วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 02:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 11:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 14:42
โพสต์: 121


 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: ข้าพเจ้าชอบปฏิบัติธรรมมาก ถ้าเดือนไหนสถานที่จังหวัดเขามีการบวชเนกขัมมะ และจังหวะที่ข้าพเจ้าหยุดงานหลายวัน ข้าพเจ้าก็จะไปบวช อานิสงส์ของการบวชพราหมณ์นั้น ถ้าเราอุทิศให้กับผู้ที่ตายแล้วจากการที่พึ่งผูกคอตายนั้น คนตายจะได้รับจากอานิสงส์ที่เราตั้งใจมาบวชให้เขามัยค่ะ :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b40: :b49: ต้องได้รับสิครับ.......อย่าว่าแต่คนที่ฆ่าตัวตายเลยที่ได้รับ แม้แต่..ญาติพี่น้องเรา 7 ชั่วโคตรยังได้รับเลย ซึ่ง 7 ชั่วโคตรนี้ได้แก่ ทวด(ชาย-หญิง),ปู่ย่าตายาย,พ่อแม่,พี่น้องรวมท้องเดียวกันกับเรา,ลูก,หลานและเหลน ซึ่งญาติเราทั้งหลายนั้นอาจะอยู่บนสวรรค์หรือกำลังใช้กรรมในนรกก็เป็นได้ ฉะนั้นการช่วยของเราด้วยบวชแบบนี้ก็อาจรวมไปถึงคนที่เรารู้จักด้วยเช่นเพื่อนสนิทเราแต่ต้องระบุชื่อเพื่อนหรือคนรู้จักเวลาแผ่ แต่การบวชเนกขัมมะ แล้วจะแผ่ให้คนที่ฆ่าตัวตายเพื่อให้เค้ารับบุญนั้น เราต้องปฏิบัติอย่างตั้งใจจริงตลอดรายการตลอดระยะเวลาที่เราบวชเนกขัมมะในวัด (นอนน้อย กินน้อย พูดน้อยและทำความเพียรให้มาก) จึงจะเกิดผล :b39: :b39: :b42:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:เราก็เคยไปบวชเนกขัมมะมา แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปที่วัดต่างจังหวัดที่หนึ่งมา เราตั้งใจไปมากเพราะที่ผ่านมาทุกครั้งที่ไปใจจะสงบมา เป็นเวลา 3 วัน2คืน เราไปได้แค่ 2 วัน 1คืน ก็ขอลากลับ
เราไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะเราไปกับน้อง สาว 2 คน คิดว่าครั้งนี้เป็นบาปมากๆเลย
เรื่องมีอยู่ว่าพระอาจารย์ที่สอนเราแกดุมากเลย เราทนได้นะถ้าฝึกความอดทนเดิน-นั่งหลายๆชั่วโมง
แต่แกพูดหยาบมาก แกพูดว่าผู้ชายเวลาเดินมือเอาไว้ที่พุงไม่ใช่ไปกุม :b21: :b21: ไข่ :b21:ไว้
ถ้าใครทนแกไม่ได้ก็กลับไปไม่ต้องมาอยู่ให้มีเคืองกัน ทั้งที่เวลาแกดุทุกคนก็จะเงียบ
ซึ่งมีผู้ปฎิบัติประมาณร้อยคนนะอายุของท่านประมาณ30 ปลายๆน่ะ
และแกสั่งให้ทุกคนเรียกแกว่าท่านพระอาจารย์นะ เราปฎิบัติถึงเย็นวันที่ 2 เรารู้สึกเครียดมากเลย
เราไม่เคยเจอแบบนี้ เคยได้ยินพระดุบ้างเป็นธรรมดา พูดไม่เพราะก็เป็นธรรมดาทั่วๆไป
แต่พอแกหลุดคำว่า :b21: :b21: เราหมดศรัทธาเลย รู้สึกทุกข์เลย ใจมันค้านตลอดเวลา
เราบอกน้องสาวว่าเราทนไม่ได้แล้ว ณ.เวลานั้นอยู่ต่อก็จะบาปทางใจอีก :b21: :b21:
พอตอนเย็นเราเลยเก็บของกลับ กลับมาก็ทุกข์นะ เหมือนมันเป็นความผิดลึกๆที่อธิบายไม่ได้
สับสนว่าเราไม่อดทนเลยแค่คำพูดแค่นั้น อาจจะเพราะเราคิดว่าพระคือผู้ที่ เป็นที่พึ่งทางใจ ผู้ที่ทรงศีล
ปฎิบัติธรรมในยามที่คนเรามีทุกข์ แต่พอเจอแบบนี้เหมือนมันผิดหวังมังคะ
:b26: :b26: เราก็ไม่รู้นะว่าใครผิด เราอยากให้ท่านผู้รู้บอกเราหน่อย :b15: :b15:
ว่าถ้าเราต้องเจอแบบนี้อีกในครั้งต่อๆไป ควรอดทนให้ได้หรือไม่คะ
:b1: :b1: ขออนุญาตใชกระทู้ของ K. mas เลยนะคะ :b8: :b8: :b8:





:b29:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 14:42
โพสต์: 121


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอบคุณมากค่ะ K.อินทรีย์ 5 ตอนที่บวชเนกขัมมะข้าพเจ้าจะน้อมจิตไปถึงผู้ตายตลอดและผู้มีพระคุณ,เพื่อนสนิท,เพื่อนผู้ที่ได้กล่าวว่าข้าพเจ้าด้วยวจี ตามที่ K อินทรีย์ 5 โพสต์ มาอย่างนี้ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าแฮ๊ปปี้มากเลย อนิสงฆ์นี้ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจด้วยความจริงใจนี้และต้องการที่อยากจะให้เขาพ้นจากภาวะกรรมในชาตินี้ไม่ต้องไปเจอภาวะกรรมในชาติต่อ ๆ ไปอีก ต้องขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ :b42:
:b32: สำหรับคุณ K. o waon ข้าพเจ้ายินดีให้ใช้ค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็ในเมื่อเราตั้งใจที่จะไปบวชแล้ว อาจาร์ยเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา เราตั้งใจแล้วก็อย่าให้เสียความตั้งใจเราซิค่ะ นิ้วคนเรายังยาวไม่เท่ากันเลยค่ะ ขอบโกยเสบียงของเราไว้ :b8: ใครให้ก็ไม่เหมือนกับเราสร้างเองหรอกค่ะ:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 17:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


O.wan เขียน:
:b8:เราก็เคยไปบวชเนกขัมมะมา แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปที่วัดต่างจังหวัดที่หนึ่งมา เราตั้งใจไปมากเพราะที่ผ่านมาทุกครั้งที่ไปใจจะสงบมา เป็นเวลา 3 วัน2คืน เราไปได้แค่ 2 วัน 1คืน ก็ขอลากลับ
เราไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะเราไปกับน้อง สาว 2 คน คิดว่าครั้งนี้เป็นบาปมากๆเลย
เรื่องมีอยู่ว่าพระอาจารย์ที่สอนเราแกดุมากเลย เราทนได้นะถ้าฝึกความอดทนเดิน-นั่งหลายๆชั่วโมง
แต่แกพูดหยาบมาก แกพูดว่าผู้ชายเวลาเดินมือเอาไว้ที่พุงไม่ใช่ไปกุม :b21: :b21: ไข่ :b21:ไว้
ถ้าใครทนแกไม่ได้ก็กลับไปไม่ต้องมาอยู่ให้มีเคืองกัน ทั้งที่เวลาแกดุทุกคนก็จะเงียบ
ซึ่งมีผู้ปฎิบัติประมาณร้อยคนนะอายุของท่านประมาณ30 ปลายๆน่ะ
และแกสั่งให้ทุกคนเรียกแกว่าท่านพระอาจารย์นะ เราปฎิบัติถึงเย็นวันที่ 2 เรารู้สึกเครียดมากเลย
เราไม่เคยเจอแบบนี้ เคยได้ยินพระดุบ้างเป็นธรรมดา พูดไม่เพราะก็เป็นธรรมดาทั่วๆไป
แต่พอแกหลุดคำว่า :b21: :b21: เราหมดศรัทธาเลย รู้สึกทุกข์เลย ใจมันค้านตลอดเวลา
เราบอกน้องสาวว่าเราทนไม่ได้แล้ว ณ.เวลานั้นอยู่ต่อก็จะบาปทางใจอีก :b21: :b21:
พอตอนเย็นเราเลยเก็บของกลับ กลับมาก็ทุกข์นะ เหมือนมันเป็นความผิดลึกๆที่อธิบายไม่ได้
สับสนว่าเราไม่อดทนเลยแค่คำพูดแค่นั้น อาจจะเพราะเราคิดว่าพระคือผู้ที่ เป็นที่พึ่งทางใจ ผู้ที่ทรงศีล
ปฎิบัติธรรมในยามที่คนเรามีทุกข์ แต่พอเจอแบบนี้เหมือนมันผิดหวังมังคะ
:b26: :b26: เราก็ไม่รู้นะว่าใครผิด เราอยากให้ท่านผู้รู้บอกเราหน่อย :b15: :b15:
ว่าถ้าเราต้องเจอแบบนี้อีกในครั้งต่อๆไป ควรอดทนให้ได้หรือไม่คะ
:b1: :b1: ขออนุญาตใชกระทู้ของ K. mas เลยนะคะ :b8: :b8: :b8:





:b29:



เอาวิกฤติเป็นโอกาสได้นะครับ

เวลาใครมาด่าเราแล้วเรามีอารมณ์นี่นะ
มันจะเป้นอารมณ์ที่ค่อนข้างแรง

เวลาเราคว้าเอามาเจริญสติ กล่าวคือสังเกตุจิตใจเราว่ามันกำลังแสดงอารมณ์อย่างหนึ่งที่รุนแรง
เราก้จะพบใจเราได้ง่ายมากเลย

ผู้โกรธนั่นแหละใจเรา
พอเราเจอใจเราว่ากำลังโกรธ .. เอ๊ะ เรากำลังโกรธนี่ เรากำลังมีอารมณ์นี่
อารมณ์เรามันจะขาดบางจางคลายออกไปทันที
ความรู้สึกอันนี้คือความรู้สึกของสติที่เข้ามาทำงาน
บรรดาความคิดที่กำลังปรุงความโกรธอยู่ก้จะขาดไปด้วย หยุดไป ระงับไปด้วย
เพราะใจเราจดจ่อมองหาแต่ผู้โกรธ
เลยไม่ว่างจะไปปรุงความโกรธขึ้นมา

เวลาอารมณ์ธรรมดา มองไม่ค่อยเห็นนะ นี่เรียกว่าอารมณืมันเบาลางเกินไป
ถ้าโกรธมากๆเลยก็สติเอาไม่อยู่ อารมณ์มันแรงเกินกำลังสติ

แต่โกรธแรงๆ แต่ไม่น้อยไม่มาก กำลังเข้มๆนี่ เห็นง่ายนะ
คว้ามาทำกรรมฐานซะดื้อๆอย่างนี้เลยได้ครับ
อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ใครดีใครร้ายยังไงก็อยู่ได้ โดยไม่ต้องใช้ความอดทนด้วย
เราแค่ใช้สติเท่านั้นเอง
:b27:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 144 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร