วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 18:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2009, 15:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 18:57
โพสต์: 159


 ข้อมูลส่วนตัว


ภิกษุ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด) คือ
สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ
เวทัลละ แต่เธอไม่รู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา. ภิกษุนี้
เราเรียกว่า ผู้มากด้วยปริยัติ (นักเรียน) ยังมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุแสดงธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมาแก่คนอื่น
โดยพิสดาร, แต่เธอไม่รู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา.
ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการบัญญัติ (นักแต่ง) ยังมิใช่ธรรมวิหารี- ผู้อยู่ด้วยธรรม.

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุทำการสาธยายธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมา
โดยพิสดาร, แต่เธอไม่รู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา.
ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นักสวด) ยังมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุคิดพล่านไปในธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมา,
แต่เธอไม่รู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา. ภิกษุนี้ เรา
เรียกว่า ผู้มากด้วยการคิด (นักคิด) ยิ่งมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.

พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๐๐/๗๔, ตรัสแก่ภิกษุรูปหนึ่งผู้ทูลถามเรื่องนี้

-----------------------------------
ภิกษุ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด)
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ
เวทัลละ, เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองด้วยการเรียนธรรมนั้น ต้องเริดร้าง
จากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจในภายใน. ภิกษุนี้
เราเรียกว่า ผู้มากด้วยปริยัติ (นักเรียน) ยังมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุแสดงธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมาแก่คนอื่นโดยพิสดาร,
เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการบัญญัติธรรมนั้น ต้อง
เริดร้างจากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจในภายใน.
ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการบัญญัติ (นักแต่ง) ยังมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุทำการสาธยายธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมา
โดยพิสดาร, เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการสาธยายนั้น ต้องเริดร้างจาก
การหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจในภายใน. ภิกษุนี้
เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นักสวด) ยังมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุคิดพล่านไปในธรรมตามที่ได้ฟังได้เรียนมา,
เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการคิดพล่านในธรรมนั้น ต้องเริดร้างจากการ
หลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบในภายใน. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า
ผู้มากด้วยการคิด (นักคิด) ยังมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม

พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๙๘/๗๓,
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย BlackHospital เมื่อ 02 ก.พ. 2009, 08:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2009, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 18:57
โพสต์: 159


 ข้อมูลส่วนตัว


ภิกษุ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด)
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะเวทัลละ,
แต่เธอย่อมรู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา.
ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่าธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.


ภิกษุ! ภิกษุผู้มากด้วยปริยัติเราก็แสดงแล้ว, ผู้มากด้วยการบัญญัติเราก็
แสดงแล้ว, ผู้มากด้วยการสาธยายเราก็แสดงแล้ว, ผู้มากด้วยการคิดเราก็แสดงแล้ว,
และธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรมเราก็แสดงแล้ว ด้วยประการฉะนี้.

ภิกษุ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดูแสวงหาประโยชน์เกื้อกุล อาศัยความเอ็นดูแล้ว
จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย กิจอันนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย ภิกษุ !
นั่น โคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย.
ภิกษุ !เธอทั้งหลาย จงเพียรเผากิเลส, อย่าได้เป็นผู้ประมาท; เธอทั้งหลายอย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ
ในภายหลังเลย. นี่แล เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนเธอทั้งหลายของเรา.

พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๐๐/๗๔.

-----------------------------------------------------
ภิกษุ ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด)
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะเวทัลละ,
แต่เธอไม่ใช่วันทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการเรียนธรรมนั้น ๆ ไม่
เริดร้างจากการหลีกเร้น ประกอบตามซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจในภายใน
เนือง ๆ . ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่า ธรรมวิหารี-ผู้อยู่ด้วยธรรม.


ภิกษุ ! ผู้มากด้วยปริยัติเราก็แสดงแล้ว, ผู้มากด้วยบัญญัติเราก็แสดงแล้ว,
ผู้มากด้วยการสาธยายเราก็แสดงแล้ว, ผู้มากด้วยการคิดเราก็แสดงแล้ว,
และธรรมวิหารี – ผู้อยู่ด้วยธรรมเราก็แสดงแล้ว ด้วยประการฉะนี้.

ภิกษุ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดูแสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว
จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย กิจอันนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย.
ภิกษุ! นั่น โคนไม้ทั้งหลาย. นั่น เรือนว่างทั้งหลาย.

ภิกษุ! เธอทั้งหลาย จงเพียรเผากิเลส, อย่าได้เป็นผู้ประมาท, เธอทั้งหลาย อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แล เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนเธอทั้งหลายของเรา.


พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ ๒๒/๙๙/๗๓.
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 153 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร