วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 06:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2009, 16:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2008, 20:15
โพสต์: 45


 ข้อมูลส่วนตัว




cyz4_64[1].jpg
cyz4_64[1].jpg [ 43.48 KiB | เปิดดู 2391 ครั้ง ]
เล่าโดย...พระ ดร.มหาทวนชัย อธิจิตโต

บ้านเกิดเมืองนอนอยู่จังหวัดนครราชสีมา อำเภอพิมาย บ้านท่าหลวง มันมีเรื่องมหัศจรรย์สมัยที่หลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ ท่านมีเมตตาเลี้ยงดูพระเณรแล้วก็กระจายชื่อเสียงความเมตตาไปทั่วประเทศไทยทั่วโลกก็ว่าได้ อาตมาเป็นผลิตผลน้อยๆ องค์หนึ่ง ซึ่งมีบุญเกี่ยวพันกับหลวงพ่อมา โดยที่ไม่ได้รู้จัก ไม่ได้มากรุงเทพฯ เลย อยู่ในป่าในดงห่างไกลความเจริญ แต่มีพระที่มาปฏิบัติธรรมกายอยู่ที่วัดปากน้ำเป็นพระธุดงค์จะมีพระทั่วประเทศมาปฏิบัติธรรมสายธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำที่หลวงพ่อรับผิดชอบสอนอยู่แล้วกลับไปประพฤติปฏิบัติ แล้วองค์นี้ก็เหมือนกันกลับไปนครราชสีมา อาตมาตอนนั้นจบชั้น ป.๔ บวชเป็นสามเณรเรียบร้อยแล้ว เห็นมีลักษณะดี พระธุดงค์เลยบอกว่า “สามเณรอยากศึกษาเล่าเรียนก็ให้ไปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญนะ ตลาดพลูนั่นแหละไปไม่ยากหรอก นครราชสีมาไปหัวลำโพงเอง”

อาตมาก็ไม่เคยมา เป็นเณรยังเด็กด้วย แต่ด้วยบุญบารมีของหลวงพ่อวัดปากน้ำ มีฤทธิ์มีเดช ท่านสามารถทำให้อาตมาตัดสินใจโดยที่เป็นเด็ก แปลกเหมือนกันปุ๊ปปั๊ปก็บอกว่าจะไปหาหลวงพ่อวัดปากน้ำ ใครห้ามก็ไม่ได้ ซึ่งมันก็เป็นประสบการณ์ที่แปลก ไม่มีใครเขาทำกัน ซึ่งบารมีและแรงดลใจของท่าน ท่านคงรู้ว่าเราคงจะมีประสิทธิภาพ จะช่วยงานพระศาสนา ช่วยงานหลวงพ่อ ช่วยกู้เกียรติชื่อเสียงหลวงพ่อ และช่วยกู้พระศาสนา ก็ตัดสินใจขึ้นรถไฟจาก อ.พิมาย มาที่ จ.นครราชสีมา ตอนนั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๕ อายุ ๑๒ ปี นั่งรถไฟมา ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง เราก็ไม่เคยนั่งแต่ด้วยบารมีของท่านคุ้มครองมา คอยป้องกันจนกระทั่งมาถึงหัวลำโพงก็ห้าโมงเย็น ไอ้เราก็ไม่เคยไปต่างจังหวัดไม่เคยออกจากบ้าน ไม่รู้จะไปไหน พอลงจากหัวลำโพงแล้ว พอดีท่านก็ดลบันดาลให้พระชื่อว่าพระมหามาโนช ซึ่งไม่รู้ว่าท่านมรณภาพหรือยังตอนนี้ ท่านเดินผ่านมา เราก็บอกท่านว่า “หลวงพี่ สิไปไหนเล่า” พูดภาษาโคราช ท่านก็บอกว่า “จะไปวัดปากน้ำ” นี่มันมหัศจรรย์ขึ้นแล้ว เราก็จะไปวัดปากน้ำ หลวงพี่ก็จะไปวัดปากน้ำเห็นมั้ยนี่ หลวงพ่อดลบันดาลให้ เราก็บอกว่า “ผมขอไปดาวหวัด ขอไปด้วยได้ไหมครับ” พูดภาษากรุเทพก็ไม่เป็น ตอนนั้นใช้ภาษาอีสาน ภาษานครราชสีมาซึ่งมันเป็นไทเบิ้ง มันก็ไม่ใช่ไทยแล้วก็ไม่ใช่ภาษาลาว เราคงเข้าใจกันดี หลวงพี่ก็บอกว่า “ไปซิ ไปเณร ไปด้วยกันเลย” ท่านก็รับไป

อาตมาเป็นสามเณรอีกองค์ที่ครูบาอาจารย์มุ่งหวังที่จะรับสืบทอดในวิชชาธรรมกาย อาตมาก็ทำดีที่สุด เพราะว่าสมัยเป็นเณรปฏิบัตินี้จิตมันไม่วอกแวก จิตมันไม่ฟุ้งซ่าน เรื่องรูปเสียงกลิ่นรสนี้มันไม่มี ผู้หญิงนี่รักไม่เป็น ความรักนี่ไม่รู้จัก เพราะฉะนั้นจิตมันก็แน่วแน่ นิ่งสงบเย็น เบิกบานแล้วก็พร้อมที่จะปฏิบัติธรรมได้ เข้าถึงธรรมกายได้ง่าย ก็สำเร็จธรรมกายตั้งแต่ตอนเป็นเณร หลวงพ่อเรียกให้ไปเป็นทหารคือผู้ที่ได้ธรรมกายขั้นสูงแล้วจะต้องได้ระดมพลกันมาเพื่อที่จะทำงานต่อสู้กับฝ่ายอธรรม คือคนที่ชั่วมันก็ชั่วสุดๆ เหมือนกันนะ คนที่ชั่วสุดๆ มันก็มีหัวหน้าใหญ่เหมือนกันนะ เหมือนกับฝ่ายข้าศึก ฝ่ายคอมมิวนิสต์มันก็ใหญ่จริงๆ มันก็เป็นหัวหน้าฝ่ายชั่ว ฝ่ายเสรีก็มีอเมริกาเป็นฝ่ายหัวหน้าหัวโจกอะไรอย่างนั้นนะ เราเป็นพระฝ่ายธรรมะ ฝ่ายพระพุทธศาสนาก็จะมีมารมารังควานตั้งแต่สมัยพุทธกาล มีพระเทวทัต มีมาร นางจิณจมารวิกา อะไรต่างๆ คอยมาเบียดเบียน แล้วก็มาทำลายพระพุทธเจ้า นัยยะเดียวกัน สมัยที่เราปฏิบัติธรรม ผู้ที่เข้าถึงธรรมกายแล้วสามารถเดินธรรมได้ สามารถที่จะถอดกายได้ ไอ้ที่ประหลาดที่สุดคือให้ถอดกาย การถอดกายคือถอดจิตไปในที่ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ไปดูสิ่งต่างๆ ไปพบเห็นในแดนที่ไม่เคยไป ไม่รู้จัก ไปพบบุคคลที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น อันนี้เป็นอำนาจแล้วก็เป็นสิ่งปาฏิหาริย์ของวิชชาธรรมกาย

อยู่มาครั้งหนึ่งท่านเจ้าอาวาส นี่ก็ลืมชื่ออีกแล้วองค์ผอมๆ นั่นแหละซึ่งเป็นรองของหลวงพ่อวัดปากน้ำ อยู่กันมามันก็สนิทสนม แต่พอมาสี่สิบปีมันก็ลืมชื่อไปหมด แต่เห็นภาพอยู่ในสมาธิ เสร็จแล้วท่านทดลองอาตมาเป็นเณรธรรมกายมีเณรอยู่ด้วยกัน องค์นั้นก็ตัวเท่ากันอายุสิบสองขวบ ไม่รู้ไปไหนแล้ว เสร็จแล้วท่านจับเรามานั่งให้ถอดกายไปดู ตอนนั้นมันมีแมลงวันตัวหนึ่ง อีท่าไหนก็ไม่รู้ มาตายต่อหน้าท่าน “เออ เณรเข้าสมาธิ ตามดูวิญญาณของสัตว์ตัวนี้ ไปไหน” เราก็เข้าสมาธิติดตามดู ก็ติดตามดูไป ท่านก็ให้ติดตามไป ติดตามไป วิญญาณเขาอยู่ที่ไหน ไปที่ไหน เราก็เข้าสมาธิไปดูนะ ก็ตอบคำถามท่าน ท่านถามว่า “เห็นอะไรบ้างลูก” เราก็ “เห็นแล้ว ตอนนี้เขายังอยู่ที่นี่ ยังเจ็บปวดแล้วเขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวตาย” การตายนี่มันมีสภาพที่ตัวเองไม่รู้นะ บางคนตายไปแล้ว ทำงานศพแล้ว แต่ตัวยังไม่รู้ว่าตาย แต่เขาจะสามารถมามองย้อนดูตัวเอง เอ๊ะมันฉันนี่ ไอ้รูปที่ตั้งอยู่ที่งานศพนี่ตัวฉัน แล้วทำไมตัวฉันถึงมาอยู่ในสิ่งมีชีวิตอยู่ตรงนี้ ในกายใหม่ ภพใหม่ บางคนที่ไม่เข้าใจธรรมะ เขาจะประหลาดใจตัวเอง ว่าเอ๊ะ นี่มันอะไร มันศพใคร เอ๊ะนี่มันตัวเรานี่นา เรามันตายแล้วนี่นา มันจะเกิดสิ่งที่ประหลาดแบบนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ให้คล่องแคล่ว การเข้าฌาน ออกฌาน พูดเรื่องฌานเดี๋ยวจะหาว่าเป็น อวดอุตริอีก ก็พูดให้ฟังในฐานะที่ได้ศึกษาผ่านมา ทำมา ก็เป็นการให้วิทยาทานเป็นผลของการปฏิบัติ สายวัดปากน้ำ เป็นวิชชาถอดกายมีความสำคัญมาก เราจะถอดกายบางทีก็ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งคนส่วนใหญ่มากๆ ทีเดียวเขาก็ต่อต้าน บางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติ ก็จะว่ามันเพี้ยน และบางทีเราก็ถอดกายไปสวรรค์ ไปพบพระอินทร์นะ ไปพบเจ้าผู้ครองนครสี่ทิศอะไรนี่ หรือบางทีเราก็ถอดกายไปเฝ้าผู้ที่มีบทบาทในพระพุทธศาสนาหรือไปถามปัญหาหรือมีข้อขัดข้องอะไร มีปัญหาอะไรเกิดแก่ศาสนา คือแม้แต่เกิดแก่วัด แก่พระ แก่เณรในวัดปากน้ำ เราจะเข้าไปทูล ไปกราบเบื้องบน พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ เราสามารถอธิษฐานถอดกายไปพบปะแล้วก็ไปพูดคุย หลวงพ่อเคยเล่าเสมอว่า เรียกว่า ไปจับเข่าคุยกัน มันก็เหมือนกับเราคุยกันขณะนี้แหละ มีตัวมีตนสามารถที่จะพูดคุยโต้ตอบคำถาม

อาตมาเป็นเณรเล็กๆ ก็สมัยที่ทีวีมาเป็นเครื่องแรกในประเทศไทย ๒๕๐๐ ตั้งแต่นั่นนะ เป็นสิ่งที่แปลก เราไม่เคยรู้จักคำว่า โทรทัศน์ หรือทีวี เทเลวีชั่น เขาตั้งที่สนามหลวงประมาณ ๕ เครื่อง ให้ประชาชนดูล้อมรั้วล้อมเชือกให้คนเข้าไปดูว่า มีภาพมันส่งมาปรากฏในจอภาพได้ ตอนนั้นเราก็ตกใจ ตกตะลึงมากเลย วิทยาศาสตร์นี่มันเจริญนะ สามารถเห็นหน้าเห็นตาส่งภาพได้ ท่านพระครูธนิตก็เอาใจเณร มีเมตตาธรรมมาก ท่านก็ไปซื้อทีวีมาเครื่องหนึ่ง เออ...แต่ก็ไม่ให้เสียการเรียนนะ เณร...ดูทั่วไปนะ แต่ว่าจะเอาใจเณร วันหยุดหรือวันพระที่ไม่เรียนหนังสือ ท่านจะมาเปิดแบบpublic แบบสาธารณะเลย ตอนห้าโมงเย็นมันมีมวย ท่านก็มาตั้งไว้ที่โรงเรียนหลังปัจจุบันเนี่ะแหละ ให้พระเณรได้มาดูมวย เอ้า...เณรดูมวยดูข่าว ท่านก็มีเมตตาให้เราได้รู้ อ๋อว่านี่คือเทคโนโลยีชั้นสูงนะ เทคโนโลยีของนอกเขาถึงนี่แล้ว แต่ยังช้ากว่าธรรมกาย ธรรมกายนี่ปุ๊ปเดียวไปไหนๆ ได้หมดทั้งจักรวาลนะ มันช้ากว่าเรา อำนาจจิตนี้ไวกว่า ไวกว่าเทคโนโลยี เทคโนโลยีต้องมีเครื่องมือ ต้องมีถ่าน ต้องมีปุ่มกด ต้องต่อสายผ่านโทรศัพท์หรือต่อผ่านดาวเทียม แต่สมาธิหรืออำนาจของฌาน คนอยู่ในฌานสูงๆ ที่ระดับเกจิอาจารย์ เขาจะติดต่อโทรจิตกันได้เลย เขาสามารถที่จะรู้วาระจิตของกันและกัน นัดหมายกันโดยที่ไม่ต้องบอกกล่าวเหมือนมาฆบูชา ซึ่งพระอรหันต์สามารถที่จะมาประชุมโดยไม่ต้องโทรศัพท์โทรมือถือ ไม่มีในสมัยก่อนโน้น นี่ก็เหมือนกัน เราสามารถคุยกันในสมาธิ

เขาลือกันว่า ตอนนั้นสงครามเกาหลีนะ หนังสือพิมพ์ "พิมพ์ไทย" ยังมองเห็นติดตาเลย จับใส่กรอบติดไว้ที่หน้ากุฏิหลวงพ่อนั่นแหละว่า ทหารไทยโดนทหารฝ่ายคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือยิงเหมือนว่าไม่แตะต้องผิวหนังคือไม่เข้า ไม่ตาย เหมือนยาง เหมือนบอน เสร็จแล้วมันก็จะเป็นเพียงรอย ไม่ตาย เขาเรียกว่าไอ้พวกนี้เป็นทหารผี ฝ่ายคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือนี่กลัวมากเลย เจอทหารไทยนี่ไม่กล้าที่จะตอแยหรือว่าเข้ารบด้วย สาเหตุมาจากเล่าลือกันว่าพระหลวงพ่อวัดปากน้ำนี่ศักดิ์สิทธิ์มาก เออทหารนี่ข้าศึกยิงไม่ตาย ยิงไม่เข้าก็เลยดังกันใหญ่เลย หนังสือพิมพ์ "พิมพ์ไทย" ก็ลงข่าวทหารผู้นั้นแขวนไว้อีก ที่หน้ากุฏิที่เรือนฝาไม้ อาตมาก็ไปอ่านดู

ยังมีอีกมาก...อ่านเนื้อหาทั้งหมดได้ที่นี่ครับ
http://forums.212cafe.com/samatha/board-2/topic-31.html

ห้องสนทนาวิชชาธรรมกาย
http://forums.212cafe.com/samatha/

ความรู้ทั่วไป
http://www.khunsamatha.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 06:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: โมทนาสาธุ เจ้าของกระทู้ค่ะ
:b41: :b41: :b41:

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1855

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: THAILAND

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนาบุญ กับท่านเจ้าของกระทู้ ด้วยจ้า

:b26: ของอย่างนี้ เข้าใจยาก ต้องลงมือปฏิบัตินะท่าน

.....................................................
[สวดมนต์วันละนิด-นั่งสมาธิวันละหน่อย]
[ปล่อยจิตให้ว่าง-ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ]


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 177 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร