ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ” (มีรูปศพ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20056
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  surangrat [ 14 ม.ค. 2009, 19:32 ]
หัวข้อกระทู้:  หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ” (มีรูปศพ)

หลายชีวิตที่มาจากต่างสถานที่ ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต้องมาจบชีวิตที่สถานที่แห่งนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเพราะกรรมจัดสรรเพราะติดอบายมุข

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๐

กถาว่าด้วยอบายมุข ๖

[๑๗๘] อริยสาวกไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลาย เป็นไฉน
ดูก่อนคฤหบดีบุตร
การเสพน้ำเมา คือสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลายประการ ๑
การเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืน เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลายประการ การเที่ยวดูมหรสพ
เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลายประการ ๑
การเล่นการพนัน อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลายประการ ๑
การคบคนชั่วเป็นมิตร เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลายประการ ๑
ความเกียจคร้าน เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะทั้งหลายประการ ๑

[๑๗๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเสพน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ คือ
ความเสื่อมทรัพย์อันผู้เสพพึงเห็นเอง ๑
ก่อการทะเลาะวิวาท ๑
เป็นบ่อเกิดแห่งโรค ๑
เป็นเหตุเสียชื่อเสียง ๑
เป็นเหตุไม่รู้จักอาย ๑
เป็นเหตุทอนกำลังปัญญา ๑
ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเสพน้ำเมา คือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล

[๑๘๐] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในกามเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืน ๖ ประการ คือ
ชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาตัว ๑ ชื่อว่าไม่คุ้มครอง
ไม่รักษาบุตรภรรยา ๑
ชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาทรัพย์สมบัติ ๑
เป็นที่ระแวงของคนอื่น ๑
คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้น ๆ ย่อมปรากฏในผู้นั้น ๑
ทำให้เกิดความลำบากมาก ๑
ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๑

๖ ประการในการเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืนเหล่านี้แล

[๑๘๑] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเที่ยวดูมหรสพ ๖ ประการ คือ
รำที่ไหนไปที่นั่น ๑
ขับร้องที่ไหนไปที่นั้น ๑
ประโคมที่ไหนไปที่นั้น ๑
เสภาที่ไหนไปที่นั้น
เพลงที่ไหนไปที่นั้น ๑
เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั้น ๑
ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเที่ยวดูมหรสพ เหล่านี้แล

[๑๘๒] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเล่นการพนัน อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ คือ
ผู้ชนะย่อมก่อเวร ๑
ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป ๑
ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ๑
ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน ซึ่งไปพูดที่ประชุมฟังไม่ขึ้น ๑
ถูกมิตรอำมาตย์หมิ่นประมาท ๑
ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่าชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา ๑
ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเล่นการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล

[๑๘๓] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการคบคนชั่วเป็นมิตร ๖ ประการ คือ
นำให้เป็นนักเลงการพนัน
นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้ ๑
นำให้เป็นนักเลงเหล้า ๑
นำให้เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม ๑
นำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า ๑
นำให้เป็นคนหัวไม้ ๑
ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการคบคนชั่วเป็นมิตรเหล่านี้แล

[๑๘๔] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเกียจคร้าน ๖ ประการคือ
มักให้อ้างว่าหนาวนักแล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่าร้อนนักแล้ว

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๒

ไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่าเย็นแล้ว แล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่ายังเข้าอยู่ แล้วไม่ทำการงาน
มักให้อ้างว่าหิวนักแล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่ากระหายนัก แล้วไม่ทำการงาน ๑
เมื่อ เขามากไปด้วยการอ้างเลศ ผัดเพี้ยนการงานอยู่อย่างนี้ โภคะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว
ก็ถึงความเสื่อมสิ้นไป. ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเกียจ
คร้านเหล่านี้แล. พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์
ภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

[๑๘๕] เพื่อนในโรงสุราก็มี เพื่อนกล่าวแต่ปาก
ว่าเพื่อน ๆ ก็มี ส่วนผู้ใดเป็นสหาย เมื่อความ
ต้องการเกิดขึ้นแล้ว ผู้นั้นจัดว่าเป็นเพื่อนแท้.เหตุ ๖ ประการเหล่านี้คือ
การนอนสาย ๑
การเสพภรรยาผู้อื่น ๑
การผูกเวร ๑
ความเป็นผู้ทำแต่สิ่งหาประโยชน์มิได้ ๑
มิตรชั่ว ๑
ความเป็นผู้ตระหนี่เหนี่ยวแน่น ๑
ย่อมกำจัดบุรุษเสียจากประโยชน์สุขที่จะพึงได้ พึงถึง.
คนมีมิตรชั่วมีมารยาทและโคจรชั่ว ย่อม
เสื่อมจากโลกทั้งสองคือ จากโลกนี้และจากโลกหน้า.
เหตุ ๖ ประการ คือ
การพนันและหญิง ๑

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๓

สุรา ๑
ฟ้อนรำขับร้อง ๑
นอนหลับในกลางวัน
บำเรอตนในสมัยมิใช่กาล ๑
มิตรชั่ว ๑
ความตระหนี่เหนียวแน่น ๑
เหล่านี้ย่อมกำจัดบุรุษ เสียจากประโยชน์ที่จะพึงได้ พึงถึง.
ชนเหล่าใดเล่นการพนัน ดื่มสุรา เสพหญิง
ภรรยาที่รักเสมอด้วยชีวิตของผู้อื่น คบแต่คน
ต่ำช้า และไม่คบหาคนที่มีความเจริญ ย่อม
เสื่อมดุจดวงจันทร์ในข้างแรม ผู้ใดดื่มสุรา
ไม่มีทรัพย์ หาการงานทำเลี้ยงชีวิตมิได้ เป็น
คนขี้เมาปราศจากสิ่งเป็นประโยชน์ เขาจักจม
ลงสู่หนี้เหมือนก้อนหินจมน้ำฉะนั้น จักทำ
ความอากูลแก่ตนทันที.
คนที่ปรกตินอนหลับในกลางวัน เกลียด-
ชังการลุกขึ้นในกลางคืน เป็นนักเลงขี้เมา
เป็นนิจไม่อาจครอบครองเรือนให้ดีได้ ประ-
โยชน์ทั้งหลาย ย่อมล่วงเลย ชายหนุ่มที่
ละทิ้งการงาน ด้วยอ้างว่าหนาวนัก ร้อนนัก
เวลานี้เย็นเสียแล้วดังนี้เป็นต้น ส่วนผู้ใดไม่
สำคัญความหนาว ความร้อน ยิ่งไปกว่าหญ้า
ทำกิจของบุรุษอยู่ ผู้นั้นย่อมไม่เสื่อมจาก
ความสุข ดังนี้

รูปภาพ

รูปภาพ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๔

กถาว่าด้วยมิตรเทียม

[๑๘๖] ดูก่อนคฤหบดีบุตร คน ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ
คนปอกลอก ๑
คนดีแต่พูด ๑
คนหัวประจบ ๑
คนชักชวนในทางฉิบหาย ๑
ท่านพึงทราบว่าไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร.

[๑๘๗] ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนปอกลอกท่านพึงทราบว่าไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตรโดยสถาน ๔ คือ
เป็นคนคิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ๑
เสียให้น้อยคิดเอาให้ได้มาก ๑
ไม่รับทำกิจของเพื่อนในคราวมีภัย ๑
คบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัว ๑.
คฤหบดี บุตร คนปอกลอกท่าน พึงทราบว่าไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.

[๑๘๘] ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนดีแต่พูด ท่านพึงทราบว่าไม่ใช่มิตร แต่เป็นคนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ คือ
เก็บเอาของล่วงแล้วมาปราศรัย ๑
อ้างเอาของที่ยังไม่มาถึงมาปราศรัย ๑
สงเคราะห์ด้วยสิ่งหาประโยชน์มิได้ ๑
เมื่อกิจเกิดขึ้นแสดงความขัดข้อง (ออกปากพึ่งมิได้) ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนดีแต่พูดท่านพึงทราบว่า ไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน๔ เหล่านี้แล.

[๑๘๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนหัวประจบ ท่านพึงทราบว่าไม่ใช่
มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ คือ
ตามใจเพื่อน ให้ทำความชั่ว (จะทำชั่วก็คล้อยตาม) ๑
ตามใจเพื่อนให้ทำความดี (จะทำดีก็คล้อยตาม) ต่อหน้าก็สรรเสริญ ๑
ลับหลังนินทา ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนหัวประจบ ท่านพึงทราบว่าไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๕

[๑๙๐] ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนชักชวนในทางฉิบหาย ท่านพึงทราบว่าไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ คือ
ชักชวนให้ดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑
ชักชวนให้เที่ยวตามตรอกต่างๆ ในเวลากลางคืน ๑
ชักชวนให้ดูการมหรสพ ๑
ชักชวนให้เล่นการพนัน อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑
ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนชักชวนในทางฉิบหาย ท่านพึงทราบว่า ไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้แล้ว
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

[๑๙๑] บัณฑิตผู้รู้แจ้งมิตร ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ
มิตรปอกลอก ๑
มิตรดีแต่พูด ๑
มิตรหัวประจบ ๑
มิตรชักชวนในทางฉิบหาย
ว่าไม่ใช่มิตรแท้ พึงเว้นเสียให้ห่างไกล เหมือนคนเดินทาง เว้นทางที่มีภัยเฉพาะหน้า ฉะนั้น

[๑๙๒] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตร ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ
มิตรมีอุปการะ ๑
มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
มิตรแนะประโยชน์
มิตรมีความรักใคร่ ๑
ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรมีใจดี (เป็นมิตรแท้).

กถาว่าด้วยมิตรแท้

[๑๙๓] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีอุปการะ ท่านพึงทราบว่า
เป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ คือ
รักษาเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๑
รักษาทรัพย์ สมบัติของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๑
เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งพำนักได้ ๑
เมื่อกิจที่

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๖

จำต้องทำเกิดขึ้น เพิ่มทรัพย์ให้สองเท่า ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีอุปการะท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.

[๑๙๔] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ คือ
บอกความลับแก่เพื่อน ๑
ปิดความลับของเพื่อน ๑
ไม่ละทิ้งในเหตุอันตราย ๑
แม้ชีวิตก็อาจสละเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนได้ ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ท่านพึงทราบว่า เป็นมิตรแท้โดยสถาน เหล่านี้แล.

[๑๙๕] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรแนะประโยชน์ ท่านพึงทราบ ว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ คือ
ห้ามจากความชั่ว ๑
ให้ตั้งอยู่ในความ ดี ๑
ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ๑
บอกทางสวรรค์ให้ ๑.
ดู ก่อนคฤหบดีบุตร มิตรแนะประโยชน์ ท่านพึงทราบว่า เป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.

[๑๙๖] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่ พึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ คือ
ไม่ยินดีด้วยความเสื่อมของเพื่อน ๑
ยินดีด้วยความเจริญของเพื่อน.
ห้ามคนที่กล่าวโทษเพื่อน ๑
สรรเสริญคนที่ สรรเสริญเพื่อน ๑.
ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่ ท่านพึงทราบว่าเป็นมิตรแท้ โดยสถาน ๔ เหล่านี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตแล้ว จึง
ได้ ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

[๑๙๗] บัณฑิตรู้แจ้งมิตร ๔ จำพวก เหล่านี้ คือ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๗

มิตรมีอุปการะ ๑
มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ๑
มิตรแนะประโยชน์ ๑
มิตรมีความรักใคร่ ๑
ว่าเป็นมิตรแท้ฉะนี้แล้ว พึงเข้าไป คบหาโดยเคารพ
เหมือนมารดากับบุตรฉะนั้น.
บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองส่อง
สว่างเพียงดังไฟ เมื่อบุคคลสะสมโภคสมบัติ
อยู่เหมือนแมลงผึ้งสร้างรัง โภคสมบัติย่อมถึง
ความเพิ่มพูนดุจจอมปลวกอันตัวปลวกก่อขึ้นฉะนั้น
คฤหัสถ์ในตระกูลผู้สามารถ ครั้นสะสม
โภคสมบัติได้อย่างนี้ พึงแบ่งโภคสมบัติ
ออกเป็น ๔ ส่วน เขาย่อมผูกมิตรไว้ได้ พึงใช้
สอยโภคทรัพย์ด้วยส่วนหนึ่ง พึงประกอบการ
งานด้วยสองส่วน พึงเก็บส่วนที่สี่ไว้ด้วย
หมายจักมีไว้ในยามมีอันตราย ดังนี้

