วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 23:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คอม ฯ ป่วยเพิ่งไปรักษามา :b3:
ว่าก็ว่าเถอะน่ะคุณวลัยพร มีการบ้านให้ทำ ไม่เคยทำส่งเลย :b10:
ที่ถามว่า ที่พูดพร่ำเป็นโฆษกี "สติวินโย" เป็นต้นนั้น ทำให้พ้นทุกข์ได้แล้วหรอ เป็นมรรคเป็นผลแล้วหรือ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คอม ฯ ป่วยเพิ่งไปรักษามา :b3:
ว่าก็ว่าเถอะน่ะคุณวลัยพร มีการบ้านให้ทำ ไม่เคยทำส่งเลย :b10:
ที่ถามว่า ที่พูดพร่ำเป็นโฆษกี "สติวินโย" เป็นต้นนั้น ทำให้พ้นทุกข์ได้แล้วหรอ เป็นมรรคเป็นผลแล้วหรือ :b12:


ได้สิ ได้เป็นขณะๆ พ้นทุกข์เป็นขณะๆ อยู่ที่ว่าจะสติวินโยได้แค่ไหน :b32:

มรรค แปลว่าอะไร

ผลน่ะพอรู้ ว่ามาจากเหตุ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ คุณวลัยพร (โฆษกี) วันนี้มีการบ้านให้ทำแก้หนาวหน่อย ไม่ยากซึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดเอา
จริงเอาจังนั่นแหละ สิ่งนั้นคือ “บัญญัติ” กับ “ปรมัตถ์” ง่ายๆใกล้ๆตาที่ผ่านปากน้ำสมุทรปราการบ้านคุณนั่น
แหละ “แม่น้ำเจ้าพระยา” คุณแยกบัญญัติกับปรมัตถ์ออกให้เห็นชัดๆที
ครับ :b42: :b1: :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แหม คุณกรัชกายจองกฐินคุณวไลพร
มาราธอนจริงๆนะครับนี่

:b32: :b32: :b32:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แหม คุณกรัชกายจองกฐินคุณวไลพร
มาราธอนจริงๆนะครับนี่


อย่างนี้เรียกว่าวิบากได้ไหมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
สวัสดีครับ คุณวลัยพร (โฆษกี) วันนี้มีการบ้านให้ทำแก้หนาวหน่อย ไม่ยากซึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดเอา
จริงเอาจังนั่นแหละ สิ่งนั้นคือ “บัญญัติ” กับ “ปรมัตถ์” ง่ายๆใกล้ๆตาที่ผ่านปากน้ำสมุทรปราการบ้านคุณนั่น
แหละ “แม่น้ำเจ้าพระยา” คุณแยกบัญญัติกับปรมัตถ์ออกให้เห็นชัดๆที
ครับ :b42: :b1: :b38:



:b32: รู้อีก .... ใส่เสื้อสามชั้นเลยนะนี่

ที่พูดเรื่องบัญญัติ - ปรมัตถ์นั้น อันนั้นเรื่องจริงในแง่ของการปฏิบัติ ส่วนที่คุณให้การบ้านมานั้น เขาเรียกว่า สมมุติ ชื่อ ลักษณะ สิ่งเหล่านี้ที่มองเห็นด้วยตาเปล่า แล้วเรามาตั้งชื่อเรียกกันว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เรียกว่า สมมุติ ทั้งๆที่จริงแล้วมันเป็นเพียงรูปเท่านั้นเอง ส่วนปรมัตถ์นั้น ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ตอบแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะสำหรับการบ้าน :b1:

เอ... แต่ว่าคนถามน่ะ สอบผ่านหรือยัง เป็นห่วงน่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
แหม คุณกรัชกายจองกฐินคุณวไลพร
มาราธอนจริงๆนะครับนี่

:b32: :b32: :b32:



ชินแล้วค่ะคุณคามินธรรมสำหรับสำนวนของคุณกรัชกาย พอดี กำลังเรียนรู้เรื่องการใช้ภาษาในแง่ของปริยัติ เพราะท่านมหา ( กัลยาณมิตร ) ท่านไม่ค่อยมีเวลาจะสนทนาด้วย ท่านบอกว่า คุณต้องเรียนรู้นะ ปริยัติเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่งั้นพระธรรมคำสอนจะผิดเพี้ยนไป ไม่ใช่เราสักแต่ว่าพูดตามความคิดที่เราคิดค่ะ ก็อาศัยผู้ที่รู้ด้านปริยัติมากกว่าเราไปก่อนค่ะ ปริยัติคือแผนที่ ขาดแผนที่แล้วจะเดินถูกทางได้ยังไง อ้อมแล้ว อ้อมอีก แทนที่จะเดินตรงทางที่มีอยู่ แค่ครูบาฯอย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะ ยังไงก็ต้องมีปริยัติควบคู่ไปด้วย

ดิฉันเองก็รับฟังนะในสิ่งที่คุณกรัชกายโพสมา หรือใครๆก็ตามที่มาสนทนากับดิฉัน รับฟังข้อคิดเห็นของทุกคน อ่านข้อความที่สนทนาแล้ว ก็กลับไปพิจรณา ไม่ใช่แค่สนทนาไปวันๆแล้วก็จบ แต่ถ้ากับพวกที่มาเที่ยวพ่นเรื่องนิมิต หรือเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมคำสอน พวกนี้ดิฉันไม่เก็บข้อความมาให้รกสมองหรอกค่ะ ใครทำอย่างไร ก็ย่อมรับผลอย่างนั้น

ถกธรรมกับผู้ศึกษาปริยัติ เรายังได้ประโยชน์ ดีกว่าไปถกกับพวกโสดากูเกิ้ล ที่ถูกทำนายโดยอรหันต์กูเกิ้ล ไปถกกับพวกนี้ไม่มีประโยชน์ ( แต่บางทีอดไม่ได้ก็เอาเหมือนกัน ) พวกติดนิมิต คุยยังไงก็ไม่รู้เรื่องหรอก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
อ้างคำพูด:
แหม คุณกรัชกายจองกฐินคุณวไลพร
มาราธอนจริงๆนะครับนี่


อย่างนี้เรียกว่าวิบากได้ไหมครับ


ค่ะ เรียกว่า วิบากค่ะ แต่เป็น วิบากที่เป็นกุศลค่ะ :b12:

คุณกรัชกายช่วยมาผลักให้ดิฉันเข้าทีเข้าทางในด้านปริยัติค่ะ :b9:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอ... แต่ว่าคนถามน่ะ สอบผ่านหรือยัง เป็นห่วงน่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ



ที่สมมุติเรียกว่าคน ว่านาย ก. นาย ข. เรา, เขานั้น โดยสภาวะ ที่แท้จริงแล้วก็คือ กระบวนธรรม
ที่ไหลเนื่อง เป็นกระแสสืบต่อกันไปไม่ขาดสาย มีองค์ประกอบต่างๆเข้ามาร่วมสัมพันธ์กันอยู่มากมาย มีความเป็นไปปรากฏให้เห็นได้นานาประการสุดแต่เหตุปัจจัยทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในกระบวนธรรมนั้นเอง และทั้งที่เนื่องด้วยภายนอก เมื่อมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างหนึ่งเกิดเป็นเหตุขึ้นแล้ว ก็ย่อมก่อให้
เกิดผลเป็นความเปลี่ยนแปลงขึ้นในกระบวนธรรมนั้น

กระบวนธรรมที่เป็นตัวสภาวะความจริงก็เป็นไปอยู่ตามธรรมดา ตามเหตุปัจจัยของมันนั่นเอง ข้อสำคัญก็คือ
จะต้องรู้เท่าทัน แยกสมมุติกับตัวสภาวะออกจากกันได้ ของอันเดียวกันนั่นแหละ เมื่อใดจะพูดถึงสภาวะ ก็พูดไปตามสภาวะ เมื่อใดจะใช้สมมุติ ก็พูดไปตามสมมุติ อย่าไขว้เขว อย่าสับสน
ปะปนกัน และต้องมีความเข้าใจสภาวะเป็นความรู้เท่าทันรับรองยืนเป็นพื้นอยู่

ทั้งตัวสภาวะ และสมมุติ เป็นสิ่งจำเป็น ตัวสภาวะ (นิยมเรียกกันว่าปรมัตถ์) เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ส่วนสมมุติ เป็นเรื่องของประโยชน์สำหรับความเป็นอยู่ของมนุษย์ แต่ปัญหาเกิดขึ้น เพราะมนุษย์เอาสภาวะกับสมมุติมาสับสนกัน คือ เข้าไปยึดเอาตัวสภาวะจะให้เป็นไปตามสมมุติ จึงเกิดวุ่นวายขึ้น
ตัวสภาวะไม่วุ่น เพราะมันเป็นไปอย่างนั้นเอง ตามปกติธรรมดา ไม่เกี่ยวกับใครจะไปยึดหรือไม่ มนุษย์เป็นผู้วุ่นไปฝ่ายเดียว และเพราะมันไม่วุ่นด้วย มนุษย์จึงยิ่งวุ่นวายใหญ่ เพราะขัดความ
ปรารถนา ถูกบีบคั้นจึงเกิดเป็นปัญหาแก่มนุษย์เอง

เมื่อพูดในแง่สมมุติก็ให้รู้ว่ากำลังพูดในแง่สมมุติ เมื่อพูดในแง่สภาวะหรือปรมัตถ์ ก็ให้รู้ว่ากำลังพูดในแง่สภาวะ เมื่อรู้เท่าทันความเป็นจริง และความมุ่งหมายในการพูดแบบนั้นๆ ก็ไม่เข้าไปยึดติดถือมั่น ไม่เอามาปะปนกัน ก็เป็นอันใช้ได้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำความเข้าใจคำถามและคำตอบ “แม่น้ำเจ้าพระยา” อีกครั้ง โดยเทียบหลักดังนี้


สิ่งที่เป็นร่างกาย ย่อมทรุดโทรมแตกสลายได้ แต่บัญญัติว่า กาย ย่อมคงที่ ของอย่างนั้น เกิดที่ไหน

พบที่ไหน ก็เรียกอย่างนั้นตามบัญญัติ

สภาวะที่เป็นแม่น้ำหรือกระแสน้ำที่ไหลเนื่องไป กับคำสมมุติเรียกหรือบัญญัติว่า แม่น้ำเจ้าพระยา

คนละส่วนคนละอันกัน ใช่หรือไม่ :b42: :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ทำความเข้าใจคำถามและคำตอบ “แม่น้ำเจ้าพระยา” อีกครั้ง โดยเทียบหลักดังนี้


สิ่งที่เป็นร่างกาย ย่อมทรุดโทรมแตกสลายได้ แต่บัญญัติว่า กาย ย่อมคงที่ ของอย่างนั้น เกิดที่ไหน

พบที่ไหน ก็เรียกอย่างนั้นตามบัญญัติ

สภาวะที่เป็นแม่น้ำหรือกระแสน้ำที่ไหลเนื่องไป กับคำสมมุติเรียกหรือบัญญัติว่า แม่น้ำเจ้าพระยา

คนละส่วนคนละอันกัน ใช่หรือไม่ :b42: :b38:




แบบว่า ศัพท์แสง มันค่อนยุ่งยากนะ :b9:

ก็พยายามแกะข้อความทีละท่อนว่าคุณต้องการสื่ออะไร และต้องการให้แยกจากอะไรไปเป็นอะไร

อ้อ ... มาแกะได้ท่อนท้าย ที่คุณบอกว่า

" สภาวะที่เป็นแม่น้ำหรือกระแสน้ำที่ไหลเนื่องไป กับคำสมมุติเรียกหรือบัญญัติว่า แม่น้ำเจ้าพระยา

คนละส่วนคนละอันกัน ใช่หรือไม่ "


- มันก็แน่อยู่แล้ว สภาวะ กับ บัญญัติที่เรียกว่าแม่น้ำนั้นมันคนละตัวกัน :b32:

เขียนมาซะยืดยาว สรุปแล้ว ตกลงคุณจะถามแค่นี้เองหรือ :b10:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ที่พูดเรื่องบัญญัติ - ปรมัตถ์นั้น อันนั้นเรื่องจริงในแง่ของการปฏิบัติ ส่วนที่คุณให้การบ้านมานั้น เขาเรียกว่า สมมุติ ชื่อ ลักษณะ สิ่งเหล่านี้ที่มองเห็นด้วยตาเปล่า แล้วเรามาตั้งชื่อเรียกกันว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เรียกว่า สมมุติ ทั้งๆที่จริงแล้วมันเป็นเพียงรูปเท่านั้นเอง
ส่วนปรมัตถ์นั้น ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ตอบแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะสำหรับการบ้าน



เรื่องสมมุติ-บัญญัติ-ปรมัตถ์ ค่อยๆแกะค่อยๆทำความเข้าใจที่ ๒ ลิงค์นี้ครับ :b1: :b38:

viewtopic.php?f=2&t=19996

viewtopic.php?f=2&t=20008

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มรรค แปลว่าอะไร
walaiporn 13 ม.ค.2009



การปฏิบัติ ข้อปฏิบัติ หรือวิธีปฏิบัติ มีศัพท์เฉพาะเรียกว่า ปฏิปทา
คำว่าปฏิปทาในที่นี้มีความหมายจำเพาะหมายถึง ข้อปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ หนทาง วิธีการ
หรือวิธีดำเนินชีวิตให้บรรลุถึงความดับทุกข์ มีชื่อเรียกง่ายๆว่า มรรค แปลว่าทาง

มรรค ก็คือ วิธีปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ที่พูดเรื่องบัญญัติ - ปรมัตถ์นั้น อันนั้นเรื่องจริงในแง่ของการปฏิบัติ ส่วนที่คุณให้การบ้านมานั้น เขาเรียกว่า สมมุติ ชื่อ ลักษณะ สิ่งเหล่านี้ที่มองเห็นด้วยตาเปล่า แล้วเรามาตั้งชื่อเรียกกันว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เรียกว่า สมมุติ ทั้งๆที่จริงแล้วมันเป็นเพียงรูปเท่านั้นเอง
ส่วนปรมัตถ์นั้น ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ตอบแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะสำหรับการบ้าน



เรื่องสมมุติ-บัญญัติ-ปรมัตถ์ ค่อยๆแกะค่อยๆทำความเข้าใจที่ ๒ ลิงค์นี้ครับ :b1: :b38:

viewtopic.php?f=2&t=19996

viewtopic.php?f=2&t=20008




งง :b20:

แล้วมันผิดตรงไหน สมมุติกับบัญญัตติ ก็มันคือ สมมุติบัญญัตติไม่ใช่หรือ :b1:

เอาละ จากลิงค์ จะไปอ่านดู ท่าทางจะยาวเหยียด บอกแล้ว ศัพท์แสงมันยุ่งยากจริงๆ :b7:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดว่ายาวเหยียด ที่ไหนได้ เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง :b32:

เฮ้อ ... เอาเป็นว่าดิฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังสื่อ เพียงแต่ดิฉันพูดไม่เป็น แบบอธิบายให้มันละเอียดแบบปริยัติเด๊ะๆไม่ได้ ดิฉันก็ว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิด ว่าเราเอาสัญญามาเป็นสมมุติบัญญัติกัน เหมือนคนที่ภาวนาพองหนอ ยุบหนอ ก็เอาสัญญามาภาวนา

เดี๋ยวจบไม่ได้อีก พองหนอ ยุบหนอ :b32:

ดิฉันก็เจริญสติโดยใช้หนอมาเหมือนกันนะ อย่าลืมสิ เอาเป็นว่า คุณก็ติดตามเรื่องบัญญัติและปรมัตถ์โดยสภาวะก็แล้วกัน หรือไม่สนใจก็ตามใจ ไม่ว่ากัน

เอาน่า สู้ๆๆ :b4:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 158 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron