ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=18406 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 ต.ค. 2008, 15:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
คุณขันธ์พ้นโทษแบนแล้ว ![]() กรัชกายหวังว่าคืนนี้หรืออย่างช้าพรุ่งนี้คงได้เห็นข้อความจากคุณที่บอร์ดใหม่นะครับ เป็นไงครับพอสู้ของเก่าได้ไหม ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 ต.ค. 2008, 15:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
คุณ mes ล่ะว่าไงครับ กระทู้ที่คุณตั้งรอเพื่อสนทนากับคุณขันธ์ข้อมูลหายจากบอร์ดใหม่แล้วครับ |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 16 ต.ค. 2008, 15:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | guest [ 16 ต.ค. 2008, 15:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
ผมข้ามห้วยไปสนทนามาแล้ว ยินดีต้อนรับครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 ต.ค. 2008, 19:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
ใครดูหมอเป็นบ้าง ทายสิว่า คุณขันธ์จะเข้ามาลานธรรมอีกไหม ? ![]() |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 16 ต.ค. 2008, 20:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
มาครับชัวร์ป้าบๆๆ.....1000 เปอร์เซนต์ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 17 ต.ค. 2008, 15:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
![]() ![]() ![]() ขอต้อนรับกลับสู่ลานธรรมครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 18 ต.ค. 2008, 11:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
สงสัยว่าจะยังไม่ฟิต....เลยยังไม่ได้ลงสนาม ![]() แต่นั่งอยู่บนม้านั่งสำรองก็พอทำให้อุ่นใจได้อยู่ครับ.... ![]() ลงสนามเถอะครับท่าน...จะได้มีสีสันขึ้นมา ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ต.ค. 2008, 22:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
คุณหมอ (ภิเภก) ฌานจับยามสามตาพลาดงานนี้เป็นงานแรก ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | natdanai [ 19 ต.ค. 2008, 11:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
อ้างคำพูด: คุณขันธ์กลับไปเว็บบอร์ดเดิม คงไม่กลับมาแล้วล่ะ ท่านลงจากหลังเสือสวยแล้วนี่ ไปผ่าตัดรักษาตัวรึป่าวน๊ะ.....เดี๋ยวรอดูอีกซะหลายวัน อาจจะมีเซอร์ไพร์ด้วยการปราศัยที่บอร์ดนี้... ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ต.ค. 2008, 20:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
อ้างคำพูด: ไปผ่าตัดรักษาตัวรึป่าวน๊ะ.....เดี๋ยวรอดูอีกซะหลายวัน อาจจะมีเซอร์ไพร์ด้วยการปราศัยที่บอร์ดนี้... ![]() หรอครับ ![]() เช่นตัวอย่างนี้ก็กำลังตามหาสติอยู่ ![]() คือช่วงนี้รู้สึกแปลกๆครับ สภาวะธรรมเกิดก็ตามรู้ไปปกติ แต่มันรู้สึกเหมือนสติไม่เกิดเต็ม 100% อะครับ และมันก็รู้ได้เร็วกว่าเดิม และมันก็หายไปแล้วกว่าเดิม ที่กล่าวมานี่หมายถึง สติ นะครับ ขอยกตัวอย่างนะครับ เปิดตู้เย็นจะดื่มน้ำ[ตอนนี้ตามไม่ทัน] ดื่มเสร็จ หันไปเห็นลูกอม[ตอนนี้สติเกิดรู้ว่าอยากกินลูกอม] แล้วก็หยิบลูกอมมากิน[สติหายไปแล้ว] แต่ตอนที่สติเกิดนี้ มันเกิดเพียงแค่แวบเดียว แล้วก็หายไปเร็วมาก ผมรู้สึกเหมือนกับว่า สติที่เกิด มันเป็นสติตัวจริง แล้วสติที่มันจะมีหลังจากสติตัวจริงดับไป [เขาเรียกว่าอะไรผมไม่รู้] ผมให้สตินั้นเป็นเครื่องหมาย X ผมรู้สึกว่า ไอ้สติ X เนี้ย มันไม่เกิด แต่สติตัวจริงยังเกิดอยู่ อยากถามว่ามันจะมีผลอะไรไหมครับ และควรจะแก้ไขยังไง |
เจ้าของ: | natdanai [ 20 ต.ค. 2008, 08:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
![]() ![]() ![]() กำลังรอฟังปราศรัย.... ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 20 ต.ค. 2008, 20:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
กรัชกาย เขียน: คือช่วงนี้รู้สึกแปลกๆครับ สภาวะธรรมเกิดก็ตามรู้ไปปกติ แต่มันรู้สึกเหมือนสติไม่เกิดเต็ม 100% อะครับ และมันก็รู้ได้เร็วกว่าเดิม และมันก็หายไปแล้วกว่าเดิม ที่กล่าวมานี่หมายถึง สติ นะครับ ขอยกตัวอย่างนะครับ เปิดตู้เย็นจะดื่มน้ำ[ตอนนี้ตามไม่ทัน] ดื่มเสร็จ หันไปเห็นลูกอม[ตอนนี้สติเกิดรู้ว่าอยากกินลูกอม] แล้วก็หยิบลูกอมมากิน[สติหายไปแล้ว] แต่ตอนที่สติเกิดนี้ มันเกิดเพียงแค่แวบเดียว แล้วก็หายไปเร็วมาก ผมรู้สึกเหมือนกับว่า สติที่เกิด มันเป็นสติตัวจริง แล้วสติที่มันจะมีหลังจากสติตัวจริงดับไป [เขาเรียกว่าอะไรผมไม่รู้] ผมให้สตินั้นเป็นเครื่องหมาย X ผมรู้สึกว่า ไอ้สติ X เนี้ย มันไม่เกิด แต่สติตัวจริงยังเกิดอยู่ อยากถามว่ามันจะมีผลอะไรไหมครับ และควรจะแก้ไขยังไง สติปถุชน ก็เกิดๆ ดับๆ เป็นพักๆ เป็นเรื่องปกติ เจริญต่อไป ให้สม่ำเสมอ ทำไปเรื่อยๆ สติมันจะแข็งแรงขึ้นมาเอง ถ้าพยามจะมีสติให้มันต่อเนื่องไม่ขาดสาย อันนั้นมันเป็นสติของพระอรหันต์แล้วล่ะ พระอรหันต์ก็ไม่ได้เกิดมามีสติต่อเนื่อง เริ่มจาก ติดๆดับๆ ขาดๆต่อๆ เหมือนเราๆ ท่านๆ ถ้ายังสงสัย ก้เอาความคิดที่สงสัยนี่แหละ มาทำวิปัสนา หมั่นรู้ตัวเวลาสงสัย ให้บ่อยๆ สติทันความสงสัยเมื่อไหร่ ความสงสัยก็ขาด ไม่จำเป็นต้องขบคิดเรื่องที่ถามแต่อย่างใด ถ้าอธิบายในภาษานักปฏิบัติ เราแค่เฝ้าดูจิตมันทำกิจกรรมต่างๆ จิตมันทำกิจกรรมต่างๆโดยอาศัยบริการจากอายตนะ ... กิจกรรมต่างๆนี้แหละ .... เป้นเหตุแห่งทุกข์ กรณีนี้ จิตมันก้ผลิตสังขารต่างๆขึ้นมา แล้วพัฒนาไปเป้นทุกข์ หน้าที่เราแค่ฝึกให้สติมันรู้ทันกิจกรรมเหล่านี้ ดุให้เคยตัวว่า มันจิตเอาอีกแล้วนะ แส่หาเรื่องอีกแล้ว ดูให้ชินชา เคยตัว เป็นนิสัย แล้วมันจะพัฒนาไปเป็นสติที่ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยเอง |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 20 ต.ค. 2008, 20:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
หลวงปู่ดุลย์ .."คิดเท่าไรก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิดได้จึงรู้ แต่ต้องอาศัยความคิดนั้นแหละจึงรู้" คิดเท่าไรก็ไม่รู้ = คิดๆแล้วก็ใคร่ครวญคิดไปต่างๆนา เป็นการขาดสติ จิตไหลหลงเข้าไปอยู่ในความคิด บางทีคิดลอยไปจนลืมว่ามีร่างกาย มืออยู่ตรงไหน กายอยู่ท่าไหน จิตใจทำอะไรอยู่ ก็ไม่ทราบ เพราะมัวแต่คิด คิดเท่าไหร่ก็ไม่"รู้" ก็หมายถึง ผู้รู้หาย.. ความรู้ตัวรู้ใจหายไป.. (สติขาดไป) ต่อเมื่อหยุดคิดได้จึงรู้ = ก้คือ เมื่อมีสติเกิดขึ้น ความคิดก้จะขาด เราจะรู้สึกได้ว่าจิตอยู่ไหน กายอยู่ไหน กำลังอะไรกันอยู่ เราเห็นสิง่ที่ถูกรู้ เห็นผู้รู้ และมีความรู้สึกได้ถึงการระลึกรู้(มีสติ) แต่ต้องอาศัยความคิดนั้นแหละจึงรู้ = เราอาศัยพฤติกรรมของจิตเรา ที่มันชอบคิดนี่แหละ ให้เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ดังนั้นเราจึงเห็น"ผู้รู้" เมื่อผู้รู้ มองเห็นสิ่งที่ถูกรู้ เมื่อนั้นเอง เราจึงรู้(ว่ามีสองสิ่งนั้นอยู่) ในอีกความหมายหนึ่ง คิดเท่าไรก็ไม่รู้ คือ ธรรมะนั้น ไม่สามารถเข้าถึงได้ ไม่สามารถประจักษ์ได ไม่สามารถรู้แจ้งได้ ด้วยการคิดแต่อย่างเดียว ต่อเมื่อหยุดคิดได้จึงรู้ การจะเข้าใจธรรมะ เราก็เริ่มจากความคิดก่อน แต่ในที่สุด ก็ต้องเลิกคิด เลิกขบคิด แล้วน้อมนำปริยัติเหล่านั้นมาปฏิบัติจนเกิดประสบการณ์ตรงกับตัว จึงจะเรียกว่า... หยุดคิด จึงได้ ..รู้ แต่ต้องอาศัยความคิดนั้นแหละจึงรู้ การปฏิบัติธรรมโดยไม่สนใจปริยัติ ไม่อาศัียการขบคิดใคร่ครวญในวิชาความรู้ให้ดีเสียก่อนนั้น ก้จะทำให้เราหลงทาง เสียเวลา ขนาดพระพุทธเจ้ายังหลงทางกับการทำทุกริยาตั้งหลายปี แต่เพราะท่านลงมือพิสูจน์ด้วยตัวเอง จึงค้นพบวคามรู้ในที่สุดว่า มันไม่ใช่คำตอบ จึงเลิกทำทุกรกริยา การปฏิบัติธรรม ก้ต้องอาศัยการคิดเสียก่อน ว่าจะทำอะไร ให้ได้อะไร เหมือนออกแบบการทดลอง ว่าเราสงสัยอะไร เมื่อได้ทดลอง เราก้จะพบคำตอบ และสิ้นสงสัยในคำถามนั้น |
เจ้าของ: | natdanai [ 20 ต.ค. 2008, 21:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นึกถึงสหายธรรมนามว่า...? |
ตอนนี้ก็ฟังปราศรัยจากสมาชิกบ้านเลขที่ 5 ไปพลางๆก่อน ![]() ![]() ![]() ไฮไลท์ยังไม่ขึ้นเวทีซะที.... ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |