วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 22:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จบตอน :b48: พุทธธรรมหน้า ๑๐๖๙ :b41:


ต่อ สุขความสุข คืออะไร ความต้องการ คืออะไร และสำคัญอย่างไร ที่

viewtopic.php?f=1&t=56801

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 18:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง
ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 15:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

:b32:
อ่ะนะ...ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจถูกตามได้เดี๋ยวนี้
ที่เป็นตัวคุณเห็นคนสัตว์วัตถุหรือตัวอักษรให้อ่านให้คิดอยู่เนี่ยคือมิจฉาทิฏฐิ
เพราะพระพุทธเจ้าแสดงความจริงตรงปัจจุบันขณะว่าไม่มีตัวตนคนสัตว์วัตถุมีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นแต่พระพุทธเจ้าแสดงว่าจิตเห็นมีแค่แสงสะท้อนเข้าตาดับแล้วมืดไม่มีคนสัตว์วัตถุ
ที่กำลังเห็นแต่คิดนึกถึงคนสัตว์วัตถุน่ะคืออดีตสีที่สะท้อนเข้าตาหลายขณะหลากสีตัดกันปรากฏเป็นสัณฐาน
ทำให้เสมือนมีรูปร่างต่างๆปรากฏเป็นการหลงผิดจำผิดจำสภาพธรรมที่ดับนับไม่ถ้วนรวมๆกันคือมีอวิชชาจร้า
จนกว่าจะเริ่มฟังตรงจริงตรงขณะเข้าใจถูกตามเสียงคำจริงตรงที่กายใจคุณกำลังมีว่าตรงกับ1ใน6ทางไหน
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

:b32:
อ่ะนะ...ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจถูกตามได้เดี๋ยวนี้
ที่เป็นตัวคุณเห็นคนสัตว์วัตถุหรือตัวอักษรให้อ่านให้คิดอยู่เนี่ยคือมิจฉาทิฏฐิ
เพราะพระพุทธเจ้าแสดงความจริงตรงปัจจุบันขณะว่าไม่มีตัวตนคนสัตว์วัตถุมีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นแต่พระพุทธเจ้าแสดงว่าจิตเห็นมีแค่แสงสะท้อนเข้าตาดับแล้วมืดไม่มีคนสัตว์วัตถุ
ที่กำลังเห็นแต่คิดนึกถึงคนสัตว์วัตถุน่ะคืออดีตสีที่สะท้อนเข้าตาหลายขณะหลากสีตัดกันปรากฏเป็นสัณฐาน
ทำให้เสมือนมีรูปร่างต่างๆปรากฏเป็นการหลงผิดจำผิดจำสภาพธรรมที่ดับนับไม่ถ้วนรวมๆกันคือมีอวิชชาจร้า
จนกว่าจะเริ่มฟังตรงจริงตรงขณะเข้าใจถูกตามเสียงคำจริงตรงที่กายใจคุณกำลังมีว่าตรงกับ1ใน6ทางไหน



ไม่ได้สนอกสนใจคำถามเบยนะคุณโรส เขาถามว่า ไปไหนมา ? นี่ คำถาม

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม


เสริมอีก คุณโรสกวาดบ้านถูเรือน ใช้มือหยิบจับไม้กวาดไหม ใช้ตาแลดูไหม เออ :b13: หรือ ใช้เท้าจับไม้กวาด ใช้ตาตุ่มแลดูก็เห็น คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

:b32:
อ่ะนะ...ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจถูกตามได้เดี๋ยวนี้
ที่เป็นตัวคุณเห็นคนสัตว์วัตถุหรือตัวอักษรให้อ่านให้คิดอยู่เนี่ยคือมิจฉาทิฏฐิ
เพราะพระพุทธเจ้าแสดงความจริงตรงปัจจุบันขณะว่าไม่มีตัวตนคนสัตว์วัตถุมีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นแต่พระพุทธเจ้าแสดงว่าจิตเห็นมีแค่แสงสะท้อนเข้าตาดับแล้วมืดไม่มีคนสัตว์วัตถุ
ที่กำลังเห็นแต่คิดนึกถึงคนสัตว์วัตถุน่ะคืออดีตสีที่สะท้อนเข้าตาหลายขณะหลากสีตัดกันปรากฏเป็นสัณฐาน
ทำให้เสมือนมีรูปร่างต่างๆปรากฏเป็นการหลงผิดจำผิดจำสภาพธรรมที่ดับนับไม่ถ้วนรวมๆกันคือมีอวิชชาจร้า
จนกว่าจะเริ่มฟังตรงจริงตรงขณะเข้าใจถูกตามเสียงคำจริงตรงที่กายใจคุณกำลังมีว่าตรงกับ1ใน6ทางไหน



ไม่ได้สนอกสนใจคำถามเบยนะคุณโรส เขาถามว่า ไปไหนมา ? นี่ คำถาม

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม


เสริมอีก คุณโรสกวาดบ้านถูเรือน ใช้มือหยิบจับไม้กวาดไหม ใช้ตาแลดูไหม เออ :b13: หรือ ใช้เท้าจับไม้กวาด ใช้ตาตุ่มแลดูก็เห็น คิกๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