เจ้าของ:  อินทรีย์5 [ 15 ม.ค. 2009, 12:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ”

เห็นภาพแล้วผม ต้องกำหนด "เห็นหนอ ๆ ๆ" ภาพที่เห็นชัดกว่าในหนังสือพิมพ์และทีวีอีก เห็นแล้วน่ากลัวจริงๆ เป็นนรกบนดินชัดๆๆ คนเราไปเที่ยวไหนต้องพกสติสัมปชัญญะไปด้วย ถึงจะไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนก็อย่าได้ประมาท เปลวไฟอันร้อนแรงเพียงห้านาที ก็ทำให้ทุกอย่างทุกชีวิตสลายไปได้ในพริบตา......
ขอให้เพื่อนที่เสียชีวิตไปสู่สุคติครับ ....... :b8:

เจ้าของ:  AAAA [ 15 ม.ค. 2009, 15:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ”

ขออนุโมทนากับธรรมทาน :b8: :b8: :b8:

ขอเพื่อนสรรพชีวิตจงพิจารณาให้เห็นเป็น มรณานุสติ

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 15 ม.ค. 2009, 15:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ”

ควรจะใส่วงเล็บที่ชื่อกระทู้ด้วยทำนองว่า "มีรูปศพ" เพื่อเตือนคนดูว่าต้องเจอกับอะไรถ้าเปิดกระทู้
เพราะคนดูมีหลายธาตุ รับได้ไม่เท่ากัน
บางคนไม่อยากดูรูปพวกนี้


เจ้าของ:  mes [ 15 ม.ค. 2009, 16:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ”

กราบขออภัยท่านทั้งหลายที่แสดงความคิดเห็นและแพร่ภาพครับ

มารยาทในการแพร่ภาพและแสดงความคิดเห็นเราต้องคิดถึงจิตใจของญาติผู้เคราะห์ร้ายด้วย

อย่าให้การแสดงธรรมเป็นเหมือนการซ้ำเติม

อย่างไรเสียก็เพื่อนร่วมโลก

อีกประการหนึ่งของผู้ปฏิบัติธรรมต้องไม่รู้สึกว่าตนมีคุณธรรมเหนือผู้อื่นครับ

เจ้าของ:  surangrat [ 15 ม.ค. 2009, 20:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ”

ความจริงเป็นเรื่องเจ็บปวดควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริง เพราะทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเป็นธรรมะทั้งนั้น
มองโลกตามความเป็นจริงจะพบว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" มิใช่เรื่องน่าแปลกเพราะทุกสิ่งมัน
เป็นของมันอย่างนั้นเอง ขอให้มี เมตา กรุณา มุตทิตา อุเบกขา เพราะชีวิตคือการเรียนรู้

เจ้าของ:  อวบอั๋นขั้นสุดท้าย [ 15 ม.ค. 2009, 23:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ”

:b8: ขอให้ไปสู่สุขติครับ :b8:

น่าสงสารมากขอรับ อนิจังวัฏสังขารา

เจ้าของ:  Duangtip [ 06 ส.ค. 2022, 12:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ” (มีรูปศพ)

Onion_no :b5:

ไฟไหม้ผับ Mountain B สัตหีบ ชลบุรี
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “ซานติก้าผับ” ย่านเอกมัย 11

เจ้าของ:  ดาราวรรณ [ 04 เม.ย. 2023, 16:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ” (มีรูปศพ)

s002

เจ้าของ:  sirinpho [ 16 ม.ค. 2024, 09:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลายชีวิตใน “ซานติก้าผับ” (มีรูปศพ)

:b8: :b8: :b8:
เข้ามาดูอีกครั้ง ก็สลด ได้ปัญญาอีกทีค่ะ สาธุ cry :b7:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/