วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 02:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 26  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 07:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




dd145_resize.jpg
dd145_resize.jpg [ 55.02 KiB | เปิดดู 4093 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
huh huh huh

onion
เหนื่อยนักก็ฝึกเข้าสมาบัติ พักจิตพักใจเสียบ้างก็ดีนะ
onion
ได้ฌาณ ก็เข้าฌาณสมาบัติ
onion
ได้มรรคผลก็เข้าพละสมาบัติตามชั้นของตน
:b8:
กำลังเดินทางได้วิปัสสนาปัญญา ก็พักที่ "สังขารุเปกขาญาณ" ก็ได้
onion
ทำเป็นหรือเปล่า?
:b12:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2012, 18:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion
เมื่อถึงเวลาที่จะนั่งซักใจหรือชำระจิตของตนให้ขาวรอบจริงๆนั้น แทบไม่ต้องทำอะไรเลย
มีภาระกิจอยู่เพียงแค่ให้สติและปัญญาเขาได้ทำหน้าที่ตามธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยไม่มีอะไรไปขัดข้องขัดขวางการทำงานของสติและปัญญา

วิปัสสนาภาวนานั้นมีหลักง่ายๆที่เราต้องอบรมสติของเราให้รู้แล้วสติจะได้กำกับกายใจให้อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องตลอดเวลา
หลักของวิปัสสนาภาวนาที่จำง่ายๆคือ

"สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์" โดยไม่ต้องทำอะไรอื่น ความนิ่งรู้นั้น มี "รู้ทันปัจจุบันอารมณ์ อันได้แก่สัมมาสติ"
"รู้ถึงความจริงของอารมณ์ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป" (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
ในปฏิบัติการจริงๆ สิ่งสกปรกในใจเขาจะลอยฟ่องแสดงตัวออกมาให้เห็นเป็นระยะๆตลอดการภาวนา ผู้ชำระใจก็มีเพียงหน้าที่

"รู้ทัน....และ.....รู้ถึง".....โดยไม่ต้องทำอย่างอื่น แล้วใจจะถูกซักถูกชำระเองโดยอัตโนมัติ


:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 16:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนที่ สติ ปัญญา ได้ทำหน้าที่ของเขาตามธรรมชาติเดิมแท้จริงๆ คือ "รู้ทัน"...."สังเกต" ....."รู้".....
อยู่อย่างนั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มาเกี่ยวข้อง กระบวนการซักใจจะเกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ อุปาทานและอนุสัยกิเลสต่างๆจะถูกถอดถอน
]ด้วยความที่ไม่มีเหตุให้ปัจจัยกระทบ
onion
ท่านเอรากอน ลองนั่งเข้าไปสัมผัสสภาวะตรงนี้ให้ได้ชัดๆสักครั้งหนึ่งซิแล้วจะรู้ซึ้ง
:b16: :b16: :b16: :b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 17:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
แล้วใจจะถูกซักถูกชำระเองโดยอัตโนมัติ


asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12: :b12:

ตอนที่ สติ ปัญญา ได้ทำหน้าที่ของเขาตามธรรมชาติเดิมแท้จริงๆ คือ "รู้ทัน"...."สังเกต" ....."รู้".....
อยู่อย่างนั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มาเกี่ยวข้อง กระบวนการซักใจจะเกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ อุปาทานและอนุสัยกิเลสต่างๆจะถูกถอดถอน
]ด้วยความที่ไม่มีเหตุให้ปัจจัยกระทบ
onion
ท่านเอรากอน ลองนั่งเข้าไปสัมผัสสภาวะตรงนี้ให้ได้ชัดๆสักครั้งหนึ่งซิแล้วจะรู้ซึ้ง
:b16: :b16: :b16: :b16: :b16: :b16:


เอกอนบอกท่านแล้ว ว่าให้ช้า ๆ

ท่านแสดงความเห็น ว่ามีสิ่งที่ถูกซักอยู่นะ

ถ้าไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มาเกี่ยวข้องจริง ๆ

แล้วจะมีอะไรที่ต้องซักอะไรล่ะ

แล้วจะมีอะไรเข้าไปดูให้รู้ให้ซึ๊งในอะไร

:b16: :b16: :b16:

แต่ที่มันมี เพราะอะไร

:b12: :b12: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 04 พ.ค. 2012, 17:54, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 17:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กระบวนการซักใจจะเกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ อุปาทานและอนุสัยกิเลสต่างๆจะถูกถอดถอน ด้วยความที่ไม่มีเหตุให้ปัจจัยกระทบ


ตรงนี้ไม่เกิดผัสสะ

การไม่เกิดผัสสะ กับ การถอดถอนอุปทาน คนละเจตสิกกัน

ช้า ช้า

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 18:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




saraprr%20copy.jpg
saraprr%20copy.jpg [ 37.99 KiB | เปิดดู 4054 ครั้ง ]
eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
กระบวนการซักใจจะเกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ อุปาทานและอนุสัยกิเลสต่างๆจะถูกถอดถอน ด้วยความที่ไม่มีเหตุให้ปัจจัยกระทบ


ตรงนี้ไม่เกิดผัสสะ

การไม่เกิดผัสสะ กับ การถอดถอนอุปทาน คนละเจตสิกกัน

ช้า ช้า

:b1:

:b12:
เข้าใจเรื่องเจตสิกได้ดีนี่ครับ
:b16:
นามปัญญา กับนามสติ (ปัญญินทรีย์+สตินทรีย์เจตสิก) ไปรู้ นามอวิชชา คืออุปาทานว่าเป็นตัวกูของกู(สักกายทิฐิ) ปัญญินทรีย์กับสตินทรีย์+สมาธินทรีย์ นิ่งรู้นิ่งสังเกตเวทนาจากปฏิกิริยาตอบโต้ของ อัตตา
โดยไม่กระทำการใดๆ จน จบกระบวนการและปฏิกิริยาโต้ตอบของ อัตตา (ปัจจุบันอารมณ์ทั้งแม่และลูกดับหมดสิ้นไปต่อหน้าต่อตา) นั่นแหละสติปัญญาซักใจ คือตัวเหตุ อัตตา ดับไปชั่วคราวหรือถาวร ปัจจัยทั้งหลายก็ไม่มีที่กระทบ

:b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 18:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
เข้าใจเรื่องเจตสิกได้ดีนี่ครับ
:b16:
นามปัญญา กับนามสติ (ปัญญินทรีย์+สตินทรีย์เจตสิก) ไปรู้ นามอวิชชา คืออุปาทานว่าเป็นตัวกูของกู(สักกายทิฐิ) ปัญญินทรีย์กับสตินทรีย์+สมาธินทรีย์ นิ่งรู้นิ่งสังเกตเวทนาจากปฏิกิริยาตอบโต้ของ อัตตา
โดยไม่กระทำการใดๆ จน จบกระบวนการและปฏิกิริยาโต้ตอบของ อัตตา (ปัจจุบันอารมณ์ทั้งแม่และลูกดับหมดสิ้นไปต่อหน้าต่อตา) นั่นแหละสติปัญญาซักใจ คือตัวเหตุ อัตตา ดับไปชั่วคราวหรือถาวร ปัจจัยทั้งหลายก็ไม่มีที่กระทบ

:b27:


สติ ก็ทำหน้าที่สติ
ไม่ได้ซักอะไร อีกแหละ

:b16:

สติปรากฎ ความไหล-หลง-เผลอ ก็หายไป

:b41:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 04 พ.ค. 2012, 19:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 18:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญาก็ไม่ได้ทำหน้าที่ ซักใจ

เพียงแต่ปัญญาปรากฎ อวิชาก็หายไป

:b16:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 04 พ.ค. 2012, 19:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 18:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


วิมุตติปรากฎ

ก็เห็น :b14:

อ้าวเวร...ไอ้ตัวที่มันหลงเข้าไปยึดขันธ์...มัน

:b10:

"กาฝาก" ดี ๆ นี่เอง

:b41:

:b9: :b9: อิอิ แอบจำหลวงพ่อมาเล่าน่ะ :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 21:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ปัญญาก็ไม่ได้ทำหน้าที่ ซักใจ

เพียงแต่ปัญญาปรากฎ อวิชาก็หายไป

:b16:

:b12: :b12: :b12: :b12:
สื่อกันด้วยบัญญัติคนละอย่าง ในความหมายเดียวกัน

"เมื่อแสงสว่างมา ความมืดก็หายไป" นี่ว่าตามธรรม

"สะจิตตะ ปริโยทะปะนัง" การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ พุทธวจนะบาลี แปลออกมาสื่อในภาษาไทยได้อย่างนี้

แล้วจะเอาอะไรมาชำระใจ? ลองอธิบายในบัญญัติของท่านให้ฟังกันดูนะครับ

ถ้าจะบอกว่า "ไม่มีอะไร ก็ไม่ต้องชำระอะไร" ก็ฟังดูเหมือนดี แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจและรู้วิธีการ

สติกับปัญญา จับอยู่ที่สภาวธรรมอันมืดมัว เมื่อสติปัญญาแก่กล้าขึ้น ความมืดมัวนั้นก็มลายหายไป ดุจพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า

ใครจะตีความอย่างไรก็ตามใจ ตามระดับสติปัญญา (ปัจจัตตัง)
:b12: :b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 21:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
เข้าใจเรื่องเจตสิกได้ดีนี่ครับ
:b16:
นามปัญญา กับนามสติ (ปัญญินทรีย์+สตินทรีย์เจตสิก) ไปรู้ นามอวิชชา คืออุปาทานว่าเป็นตัวกูของกู(สักกายทิฐิ) ปัญญินทรีย์กับสตินทรีย์+สมาธินทรีย์

นิ่งรู้นิ่งสังเกตเวทนาจากปฏิกิริยาตอบโต้ของ อัตตา โดยไม่กระทำการใดๆ จน จบกระบวนการและปฏิกิริยาโต้ตอบของ อัตตา (ปัจจุบันอารมณ์ทั้งแม่และลูกดับหมดสิ้นไปต่อหน้าต่อตา) นั่นแหละสติปัญญาซักใจ คือตัวเหตุ อัตตา ดับไปชั่วคราวหรือถาวร ปัจจัยทั้งหลายก็ไม่มีที่กระทบ

:b27:

นิ่งรู้....นะรู้อะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 21:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
เข้าใจเรื่องเจตสิกได้ดีนี่ครับ
:b16:
นามปัญญา กับนามสติ (ปัญญินทรีย์+สตินทรีย์เจตสิก) ไปรู้ นามอวิชชา คืออุปาทานว่าเป็นตัวกูของกู(สักกายทิฐิ) ปัญญินทรีย์กับสตินทรีย์+สมาธินทรีย์

นิ่งรู้นิ่งสังเกตเวทนาจากปฏิกิริยาตอบโต้ของ อัตตา โดยไม่กระทำการใดๆ จน จบกระบวนการและปฏิกิริยาโต้ตอบของ อัตตา (ปัจจุบันอารมณ์ทั้งแม่และลูกดับหมดสิ้นไปต่อหน้าต่อตา) นั่นแหละสติปัญญาซักใจ คือตัวเหตุ อัตตา ดับไปชั่วคราวหรือถาวร ปัจจัยทั้งหลายก็ไม่มีที่กระทบ

:b27:

นิ่งรู้....นะรู้อะไร

:b12:
นิ่งรู้ นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์ ครับ ท่านกบ
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 22:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ตอนที่ สติ ปัญญา ได้ทำหน้าที่ของเขาตามธรรมชาติเดิมแท้จริงๆ คือ. "รู้ทัน"...."สังเกต" ....."รู้".... อยู่อย่างนั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มาเกี่ยวข้อง กระบวนการซักใจจะเกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ อุปาทานและอนุสัยกิเลสต่างๆจะถูกถอดถอน ]ด้วยความที่ไม่มีเหตุให้ปัจจัยกระทบ
onion
ท่านเอรากอน ลองนั่งเข้าไปสัมผัสสภาวะตรงนี้ให้ได้ชัดๆสักครั้งหนึ่งซิแล้วจะรู้ซึ้ง
:b16: :b16: :b16: :b16: :b16: :b16:

ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มาเกี่ยวข้อง
คนธรรมดา...ไม่มี.....ได้จริงหรือ?

ก็ในเมื่อมีได้ไม่จริง....รู้...มันจะรู้จริงอะไร....ตัวมันเองยังเอาตัวไม่รอดจากอุปาทานขันธ์เลย

ดังนั้น...กระบวนการซักใจโดยธรรมชาติ....ก็เป็นแค่คำปลอบใจตนไปวัน ๆ เท่านั้น

แต่หากว่า....ตัวเองปลอดจากอุปาทานชันธ์แล้ว...ก็ไม่มีอะไรทำให้ต้องไปซักต้องไปล้าง...อีก

กระบวนการนี้....จึงบกพร่อง

บกพร่องที่...เกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ..

บกพร่องที่...ไม่มีตัวตน..เราเขา..เข้ามาเกี่ยวข้อง...เกี่ยวข้องเพื่อที่จะทิ้ง

การค่อย ๆ ขำระจิตใจ..เป็นเรื่องจำเป็นของคนกำลังน้อย..ที่ฟั้นเชื่อกทีละเส้น ๆ...เชือกก็ขาดไปได้

คนกำลังมาก...เขาตัดฉับทีเดียว..."เธอจงมองโลกเป็นความว่าง"...เชือกก็ขาด

เป็นแบบไหนก็ตามแต่วาสนา..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 22:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิ่งรู้....นะรู้อะไร

:b12:
นิ่งรู้ นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์ ครับ ท่านกบ
:b16: :b16:

แล้วผลจะต่างอะไรกับการรู้ลมหายใจ...รู้พองยุบ...? เพียงตัวถูกรู้หยาบละเอียดต่างกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
หมดความปรุงแต่ง..จริง ๆ ..ก็อรหันตผลนั้นแหละ.. rolleyes


กระผมว่าท่านที่เป็นอรหันต์ ก็ไม่ได้หมดความปรุงแต่งมั่งครับ เพียงปรุงแต่ง ด้วย วิชชา แทน อวิชชา ท่านจึงอยู่อย่างเข้าถึงความมีในความไม่มี และ ความไม่มีในความมี นั้นครับ
ช่ายมั้ยหว่าท่าน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 26  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร