ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20290 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | maw [ 27 ม.ค. 2009, 20:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | BlackHospital [ 27 ม.ค. 2009, 23:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย |
ดูก่อนอานนท์! คราวหนึ่ง เราอยู่ที่ป่าไผ่ เป็นที่ให้เหยื่อแก่กระแต ใกล้ กรุงราชคฤห์ นี่เอง.ครั้งนั้น เวลาเช้า เราครองจีวรถือบาตร เพื่อไปบิณฑบาตใน กรุงราชคฤห์ คิดขึ้นมาว่า ยังเช้าเกินไปสำหรับการบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ ถ้าไฉน เราเข้าไปสู่อารามของปริพพาชก ผู้เป็นเดียรถีย์เหล่าอื่นเถิด. ดูก่อนอานนท์! เราได้เข้าไปสู่อารามของปริพพาชก ผู้เป็นเดียรถีย์เหล่าอื่น กระทำสัมโมทยียกถาแก่กันและกัน นั่งลง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง. ดูก่อนอานนท์! ปริพพาชกผู้เป็นเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น ได้กล่าวแก่เราผู้นั่งแล้ว อย่างนี้ว่า “ท่านโคตมะ! มีสมณ-พราหมณ์บางพวกที่กล่าวสอนเรื่องกรรม ย่อมบัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ตนทำเอาด้วยตนเอง; มีสมณพราหมณ์อีกบางพวกที่กล่าวสอนเรื่องกรรม ย่อมบัญญัติความทุกข์ว่าเป็นสิ่งที่ผู้อื่นกระทำให้; มีสมณพราหมณ์อีกบางพวกที่กล่าวสอนเรื่องกรรม ย่อมบัญญัติความทุกข์ว่า เป็นสิ่งที่ตนทำเอาด้วยตนเองด้วย ผู้อื่นทำให้ด้วย; มีสมณพราหมณ์อีกบางพวก ที่กล่าวสอนเรื่องกรรม ย่อมบัญญัติความทุกข์ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทำเองหรือใครทำให้ก็เกิดขึ้นได้. ในเรื่องนี้ ท่านโคตมะของพวกเรา จะพูดว่าอย่างไร จะกล่าวว่าอย่างไร; และพวกเรากล่าวอยู่อย่างไร จึงจะเป็นอันกล่าวตามคำที่ท่านโคตมะกล่าวแล้ว, ไม่เป็น การกล่าวตู่ด้วยคำไม่จริง แต่เป็นการกล่าวโดยถูกต้อง และสหธรรมิกบางคนที่กล่าวตาม จะไม่พลอยเป็นผู้ควรถูกติเตียนไปด้วย?" ดังนี้. ดูก่อนอานนท์! เราเมื่อถูกถามอย่างนี้แล้ว ได้ตอบแก่ปริพพาชกเหล่านั้นว่า "ดูก่อนท่านทั้งหลาย! ทุกข์นั้นเรากล่าวว่า เป็นเพียงสิ่งที่อาศัยปัจจัยอย่างใดอย่าง หนึ่งแล้วเกิดขึ้น (เรียกว่า ปฏิจจสมุปปันธรรม). ทุกข์นั้น อาศัยปัจจัยอะไรเล่า? ทุกข์นั้น อาศัยปัจจัยคือผัสสะ. ผู้กล่าวอย่างนี้แลชื่อว่ากล่าวตรงตามที่เรากล่าว, ไม่เป็นการกล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง แต่เป็นการกล่าวโดยถูกต้อง และสหธรรมิกบางคน ที่กล่าวตาม ก็จะไม่พลอยกลายเป็นผู้ควรถูกติไปด้วย. ดูก่อนท่านทั้งหลาย! ในบรรดาสมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมทั้งสี่พวกนั้น : สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ตนทำเอาด้วยตนเอง; แม้ความทุกข์ที่พวกเขาบัญญัตินั้น ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีได้. สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ผู้อื่นทำให้; แม้ความทุกข์ที่พวกเขาบัญญัตินั้น ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดมีได้. สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ตนทำเอาด้วยตนเองด้วย ผู้อื่นทำให้ด้วย; แม้ความทุกข์ที่พวกเขาบัญญัตินั้น ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดมีได้. ถึงแม้สมณพรามหณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทำเองหรือใครทำให้เกิดขึ้นได้ ก็ตาม; แม้ความทุกข์ที่พวกเขาบัญญัตินั้น ก็ยังต้องอาศัยผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดมีได้ อยู่นั่นเอง. ดูก่อนท่านทั้งหลาย! ในบรรดาสมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมทั้งสี่พวกนั้น : สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ตนทำเอาด้วยตนเอง; สมณพราหมณ์พวกนั้นหนา เว้นผัสสะเสียแล้ว จะรู้สึกต่อความทุกข์นั้นได้ ดังนั้นหรือ : นั่นไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้. ถึงแม้สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าเป็นสิ่งที่ผู้อื่นทำให้ ก็ตาม; สมณพราหมณ์พวกนั้นหนา เว้นผัสสะเสียแล้ว จะรู้สึกต่อความทุกข์นั้นได้ ดังนั้นหรือ : นั่นไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้. ถึงแม้สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ว่าเป็นสิ่งที่ตนทำเอาด้วยตนเองด้วย ผู้อื่นทำให้ด้วย ก็ตาม; สมณพราหมณ์พวกนั้นหนา เว้นผัสสะเสียแล้ว จะรู้สึกต่อความทุกข์นั้นได้ดังนั้นหรือ : นั่นไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้. ถึงแม้สมณพราหมณ์ที่กล่าวสอนเรื่องกรรมพวกใด บัญญัติความทุกข์ ว่าที่ไม่ใช่ทำเองหรือใครทำให้ก็เกิดขึ้นได้ ก็ตาม; สมณพราหมณ์พวกนั้นหนาเว้นผัสสะเสียแล้วจะรู้สึกต่อความทุกข์นั้นได้ ดังนั้นหรือ : นั่นไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้", ดังนี้. สูตรที่ ๔ ทสพลวรรค นิทานสังยุตต์ นิทาน.สํ. ๑๖/๔๑/๗๖, ตรัสแก่พระอานนท์ ที่เวฬุวัน. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 28 ม.ค. 2009, 09:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย |
ธรรมดาของมนุษย์ครับที่เวลาเกิดเหตุร้ายหรือมีเรื่องอะไรไม่ดีๆ ก็มักจะกล่าวโทษผู้อื่น หรือถ้าไม่มีใครให้กล่าวโทษก็จะไปโทษว่าเป็นเรื่องของโชคร้าย ทั้งนี้เพราะทำใจยอมรับไม่ได้ว่าเรื่องร้ายต่างๆเกิดขึ้นจากตัวเอง(ผลกรรมของตน) |
เจ้าของ: | ว่างเปล่า [ 28 ม.ค. 2009, 10:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย |
maw เขียน: :b8: จริงมั้ย ![]() ![]() งง ![]() ไม่เข้าใจ น่าจะยกตัวอย่างหน่อย ![]() เคราะห์หามยามร้าย นี่มันน่าจะเป็นเรื่องของ เวลาที่ประสบ พบกับสิ่งที่ไม่ดี เวรกรรม มันน่าจะหมายถึง การกระทำที่ผูกพันกันไว้ เกี่ยวเนื่องกันมา ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | maw [ 28 ม.ค. 2009, 21:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย |
![]() ![]() แต่ในด้านของข้าพเจ้าก็ยังมองเป็นเวรกรรมต่อกัน เพราะมนุษย์ถ้าไม่เคยมีการกระทำต่อกันมาไม่รู้ภพไหนชาติไหน ก็คงจะไม่ได้มาเจอกันมีเวรผูกต่อกันเช่น คนเคยรู้จักเขาเป็นเด็กดีมากตั้งใจเรียนไม่เกเร เหมือนกับยกตัวอย่างข้างต้นนั่นละค่ะ ทางบ้านน้องคนนี้เขาถือว่าคงเป็นคราวเคราะห์ของเขาหรืออีกอย่างหนึ่งก็คงเป็นเมื่อชาติก่อนเคยกระทำกันมา ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |