ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=18497
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  เศษพุทธทาส [ 18 ต.ค. 2008, 09:41 ]
หัวข้อกระทู้:  ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

ผมฟังพระอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังโดยที่ท่านได้อ่านหนังสือ แต่กระนั้นก็ยังอ่านไม่จบ ก็พอเล่าได้ มีนักวิชาการหัวใหม่ออกมากล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดจากกรรมเพียงอย่างเดียว มันเกิดจากการคาดคเน ความน่าจะเป็นด้วย เขายกตัวอย่างเช่นกรณที่เราเดินไปแล้วไปชนไหล่คนอื่น อย่างนี่ถือเป็นกรรมเก่าไหม (ใครเห็นอย่างไรก็ลองแสดงดูครับ) แล้วก็ยกหลักคณิตมาวัด อะไรประมาณนี้ เขาไม่เชื่อว่า ทุกอย่างมาจากกรรมเก่า เพียงอย่างเดียว

โดยตัวผมแล้วผมเชื่อว่าทุกอย่างมาจากกรรมเก่าทั้งหมด เพราะอะไร เพราะเรามีอวิชชา อวิชชานั้นแหละที่เป็นบ่อเกิดแห่งกรรมเก่า การที่เราเดินไปชนใหล่ ก็เพราะขาดสติ รู้ไม่ทั่วถึง มันก็มาจากอวิชชาทั้งนั้น และการที่เรามีอวิชชา ก็เพราะกรรมเก่าอีก ฉะนั้น เราจึงต้องสร้างกรรมใหม่เพื่อหนีกรรมเก่า แต่อย่างไรก็ตาม กรรมใหม่ที่เราสร้างมันก็กลายเป็นกรรมเก่า เพราะเราเกิดดับอยู่ตลอด นี่เองที่อาจจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า มันก็เกิดจากกรรมเก่าทั้งนั้น แต่ใช่ว่าเราจะต้องยอมจำนนต่อมัน กรรมมาจากอวิชชา อวิชชามาจากกรรม เป็นวงจรอุบาทไป

ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 18 ต.ค. 2008, 10:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

มันไม่ใช่ กรรมเก่า "ทั้งหมด" หรอกคับ

จำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม
การกระทำทางกาย วาจา ใจ ทั้งที่เป็นฝ่ายดีหรือไม่ดีก็ตาม ย่อมตอบสนองแก่ผู้กระทำ ไม่เร็วก็ช้า เวลาใดเวลาหนึ่ง กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) แสดงกำหนดเวลา แห่งการให้ผลของกรรม มี 4 อย่าง คือ
1. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน คือในภพนี้
2. อุปปัชชเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือในภพหน้า
3. อปราปริเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป
4. อโหสิกรรม หมายถึง กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีก

จำแนกตามหน้าที่ของกรรม
กรรมจำแนกตามหน้าที่การงานของกรรม (กิจจตุกะ) กรรมมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำสี่อย่าง คือ

1. ชนกกรรม หมายถึง กรรมที่เป็นตัวนำไปเกิด กรรมแต่งให้เกิด
2. อุปัตถัมภกกรรม หมายถึง กรรมสนับสนุน กรรมที่ช่วยสนับสนุนหรือซ้ำเติม ต่อจากชนกกรรม
3. อุปปีฬิกกรรม หมายถึง กรรมบีบคั้น กรรมที่มาให้ผล บีบคั้นผลแห่งชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมนั้น ให้แปรเปลี่ยนทุเลาลงไป บั่นทอนวิบากมิให้เป็นไปได้นาน
4. อุปฆาตกกรรม หมายถึง กรรมตัดรอน กรรมที่แรงฝ่ายตรงข้ามกับชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมทั้งสองอย่างนั้น ให้ขาดไปเสียทีเดียว


ดังนั้น การเดินชนหัวไหล่ คือ ส่วนหนึ่งเป็นกรรมปัจุบัน ที่ให้ผลปัจจุบัน
เมื่อเราเดินไปตรงนั้น เราก็เลยชนคนนั้น

ความจริงเราไม่ควรจะไปสนใจว่าผลกรรมปัจจุบันนี้ มาจากไหน
แต่ควรจะสนใจ สำรวม เจริญหรือระงับ กรรมในปัจจุบัน ที่เรายังสามารถกำหนดได้
เพราะพวกที่ผ่านไปแล้ว ต่อให้รู้ได้มันก็เปล่าประโยชน์ เราแก้อะไรไม่ได้

เจ้าของ:  เอกเขนก [ 18 ต.ค. 2008, 12:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

ก็แค่ทำทุกวันตลอดเวลาให้ดีขึ้นๆๆ

ไม่เคยสนใจว่าเป็นกรรมเก่าหรือป่าววว

คือถ้าโทษว่าเป็นกรรมเก่าหมดทุกอย่าง

คิดว่ามันง่ายเกินไปหน่อย

เจ้าของ:  kokorado [ 18 ต.ค. 2008, 21:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

โดยส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าทุกอย่างเกิดจากกรรมเก่าเพียงอย่างเดียว อย่างการเกิดเจ็บป่วยเป็นโรค ก็เกิดได้จาก
ดินฟ้าอากาศ พันธุกรรม กรรมในอดีตชาติ อย่างโรคเอดส์นี่เราก็ไปหามันนะ ไม่ใช่กรรมเก่านำมาให้ กรรมใหม่มีกำลังมากกว่ากรรมเก่า เพราะฉะนั้นความเพียรถึงได้ผล คนที่เกิดมาเป็นคนยากจนเป็นลูกขอทานก็เพราะกรรมในอดีตชาติ แต่หลายคนก็พ้นจากความยากจนได้ เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่ความเพียรในปัจจุบัน
ปัจจุบันภัยพิบัติกำลังเกิดขึ้นกับหมู่มวลมนุษย์ ถึงแม้จะมีพุทธทำนายว่า ศาสนาพุทธจะอยู่ได้ถึง 5,000 ปี แต่ความจริงแล้วอยู่ในคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น จากที่เคยอ่านเจอ อีก 50 ปี พุทธศาสนาจะเจริญมาก และจะตกลง แล้วจะเจริญขึ้นอีก ในอีก 1000 ปีข้างหน้าคิดเป็น พ.ศ. แล้วคงประมาณ พ.ศ. 3600 พวกที่จะบำเพ็ญบารมีก็จะลงมาเกิดกัน ยุคนั้น มนุษย์จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ เนื่องจากคนในยุคนี้ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ได้กลับลงมาต่อยอดความรู้เก่าของตัวเอง ปัจจุบันโลกเกิดภัยพิบัติ วิธีป้องกันสำหรับคนทั่วไปคือ สวดคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก กับ อาการวัตตสูตร หรือขอบารมี พระศรีอารย์ให้ลงมาช่วย ซึ่งปัจจุบันจะให้ท่านมาช่วยเลย ท่านยังช่วยไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ถึงยุคของท่าน

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 19 ต.ค. 2008, 08:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

สิ่งที่ให้ผลกับเรามันก็อาจจะเป็นจากกรรมเก่าจากอดีตชาติก็ได้ กรรมปัจจุบันในภพชาตินี้ก็ได้ (กรรมนิยาม) หรือเป็นจากสาเหตุอื่นๆ ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับกรรมเลยก็ได้ (นิยามอย่างอื่นในนิยาม 5) ลองอ่าน

ความหมายของกรรมที่น่าพิจารณา

http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... uth-25.htm

ถ้าใครบอกว่า ที่เราสุขทุกข์ทั้งหมด ล้วนเกิดจากกรรมเก่าทั้งสิ้น ผู้นั้นกล่าวผิด เป็นลัทธิกรรมเก่าแบบศาสนาเชน

ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ปฏิเสธกรรมเก่าอย่างสิ้นเชิง ก็กล่าวผิดเช่นกันครับ เป็นอุจเฉวาทะ หรือ นัตถิกวาทะ อีก

เจ้าของ:  เศษพุทธทาส [ 21 ต.ค. 2008, 18:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

คำที่สามารถตอบได้ว่าทุกอย่างเกิดจากกรรมเก่าหรือไม่ คือ อวิชชา เป็นตัวเริ่ม การที่บอกว่าเราเป็นเอดศ์ ก็เพราะเราไปหา มัน ก็นั้นละครับ ที่เราไปหามันก็เพราะกรรมเก่า ถ้าเราไม่เคยเสพกามมาจากชาติที่แล้ว แล้วปัจจัยอะไรละครับที่ทำให้มาเจอเรื่องตรงนี้ ซึ่งมันก็อวิชชาทั้งนั้น แล้วไม่จำเป็นจะต้องมาจากภพอื่นหรือชาตอิ่นอย่างเดียวก้ได้ ในชาตินี้มันก็คือกรรมที่คุณทำอยู่ทุกวัน คุณทำกรรมใหม่เดี๋ยวมันก็เป็นกรรมเก่า คุณทำกรรมเก่า เดี๋ยวคุณก็ทำกรรมใหม่ กรรมไม่ได้ใหม่อยู่ตลอดเวลา แล้วก็ไม่ได้เก่าอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่หรือครับ

เจ้าของ:  บัวไฉน [ 21 ต.ค. 2008, 20:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

:b43: เห็นด้วย 1000% จ้า

เจ้าของ:  แวะมา [ 27 พ.ย. 2008, 23:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

เมื่อคืนไม่ได้อ่านหนังสือสอบ วันนี้ทำข้อสอบไม่ได้ พรุ่งนี้รู้ผลตกแน่ๆ เป็นอวิชา(ความไม่รู้)หรือขี้เกียจค่ะ คำว่ากรรมเก่าของเจ้าของกระทู้ให้คำจำกัดความเก่าขนาดไหนค่ะ ชาติที่แล้วหรือเพิ่งผ่านมาแค่ 1ชั่วโมง

เจ้าของ:  แมวขาวมณี [ 28 พ.ย. 2008, 23:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความเห็นว่าทุกสิ่งเกิดจากกรรมเก่า

คงเหลือแค่ ทุกสิ่งเกิดจากกรรม แค่นั้น จริงๆ
:b32: :b32: :b32:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/