหมาะสม รวมถึงเป็นการฝึกสมาธิไปในตัว เช่น ออกกำลังกาย หรือเล่นดนตรี ตามที่เด็กสนใจ รู้อย่างนี้แล้ว เด็กที่สมาธิสั้นก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้. ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |