ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=20048
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 14 ม.ค. 2009, 09:51 ]
หัวข้อกระทู้:  บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

บทเรียน บทที่ 4 นี้ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำว่า "จิต ในทางพุทธศาสนา" อันจัดอยู่ในพระปิฏก "พระอภิธรรมปิฏก"
เพื่อให้ท่านทั้งหลายที่สนใจศึกษา ในด้านพุทธศาสนา ได้ศึกษาและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องของจิต เพื่อให้เกิดความรู้ ที่ถูกต้อง เพราะส่วนใหญ่ จะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ "จิต" ไปในทางที่ผิดๆ

จิต ในทางพุทธศาสนา หมายถึง "อวัยวะและระบบการทำงานของสรีระร่างกายทุกส่วน" อันทำให้เกิดธรรมชาติในการรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสรีระร่างกาย
การรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ฯ ล้วนย่อมแบ่งออกเป็น การกระทำ ทั้งทางกาย วาจา และใจ ทั้งฝ่ายดี และฝ่ายไม่ดี อีกทั้งยังแบ่งแยกไปตามที่ปรากฏมีอยู่ในพระไตรปิฏก ได้อีกมากมาย ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องใช้สมองมาก อาจเกินกำลังของท่านทั้งหลายได้

ท่านทั้งหลายโปรดได้รู้ และจดจำเอาไว้ อย่าได้คิดว่า จิต ในทางพุทธศาสนา เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือเป็นเรื่องที่ลี้ลับ คำว่า "จิต" ในทางพุทธศาสนา เป็นหลักวิทยาศาสตร์ หมายรวมถึงอวัยวะต่างๆ ตั้งแต่ขนาดเล็กที่สุด ที่ทางวิทยาศาสตร์ (สาขาชีวะวิทยา) เรียกว่า "นิวเคลียส์" "เซล" อวัยวะ" ต่างๆ รวมไปถึง ระบบการทำงานของสรีระร่างกายแห่งสรรพสิ่งที่มีชีวิต
ดังนั้น การปรุงแต่ง ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ย่อมเกิดจากการได้รับการสัมผัส ทางอายตนะภายใน และภายนอก
อายตนะภายในได้แก่ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ส่วนอายตนะภายนอก ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง แสง สี โผฏฐัพพะ

คำว่า ใจ ในทางพุทธศาสนานั้น หมายถึง หัวใจ และสมอง รวมไปถึงระบบการทำงานที่เกี่ยวข้อง กับหัวใจ และสมอง อย่างนี้เป็นต้น

ดังนั้น ไม่ว่า การรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ใดใด ก็ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับจิต คือ เกี่ยวข้องกับ "อวัยวะและระบบการทำงานของสรีระร่างกายทุกส่วน" มิได้เกิดขึ้นจากอวัยวะใด อวัยวะหนึ่ง แต่จะเกี่ยวข้องกันในหลายๆอวัยวะ

ในบทเรียนนี้ จะนับว่า เป็นหลักวิชชาการ ที่ให้ท่านทั้งหลายได้เรียนรู้ และทำความเข้าใจ เกี่ยวกับคำว่า "จิต" ได้อย่างถูกต้อง และเป็นแนวทางเดียวกัน เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ไม่คิดแตกแยก เอาคำว่า "จิต" ไปบิดเบือนจากสิ่งที่ข้าพเจ้าสอนไว้นี้
ถึงแม้ว่า ข้าพเจ้าจะอธิบายได้ไม่ละเอียดนัก แต่ก็ย่อมเพียงพอต่อการได้รู้ และเกิดความเข้าใจ ได้อย่างถ่องแท้

สรุป แล้ว คำว่า "จิต ในทางพุทธศาสนา" เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ สาขาชีวะวิทยา (หมายเอาเฉพาะด้าน ซึ่ง ความจริงแล้ว จะเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับสาขาวิชาการด้านอื่นๆอีกหลายด้าน) อันมีความหมายถึง " อวัยวะและระบบการทำงานของสรีระร่างกายทุกส่วน" อันทำให้เกิดธรรมชาติ ในการรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสรีระร่างกาย"

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 14 ม.ค. 2009, 19:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

"อวัยวะและระบบการทำงานของสรีระร่างกายทุกส่วน" เป็นแค่เครื่องมือในการรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิดเท่านั้น พูดง่ายๆ มันเป็นหุ่นยนต์

แต่จิตเป็นตัวพลังงานส่งให้หุ่นยนต์ตัวนั้นทำงาน โดยจิตไป copy ระบบการทำงานของร่างกายหรือหุ่นยนต์มา แล้วเข้าไปสิงในหุ่นยนต์ตัวนั้น

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 15 ม.ค. 2009, 19:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

นื่องจาก ในวันที่ 16 มกราคม นี้ เป็นวันครู
ข้าพเจ้าขอระลึกนึกถึงคุณครูอาจารย์ ทั้งหลาย ทั้งที่ล่วงลับไปแล้ว และที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ท่านทั้งหลาย ได้มีความเป็นอยู่ที่สงบสุข อย่าได้มีเหตุเภทภัย ความไม่สบายใจใดใดเลย
ขอระลึกนึกถึงคุณความดีของท่านทั้งหลาย ที่ได้ช่วยอนุเคราะห์ เมตตา อบรมสั่งสอน ให้ความรู้ ให้ข้อคิด ให้เรียนรู้หลักวิทยาการ และหลักวิชชาการด้านต่างๆ ให้กับข้าพเจ้า
รวมไปถึง บิดา มารดา ญาติผู้ใหญ่ ฯลฯ ผู้เปรียบเสมือน ครู อาจารย์ ขอให้ท่านท้ังหลายที่ข้าพเจ้ากล่าวถึง ประสบความสุข ทั้งกาย และใจ ตลอดยิ่งๆขึ้นไปเถิดขอรับ

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 16 ม.ค. 2009, 20:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
"อวัยวะและระบบการทำงานของสรีระร่างกายทุกส่วน" เป็นแค่เครื่องมือในการรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิดเท่านั้น พูดง่ายๆ มันเป็นหุ่นยนต์

แต่จิตเป็นตัวพลังงานส่งให้หุ่นยนต์ตัวนั้นทำงาน โดยจิตไป copy ระบบการทำงานของร่างกายหรือหุ่นยนต์มา แล้วเข้าไปสิงในหุ่นยนต์ตัวนั้น


เขาเรียกว่า "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับมากระเดียด" ไม่รู้แต่อยากจะอวดรู้ อวดฉลาด
ไม่รู้รับเงินใครมา เข้าข่ายก่อกวน นะขอรับ
ถ้าถามไป ก็ตอบไม่ได้อีกนั้นแหละ เขียนได้แต่ตอบไม่ได้ คน หรือ ว่า อะไรนะผู้ใช้ชื่อว่า
"พลศักดิ์"

ถ้ารู้จริง ขอถามสักหน่อยซิว่า
"คำว่า จิต เป็นต้วพลังงาน"
มันมีลักษณะอาการ หรือกระบวนการ ของการเกิดพลังงานอย่างไรพลังงานของจิต มาจากไหน เช่น เป็นพลังงานกล หรือว่า เป็นพลังงานศักย์ หรือว่า เป็นพลังงานจลน์ หรือว่าเป็นพลังงาน นิวเคลียส์ หรือว่า เป็นพลังไฟฟ้า หรือว่า เป็นพลังงานรูปแบบใด
ถ้าตอบไม่ได้ ขอให้ทีมงานธรรมจักร ช่วย เขี่ย ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ไปสักพักเถอะนะ เพราะเขาชอบอวดอุตริ เกินไป ชอบบิดเบือนคำสอน บิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน โรคจิตประสาทจริงๆ

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 17 ม.ค. 2009, 12:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

555555555

สองท่านนี้มาเจอกันทีไร ผมอดฮาไม่ได้จริงๆขอรับ

:b13: :b13: :b13:

เจ้าของ:  natdanai [ 17 ม.ค. 2009, 14:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  natdanai [ 17 ม.ค. 2009, 14:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

Astroboy ไม่สนใจบ้างหรอ เรื่องของพลังงานจิต.... :b6:

กระผมว่าท่าน Buddha ตอบท่านได้แน่ เพราะท่านBuddhaท่านว่า ท่านได้ทำการศึกษาค้นคว้า และพิสูจน์แล้วว่าความจริงของธรรมะเป็นเช่นไร และคงจะอธิบายให้ท่านเข้าใจได้ (เอ...แต่ไม่รู้ว่าAstroboyจะมีบุญมากพอที่จะให้ท่าน Buddha มาโปรดรึป่าว) :b13:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 17 ม.ค. 2009, 14:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

เริ่มยกที่ 1 เอ้า! โดนไปแล้ว 1 ดอก
ล้อเล่นนะครับ อิอิ
ถกปัญหาธรรมกันก็ดีครับ จะได้รู้ว่าแต่ละคนมีความเห็นแตกต่างกันอย่างไร
แต่ก็มีความเมตตากรุณาต่อกันนะครับ เพราะแต่ละท่านก็ถือว่า
เป็นผู้ร่วมศึกษาธรรม ผู้ร่วมบำเพ็ญเหมือนกัน :b8:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 19 ม.ค. 2009, 12:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

natdanai เขียน:
Astroboy ไม่สนใจบ้างหรอ เรื่องของพลังงานจิต.... :b6:

กระผมว่าท่าน Buddha ตอบท่านได้แน่ เพราะท่านBuddhaท่านว่า ท่านได้ทำการศึกษาค้นคว้า และพิสูจน์แล้วว่าความจริงของธรรมะเป็นเช่นไร และคงจะอธิบายให้ท่านเข้าใจได้ (เอ...แต่ไม่รู้ว่าAstroboyจะมีบุญมากพอที่จะให้ท่าน Buddha มาโปรดรึป่าว) :b13:


คำถามเหล่านั้น เป็นคำถามของข้าพเจ้า ถามผู้ใฃ้ชื่อว่า "พลศักดิ์" เพราะเขาชอบอวดรู้ อวดฉลาด บิดเบือน เพ้อเจ้อ สติเฟือง และยังมีอีกหลายคน เช่น ผู่ใช้ชื่อว่า "จัญไรพร" ที่ชอบเถียง ไม่รู้เหตุไม่รู้ผล อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจ บ้า เซ่อ เขลา แล้ว ยังคิดว่า คนอื่นบ้า น่าหัวร่อ

คำถามเหล่านั้น ข้าพเจ้าย่อมอธิบายได้อยู่แล้ว แต่ไม่อธิบายดอกนะ เพราะต้องการคำตอบจาก ผู้ใช้ชื่อว่า"พลศักดิ์" ถ้าเขาไม่ตอบ หรือตอบไม่ได้ เฉไฉเป็นอย่างอื่น ก็ขอความกรุณา ทีมงาน ช่วยเขี่ยผู้ใช้ชื่อว่า พลศักดิ์ ไปสักพัก เพราะมันเป็นการ ก่อกวนผู้อื่น ทำให้ผู้ที่ไม่รู้หลงผิด เข้าข่ายหลอกลวง พิสูจนไม่ได้ และข้าพเจ้าเอาคำถามนั้นมาลงไว้ตรงนี้อีกว่า

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
"อวัยวะและระบบการทำงานของสรีระร่างกายทุกส่วน" เป็นแค่เครื่องมือในการรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิดเท่านั้น พูดง่ายๆ มันเป็นหุ่นยนต์

แต่จิตเป็นตัวพลังงานส่งให้หุ่นยนต์ตัวนั้นทำงาน โดยจิตไป copy ระบบการทำงานของร่างกายหรือหุ่นยนต์มา แล้วเข้าไปสิงในหุ่นยนต์ตัวนั้น


เขาเรียกว่า "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับมากระเดียด" ไม่รู้แต่อยากจะอวดรู้ อวดฉลาด
ไม่รู้รับเงินใครมา เข้าข่ายก่อกวน นะขอรับ
ถ้าถามไป ก็ตอบไม่ได้อีกนั้นแหละ เขียนได้แต่ตอบไม่ได้ คน หรือ ว่า อะไรนะผู้ใช้ชื่อว่า
"พลศักดิ์"

ถ้ารู้จริง ขอถามผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์"สักหน่อยซิว่า
"คำว่า จิต เป็นต้วพลังงาน"
มันมีลักษณะอาการ หรือกระบวนการ ของการเกิดพลังงานอย่างไรพลังงานของจิต มาจากไหน เช่น เป็นพลังงานกล หรือว่า เป็นพลังงานศักย์ หรือว่า เป็นพลังงานจลน์ หรือว่าเป็นพลังงาน นิวเคลียส์ หรือว่า เป็นพลังไฟฟ้า หรือว่า เป็นพลังงานรูปแบบใด
ถ้าตอบไม่ได้ ขอให้ทีมงานธรรมจักร ช่วย เขี่ย ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ไปสักพักเถอะนะ เพราะเขาชอบอวดอุตริ เกินไป ชอบบิดเบือนคำสอน บิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน โรคจิตประสาทจริงๆ

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 20 ม.ค. 2009, 19:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

อมิตาพุทธ เขียน:
เริ่มยกที่ 1 เอ้า! โดนไปแล้ว 1 ดอก
ล้อเล่นนะครับ อิอิ
ถกปัญหาธรรมกันก็ดีครับ จะได้รู้ว่าแต่ละคนมีความเห็นแตกต่างกันอย่างไร
แต่ก็มีความเมตตากรุณาต่อกันนะครับ เพราะแต่ละท่านก็ถือว่า
เป็นผู้ร่วมศึกษาธรรม ผู้ร่วมบำเพ็ญเหมือนกัน :b8:


ธรรมะ ไม่ใช่ปัญหาดอกขอรับ เพราะธรรมะ เป็นคำสอนที่ชี้ชัดเด่นชัด คือชัดเจนอยู่แล้ว
หากคำกล่าวใด ที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเป็นธรรมะ แต่ ไม่สามารถชี้ชัดให้เกิดความเข้าใจ หรือไม่สามารถอธิบายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือไม่สามารถอธิบายได้ตามหลักธรรมชาติ หรือหลักความเป็นจริง แสดงว่าไม่ใช่ตัวหลักธรรมะ แต่เพียงกระพี้หรือรายละเอียด หรือเป็นเพียงคำอธิบาย ขยายความ ไม่ใช่หลักธรรมะที่เป็นหลักการ
การศึกษาธรรมะ ต้องคำนึงถึง หลักความเป็นจริง ถ้าจะกล่าวเป็นภาษาวิชาการ ก็ต้องกล่าวว่า "ต้องเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ ต้องเป็นไปตามหลักธรรมชาติ ต้องเป็นเป็นไป ตามหลัก ตรรกวิทยา อันสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริง เป็นจริง"
ในที่นี้จะไม่ยกตัวอย่างให้เห็นถึงธรรมะที่แท้จริงนะขอรับ
ความจริงแล้ว ถ้าข้าพเจ้าจะอธิบายให้ทุกท่านได้เข้าใจ ก็ย่อมกระทำได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอันควร ต้องให้ถึงเวลาอันควร ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ได้อ่านกันอีกครั้ง เพราะเคยอธิบายไปครั้งหนึ่งแล้ว

เจ้าของ:  พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 20 ม.ค. 2009, 23:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

Buddha เขียน:

ถ้ารู้จริง ขอถามสักหน่อยซิว่า
"คำว่า จิต เป็นต้วพลังงาน"
มันมีลักษณะอาการ หรือกระบวนการ ของการเกิดพลังงานอย่างไรพลังงานของจิต มาจากไหน เช่น เป็นพลังงานกล หรือว่า เป็นพลังงานศักย์ หรือว่า เป็นพลังงานจลน์ หรือว่าเป็นพลังงาน นิวเคลียส์ หรือว่า เป็นพลังไฟฟ้า หรือว่า เป็นพลังงานรูปแบบใด
ถ้าตอบไม่ได้ ขอให้ทีมงานธรรมจักร ช่วย เขี่ย ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ไปสักพักเถอะนะ เพราะเขาชอบอวดอุตริ เกินไป ชอบบิดเบือนคำสอน บิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน โรคจิตประสาทจริงๆ


จิตมีอยู่ 2 อย่าง

1. จิตพุทธะ หรือ นิพพานจิต ส่งนี้มันมีของมันอยู่แล้ว ไม่มีจุดเกิด ไม่มีจุดสิ้นสุด
2. จิตอวิชชา หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท จิตตัวนี้มันกิดขึ้น เมื่อตอนจิตพุทธะไปเอากิเลสอวิชชาเข้ามาไว้ในใจ

พลังงานทุกอย่างล้วนมาจากจิต ทั้งจิตพุทธะ และจิตอวิชชา สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น แต่เรื่องพวกนี้ ไม่สามารถรู้ได้โดยการคาดเดา ต้องปฏิบัติให้ถึงขั้นอริยะบุคคล คุณจึงจะทราบได้

เมื่อคุณพยายามเผยแพร่สิ่งที่เหลวไหล ผมจึงต้องออกมาค้าน ใครอุตริ ใครชอบบิดเบือนคำสอน ใครบิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน ใครเป็นโรคจิตประสาท ผมไม่รู้ แต่ไม่ใช่ผมแน่ ผมมีสัมมาทิฏฐิ 100%

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 21 ม.ค. 2009, 09:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
Buddha เขียน:

ถ้ารู้จริง ขอถามสักหน่อยซิว่า
"คำว่า จิต เป็นต้วพลังงาน"
มันมีลักษณะอาการ หรือกระบวนการ ของการเกิดพลังงานอย่างไรพลังงานของจิต มาจากไหน เช่น เป็นพลังงานกล หรือว่า เป็นพลังงานศักย์ หรือว่า เป็นพลังงานจลน์ หรือว่าเป็นพลังงาน นิวเคลียส์ หรือว่า เป็นพลังไฟฟ้า หรือว่า เป็นพลังงานรูปแบบใด
ถ้าตอบไม่ได้ ขอให้ทีมงานธรรมจักร ช่วย เขี่ย ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ไปสักพักเถอะนะ เพราะเขาชอบอวดอุตริ เกินไป ชอบบิดเบือนคำสอน บิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน โรคจิตประสาทจริงๆ


จิตมีอยู่ 2 อย่าง

1. จิตพุทธะ หรือ นิพพานจิต ส่งนี้มันมีของมันอยู่แล้ว ไม่มีจุดเกิด ไม่มีจุดสิ้นสุด
2. จิตอวิชชา หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท จิตตัวนี้มันกิดขึ้น เมื่อตอนจิตพุทธะไปเอากิเลสอวิชชาเข้ามาไว้ในใจ

พลังงานทุกอย่างล้วนมาจากจิต ทั้งจิตพุทธะ และจิตอวิชชา สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น แต่เรื่องพวกนี้ ไม่สามารถรู้ได้โดยการคาดเดา ต้องปฏิบัติให้ถึงขั้นอริยะบุคคล คุณจึงจะทราบได้

เมื่อคุณพยายามเผยแพร่สิ่งที่เหลวไหล ผมจึงต้องออกมาค้าน ใครอุตริ ใครชอบบิดเบือนคำสอน ใครบิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน ใครเป็นโรคจิตประสาท ผมไม่รู้ แต่ไม่ใช่ผมแน่ ผมมีสัมมาทิฏฐิ 100%


สติเฟือง ตอบไปมั่ว ไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจอะไรเลย ยังอุตริตอบ ถามอย่างตอบอย่าง
ข้าพเจ้าถามว่า สิ่งที่คุณกล่าวว่า "จิต เป็นตัวพลังงาน" นั้น มันเป็นพลังงานรูปแบบใด แล้วจิตที่คุณว่า เป็นตัวพลังงานนั้น มันอยู่ที่ตรงไหนของร่างกาย ลองตอบมาซิ แล้วถามต่ออีกว่า

จิตพุทธะ คือ อะไร หรือคุณ จิตพุทธะ ที่คุณกล่าวมา มีในมนุษย์ทุกคนทุกชาติ ทุกศาสนาหรือไม่
จิตนิพพาน คือ อะไร เป็น อย่างไร มนุษย์ทุกคน ทุกชาติ ทุกศาสนา มีจิตนิพพานหรือไม่


ใครอวดอุตริ ก็รู้แล้วคุณ ผู้ใช้ชื่่อว่า "พลศักดิ์" ระดับคุณ มันแค่ระดับปุถุชน ที่หลงเข้าใจว่าตัวคุณรุ้ ตัวคุณเก่ง แต่คุณไม่รุ้ตัวดอกเพราะคุณมัน เป็นโรคจิตประสาท ไม่สามารถรู้ เหตุ รู้ ปัจจัย และรู้ผล ตามหลักความเป็นจริง ตามหลักธรรมชาติ
คุณนั้น ทั้ง โง่เขลาเบาปัญญา แต่ยังโอ้อวด เพ้อเจ้อ เที่ยวเอา ศัพท์ภาษาบาลี มากล่าว แต่ไม่ได้รู้อะไรเลย คุณลองตอบมาซิที่ข้าพเจ้าถามไปข้างต้น ถามอย่างตอบอย่าง คนละเรื่อง ไม่ได้กระดิกอะไรเลย ถ้าตอบไม่ได้ ตามคำถาม หรือตอบไม่ได้ตรงคำถาม ก็ควรพิจารณาตัวเอง หยุดไปสักพักเถอะคุณ เพราะในเวบฯมีแต่คนเพียงไม่กี่คนที่เอากระทู้ขึ้นมา จะได้ให้คนที่เขาไม่รู้ อยากศึกษา หาความรู้ ได้ใช้เวบฯให้เป็นประโยขน์
อีกประการหนึ่งยังมีหน้ามาบอกว่า มี สัมมาทิฎฐิ คุณ รู้ไหมว่า สัมมาทิฎฐิ นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณไม่รู้ดอก ได้แต่เรียนแบบมา แต่อุตริ ทำเป็นผุ้รู้ ความจริงแล้ว ไม่รู้

เจ้าของ:  ปุถุชน [ 22 ม.ค. 2009, 15:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฐา มโนมยา มนสา จ ปทุฏเฐน ภาสติ วา กโรติ วา ตโต นํ ทุกฺขมเนฺวติ
จกฺกํ ว วหโต ปทํ..ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจชั่วแล้ว พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม (ย่อมชั่ว) เพราะความชั่วนั้น ทุกข์ย่อมตามบุคคลนั้นไป ดุจล้อหมุนตามรอยเท้าแห่งโคที่นำแอกไปอยู่ฉะนั้น.....

มนสา จ ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา ตโต นํ สุขมเนฺวติ ฉายาว อนุปายินี
....ถ้าบุคคลมีใจดีแล้ว พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม (ย่อมดี) เพราะความดีนั้น สุขย่อมตามบุคคลนั้นไป
ดุจเงาติดตามตนฉะนั้น... :b8:
(ขุ. ธรรมบท 25 / 15)

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 23 ม.ค. 2009, 19:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

Buddha เขียน:
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
Buddha เขียน:

ถ้ารู้จริง ขอถามสักหน่อยซิว่า
"คำว่า จิต เป็นต้วพลังงาน"
มันมีลักษณะอาการ หรือกระบวนการ ของการเกิดพลังงานอย่างไรพลังงานของจิต มาจากไหน เช่น เป็นพลังงานกล หรือว่า เป็นพลังงานศักย์ หรือว่า เป็นพลังงานจลน์ หรือว่าเป็นพลังงาน นิวเคลียส์ หรือว่า เป็นพลังไฟฟ้า หรือว่า เป็นพลังงานรูปแบบใด
ถ้าตอบไม่ได้ ขอให้ทีมงานธรรมจักร ช่วย เขี่ย ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ไปสักพักเถอะนะ เพราะเขาชอบอวดอุตริ เกินไป ชอบบิดเบือนคำสอน บิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน โรคจิตประสาทจริงๆ


จิตมีอยู่ 2 อย่าง

1. จิตพุทธะ หรือ นิพพานจิต ส่งนี้มันมีของมันอยู่แล้ว ไม่มีจุดเกิด ไม่มีจุดสิ้นสุด
2. จิตอวิชชา หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท จิตตัวนี้มันกิดขึ้น เมื่อตอนจิตพุทธะไปเอากิเลสอวิชชาเข้ามาไว้ในใจ

พลังงานทุกอย่างล้วนมาจากจิต ทั้งจิตพุทธะ และจิตอวิชชา สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น แต่เรื่องพวกนี้ ไม่สามารถรู้ได้โดยการคาดเดา ต้องปฏิบัติให้ถึงขั้นอริยะบุคคล คุณจึงจะทราบได้

เมื่อคุณพยายามเผยแพร่สิ่งที่เหลวไหล ผมจึงต้องออกมาค้าน ใครอุตริ ใครชอบบิดเบือนคำสอน ใครบิดเบือนอะไรต่อมิอะไร แบบคนสติฟั้นเฟือน ใครเป็นโรคจิตประสาท ผมไม่รู้ แต่ไม่ใช่ผมแน่ ผมมีสัมมาทิฏฐิ 100%


สติเฟือง ตอบไปมั่ว ไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจอะไรเลย ยังอุตริตอบ ถามอย่างตอบอย่าง
ข้าพเจ้าถามว่า สิ่งที่คุณกล่าวว่า "จิต เป็นตัวพลังงาน" นั้น มันเป็นพลังงานรูปแบบใด แล้วจิตที่คุณว่า เป็นตัวพลังงานนั้น มันอยู่ที่ตรงไหนของร่างกาย ลองตอบมาซิ แล้วถามต่ออีกว่า

จิตพุทธะ คือ อะไร หรือคุณ จิตพุทธะ ที่คุณกล่าวมา มีในมนุษย์ทุกคนทุกชาติ ทุกศาสนาหรือไม่
จิตนิพพาน คือ อะไร เป็น อย่างไร มนุษย์ทุกคน ทุกชาติ ทุกศาสนา มีจิตนิพพานหรือไม่


ใครอวดอุตริ ก็รู้แล้วคุณ ผู้ใช้ชื่่อว่า "พลศักดิ์" ระดับคุณ มันแค่ระดับปุถุชน ที่หลงเข้าใจว่าตัวคุณรุ้ ตัวคุณเก่ง แต่คุณไม่รุ้ตัวดอกเพราะคุณมัน เป็นโรคจิตประสาท ไม่สามารถรู้ เหตุ รู้ ปัจจัย และรู้ผล ตามหลักความเป็นจริง ตามหลักธรรมชาติ
คุณนั้น ทั้ง โง่เขลาเบาปัญญา แต่ยังโอ้อวด เพ้อเจ้อ เที่ยวเอา ศัพท์ภาษาบาลี มากล่าว แต่ไม่ได้รู้อะไรเลย คุณลองตอบมาซิที่ข้าพเจ้าถามไปข้างต้น ถามอย่างตอบอย่าง คนละเรื่อง ไม่ได้กระดิกอะไรเลย ถ้าตอบไม่ได้ ตามคำถาม หรือตอบไม่ได้ตรงคำถาม ก็ควรพิจารณาตัวเอง หยุดไปสักพักเถอะคุณ เพราะในเวบฯมีแต่คนเพียงไม่กี่คนที่เอากระทู้ขึ้นมา จะได้ให้คนที่เขาไม่รู้ อยากศึกษา หาความรู้ ได้ใช้เวบฯให้เป็นประโยขน์
อีกประการหนึ่งยังมีหน้ามาบอกว่า มี สัมมาทิฎฐิ คุณ รู้ไหมว่า สัมมาทิฎฐิ นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณไม่รู้ดอก ได้แต่เรียนแบบมา แต่อุตริ ทำเป็นผุ้รู้ ความจริงแล้ว ไม่รู้


ผุ้ใช้ชื่อ "ปุถุชน "เขียนว่า
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฐา มโนมยา มนสา จ ปทุฏเฐน ภาสติ วา กโรติ วา ตโต นํ ทุกฺขมเนฺวติ
จกฺกํ ว วหโต ปทํ..ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจชั่วแล้ว พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม (ย่อมชั่ว) เพราะความชั่วนั้น ทุกข์ย่อมตามบุคคลนั้นไป ดุจล้อหมุนตามรอยเท้าแห่งโคที่นำแอกไปอยู่ฉะนั้น.....

มนสา จ ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา ตโต นํ สุขมเนฺวติ ฉายาว อนุปายินี
....ถ้าบุคคลมีใจดีแล้ว พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม (ย่อมดี) เพราะความดีนั้น สุขย่อมตามบุคคลนั้นไป
ดุจเงาติดตามตนฉะนั้น...

คุณผู้ใฃ้ฃื่อว่า "ปุถุชน"ขอรับสำนวนภาษาที่คุณเขียนมา มันเป็นสำนวนภาษาบาลี ไม่ใช่สำนวนภาษาไทย ดังนั้น ความหมายของคำที่มีอยู่ จึงกำกวม ไม่ชัดเจน แสดงออกถึงความไม่รู้แจ้งในจิตใจของมนุษย์ว่าเป็นอย่างไร
ถึงแม้ว่า คุณจะนำมาจากพระไตรปิฎกก็ตามที คุณควรด้ขัดเกลา แลเพิ่มคำศัพท์ให้เป็นไปตามหลักความจริง หรือหลักธรรมชาติ ตามยุคตามสมัย
คนบางคนแม้ไม่มีใจชั่วร้าย ก็สามารถทำในสิ่งที่ชั่วร้ายได้ หรือบางคน แม้จะมีจิตใจที่ชั่วร้าย เขาก็อาจจะไม่ทำในสิ่งชั่วร้ายเสมอไป ทุกข์หรือสุข เกิดจาก ความคิด และการระลึกนึกถึง และย่อมเป็นที่แน่นอน ย่อมเกี่ยวโยงสัมพันธ์ กับ "จิต" ดังนั้น "จิต"ในทางพุทธศาสนา จึงเป็นไปตามที่ข้าพเจ้าได้อรรถาธิบายไป แม้จะไม่ละเอียดนัก ก็คงเพียงพอที่จะทำให้ท่านทั้งหลาย ได้ศึกษา จนเกิดความเข้าใจ ตามหลักความเป็นจริง

สำหรับในกรณี ที่ข้าพเจ้า ถาม ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" นั้น เพราะเขาเป็นบุคคล มีปัญหา ในด้านจิต และความคิด หลงผิด คิดว่าตัวเขารู้ ชอบแอบอ้าง อวดอุตริ ไปทั่ว แถมยังชอบว่าให้ผู้อื่น คิดว่าผู้อื่น เป็นมารขัดขวางตัวเขา โดยที่ไม่ได้ดูตัวเขาเลย ตอบคำถามที่เป็นไปตามหลักความจริงไม่ได้ เขียนเพ้อเจ้อ พอถามก็ตอบไม่ได้
เขาเรียกว่า โรคจิตประสาทบริสุทธิ์ ขอรับ

เจ้าของ:  mes [ 24 ม.ค. 2009, 21:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทเรียน บทที่ 4 จิต ในทางพุทธศาสนา

ณ.ที่แห่งนี้มีแต่อริยะบุคคล

โคจรมาพบกัน

ใครไม่เกี่ยวถอยไป

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/