ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20716 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 21 ก.พ. 2009, 21:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ไทม์แมชชีน (อังกฤษ: Time machine) หมายถึง ยานพาหนะที่สามารถเดินทางข้ามเวลาสู่อดีตหรืออนาคต ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมทั้งการ์ตูนโดราเอมอน ซึ่งมีการใช้เครื่องมือนี้ในการย้อนเวลาหลายครั้ง มีความเชื่อว่า ถ้าเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแสงแล้วเวลาจะหยุดนิ่ง ซึ่งอาจเป็นความคิดในเรื่องนี้ก็ได้ ตอนนี้รถไฟใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงเพื่อเดินทางจากลำปางไปกรุงเทพ เครื่องบินใช้ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง สมมติว่ามียานพาหนะที่เคลื่อนที่เร็วกว่าเครื่องบินอีก ใช้เวลาเพียง 2 นาที ก็สามารถไปถึง กทม ได้ แล้วถ้ามีเครื่องที่เร็วกว่านั้นอีก ใช้เวลา 2 วินาที ก็ถึง กทม แน่นอนว่ามนุษย์เราต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดสามารถสร้างเครื่องที่ใช้เวลาเพียง "ศูนย์" วินาที ก็สามารถไป กทม ได้ คือ ขึ้นปุ๊บถึงปั๊บอย่างนั้นเลย แต่เราไม่หยุดเพียงเท่านี้ หากเราพัฒนาเครื่องที่เร็วกว่านั้นอีกล่ะ เราจะใช้เวลาไม่ถึง "ศูนย์" วินาทีใช่หรือไม่ เวลาที่ไม่ถึงศูนย์ก็คือเวลาที่ติดลบ และเวลาที่ติดลบก็คือ "อดีต" นั่นเอง สรุปคือ หากเราเดินทางด้วย ความเร็วที่สูงมาก เราอาจจะสามารถกลับไปในอดีตได้ บรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของโลกที่กำลังทุ่มเทการวิจัยเรื่องนี้กันอย่างหนัก ก็เริ่มมีเค้าของความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นมากสำหรับเรื่อง ไทม์ แมชชีนหรือการท่องเวลา ออกมากันบ้างแล้ว โดยบรรดานักวิจัยจากแคลิฟอร์เนียและกรุงมอสโควเค้าประกาศออกมาแล้วว่า การท่องเวลา (Time Travel) นั้น มีความเป็นไปได้อยู่ทีเดียว !! ซึ่งพวกเค้าได้สร้างห้องแล็ปที่เรียกว่า TARDIS ขึ้นมา และเริ่มทดลองโดยนำพื้นฐานมาจากสมการของนักฟิสิกส์เอกของโลก อัลเบิร์ท ไอนสไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้กล่าวว่ามันอาจยากมากในการวิจัยและทดลองให้มันเป็นจริงหรือใกล้ความจริง แต่ก็มีความเป็นไปได้มากทีเดียว ขอถามพี่ๆ และอาจารย์ทุกท่านครับว่า ถ้ามีเครื่องย้อนเวลากลับสู่สมัยพุทธกาลได้จริง ท่านจะเลือกลงตรงช่วงไหนของพุทธกาลครับ เพราะอะไรครับ สุขสันต์วันหยุดครับผม |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 22 ก.พ. 2009, 00:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ขอ "ประตูไปที่ไหนก็ได้" ได้ปะครับ ผมจะไป "นิพพาน" ขี้เกียจภาวนา |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 22 ก.พ. 2009, 04:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
อยากไปดูตอนที่ พระพุทธองค์ กำลังจะตรัสรู้ เมื่อท่านตรัสรู้แล้ว ผมก็จะรีบเข้าไปพบท่านและจะได้เป็นลูกศิษย์คนแรกของพระพุทธองค์ 555 |
เจ้าของ: | mes [ 22 ก.พ. 2009, 20:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
สวัสดีครับคุณฌาณ มีความรู้จากคุณฌาณมาฝากพวกเราเสมอ การเดินทางไปด้วยความเร็วเท่าหรือเข้าใกล้แสงนั้นต้องใช้พลังงานมาทำเป็นทางหรือรูเรียกว่ารูหนอน(เรียกผิดหรือเปล่าไม่ทราบ) เพื่อไม่ให้วัตถุที่เดินทางกลายเป็นพลังงาน เรียกว่าทางลัดของอวกาศ นั่นคือวัตถุครับ แต่ที่เป็นไปได้ที่จะเดินทางกลับสู่อดีตได้จริงๆคือจิต จิตที่ได้ฝึกแล้วมีความเร็วกว่าแสงครับ ฉนั้นจิตจึงเดินทางไปได้ทั้งอดีตและอนาคต เสียดายที่เป็นปัจจตัง สอนกันไม่ได้ แต่ทุกคนคงมีลางสังหรณ์ที่เป็นจริง ใช่ไหมครับ |
เจ้าของ: | natdanai [ 24 ก.พ. 2009, 00:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ร่วมสนุกกะท่านฌาณหน่อยนึงครับ หากย้อนกลับไปได้(และสามารถเข้าใจในภาษาของยุคนั้นด้วยนะ)กระผมขอลงตอนที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาแก่ ปัญจวัคคี....เพราะการที่จะได้ฟังธรรมจักกัปวัตนสูตร จากพระพุทธเจ้า อีกทีก็พระศรีอริยเมตตรัยนู่นแน่ะ อีกไม่น้อยกว่า 80000 ปี ไม่อยากรอนาน |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 24 ก.พ. 2009, 08:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ก็ขอขอบพระคุณพี่ๆและอาจารย์ทุกท่านมากๆครับที่ร่วมแสดงความเห็น ผมขอตั้งกติกาได้ไหมครับว่าให้ทุกท่านเลือกว่าจะลงช่วงพรรษาใด พรรษาหนึ่งใน 45 พรรษาดังนี้ ด้วยเหตุผลอันใด..... (สำหรับพี่นัฐเลือกพรรษาที่ 1 แล้วอาจจะบรรลุอรหัตผลได้นะครับ) พรรษาที่ ๑ จำพรรษาที่อิสิปตนมฤคทายวัน - โปรดปัญจวัคคีย์ สังฆรัตนะ เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก - โปรดพระยสะ และสหาย ๔๕ คน ออกพรรษา - ให้สาวก ๖๐ รูป มีอำนาจบวชกุลบุตร ได้โดยวิธีให้รับไตรสรณคมน์ - โปรดภัททวัคคีย์ ๓๐ รูป - โปรดชฎิลสามพี่น้อง บวชเป็นเอหิภิกขุ ๑,๐๐๐ รูป แสดงอาทิตตปริยายสูตรสำเร็จพระอรหันต์หมด - ไปราชคฤห์โปรดชาวเมืองและพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบัน - ถวายวัดเวฬุวันเป็นวัดแรก - ให้สงฆ์สาวกรับอารามที่มีผู้ถวายได้ - พระอัญญาโกณฑัญญะบวชปุณณมันตานีบุตร ( ลูกน้องสาว ) บรรลุอรหันต์ - ได้ ๒ อัครสาวก อุปติสสะและโกลิตะบวชบรรรลุเป็นพระอรหันต์ - บวชพระมหากัสสปะโดยรับโอวาท ๓ ข้อ พรรษาที่ ๒ จำพรรษาที่เวฬุวัน ออกพรรษา เสด็จเมืองเวสาลี แคว้นวัชชี - สอนพระอานนท์ให้สาธ ยายรัตนสูตร บรรเทาภัยของชาวเมือง - พระอานนท์ฟังกถาวัตถุ ๑๐ ประการ ( ของพระปุณณมันตาณีบุตร) เป็นพระโสดาบัน พรรษาที่ ๓ จำพรรษาที่เวฬุวัน - ราชคฤหเศรษฐี ขอสร้างเสนาสนะถวายสงฆ์ เป็นที่พำนักถาวร - อนุญาตเภสัช ๕ ชนิด และภัตฯ ประเภทต่างๆ - อนุญาตการอุปสมบทโดยวิธีญัตติจตุตถกรรม - พระสารีบุตรบวชให้ราธะพราหมณ์เป็นรูปแรก - อนุญาตวันประชุมสงฆ์ และแสดงธรรมใน ๑๔ คํ่า ๑๕ คํ่า และ ๘ คํ่า ของข้างขึ้นและข้างแรม พรรษาที่ ๔ จำพรรษาที่เวฬุวัน - โปรดหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นพระโสดาบัน - ถวายชีวกอัมพวันอนุญาตผ้าไตรจีวร ๓ ผืน,ผ้าจีวร ๖ ชนิด ออกพรรษา - - เทศน์โปรดพุทธบิดา สำเร็จพระอรหันต์และนิพพาน และจุดเพลิงพระบรมศพ พรรษาที่ ๕ จำพรรษาที่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน นอกเมืองเวสาลี - พระนางประชาบดี ยอมรับคุรุธรรม ๘ ประการ บวชเป็นภิกษุณีองค์แรก แล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์ - พระนางยโสธราบวชในสำนักพระนางประชาบดีเถรี บรรลุเป็นพระอรหันต์ - นางรูปนันทา บวชตามหมู่ญาติ ทรงแสดงฤทธิ์โปรด สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ออกพรรษา - เสด็จไปภัททิยนคร แคว้นอังคะ โปรดเมณฑกะเศรษฐี ธนัญชัยเศรษฐี นางวิสาขาและหมู่ญาติ เป็นพระโสดาบัน - ทรงอนุญาตโครสทั้ง ๕ ทรงอนุญาตนํ้าผลไม้ทุกชนิด ( เว้นนํ้ากับเมล็ดนํ้าข้าวเปลือก) นํ้าใบไม้ทุกชนิด ( เว้นนํ้าผักดอง ) นํ้าดอกไม้ทุกชนิด ( เว้นนํ้าดอกมะซาง ) นํ้าอ้อยสด ทรงอนุญาตให้ฉันผักสดทุกชนิด และของขบฉันที่ทำด้วยแป้ง ให้ฉันผลไม้ได้ทุกชนิด - แสดงมหาปเทส ๔ สิ่งที่ควรและไม่ควรสำหรับสงฆ์ พรรษาที่ ๖ จำพรรษาที่ มกุลบรรพต แคว้นมคธ - ห้ามพระภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ - ปรารภจะแสดงยมกปาฏิหาริย์เอง ออกพรรษา - เดียรถีย์สร้างสำนักหลังวัดเชตวัน พระเจ้าปเสนทิโกศล เปลี่ยนเป็นสร้างอารามสำหรับภิกษุณี เรียกราชการาม - เพ็ญเดือน ๘ แสดงยมกปาฏิหาริย์ นอกเมืองสาวัตถี พรรษาที่ ๗ จำพรรษาที่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ - แสดงพระอภิธรรมโปรดพุทธมารดาตลอดไตรมาสจนบรรลุเป็นพระโสดาบัน - เรื่องอังกุรเทพบุตรและอินทกเทพบุตร - ลงจากชั้นดาวดึงส์ ที่ประตูเมืองสังกัสสะ หลัง ออกพรรษา - เสด็จกรุงสาวัตถี - ปรารภเรื่องนางปฏิปูชิกา ภรรยาของมาลาภารีเทพบุตร - นางจิญจมาณวิกา ใส่ความพระพุทธเจ้า ถูกธรณีสูบลงอเวจีมหานรก พรรษาที่ ๘ จำพรรษาที่เภสกฬาวัน ภัคคชนบท - บิดาของสิงคาลกมานพบวช บรรลุพระอรหันต์ ออกพรรษา - บัญญัติสิกขาบทเรื่องการผิงไฟของภิกษุ - โปรดมาคันทิยาพราหมณ์และภรรยา จนขอบวชทั้ง ๒ คนแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ - นางมาคันทิยาผู้เป็นธิดาผูกจิตอาฆาตในพระศาสดา - เศรษฐีโกสัมพี ๓ คนตามไปฟังธรรมที่วัดเชตวันเมืองสาวัตถีบรรลุเป็นพระโสดาบันและได้สร้าง โฆสิตาราม ปาวาริการาม และกุกกุฏาราม ถวายที่โกสัมพี พรรษาที่ ๙ จำพรรษาที่โกสัมพี - เรื่องนางสามาวดี ได้เป็นมเหสีพระเจ้าอุเทน ถูกนางมาคันทิยาวางแผนเผาทั้งปราสาทจนตาย ออกพรรษา - สงฆ์ที่โฆสิตาราม โกสัมพี แตกความสามัคคี พรรษาที่ ๑๐ จำพรรษาที่รักขิตวัน (ป่าปาริเลยยกะ) อยู่ระหว่างกรุงโกสัมพีกับกรุงสาวัตถี - ช้างปาริเลยยกะและวานรถวายอุปัฏฐากพระพุมธองค์ ออกพรรษา - หมู่สงฆ์ชาวโกสัมพีมาขอขมาต่อพระองค์ ทำให้สังฆสามัคคี พรรษาที่ ๑๑ จำพรรษาที่หมู่บ้านพราหมณ์ เอกนาลา ใต้เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ออกพรรษา ไม่ปรากฏหลักฐาน พรรษาที่ ๑๒ จำพรรษาที่ควงไม้สะเดา เมืองเวรัญชา - ทรงไม่อนุญาตให้มีการบัญญัติสิกขาบท ออกพรรษา - เรื่องเอรกปัตตนาคราช - พระนางปชาบดีเถรี ทูลลานิพพาน ประชุมเพลิง - การอุปสมบท ๘ วิธี ขอบพระคุณพี่ๆและอาจารย์ทุกท่านครับ :b8: |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 24 ก.พ. 2009, 08:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
พรรษาที่ ๑๓ จำพรรษาที่จาลิกบรรพต เมืองจาลิกา - เรื่องพระเมฆิยะ ออกพรรษา - แสดงมงคลสูตร ๓๘ ประการ - แสดงกรณีเมตตาสูตร - เรื่องพระพาหิยะทารุจิริยะ - พระอัญญาโกณฑัญญะทูลลานิพพาน พรรษาที่ ๑๔ จำพรรษาที่วัดเชตวัน สาวัตถี - สามเณรราหุลอุปสมบท - ตรัสภัทเทกรัตตคาถา - แสดงนิธิกัณฑสูตร ออกพรรษา - บัญญัติวิธีกรานกฐิน - อนุญาตสงฆ์ รับการปวารณาปัจจัยเภสัชเป็นนิตย์ พรรษาที่ ๑๕ จำพรรษาที่นิโคธาราม กรุงกบิลพัสดุ์ - เจ้าศากายะถวายสัณฐาคาร - แสดงสัปปุริสธรรม ๗ ประการ - เรื่องพระเจ้าสุปปพุทธะถูกธรณีสูบลงอเวจี ออกพรรษา - ไม่ปรากฏหลักฐาน พรรษาที่ ๑๗ จำพรรษาที่วัดเวฬุวัน - พระทัพพมัลลบุตรทูลลานิพพาน ออกพรรษา - เรื่องพระวักกลิ พรรษาที่ ๑๘ จำพรรษาที่จาลิกบรรพต เมืองจาลิกา ออกพรรษา - เสด็จเมืองอาฬาวีครั้งที่๒ - โปรดธิดาช่างหูกบรรลุโสดาปัตติผล - ช่างหูกผู้เป็นบิดาขอบวชสำเร็จอารหัตตผล - ตรัสอริยทรัพย์ ๗ ประการ พรรษาที่ ๑๙ จำพรรษาที่จาลิกบรรพต เขตเมืองจาลิกา ออกพรรษา - เรื่องโปรดโจรองคุลีมาล - เรื่องสันตติมหาอำมาตย์บรรลุอรหัตตผลแล้วนิพพาน พรรษาที่ ๒๐ จำพรรษาที่เวฬุวัน เมืองราชคฤห์ - พระอานนท์ได้เป็นอุปัฏฐากประจำพระองค์ - พระอานนท์ทูลขอพร ๘ ประการ พรรษาที่ ๒๑-๔๕ จำพรรษาที่วัดเชตวัน หรือ วัดบุพพาราม สลับกันไป ออกพรรษาที่จาริกไปตามตำบลต่างๆ เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณพรรษาที่๒๑ จำวัดที่บุพพารามสาวัตถี - พระองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโทกข์ในที่ประชุมสงฆ์ทุกกึ่งเดือน ครั้งแรก ประมาณพรรษาที่๒๖ พระราหุลนิพพาน พรรษาที่๓๗ เทวทัตคิดปกครองสงฆ์ - วางแผนปลงพระชนม์พระศาสดา - ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร - พระเทวทัตถูกธรณีสูบ พรรษาที่๓๘ แสดงสามัญญผลสูตรแก่อชาตศัตรู - อชาตศัตรูแสดงตนเป็นพุทธมามกะ - กรุงสาวัตถี - อำมาตย์ก่อการขบถ - พระเจ้าปเสนทิโกศลสิ้นพระชนม์ - พระเจ้าวิฑูฑภะฆ่าล้างวงศ์ศากยะ - พระเจ้าวิฑูฑภะสิ้นพระชนม์ พรรษาที่๔๓ พระยโสธราเถรีนิพพาน พรรษาที่๔๔ แสดงธรรมที่วัดเชตวัน - ตอบปัญหาเทวดา ออกพรรษา - พระสารีบุตรทูลลานิพพาน - พระสารีบุตรโปรดมารดาจนบรรลุโสดาปัตติผลพระสารีบุตรนิพพาน - พระโมคคัลลานะถูกโจรที่เดียรถีย์จ้างมาทำร้าย - พระโมคคัลลานะนิพพาน - นางอัมพปาลีถวายอาราม นางอัมพปาลีบรรลุธรรม พรรษาที่๔๕ ภิกษุจำพรรษารอบกรุงเวสาลี - ตรัสอานุภาพอิทธิบาท ๔ - ทรงปลงอายุสังขาร ตรัสโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ - นายจุลทะถวายสุกรมัททวะ - ตรัสถึงสังเวชนียสถาน ๔แห่ง - วิธีปฏิบัติกับพุทธสรีระปัจฉิมโอวาทแก่ภิกษุ - เสด็จปรินิพพาน |
เจ้าของ: | หนาน [ 24 ก.พ. 2009, 08:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ในสมัยพุทธกาล ผมอยากย้อนไปช่วงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว จะได้ไปฟังธรรมจากท่าน (แต่ไม่รู้จะฟังภาษาอินเดียเข้าใจหรือเปล่านี่แหละปัญหาใหญ่ของผม) |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 24 ก.พ. 2009, 08:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ส่วนตัวกระผมเองขอเลือกลงพรรษาที่ 5 ครับ ด้วยเหตุผลว่า อยากพบพระนางประชาบดี พระนางยโสธรา นางวิสาขา นางรูปนันนทา เป็นบุญตาหน่อยอะครับ และร่วมฟังธรรมด้วยครับ พระนางยโสธรา พระสรีระของพระนาง มีพระฉวีวรรณสีเหมือนทองคำอันบริสุทธิ์ พระนางเป็นผู้ช่ำชองชำนาญในอภิญญาทั้งหลายระลึกชาติได้ถึงอสงไขยหนึ่งยิ่งด้วยแสนกัปโดยการระลึกถึงเพียงครั้งเดียว พระนันทาเถรี เป็นธิดาของพระเจ้าสุทโธทนะกับพระนางมหาปชาบดีโคตมี เป็น กนิษฐภคินีของเจ้าชายนันทะ พระนามเดิมว่า “นันทา” แต่เพราะนางมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง นัก น่าทัศนา น่ารัก น่าเลื่อมใส พระประยูรญาติจึงพากันเรียกว่า “รูปนันทา” (ในเรื่องนี้มีตอนพระพุทธองค์ ทรงเนรมิตรูปหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งให้มีรูปสิริโฉมสวยงามสุดที่จะหา หญิงใดในปฐพีมาเปรียบได้ ด้วยนะครับ) นางวิสาขา หญิงผู้มีความงาม 5 อย่าง เบญจกัลยาณี ความงามของสตรี ๕ อย่าง คือ ๑. เกสกลฺยาณํ ผมงาม คือ หญิงที่มีผมยาวถึงสะเอวแล้วปลายผมงอนขึ้น ๒. มงฺสกลฺยาณํ เนื้องาม คือหญิงที่มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี ๓. อฏฺฐิกลฺยาณํ กระดูกงาม คือหญิงที่มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน ๔. ฉวิกลฺยาณํ ผิวงาม คือหญิงที่มีผิวงามละเอียด ถ้าดำก็ดำดังดอกบัวเขียว ถ้าขาวก็ขาวดัง ดอกกรรณิกา ๕. วยกลฺยาณํ วัยงาม คือ หญิงที่แม้จะคลอดบุตรถึง ๑๐ ครั้ง ก็ยังคงสภาพร่างกายสาวสวยดุจ คลอดครั้งเดียว |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 24 ก.พ. 2009, 16:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ผมเคยไปท่องในเวปลานธรรมมาครับ พบเรื่องย้อนเวลาสู่พุทธกาลของผู้ที่ใช้ชื่อว่าบูดู แต่งไว้ดีมากครับแต่ผมจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ จึงขอผสมปรุงแต่งเองด้วยดังนี้ครับ (หวังว่าคุณบูดูไม่ว่านะครับ) ผมขอตั้งชื่อว่า "วันสิ้นโลก ประวัติศาสตร์ที่โลกตะลึง" (BACK TO THE BUDDHA) เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยโลกใกล้สิ้นสูญพุทธศาสนา เข้าสู่ยุคเสื่อมทางศีลธรรม สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้นจะพบกับความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนเวียนไปใกล้ความแตกทำลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น …… ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบกลับไม่มีคนเคารพยำเกรง คนในสมัยนั้น(ปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ .......... มีนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันคู่หนึ่ง(แบบว่าเก่งสุดๆ)เป็นสามีภรรยากันได้หลบหนีภัยสงครามเข้าไปอยู่ในป่า หลบความวุ่นวาย ไปหาความสงบ และหลงพลัดเข้าไปในป่าลึกแห่งหนึ่ง ได้พบกับบุรุษผู้หนึ่งศรีษะโล้น...(ต่อไปจะใช้คำว่าภิกษุ) นุ่งห่มผ้ากาสาวพักตร์ ท่าทางสงบเสี่ยม มีมรรยาทก้าวไป ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มีนัยน์ตาทอดลง ถึงพร้อมด้วยอิริยาบถ ผิวพรรณดูสะอาดสดใสยิ่งนัก จึงเข้าไปถามว่า " เหตุการณ์ของโลกปัจจุบันนี้วุ่นวายนัก ทำไมท่านถึงดูไม่ทุกข์ ไม่ร้อน กลับดูสีหน้าแววตาท่านมีความสุขยิ่งนัก" ภิกษุรูปนั้นกล่าวว่า...... ..............โปรดติดตามตอนต่อไป.............. :b22: |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 24 ก.พ. 2009, 17:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ถืออุปกรณ์เหล่านี้รอครับ
|
เจ้าของ: | O.wan [ 24 ก.พ. 2009, 18:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
K.คามินธรรม ขอ "ประตูไปที่ไหนก็ได้" ได้ปะครับ ผมจะไป "นิพพาน" ขี้เกียจภาวนา คุณไปไหนเราเกาะหางเครื่องไปด้วยนะ เดี๋ยวยังดูจิตไม่สำเร็จเลย แล้วใครจะคอยตอบคำถามเราล่ะ |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 24 ก.พ. 2009, 20:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
สวัสดีครับมี a dog ด้วยหรือครับ ต่อนะครับ "วันสิ้นโลก ประวัติศาสตร์ที่โลกตะลึง" (BACK TO THE BUDDHA) อ้างคำพูด: ความเดิม....... " เหตุการณ์ของโลกปัจจุบันนี้วุ่นวายนัก ทำไมท่านถึงดูไม่ทุกข์ ไม่ร้อน กลับดูสีหน้าแววตาท่านมีความสุขยิ่งนัก" ภิกษุรูปนั้นกล่าวว่า...... "ทุกสรรพสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป ไม่มีอำนาจใดๆต้านทานได้ สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจเรา หาขึ้นกับสรรพสิ่งไม่ เราไม่สามารถควบคุมสรรพสิ่งได้ แต่เราสามารถควบคุมจิตหรือใจเราให้สุขหรือทุกข์ได้" นักวิทยาศาสตร์สองคนนั้น หันหน้ามามองกันหน้าตาเลิกหลั่ก เพราะถ้อยคำเหล่านี้ไม่เคยได้ยินได้ฟังที่ไหนมาก่อนเลย ในสถาบันการศึกษาของโลกชั้นนำยุคนั้นก็ไม่มีคำพูดเหล่านี้หลงเหลืออยู่เลย มีแต่สอนว่าทำอย่างไรให้ชีวิตนี้ยั่งยืนเป็นอมตะ ทำอย่างไรไม่ป่วย ไม่ไข้ ซะมากกว่า ทั้งสองคน(ชายชื่อจอหน์และหญิงชื่อแคทละกัน) กล่าวขึ้นเกือบพร้อมกันว่า "ท่านเป็นใคร ทำไมถึงได้กล่าวภาษิตได้เพราะพริ้งนัก ท่านเรียนมาจากสถาบันไหน" พระภิกษุ "ดูกรท่านทั้งหลาย เราเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคผู้เป็นศาสดาของเรา เพื่อกำหนดรู้ทุกข์" (การประพฤติพรหมจรรย์ แปลว่า การประพฤติตนอย่างพรหม หรือความประพฤติอันประเสริฐ หมายถึง การประพฤติตามคุณธรรมต่างๆ ทั้งหมด ในพระพุทธศาสนาให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้กิเลสกลับขึ้นมาอีก) จอหน์ "ศาสดาของท่านคืออะไร คือพระเจ้า คือมนุษย์ หรือ คืออะไรกัน" (ท่าทาง งงมาก) พระภิกษุ "พระบรมศาสดาของเราเป็นมนุษย์ ผู้เป็น ศาสดาอันยอดยิ่ง พระผู้เป็นครูสูงสุดพระองค์ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ระหว่าง 80 ปีก่อนพุทธศักราช 5000 " แคท "แสดงว่าเวลาล่วงเลยไปนานแล้ว พระศาสดาของท่านคงล่วงลับไปแล้ว แต่ไฉนคำสั่งสอนของพระองค์ท่านจึงยังเป็นภาษิตที่จริงแท้ในยุคนี้" พระภิกษุ "พระศาสดาของเรายังคงอยู่ ไม่มีวันดับสูญ พระองค์ตรัสว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต" (ตถาคต เป็นพระนามที่ใช้เรียกพระพุทธเจ้าพระนามหนึ่ง เรียกเต็มว่า พระตถาคต ตถาคต แปลได้หลายนัย คือแปลว่า ผู้เสด็จมาอย่างนั้น ผู้เสด็จไปอย่างนั้น ผู้เสด็จมาสู่ลักษณะที่แท้ ผู้ตรัสรู้ธรรมที่แท้จริง ตามที่เป็นจริง ผู้ทรงรู้เห็นอารมณ์ที่แท้จริง ผู้ทรงมีพระวาจาที่แท้จริง ผู้ตรัสอย่างไรทรงทำอย่างนั้น ผู้ทรงครอบงำ ตถาคต เป็นคำที่พระพุทธเจ้าใช้เรียกแทนตัวพระองค์ เช่นตรัสว่า “ขอถวายพระพร ตถาคตละอกุศลธรรมได้ทั้งหมดแล้ว เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกุศลธรรม ” ) มีต่อครับ.......... |
เจ้าของ: | อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 25 ก.พ. 2009, 13:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ปูเสื่อรออ่านต่อขอรับ |
เจ้าของ: | ariyachon [ 25 ก.พ. 2009, 14:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: Time machine : เครื่องย้อนเวลาสู่อดีตสมัยพุทธกาล |
ขออนุญาต สมาชิก ขอแก้ไขภาษาไทยให้ถูกต้องนะครับ โดยเฉพาะคำว่า "คับ" กับ "ครับ" คนละความหมายนะครับ ภาษาไทยมีเอกลักษณ์งดงาม ถ้ารู้จักใช้ให้ถูกต้องครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |