วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 19:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 134 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
ถามสั้นๆแค่นั้นแหล่ะ

ว่า จิตพุทธะ พุทโธ ที่คุณกล่าวอ้างว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่ คุณเอามาใช้น่ะ

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

หรือเปล่า?

ถ้าไม่มีทศพลญาน เป็นจิตพุทธะ พุทโธ จริงๆๆ หราจ๊ะ ?

และเมื่อคุณสำเร็จอรหันต์แล้ว คุณยังมีจิตพุทโธ พุทธะ ที่ประกอบด้วยทศพลญาณ ได้หราจ๊ะ ?

และถามเพิ่มอีกข้อว่า คุณเป็นพระพุทธเจ้าแล้วใช่มั๊ย จึงมีจิตพุทธะ พุทโธ ที่ประกอบด้วยอาสาธารณญาฯ 6
ที่พระสาวก พระอรหันต์ไม่มี หราจ๊ะ ?


ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน

ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง


ก๊อบเอาไว้ก่อน เดี่ยวเผื่อ จะมีการแอบกลับไปแก้ไขข้อความ น๊ะค๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


สองแรงแถไถ คุณแค่อากาศ ให้การว่า

"""""""ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว
จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น
โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้
แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม
ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ
"""""""
...................................................................................................................
คุณ Love j ให้การกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ว่า
""""""ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ
""""""
...................................................................................................................
และเม ก็ค้านไปว่า
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

.............
เม เรยถามแย้งไปว่า
จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ
เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น
อย่างนี้ ก็ต้อง
ประกอบด้วยทศพลญาณ 10
โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ


ก็เรยมาถามไง ว่า จิตพุทโธ พุทธะ ที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณทั้งสอง เอ่ยอ้างมาใช้
คุณเป็นพระพุทธเจ้า ใช่มั๊ย
?

มีจิตพุทโธ พุทธธที่บริสุทธิ์ แล้วมาปฎิบัติ เพื่อละกิเลส 55555

5555 เพราะคุณๆทั้งสอง อ้างว่า คุณทั้งสอง ใช้จิตพุทโธ พุทธะ เป็นทั้งกริยาจิต และจิตที่บริสุทธิ์ มาปฎิบัติยังไงล่ะค๊ะ

และ พอจับได้ ปรี๊ตแตก ก็รีบแถเปลี่ยนมา เป็น ว่า ผมใช้ พุทธานุสติ น๊าคร๊าบบบบบบ

rolleyes rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 16:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
สองแรงแถไถ คุณแค่อากาศ ให้การว่า

"""""""ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว
จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น
โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้
แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม
ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ
"""""""
...................................................................................................................
คุณ Love j ให้การกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ว่า
""""""ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ
""""""
...................................................................................................................
และเม ก็ค้านไปว่า
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

.............
เม เรยถามแย้งไปว่า
จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ
เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น
อย่างนี้ ก็ต้อง
ประกอบด้วยทศพลญาณ 10
โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ


ก็เรยมาถามไง ว่า จิตพุทโธ พุทธะ ที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณทั้งสอง เอ่ยอ้างมาใช้
คุณเป็นพระพุทธเจ้า ใช่มั๊ย
?

มีจิตพุทโธ พุทธธที่บริสุทธิ์ แล้วมาปฎิบัติ เพื่อละกิเลส 55555

5555 เพราะคุณๆทั้งสอง อ้างว่า คุณทั้งสอง ใช้จิตพุทโธ พุทธะ เป็นทั้งกริยาจิต และจิตที่บริสุทธิ์ มาปฎิบัติยังไงล่ะค๊ะ

และ พอจับได้ ปรี๊ตแตก ก็รีบแถเปลี่ยนมา เป็น ว่า ผมใช้ พุทธานุสติ น๊าคร๊าบบบบบบ

rolleyes rolleyes rolleyes


การที่เมท่องจำอภิธรรม เมคิดว่าตนเองรู้อภิธรรมตามใคร ตามตาสีตาสาที่ไหย หรือมีเฉพาะพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ พระอริยะสาวกที่รู้ได้ชัดจริง

แล้วเมรู้อภิธรรมตามใคร ?? ถ้าอภิธรรมน้นไม่ใช่ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน ไม่ได้รู้ตามพุทธะ อภิธรรมนั้นก็เป็นของปลอมนอกพระพุทธศาสนา

การรู้ตามพระพุทธเจ้า รู้ตามพุทธะ เป็นอย่างไร คำตอบมีในถามที่พี่ถามเมนั้น

การแถไปแบบโง่พระพุทธศาสนาเสื่อมเอาเพราะเมได้ ถ้าที่เมอ้างอภิธรรมมาไม่ใช่พระพุทธเจ้าสอน ไม่ใช่รู้ตามพุทธะ อภิธรรมนั้นชื่อว่าของปลอมไม่มีในพระพุทธศาสนา เพราะแม้แต่มีกาย วาจา ใจดีงาม อภิธรรมที่เมอ่านจำยังไม่สอนให้เมเป็นอย่างนั้น ก็ขัเฝดกับคำวอยพระพุทธเจ้าทั้งหมดที่วอยอบรมกายวาจาใจให้ดีงามด้วยกุศล

พุทโธ คือ พุทธนุสสติคู่กับอานาปานสติ มีกรรมฐาน ๒ กองรวมกัน ศรัทธาในพระพุทธเจ้าไม่มีก็อยากจะกล่าวแม้ในใจว่าพุทโธ พระธรรมทั้งปวงในพระพุทธศาสนาก็มาจากพุทโธ พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็มาจากพุทโธ ภาวนาให้จิตเป็นพุทโธ เพื่อให้จิตเข้าถึงพุทธะรู้ตามพระพุทธเจ้า..
.. คำว่าจิตเข้าถึงพุทธะนี้ ตรงกับคำว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต เพราะจิตเข้าถึงพุทธะ คือ ผู้รู้เห็นตามจริง สัมมา คือ โดยชอบ ผู้นั้นย่อมเห็นพระพุทธเจ้า เข้าถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย ไม่ลูบคลำศีล ไม่หลงในรูปเพราะเห็นจริงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าสักแต่ว่าธาตุ

.. สมดั่งพระศาสดาทรงตรัสสอนอุปมาไว้ว่า.. ฟองน้ำที่พระตถาคตทรงแสดงไว้แล้ว นั้นก็เหมือนฟองน้ำอันเกิดแต่ธาตุต่างๆปรุงแต่งรวมกันเกิดขึ้นเป็นฟองน้ำ มีฟองน้ำเล็กๆที่ไม่มีอะไรเมื่อเข้ากลุ่มรวมกันก็เป็นฟองใหญ่ให้เห็น อุปไมยเหมือนดังกายนี้ที่กอปรกันด้วยธาตุรวมกันเป็นก้อนมีลักษณะต่างๆทั้งน้อยใหญ่เป็นอาการ ๓๒ รวมกัน ก็แลพระศาสดาทรงอุปมากายนี้เหมือนฟองน้ำที่เป็นชองว่าง ที่ว่างให้ลอดผ่านได้ เป็นที่ว่าง ด้วยเหตุใด ..เปรียบเหมือนกายนี้ที่กอปรกันขึ้นเป็นเหมือนเรือนว่างอันให้จิตเดิมเรานี้ที่จรมาเข้าอาศัยอยู่ชั่วคราว ชื่อว่าเอาใจเข้ายึดครอง รูปนั้นก็เป็นรูปเป็นเรือนว่างที่มีใจครองอาศัย มันเลยไม่ว่างอีก จิตมันก็สั่งกายรับรู้จากกายได้ฉันใด เมื่อปราศไปแล้วเนือนว่างก็กลับสู่เรือนว่างดังเดิมธรรม ๓ อันพระศาสดาให้พิจารณานั้นย้อมแจ้งชัด หาเจตนาไม่ได้ ท่อนไม้ยังดีเสียกว่า

ความแยบคายใดเมื่อเห็นแล้วอย่างนี้ ชื่อว่ารู้ตามพระศาสดา คือ จิตเข้าถึงพุทธะ สังโยชน์ ๓ สิ้นไป ดังนี้เป็นต้น

ก็เหมือนดั่งเมจิตไม่เข้าถึงพุทธะ ก็ไม่อาจรู้ตามพุทธะ ไม่เห็นพุทธะ
..เหมือนการยกพระสูตรแต่ตนไม่แยบคายมา แล้วย่อมกล่าวให้แจ้งชัดไม่ได้ อธิบายไม่ได้ว่า อุปมาฟองน้ำเป็นกายนี้ฉันใดแต่ไปกล่าวถึงความสืบต่อโดยไม่รู้เข้าไม่ถึง

การที่จิตเป็นพุทโธตามพระศาสดาเข้าถึงกิริยาจิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ย่อมเข้าถึงพุทธะ คือ เห็นจริงรู้จริงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอน

ความต่างกันมีมากระหว่างขาโม้อย่างเมแถจนพระพุทธศาสนาเสื่อม กับคนรู้จริง แต่ผู้รู้เขาไม่ค่อยจะอยากคุยด้วยกับเมเพราะไร้สาระ หาสาระไม่ได้ มิหนำซ้ำกลับทำให้เมแถเพิ่มทำพระพุทธศาสเสื่อมเพิ่มอีก รู้สึกสะอิดสะเอียน เขาเลยเฉยไม่พูดกับเมเพื่อไม่ให้แถทำพระพุทธศาสนาเสื่อม เป็นการสงเคราะห์เมไปในตัวด้วย แต่คนไม่มีความละอายใจ อยากเอาชนะกล่าวอ้างอภิธรรม รูป จิต เจตสิก แต่หลงตามกิเลสตนก็คงไม่มีสามัญสำนึกพูดไปก็เป่าปี่ใส่หูควาย

.. การอยากเอาชนะคนจิตไม่ปรกติอย่างเม มันหาค่าไรๆไม่ได้เลย ซ้ำเรายังเป็นคนบ้าตามอีก ดังนั้นคนในเวบจะเป็นคนบ้าเอาชนะคนบ้าเพื่ออะไรกัน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
สองแรงแถไถ คุณแค่อากาศ ให้การว่า

"""""""ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว
จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น
โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้
แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม
ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ
"""""""
...................................................................................................................
คุณ Love j ให้การกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ว่า
""""""ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ
""""""
...................................................................................................................
และเม ก็ค้านไปว่า
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

.............
เม เรยถามแย้งไปว่า
จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ
เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น
อย่างนี้ ก็ต้อง
ประกอบด้วยทศพลญาณ 10
โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ


ก็เรยมาถามไง ว่า จิตพุทโธ พุทธะ ที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณทั้งสอง เอ่ยอ้างมาใช้
คุณเป็นพระพุทธเจ้า ใช่มั๊ย
?

มีจิตพุทโธ พุทธธที่บริสุทธิ์ แล้วมาปฎิบัติ เพื่อละกิเลส 55555

5555 เพราะคุณๆทั้งสอง อ้างว่า คุณทั้งสอง ใช้จิตพุทโธ พุทธะ เป็นทั้งกริยาจิต และจิตที่บริสุทธิ์ มาปฎิบัติยังไงล่ะค๊ะ

และ พอจับได้ ปรี๊ตแตก ก็รีบแถเปลี่ยนมา เป็น ว่า ผมใช้ พุทธานุสติ น๊าคร๊าบบบบบบ

rolleyes rolleyes rolleyes


การที่เมท่องจำอภิธรรม เมคิดว่าตนเองรู้อภิธรรมตามใคร ตามตาสีตาสาที่ไหย หรือมีเฉพาะพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ พระอริยะสาวกที่รู้ได้ชัดจริง

แล้วเมรู้อภิธรรมตามใคร ?? ถ้าอภิธรรมน้นไม่ใช่ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน ไม่ได้รู้ตามพุทธะ อภิธรรมนั้นก็เป็นของปลอมนอกพระพุทธศาสนา

การรู้ตามพระพุทธเจ้า รู้ตามพุทธะ เป็นอย่างไร คำตอบมีในถามที่พี่ถามเมนั้น

การแถไปแบบโง่พระพุทธศาสนาเสื่อมเอาเพราะเมได้ ถ้าที่เมอ้างอภิธรรมมาไม่ใช่พระพุทธเจ้าสอน ไม่ใช่รู้ตามพุทธะ อภิธรรมนั้นชื่อว่าของปลอมไม่มีในพระพุทธศาสนา เพราะแม้แต่มีกาย วาจา ใจดีงาม อภิธรรมที่เมอ่านจำยังไม่สอนให้เมเป็นอย่างนั้น ก็ขัเฝดกับคำวอยพระพุทธเจ้าทั้งหมดที่วอยอบรมกายวาจาใจให้ดีงามด้วยกุศล

พุทโธ คือ พุทธนุสสติคู่กับอานาปานสติ มีกรรมฐาน ๒ กองรวมกัน ศรัทธาในพระพุทธเจ้าไม่มีก็อยากจะกล่าวแม้ในใจว่าพุทโธ พระธรรมทั้งปวงในพระพุทธศาสนาก็มาจากพุทโธ พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็มาจากพุทโธ ภาวนาให้จิตเป็นพุทโธ เพื่อให้จิตเข้าถึงพุทธะรู้ตามพระพุทธเจ้า..
.. คำว่าจิตเข้าถึงพุทธะนี้ ตรงกับคำว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต เพราะจิตเข้าถึงพุทธะ คือ ผู้รู้เห็นตามจริง สัมมา คือ โดยชอบ ผู้นั้นย่อมเห็นพระพุทธเจ้า เข้าถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย ไม่ลูบคลำศีล ไม่หลงในรูปเพราะเห็นจริงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าสักแต่ว่าธาตุ

.. สมดั่งพระศาสดาทรงตรัสสอนอุปมาไว้ว่า.. ฟองน้ำที่พระตถาคตทรงแสดงไว้แล้ว นั้นก็เหมือนฟองน้ำอันเกิดแต่ธาตุต่างๆปรุงแต่งรวมกันเกิดขึ้นเป็นฟองน้ำ มีฟองน้ำเล็กๆที่ไม่มีอะไรเมื่อเข้ากลุ่มรวมกันก็เป็นฟองใหญ่ให้เห็น อุปไมยเหมือนดังกายนี้ที่กอปรกันด้วยธาตุรวมกันเป็นก้อนมีลักษณะต่างๆทั้งน้อยใหญ่เป็นอาการ ๓๒ รวมกัน ก็แลพระศาสดาทรงอุปมากายนี้เหมือนฟองน้ำที่เป็นชองว่าง ที่ว่างให้ลอดผ่านได้ เป็นที่ว่าง ด้วยเหตุใด ..เปรียบเหมือนกายนี้ที่กอปรกันขึ้นเป็นเหมือนเรือนว่างอันให้จิตเดิมเรานี้ที่จรมาเข้าอาศัยอยู่ชั่วคราว ชื่อว่าเอาใจเข้ายึดครอง รูปนั้นก็เป็นรูปเป็นเรือนว่างที่มีใจครองอาศัย มันเลยไม่ว่างอีก จิตมันก็สั่งกายรับรู้จากกายได้ฉันใด เมื่อปราศไปแล้วเนือนว่างก็กลับสู่เรือนว่างดังเดิมธรรม ๓ อันพระศาสดาให้พิจารณานั้นย้อมแจ้งชัด หาเจตนาไม่ได้ ท่อนไม้ยังดีเสียกว่า

ความแยบคายใดเมื่อเห็นแล้วอย่างนี้ ชื่อว่ารู้ตามพระศาสดา คือ จิตเข้าถึงพุทธะ สังโยชน์ ๓ สิ้นไป ดังนี้เป็นต้น

ก็เหมือนดั่งเมจิตไม่เข้าถึงพุทธะ ก็ไม่อาจรู้ตามพุทธะ ไม่เห็นพุทธะ
..เหมือนการยกพระสูตรแต่ตนไม่แยบคายมา แล้วย่อมกล่าวให้แจ้งชัดไม่ได้ อธิบายไม่ได้ว่า อุปมาฟองน้ำเป็นกายนี้ฉันใดแต่ไปกล่าวถึงความสืบต่อโดยไม่รู้เข้าไม่ถึง

การที่จิตเป็นพุทโธตามพระศาสดาเข้าถึงกิริยาจิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ย่อมเข้าถึงพุทธะ คือ เห็นจริงรู้จริงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอน

ความต่างกันมีมากระหว่างขาโม้อย่างเมแถจนพระพุทธศาสนาเสื่อม กับคนรู้จริง แต่ผู้รู้เขาไม่ค่อยจะอยากคุยด้วยกับเมเพราะไร้สาระ หาสาระไม่ได้ มิหนำซ้ำกลับทำให้เมแถเพิ่มทำพระพุทธศาสเสื่อมเพิ่มอีก รู้สึกสะอิดสะเอียน เขาเลยเฉยไม่พูดกับเมเพื่อไม่ให้แถทำพระพุทธศาสนาเสื่อม เป็นการสงเคราะห์เมไปในตัวด้วย แต่คนไม่มีความละอายใจ อยากเอาชนะกล่าวอ้างอภิธรรม รูป จิต เจตสิก แต่หลงตามกิเลสตนก็คงไม่มีสามัญสำนึกพูดไปก็เป่าปี่ใส่หูควาย

.. การอยากเอาชนะคนจิตไม่ปรกติอย่างเม มันหาค่าไรๆไม่ได้เลย ซ้ำเรายังเป็นคนบ้าตามอีก ดังนั้นคนในเวบจะเป็นคนบ้าเอาชนะคนบ้าเพื่ออะไรกัน



"การที่จิตเป็นพุทโธตามพระศาสดาเข้าถึงกิริยาจิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ย่อมเข้าถึงพุทธะ คือ เห็นจริงรู้จริงตามพระพุทธเจ้าตรัสสอน"

ปรี๊ดแตกอีกหละเธอ
กริยาจิตที่เป็น ของพระพุทธเจ้า ยิ่งกว่า กริยาจิต มหากริยาจิต ในพระอรหันตตสาวกเสียอีก

ไม่มีในสามัญสัตว์ อย่างเธอ และไม่มีในสามัญสัตว์นิกายต่างๆ ที่มโนกัน

เม เอาชนะใจใครไม่ได้หรอก ไม่ว่า คนนั้นจะบ้าขนาดไหน
แต่ ทำได้เพียง ชี้ทาง ชี้ขุมทรัพย์ ที่ถูกต้องตรงตามพระธรรม อันเป็นศาสดาแทนพระองค์
คริคริ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"

...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน

...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 17:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


บอกแล้ว ตั้งแต่วันแรก

ว่าครูบาอาจารย์ ที่สอนพุทโธ ท่านย้ำนักย้ำหนาๆๆๆๆ

ว่า

ให้ตีใจความของพุทโธ ให้ออก


พระวินัย พระสูตรพระคาถาต่างๆ พระอภิธรรม พระปริยัติ ในพระไตรปิฎก
ในพระไตรปิฎก

คือ พระศาสดา คือพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ จึง ไม่แต่งตั้งให้ พระอรหันต์พระองค์ไหน พระสาวกนิกายต่างๆ องค์ไหน
เป็นศาสดา แทนพระองค์

พระสงฆ์ เกิดตามสัทธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดง
จึงต้องปฎิบัติ ตาม พระธรรม ที่ทรงแสดงไว้ เท่านั้น

และทรงแสดงไว้ว่า หากพุทธบริษัทใด ได้ศึกษา และปฎิบัติ ตรงตามอรรถะ และพยัญชนะ
ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

พุทธบริษัทนั้น ย่อมเข้าถึง ปริยัติ ปฎิบัติปฎิเวธ ที่ถุุกต้อง
ตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์




tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


และอันนี้ จัดให้ เป็นพิเศษ


สำหรับ ที่ผู้มัก กล่าวอ้างว่าเป็น จิตพุทธะ

และแถมให้อีก เป็นพิเศษ สำหรับ ผู้ทีกล่าวอ้างว่า เป็น จิตหนึ่ง


จิตพุทธะ ที่ถูกต้องตามพระไตรปิฎก คือ

จิตพุทธะ จะต้องมีทศพลญาน 10 ทศพลญาณ
และ อสาธารณญาน 6 อันเป็นญานพิเศษ เฉพาะพระพุทธเจ้า เท่านั้น
พระพุทธเจ้า และสามัญสัตว์ จึงต่างกัน
ไม่มีจิตพุทธะ ในพระอริยะสาวก พระอรหันต์ทั้งหลาย คณาจารย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย รวมทั้งลัทธินิกายต่างๆ
เว้นแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่เป็นจิตพุทธะ เท่านั้น


และคำว่าจิตหนึ่ง ที่ถุกต้อง ตามพระไตรปิฏก คือ

ขณิกปัจจุบัน แห่งจิต หนึ่งขณะ อันเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ไม่ใช่วิสัยของพระอรหันต์ พระสาวก หรือสัตว์ทั่วไป ที่จะมีได้


smiley smiley smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คิดไตร่ตรองให้ดีๆ
กายก็มีแล้วมีมาแต่เกิด
เวทนาใครบ้างไม่มีความรู้สึก
จิตก็มีแล้วนะไม่ใช่คนตาย
ธรรมมีตลอดเวลาไม่ขาดเลยเดี๋ยวนี้
กิเลสก็มีตอนมีกายใจครองร่างตอนมีความรู้สึกนะ
ที่ไม่มีคือปัญญาเพราะปัญญาเกิดแทนที่กิเลสตอนฟังคำสอน
และการจะฟังคำสอนรู้เรื่องต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดและหูไม่หนวกถึงจะคิดตามคำสอนได้
https://youtu.be/vJ4gN3y5CI8
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 23:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

พระสูตรไหนครับกล่าวว่าจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ยกมาอ้างอิงหน่อยครับ
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"


อบรมศีล อบรมสมาธิ อบรมปัญญา กับ ชำระล้างใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วปราสจากกิเลส อ่อนควรแก่การงานอาศัยจิตนั้นพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ มันขัดแย้งกันตรงไหนครับ กลืนน้ำลายตนเองอย่างไร
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน


จะผิดจะถูกก็ควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อนเป็นข้อแรก ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นยิบยกพระธรรมมาอ้างเข้าข้างตัวเองผิด ๆ เพื่อให้ตนเองดูฉลาด
...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


พระองค์กล่าวตรงไหนว่า ต้องศึกษาปริยัติพระอภิธรรมเท่านั้น จึงเกิดปริยัติญาณ จึงเกิดปฏิบัติญาณ จึงเกิดปฏิเวธญาณ
พระองค์กล่าวตรงไหนว่าผู้ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมนั้นไม่สามารถปฏิบัติตรงตามคำสอนได้
ใครไปหาศาสดาอื่น เมื่อคำพูดผมอิงพระศาสดา สอดคล้องพระศาสดาอย่างนี้
สอบอารมณ์ผม ผมยังเห็นคุณสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

พระสูตรไหนครับกล่าวว่าจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ยกมาอ้างอิงหน่อยครับ
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"


อบรมศีล อบรมสมาธิ อบรมปัญญา กับ ชำระล้างใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วปราสจากกิเลส อ่อนควรแก่การงานอาศัยจิตนั้นพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ มันขัดแย้งกันตรงไหนครับ กลืนน้ำลายตนเองอย่างไร
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน


จะผิดจะถูกก็ควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อนเป็นข้อแรก ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นยิบยกพระธรรมมาอ้างเข้าข้างตัวเองผิด ๆ เพื่อให้ตนเองดูฉลาด
...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


พระองค์กล่าวตรงไหนว่า ต้องศึกษาปริยัติพระอภิธรรมเท่านั้น จึงเกิดปริยัติญาณ จึงเกิดปฏิบัติญาณ จึงเกิดปฏิเวธญาณ
พระองค์กล่าวตรงไหนว่าผู้ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมนั้นไม่สามารถปฏิบัติตรงตามคำสอนได้
ใครไปหาศาสดาอื่น เมื่อคำพูดผมอิงพระศาสดา สอดคล้องพระศาสดาอย่างนี้
สอบอารมณ์ผม ผมยังเห็นคุณสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย

tongue


คริคริ

ปลายตายน้ำตื้น โดนจับได้ ว่าใช้จิตพุทโธ
จิต+พุทโธ คือ จิตของพระพุทธองค์
เรยโดนจับได้ ว่า จิตนี้ ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
เพราะจิตพุทธโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้น ต้องประกอบด้วยทศพลญาณที่ สำคัญ
ที่ พระอรหันต์ และพระสาวก ไม่มี และสามัญสัตว์อย่างคุณไม่มี

s007



คุณ Love j เข้าใจผิดๆ

ไม่ตรงตามพระพุทธเจ้าสอน
พระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมตลอด 45 พรรรษา
เพื่อให้พุทธบริษัท ได้ศึกษา ในคำสอนที่ถูกต้อง ของพระพุทธองค์

ด้วยเหตุนี้ จึงสอนให้ปฎิบัติ ในธุระ 2 อย่าง
คือ
1 คันธะธุระ
2 วิปัสสนาธุระ
เพื่อให้เกิด ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ตามที่พระบรมศาสดา ได้สอน


แต่ คุณ Love J กลับไม่มีความละอายใจ ไม่ได้ศึกษา ที่ไม่เคารพ ในคำสอนของพระศาสดา
ปริยัติ ก็ไม่เรียน ปฎิบัติก็เรยผิดเพี้ยน ปฎิเวธก็เรยไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์สอน


s007


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ Love J ฟังๆ ท่านอื่นไว้บ้างก็ดีนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 23:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

พระสูตรไหนครับกล่าวว่าจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ยกมาอ้างอิงหน่อยครับ
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"


อบรมศีล อบรมสมาธิ อบรมปัญญา กับ ชำระล้างใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วปราสจากกิเลส อ่อนควรแก่การงานอาศัยจิตนั้นพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ มันขัดแย้งกันตรงไหนครับ กลืนน้ำลายตนเองอย่างไร
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน


จะผิดจะถูกก็ควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อนเป็นข้อแรก ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นยิบยกพระธรรมมาอ้างเข้าข้างตัวเองผิด ๆ เพื่อให้ตนเองดูฉลาด
...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


พระองค์กล่าวตรงไหนว่า ต้องศึกษาปริยัติพระอภิธรรมเท่านั้น จึงเกิดปริยัติญาณ จึงเกิดปฏิบัติญาณ จึงเกิดปฏิเวธญาณ
พระองค์กล่าวตรงไหนว่าผู้ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมนั้นไม่สามารถปฏิบัติตรงตามคำสอนได้
ใครไปหาศาสดาอื่น เมื่อคำพูดผมอิงพระศาสดา สอดคล้องพระศาสดาอย่างนี้
สอบอารมณ์ผม ผมยังเห็นคุณสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย

tongue


คริคริ

ปลายตายน้ำตื้น โดนจับได้ ว่าใช้จิตพุทโธ
จิต+พุทโธ คือ จิตของพระพุทธองค์
เรยโดนจับได้ ว่า จิตนี้ ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
เพราะจิตพุทธโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้น ต้องประกอบด้วยทศพลญาณที่ สำคัญ
ที่ พระอรหันต์ และพระสาวก ไม่มี และสามัญสัตว์อย่างคุณไม่มี

s007



คุณ Love j เข้าใจผิดๆ

ไม่ตรงตามพระพุทธเจ้าสอน
พระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมตลอด 45 พรรรษา
เพื่อให้พุทธบริษัท ได้ศึกษา ในคำสอนที่ถูกต้อง ของพระพุทธองค์

ด้วยเหตุนี้ จึงสอนให้ปฎิบัติ ในธุระ 2 อย่าง
คือ
1 คันธะธุระ
2 วิปัสสนาธุระ
เพื่อให้เกิด ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ตามที่พระบรมศาสดา ได้สอน


แต่ คุณ Love J กลับไม่มีความละอายใจ ไม่ได้ศึกษา ที่ไม่เคารพ ในคำสอนของพระศาสดา
ปริยัติ ก็ไม่เรียน ปฎิบัติก็เรยผิดเพี้ยน ปฎิเวธก็เรยไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์สอน


s007


พระสูตรใดกล่าวว่า จิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ?
................

เมื่อผมถูกโจทย์ มีสติอธิบาย ด้วยเหตุ ด้วยผล อิงอรรถ อิงธรรม สำรวมระวังคำพูด

ถูกโจทย์ไม่แก้ ถูกถามกระอักกระอ่วน ตอบกับด้วยคำที่ไม่เป็นธรรม ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยคำไม่จริง พูดสนับสนุนตนเองผิด ๆ แต่อ้างอิงพระธรรมคำสอน

อย่างไหนควรละอาย อย่างไหนไม่ได้ศึกษา อย่างไหนที่ไม่เคารพในคำสอนของพระศาสดา อย่างไหนปฏิบัติผิด อย่างไหนปฏิเวธไม่ตรงตามคำสอน ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

พระสูตรไหนครับกล่าวว่าจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ยกมาอ้างอิงหน่อยครับ
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"


อบรมศีล อบรมสมาธิ อบรมปัญญา กับ ชำระล้างใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วปราสจากกิเลส อ่อนควรแก่การงานอาศัยจิตนั้นพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ มันขัดแย้งกันตรงไหนครับ กลืนน้ำลายตนเองอย่างไร
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน


จะผิดจะถูกก็ควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อนเป็นข้อแรก ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นยิบยกพระธรรมมาอ้างเข้าข้างตัวเองผิด ๆ เพื่อให้ตนเองดูฉลาด
...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


พระองค์กล่าวตรงไหนว่า ต้องศึกษาปริยัติพระอภิธรรมเท่านั้น จึงเกิดปริยัติญาณ จึงเกิดปฏิบัติญาณ จึงเกิดปฏิเวธญาณ
พระองค์กล่าวตรงไหนว่าผู้ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมนั้นไม่สามารถปฏิบัติตรงตามคำสอนได้
ใครไปหาศาสดาอื่น เมื่อคำพูดผมอิงพระศาสดา สอดคล้องพระศาสดาอย่างนี้
สอบอารมณ์ผม ผมยังเห็นคุณสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย

tongue


คริคริ

ปลายตายน้ำตื้น โดนจับได้ ว่าใช้จิตพุทโธ
จิต+พุทโธ คือ จิตของพระพุทธองค์
เรยโดนจับได้ ว่า จิตนี้ ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
เพราะจิตพุทธโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้น ต้องประกอบด้วยทศพลญาณที่ สำคัญ
ที่ พระอรหันต์ และพระสาวก ไม่มี และสามัญสัตว์อย่างคุณไม่มี

s007



คุณ Love j เข้าใจผิดๆ

ไม่ตรงตามพระพุทธเจ้าสอน
พระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมตลอด 45 พรรรษา
เพื่อให้พุทธบริษัท ได้ศึกษา ในคำสอนที่ถูกต้อง ของพระพุทธองค์

ด้วยเหตุนี้ จึงสอนให้ปฎิบัติ ในธุระ 2 อย่าง
คือ
1 คันธะธุระ
2 วิปัสสนาธุระ
เพื่อให้เกิด ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ตามที่พระบรมศาสดา ได้สอน


แต่ คุณ Love J กลับไม่มีความละอายใจ ไม่ได้ศึกษา ที่ไม่เคารพ ในคำสอนของพระศาสดา
ปริยัติ ก็ไม่เรียน ปฎิบัติก็เรยผิดเพี้ยน ปฎิเวธก็เรยไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์สอน


s007


พระสูตรใดกล่าวว่า จิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ?
................

เมื่อผมถูกโจทย์ มีสติอธิบาย ด้วยเหตุ ด้วยผล อิงอรรถ อิงธรรม สำรวมระวังคำพูด

ถูกโจทย์ไม่แก้ ถูกถามกระอักกระอ่วน ตอบกับด้วยคำที่ไม่เป็นธรรม ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยคำไม่จริง พูดสนับสนุนตนเองผิด ๆ แต่อ้างอิงพระธรรมคำสอน

อย่างไหนควรละอาย อย่างไหนไม่ได้ศึกษา อย่างไหนที่ไม่เคารพในคำสอนของพระศาสดา อย่างไหนปฏิบัติผิด อย่างไหนปฏิเวธไม่ตรงตามคำสอน ?



พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงแสวงหา
พระคุณอันยิ่งใหญ่ได้ตรัสไว้ว่า เมื่อจิตเศร้าหมอง
สัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่าเศร้าหมอง เมื่อจิตบริสุทธิ์
สัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่าบริสุทธิ์ด้วย.

ยกมาให้ คุณ Love J อีกหน

ทั้งๆที่ยกไปให้หลายวันถั่นล่วงไปแระ

คนที่ไม่ได้ศึกษา พระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก ที่ไม่ได้มีแต่พุทธพจน์
ไม่ได้มี แต่ พระสูตร แต่มีทั้ง ปกรณ์ อรรถกฎา และฏีกา ด้วย
เพราะยัง ไม่เก๊ต


tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 23:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

พระสูตรไหนครับกล่าวว่าจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ยกมาอ้างอิงหน่อยครับ
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"


อบรมศีล อบรมสมาธิ อบรมปัญญา กับ ชำระล้างใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วปราสจากกิเลส อ่อนควรแก่การงานอาศัยจิตนั้นพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ มันขัดแย้งกันตรงไหนครับ กลืนน้ำลายตนเองอย่างไร
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน


จะผิดจะถูกก็ควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อนเป็นข้อแรก ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นยิบยกพระธรรมมาอ้างเข้าข้างตัวเองผิด ๆ เพื่อให้ตนเองดูฉลาด
...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


พระองค์กล่าวตรงไหนว่า ต้องศึกษาปริยัติพระอภิธรรมเท่านั้น จึงเกิดปริยัติญาณ จึงเกิดปฏิบัติญาณ จึงเกิดปฏิเวธญาณ
พระองค์กล่าวตรงไหนว่าผู้ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมนั้นไม่สามารถปฏิบัติตรงตามคำสอนได้
ใครไปหาศาสดาอื่น เมื่อคำพูดผมอิงพระศาสดา สอดคล้องพระศาสดาอย่างนี้
สอบอารมณ์ผม ผมยังเห็นคุณสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย

tongue


คริคริ

ปลายตายน้ำตื้น โดนจับได้ ว่าใช้จิตพุทโธ
จิต+พุทโธ คือ จิตของพระพุทธองค์
เรยโดนจับได้ ว่า จิตนี้ ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
เพราะจิตพุทธโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้น ต้องประกอบด้วยทศพลญาณที่ สำคัญ
ที่ พระอรหันต์ และพระสาวก ไม่มี และสามัญสัตว์อย่างคุณไม่มี

s007



คุณ Love j เข้าใจผิดๆ

ไม่ตรงตามพระพุทธเจ้าสอน
พระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมตลอด 45 พรรรษา
เพื่อให้พุทธบริษัท ได้ศึกษา ในคำสอนที่ถูกต้อง ของพระพุทธองค์

ด้วยเหตุนี้ จึงสอนให้ปฎิบัติ ในธุระ 2 อย่าง
คือ
1 คันธะธุระ
2 วิปัสสนาธุระ
เพื่อให้เกิด ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ตามที่พระบรมศาสดา ได้สอน


แต่ คุณ Love J กลับไม่มีความละอายใจ ไม่ได้ศึกษา ที่ไม่เคารพ ในคำสอนของพระศาสดา
ปริยัติ ก็ไม่เรียน ปฎิบัติก็เรยผิดเพี้ยน ปฎิเวธก็เรยไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์สอน


s007


พระสูตรใดกล่าวว่า จิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ?
................

เมื่อผมถูกโจทย์ มีสติอธิบาย ด้วยเหตุ ด้วยผล อิงอรรถ อิงธรรม สำรวมระวังคำพูด

ถูกโจทย์ไม่แก้ ถูกถามกระอักกระอ่วน ตอบกับด้วยคำที่ไม่เป็นธรรม ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยคำไม่จริง พูดสนับสนุนตนเองผิด ๆ แต่อ้างอิงพระธรรมคำสอน

อย่างไหนควรละอาย อย่างไหนไม่ได้ศึกษา อย่างไหนที่ไม่เคารพในคำสอนของพระศาสดา อย่างไหนปฏิบัติผิด อย่างไหนปฏิเวธไม่ตรงตามคำสอน ?



พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงแสวงหา
พระคุณอันยิ่งใหญ่ได้ตรัสไว้ว่า เมื่อจิตเศร้าหมอง
สัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่าเศร้าหมอง เมื่อจิตบริสุทธิ์
สัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่าบริสุทธิ์ด้วย.

ยกมาให้ คุณ Love J อีกหน

ทั้งๆที่ยกไปให้หลายวันถั่นล่วงไปแระ

คนที่ไม่ได้ศึกษา พระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก ที่ไม่ได้มีแต่พุทธพจน์
ไม่ได้มี แต่ พระสูตร แต่มีทั้ง ปกรณ์ อรรถกฎา และฏีกา ด้วย
เพราะยัง ไม่เก๊ต


tongue


พระสูตรไหนกล่าวว่าจิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว มีแต่พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ???
จิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วไม่มีในสามัญสัตว์อย่างผม อาศัยอะไรอ้างอิง ?
ผมเป็นมนุษย์ พระพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์ พระอรหันต์ก็เป็นมนุษย์ หากกล่าวว่าจิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วไม่มีในสามัญสัตว์อย่างผม ก็ต้องกล่าวว่าไม่มีในพระพุทธเจ้า ไม่มีในพระอรหันต์ด้วย ใช่หรือไม่ ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2019, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ตอบ * ก็จิตพุทโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ที่คุณกล่าวอ้าง มาตั้งแต่ อ้าปากวันแรก เรย ไงค๊ะ
จิตพุทโธที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จิตนี้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งได้ยกพระวจนะ ไปให้ดู แล้ว ว่าต่างกับที่คุณกล่าวอ้างยังไง
จิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ เท่านั้น ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
และจิตของพระพุทธองค์ ที่ประกอบด้วย อาสาธารณญาณ 6 นั้น จะมีแต่พระพุทะเจ้าเท่านั้น พระอรหันต์ และพระสาวกทั่วไป ไม่มี
และตามพระสูตร ก้ยืนยันชัดเจน ว่า จิตที่บริสุทธ์ผ่องแผ้ว นี้ มีแต่ สัตว์ที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลส เท่านั้น

พระสูตรไหนครับกล่าวว่าจิตที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ยกมาอ้างอิงหน่อยครับ
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน
ตอบ * คุณ LOVE J คุณเอง เป็นผุ้กล่าว และกลืนน้ำลายตัวเอง
พอดี ก๊อบ และอ้างอิงไว้ ตั้งแต่ วันแรก ที่คุณพยายามจะแสดงอะไรๆ ที่ผิดๆ ไม่ตรงตามพระปริยัตติธรรม
คุณกล่าวไว้ ว่า ..
" ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ"


อบรมศีล อบรมสมาธิ อบรมปัญญา กับ ชำระล้างใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้วปราสจากกิเลส อ่อนควรแก่การงานอาศัยจิตนั้นพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ มันขัดแย้งกันตรงไหนครับ กลืนน้ำลายตนเองอย่างไร
...................................................................................................................
คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ตอบ * ผิดมาตั้งแต่แรก ที่คุณอ้าปากมา และกล้ำกลืนน้ำตายตัวเองมาตลอดเวลา และจนบัดนี้ คุณยังไม่รู้ว่าผิด ต่อพระธรรมมากมายมหาศาลแค่ไหน


จะผิดจะถูกก็ควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อนเป็นข้อแรก ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นยิบยกพระธรรมมาอ้างเข้าข้างตัวเองผิด ๆ เพื่อให้ตนเองดูฉลาด
...................................................................................................................
.คุณ LOVE J กล่าวอ้าง ว่า
ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง
ตอบ * พระพุทธองค์ ได้ตรัสว่า พระธรรม พระวินัยที่ทรงแสดงไว้ ตลอดพระชมณ์ นั่นแหละ จักเป็นศาสดา แทนพระองค์
พระพุทธองค์ ไม่ได้แต่งตั้งพระอรหันต์ หรือพระสาวกทั่วไปๆ นิกาย ต่างๆ ตามประเทศต่างๆ เป็นพระศาสดา
คนฉลาด จึงไปหาพระศาสดา ไม่ไปหาศาสดาอื่น จึงเอา พระปริยัติ พระอภิธรรม พระวินัย พระไตรปิฎกเท่านั้น เป็นพระศาดา
และผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ จะไม่ทำกะคุณ อย่างทนุถนอม แน่นอน
และนี่เป็นสนทนาธรรมทั่วไป ก็ต้องสอบอารมณ์กันบ้าง โดยใช้ กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา แลบะอัพพยากตาธัมมา
ที่ทนไหว เพราะ คุณ โยนิโสมนสิการ โดยแยบคายไม่ๆๆๆๆๆได้เรย


พระองค์กล่าวตรงไหนว่า ต้องศึกษาปริยัติพระอภิธรรมเท่านั้น จึงเกิดปริยัติญาณ จึงเกิดปฏิบัติญาณ จึงเกิดปฏิเวธญาณ
พระองค์กล่าวตรงไหนว่าผู้ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมนั้นไม่สามารถปฏิบัติตรงตามคำสอนได้
ใครไปหาศาสดาอื่น เมื่อคำพูดผมอิงพระศาสดา สอดคล้องพระศาสดาอย่างนี้
สอบอารมณ์ผม ผมยังเห็นคุณสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย

tongue


คริคริ

ปลายตายน้ำตื้น โดนจับได้ ว่าใช้จิตพุทโธ
จิต+พุทโธ คือ จิตของพระพุทธองค์
เรยโดนจับได้ ว่า จิตนี้ ไม่มีในสามัญสัตว์อย่างคุณ
เพราะจิตพุทธโธ อันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้น ต้องประกอบด้วยทศพลญาณที่ สำคัญ
ที่ พระอรหันต์ และพระสาวก ไม่มี และสามัญสัตว์อย่างคุณไม่มี

s007



คุณ Love j เข้าใจผิดๆ

ไม่ตรงตามพระพุทธเจ้าสอน
พระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมตลอด 45 พรรรษา
เพื่อให้พุทธบริษัท ได้ศึกษา ในคำสอนที่ถูกต้อง ของพระพุทธองค์

ด้วยเหตุนี้ จึงสอนให้ปฎิบัติ ในธุระ 2 อย่าง
คือ
1 คันธะธุระ
2 วิปัสสนาธุระ
เพื่อให้เกิด ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ตามที่พระบรมศาสดา ได้สอน


แต่ คุณ Love J กลับไม่มีความละอายใจ ไม่ได้ศึกษา ที่ไม่เคารพ ในคำสอนของพระศาสดา
ปริยัติ ก็ไม่เรียน ปฎิบัติก็เรยผิดเพี้ยน ปฎิเวธก็เรยไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์สอน


s007


พระสูตรใดกล่าวว่า จิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้วมีแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ?
................

เมื่อผมถูกโจทย์ มีสติอธิบาย ด้วยเหตุ ด้วยผล อิงอรรถ อิงธรรม สำรวมระวังคำพูด

ถูกโจทย์ไม่แก้ ถูกถามกระอักกระอ่วน ตอบกับด้วยคำที่ไม่เป็นธรรม ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยคำไม่จริง พูดสนับสนุนตนเองผิด ๆ แต่อ้างอิงพระธรรมคำสอน

อย่างไหนควรละอาย อย่างไหนไม่ได้ศึกษา อย่างไหนที่ไม่เคารพในคำสอนของพระศาสดา อย่างไหนปฏิบัติผิด อย่างไหนปฏิเวธไม่ตรงตามคำสอน ?



พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงแสวงหา
พระคุณอันยิ่งใหญ่ได้ตรัสไว้ว่า เมื่อจิตเศร้าหมอง
สัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่าเศร้าหมอง เมื่อจิตบริสุทธิ์
สัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่าบริสุทธิ์ด้วย.

ยกมาให้ คุณ Love J อีกหน

ทั้งๆที่ยกไปให้หลายวันถั่นล่วงไปแระ

คนที่ไม่ได้ศึกษา พระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก ที่ไม่ได้มีแต่พุทธพจน์
ไม่ได้มี แต่ พระสูตร แต่มีทั้ง ปกรณ์ อรรถกฎา และฏีกา ด้วย
เพราะยัง ไม่เก๊ต


tongue


พระสูตรไหนกล่าวว่าจิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว มีแต่พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ???


คนที่ไม่ได้ศึกษา พระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก ที่ไม่ได้มีแต่พุทธพจน์
ไม่ได้มี แต่ พระสูตร แต่มีทั้ง ปกรณ์ อรรถกฎา และฏีกา ด้วย
เพราะยัง ไม่เก๊ต

เรยหาไม่เจอหราค๊ะ
ง่ายๆน๊ะค๊ะ

ไปหาจาก 84000 http://www.84000.org/

จะได้หัดศึกษาพระปริยัติด้วยตัวเอง

tongue


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 134 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร