อยากทราบว่าในพระไตรปิฏกมีเรื่องราวกล่าวเกี่ยวพระศรีอาริยเมตตรัยไหมครับ

แล้วขณะนี้ท่านบำเพ็ญบารมีอยู่ที่ไหนเช่นบนโลกมนุษย์ หรือสวรรค์ชั้นไหน ขอบคุณมาก

อันนี้ฟังมาจากครูบาร์อาจารย์นะครับ

พระศรีอารย์นี้ จะเป้นพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป
จะมาเกิดในยุคที่ไม่มีศาสนาพุทธหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
หมายความว่า พระพุทธเจ้าจะไม่อุบัติขึ้นสั่งสอนทับซ้อนกัน
ปัจจุบันยังมีร่องรอยของพระพุทธเจ้าองคฺ์ปัจจุบันอยู่ ดังนั้นจึงจะพระศรีย์อาริยเมตตรัยจะยังไม่อุบัติ

ดังนั้นที่ถามว่าอยู่ที่ไหน ตอบได้ว่าตอนนี้ยังไม่มีครับ
ท่านยังบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้าอยู่
อาจจะเป้นคน เป้นสัตว์ เป้นเทวดา ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น สุดปัญญาที่ใครจะทราบได้

http://www.geocities.com/easydharma/dm005022.html

แล้วก็
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... =6&gblog=2

ส่วนในพระไตรปิฎก คุณ คามินธรรมช่วยหาหน่อยค่ะไปหาอ่านแล้ว ตาลายมากๆ

โปรดติดตามได้จากกระทู้ในบอร์ดเก่าดังนี้ค่ะ :

พระอนาคตวงศ์ : พระพุทธเจ้า ๑๐ พระองค์ที่จะมาตรัสรู้ในภายภาคหน้า
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9030

และในเว็ปนี้...

พระอนาคตวงศ์
http://www.84000.org/anakot/kan1.html#1

ตามทีศึกษามา พระศรีอารย์ ปัจจุบันเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ แต่เนื่องจากเป็นพระมหาโพธิสัตว์ที่มีบารมีมาก จึงสามารถแบ่งภาคลงมาเกิดเพื่อช่วยเหลือ สรรพสัตว์ หลวงปู่ทวด ก็ใช่ หลวงปู่ดู่ วัดสะแกก็ใช่เช่นเดียวกัน ในประเทศต่างๆ ในเอเชียก็มี มีเรื่องเล่าว่าอันที่จริงพระศรีอารย์จะต้องเป้นพระพุทธเจ้า ก่อนพระพุทธเจ้าของเรา ในชาติหนึ่ง พระพุทธเจ้าของเรา กับพระศรีอารย็รุ้สึกว่าจะเป็นพี่น้องกัน ได้ใช้ดอกบัวทำนายว่า ใครจะได้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ปรากฏว่าดอกบัวของพระศรีอารย์บานก่อน พระพทธเจ้า ของเราก้ได้สลับดอกบัว ที่เหลือลองไปหาอ่านเอานะครับ

ไม่ทราบว่ามีเรื่องราวของท่านทั้งสองมั้ยครับ ที่บ่งบอกว่าเป็นพระศรีอาริยะที่ลงมาเกิด

ขอบคุณครับ

หาอ่านได้ในหนังสือ เรื่อง มิติแห่งโลกวิญญาณและการสร้างบารมี ที่ท่าน พ.ธรรมรังสี เป็นคนเขียนครับ
ในลานธรรมจักร เก่าก็มีโพสต์ไว้ครับ หน้า4 ของบอร์ดเก่า ลองไปหาดูครับ

พระศรีอาริยมตไตรย มีจริง
แต่ไม่ใช่เกิดมาเพื่อเป็น พระพุทธเจ้า คือไม่ใช่พระพุทธเจ้า
แต่ พระศรีอาริยเมตไตรย คือ ศาสดา แห่งทุกศาสนา ขอย้ำว่า พระศรีอาริยเมตไตรยคือ ศาสดา แห่งศาสนา ทุกศาสนา
เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนไปตาม สังคมการเป็นอยู่ร่วมกันของมนุษย์

อย่าถามว่า "ข้าพเจ้ารู้ได้อย่างไร เอามาจากไหนนะขอรับ" เพราะข้าพเจ้าประกาศให้ได้รู้กัน มานานหลายปีแล้ว

พระศรีอาริย์ เป็นพระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ถัดจากองค์สมณโคดม ในกาลข้างหน้า
ในภัทรกัปปน์ หรือกัปป์ปัจจุบันนี้มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ได้แก่ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ
พระกัสสปะ พระโคตมะ(เจ้าชายสิทธัตถะ) และองค์สุดท้ายคือพระศรีอาริย์ ซึ่งจะมาเกิดในวรรณะ
พราหม์ผู้มั่งคั่ง เมื่อทรงยืนสูง 80 ศอก หรือสูงประมาณ 40 เมตร อายุไขย 80,000 ปี

ตอนนี้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิต บารมีเต็มแล้ว รอแต่เพียงการมาตรัสรู้ในอนาคตเท่านั้น

และดูเพิ่มเติมได้ลิ้งนี้ http://www.dmc.tv/forum/lofiversion/index.php/t14666.html

เป็นเรืองราวมีอยู่จริงในพระไตรปิฎก

หลวงปู่ทวดเป็นพุทธเจ้าองค์ที่31 โดยนับจากองค์สมณโคดม เป็นองค์ที่1 (ตอนนี้อยู่ชั้นดุสิตเหมือนกัน)

ขออนุโมทนา

ถ้าได้ความรู้แบบแน่น ๆ แล้วค่อยตอบก็จะดีนะ อย่าพยายามอ้างในสิ่งที่เรียกว่า รู้ตาม ๆ กันมาแล้วนำคำพูดแบบปากต่อปากมาเล่าแต่สิ่งนี้คือคัมภีร์ของพุทธศาสนาที่เป็นที่รองรับของภิกษุสงฆ์ของเชื้อสายศากยะบุตรแน่นอนถ้าใครจะอ้างว่าผิดเพี้ยนไปแล้ว ก็พระสงฆ์ทั่วโลกก็จะผิดเพี้ยนเหมือนกัน
และนี่ก็คัดมาแบบที่อยากรู้

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 736

กัณฑ์ปกิณกะของพระพุทธเจ้า



[๒๗] นับแต่กัปนี้ไป ในกัปที่นับไม่ได้ มีพระ-

พุทธเจ้าผู้นำพิเศษ ๔ พระองค์ คือ พระตัณหังกร

พระเมธังกร พระสรณังกร และพระทีปังกรสัมพุทธเจ้า

พระชินพุทธเจ้าเหล่านั้น มีในกัปเดียวกัน.

ต่อจากสมัยของพระทีปังกรพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า

ผู้นำโลก พระนามว่าโกณฑัญญะ มีพระองค์เดียวใน

กัปหนึ่ง ทรงยังหมู่ชนเป็นอันมากให้ข้ามโอฆะระหว่าง

กัปของพระผู้มีพระภาคเจ้าทีปังกร และพระศาสดา

โกณฑัญญะ เป็นอันตรกัป นับไม่ถ้วน.

ต่อจากสมัยของพระโกณฑัญญะพุทธเจ้า ก็มี

พระพุทธเจ้าผู้นำ พระนามว่ามังคละ ระหว่างกัปของ

พระพุทธเจ้าสองพระองค์นั้น เป็นอันตรกัป นับไม่

ถ้วน.

พระมุนีสุมังคละ พระสุมนะ พระเรวตะ และ

พระโสภิตะ พระพุทธเจ้าผู้มีจักษุ ทรงทำแสงสว่าง

แม้เหล่านั้น ก็มีในกัปเดียวกัน.

ต่อจากสมัยของพระโสภิตพุทธเจ้า ก็มีพระมหา-

มุนีพุทธเจ้า พระนามว่า อโนมทัสสี. ระหว่างกัปของ

พระพุทธเจ้าสองพระองค์นั้นเป็นอันตรกัปนับไม่ถ้วน.



พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 737
พระพุทธเจ้าผู้นำคือ พระอโนมทัสสี พระปทุมะ

และพระนารทะ พระมุนีพุทธเจ้า ผู้ทำที่สุดแห่งความ

มืด แม้เหล่านั้น ก็มีในกัปเดียวกัน.

ต่อจากสมัยของพระนารทพุทธเจ้า ก็มีพระ-

พุทธเจ้าผู้นำ พระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงอุบัติในกัป

หนึ่ง ทรงยังหมู่ชนเป็นอันมากให้ข้ามโอฆะ.

ระหว่างกัปของพระผู้มีพระภาคเจ้านารทะ และ

พระศาสดาปทุมุตตระ เป็นอันตรกัป นับไม่ถ้วน.

ในแสนกัป มีพระมหามุนีพระองค์หนึ่ง พระ-

นามว่า ปทุมุตตระ ผู้รู้แจ้งโลก ผู้ควรรับของบูชา.

ในสามหมื่นกัป ต่อจากพระปทุมุตตรพุทธเจ้า

มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์คือพระสุเมธะ พระสุชาตะ.

ในหนึ่งพันแปดร้อยกัป มีพระพุทธเจ้า ๓ พระ-

องค์ คือพระปิยทัสสี พระอัตถทัสสี พระธัมมทัสสี.

ต่อจากพระสุชาตพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสาม

พระองค์ผู้สูงสุดแห่งสัตว์สองเท้า ผู้ไม่มีบุคคลใด

เปรียบในโลก เสด็จอุบัติในกัปเดียวกัน.

ต่อจากกัปนี้ ในกัปที่เก้าสิบสี่ มีพระมหามุนี

พระองค์เดียวพระนามว่า สิทธัตถะ ผู้รู้แจ้งโลก ผู้

ยอดเยี่ยมโดยบุญลักษณ์.

ต่อจากกัปที่เก้าสิบสองนับแต่กัปนี้ มีพระผู้นำ ๒

พระองค์ คือพระสัมพุทธเจ้าติสสะ และพระปุสสะ ผู้

ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีบุคคลเปรียบ.





พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 738

ต่อแต่กัปนี้ ในกัปที่ ๙๑ มีพระพุทธเจ้าผู้นำโลก

พระนามว่า วิปัสสี พระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้น ทรง

ประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงปลดเปลื้องสัตว์

ทั้งหลายจากเครื่องผูกพันแล้ว.

ต่อจากกัปนี้ในกัปที่ ๓๑ มีพระผู้นำ ๒ พระองค์

คือพระสิขี และพระเวสสภู ผู้ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีบุคคล

เปรียบ.

ในภัทรกัปนี้ มีพระผู้นำ ๓ พระองค์คือ พระ-

ผู้นำคือพระกกุสันธะ พระโกนาคมนะและพระกัสสปะ

เราผู้เป็นพระสัมพุทธเจ้าในปัจจุบัน และพระเมตไตรย

พระพุทธเจ้าในอนาคต พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์นี้เป็น

ปราชญ์ผู้อนุเคราะห์โลก.
บรรดาพระผู้เป็นธรรมราชาเหล่านั้น พระ-

โคตมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทั้งพระสาวก บอกทางนั้น

แก่สัตว์เหล่าอื่นหลายโกฏิ ก็ปรินิพพานไปแล้วแล.

จบกัณฑ์กิณกะของพระพุทธเจ้า

ทั้งคัมภีร์ทางหินยานและมหายาน ต่างก็มีบันทึกไว้เรื่องของพระศรีอาริยเมตไตรย

พระศรีอาริยเมตไตรย จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ที่จะตรัสรู้บนโลกมนุษย์
เนื่องจากพระศรีอาริยเมตไตรยเป็นหน่อพุทธางกูรบรมโพธิสัตว์ เป็นผู้ที่จะเสด็จมาบังเกิดเป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ท่านเป็นวิริยาธิกโพธิสัตว์ ได้ชื่อว่าสร้างบารมีครบ
เต็มสมบูรณ์ 30 ประการ อันมีการสละชีวิต ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี ขันติบารมี
สัจจบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี สวรรค์ชั้นดุสิตจึงเป็นที่สำราญสมควรแกพระบรมโพธิสัตว์
ผู้มีบารมีเต็มครบสมบูรณ์แล้วประทับอยู่จนกว่าจะถึงกำหนดที่จะลงมาบังเกิดเป็นพระพุทธเจ้า
ก่อนที่พระศรีอาริเมตไตรยจะลงมาตรัสรู้บนโลกมนุษย์นั้น ก็รอจนกว่าจะหมดยุคของพระพุทธศาสนาเสียก่อน
ซึ่งก็น่าจะเป็น สิ้น พศ. 5000 และรอจนกว่ามนุษย์จะมีอายุขัย 10 ปี จึงต้องใช้เวลา 4000 ปี รวมกับเวลาที่นับจาก พศ. 2552ปัจจุบัน ถึง พศ. 5000
เพราะฉะนั้นเวลาทั้งหมด 4,000+2,448 = 6,448 ปี จึงจะเกิดสัตกันตรกัป (อันตรกัปพินาศเพราะศัสตรา)จะมีการฆ่าฟันกันเองตลอด 7 วัน
ผู้มีปัญญาจะหลบซ่อนมีชีวิตอยู่รอด เกิดสังเวชสงสารกันและกันจึงช่วยกันประกอบกุศล เป็นกุศลกรรมบถ 10 มนุษย์ก็จะมีอายุวรรณะ
มีอายุขัยเพิ่มขึ้น จาก 10 เป็น 20 เป็น 40 เป็น 80 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้านจนเป็น อสงไขย ปี ก็ไม่ตาย เมื่อไม่ตาย
ก็เกิดความประมาทไม่ประกอบกุศล เกิดกิเลสตัณหา มัวเมาในกามคุณ เป็นเหตุให้อายุลดลงเรื่อยๆ จนเหลือ 80,000 ปี เกิดเมล็ดข้าวสาลีเมล็ดหนึ่ง
งอกขึ้นมาเอง และงอกเป็นกอจำนวนมาก มีรวงข้าวให้ผลมากมาย และช่วงนี้แหละที่พระศรีอาริเมตไตรยจะเสด็จลงมาตรัสรู้บนโลก นับว่าเป็นเวลา
ที่ยาวนานมาก รวมแล้วเวลาที่พระศรีอาริยเมตไตรยจะลงมาตรัสรู้ต้องรออีกประมาณ ห้าพันหกร้อยล้านปี (5,600 ล้านปี)
แต่เนื่องจากพระศรีอาริเมตไตรยท่านมีเมตตา ท่านก็ยังเสด็จลงมาจุติบนโลกมนุษย์อยู่เรื่อยๆ(ยังไม่ตรัสรู้) เพื่อมาสั่งสอนเวไนยสัตว์
ในประเทศจีนก็มีการบันทึกไว้ ว่ามีพระศรีอาริยเมตไตรยลงมาอุบัติ ประเทศไทยเราก็มีเรื่องหลวงปู่ต่างๆ
ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระศรีอาริยเมตไตรย หากตั้งใจบำเพ็ญธรรม ประกอบคุณงามความดี ละปาบ บำเพ็ญบุญ หากยังไม่สามารถ
ปฏิบัติจนหลุดพ้นถึงพระนิพพานได้ เมื่อตายจากโลกนี้ไป ก็จะได้ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิต ซึ่งเป็นสถานที่ ที่พระศรีอาริเมตไตรยประทับอยู่
และก็แสดงธรรมโปรดเหล่าเวไนยอยู่ ก็จะได้บำเพ็ญต่อบนสวรรค์แห่งนี้จนกว่าจะบรรลุพระนิพพาน

ในคัมภีร์ ภัทรกัปสูตร มีบันทึกไว้ว่า
พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะบำเพ็ญสำเร็ตอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ใต้ต้นกากะทิง
งานแรก จะโปรดเวไนย 96 ร้อยล้าน
งานสอง จะโปรดเวไนย 94 ร้อยล้าน
งานสาม จะโปรดไนย 92 ร้อยล้าน
ทั้งหมดล้วนสำเร็จได้อรหัตผล เป็นการแสดงให้เห็นว่า หลังจากพระเมตไตรยโพธิสัตว์สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว
มีแรงปณิธานมหาศาลที่จะโปรดเวไนยสัตว์ได้มากมายขนาดนั้น และในยุคนั้นทั้งโลกก็จะมีศาสนาเดียว คือศาสนาของพระศรีอาริเมตไตรย.

ทีผมเคยอ่านเจอ มันแค่ 12 ล้าน ปีเศษ ไม่ได้นานขนาดนั้น

อืม ผมก็ไม่แน่ใจน่ะครับ บางทีข้อมูลผมอาจจะผิดก็ได้