:b32:
อ่ะนะ...ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจถูกตามได้เดี๋ยวนี้
ที่เป็นตัวคุณเห็นคนสัตว์วัตถุหรือตัวอักษรให้อ่านให้คิดอยู่เนี่ยคือมิจฉาทิฏฐิ
เพราะพระพุทธเจ้าแสดงความจริงตรงปัจจุบันขณะว่าไม่มีตัวตนคนสัตว์วัตถุมีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นแต่พระพุทธเจ้าแสดงว่าจิตเห็นมีแค่แสงสะท้อนเข้าตาดับแล้วมืดไม่มีคนสัตว์วัตถุ
ที่กำลังเห็นแต่คิดนึกถึงคนสัตว์วัตถุน่ะคืออดีตสีที่สะท้อนเข้าตาหลายขณะหลากสีตัดกันปรากฏเป็นสัณฐาน
ทำให้เสมือนมีรูปร่างต่างๆปรากฏเป็นการหลงผิดจำผิดจำสภาพธรรมที่ดับนับไม่ถ้วนรวมๆกันคือมีอวิชชาจร้า
จนกว่าจะเริ่มฟังตรงจริงตรงขณะเข้าใจถูกตามเสียงคำจริงตรงที่กายใจคุณกำลังมีว่าตรงกับ1ใน6ทางไหน



ไม่ได้สนอกสนใจคำถามเบยนะคุณโรส เขาถามว่า ไปไหนมา ? นี่ คำถาม

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม


เสริมอีก คุณโรสกวาดบ้านถูเรือน ใช้มือหยิบจับไม้กวาดไหม ใช้ตาแลดูไหม เออ :b13: หรือ ใช้เท้าจับไม้กวาด ใช้ตาตุ่มแลดูก็เห็น คิกๆๆ

:b1:
บอกให้คิดตามเข้าใจถูกตามคำสอนได้ไง
จะอ้อมไปไหนตาไม่บอดก็ดูสิว่าเห็นอะไร
เอามาเทียบตามคำสอนเดี๋ยวนี้รู้ถึงสีไหม
จิตเห็น1สี+แสงสะท้อนเข้าตาดับตรงนั้นเลย
ไม่เหลือซากเห็นอันนั้นแล้วตายทุกขณะไม่มีตัวตน
เอาอะไรมารู้ถ้าไม่คิดตามตรงคำตรงกับที่ตาคุณเห็น
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงคนอื่นไม่มีใครเห็นสีตอนกระทบตารู้ยัง
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

:b32:
อ่ะนะ...ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจถูกตามได้เดี๋ยวนี้
ที่เป็นตัวคุณเห็นคนสัตว์วัตถุหรือตัวอักษรให้อ่านให้คิดอยู่เนี่ยคือมิจฉาทิฏฐิ
เพราะพระพุทธเจ้าแสดงความจริงตรงปัจจุบันขณะว่าไม่มีตัวตนคนสัตว์วัตถุมีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นแต่พระพุทธเจ้าแสดงว่าจิตเห็นมีแค่แสงสะท้อนเข้าตาดับแล้วมืดไม่มีคนสัตว์วัตถุ
ที่กำลังเห็นแต่คิดนึกถึงคนสัตว์วัตถุน่ะคืออดีตสีที่สะท้อนเข้าตาหลายขณะหลากสีตัดกันปรากฏเป็นสัณฐาน
ทำให้เสมือนมีรูปร่างต่างๆปรากฏเป็นการหลงผิดจำผิดจำสภาพธรรมที่ดับนับไม่ถ้วนรวมๆกันคือมีอวิชชาจร้า
จนกว่าจะเริ่มฟังตรงจริงตรงขณะเข้าใจถูกตามเสียงคำจริงตรงที่กายใจคุณกำลังมีว่าตรงกับ1ใน6ทางไหน



ไม่ได้สนอกสนใจคำถามเบยนะคุณโรส เขาถามว่า ไปไหนมา ? นี่ คำถาม

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม


เสริมอีก คุณโรสกวาดบ้านถูเรือน ใช้มือหยิบจับไม้กวาดไหม ใช้ตาแลดูไหม เออ :b13: หรือ ใช้เท้าจับไม้กวาด ใช้ตาตุ่มแลดูก็เห็น คิกๆๆ

:b1:
บอกให้คิดตามเข้าใจถูกตามคำสอนได้ไง
จะอ้อมไปไหนตาไม่บอดก็ดูสิว่าเห็นอะไร
เอามาเทียบตามคำสอนเดี๋ยวนี้รู้ถึงสีไหม
จิตเห็น1สี+แสงสะท้อนเข้าตาดับตรงนั้นเลย
ไม่เหลือซากเห็นอันนั้นแล้วตายทุกขณะไม่มีตัวตน
เอาอะไรมารู้ถ้าไม่คิดตามตรงคำตรงกับที่ตาคุณเห็น
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงคนอื่นไม่มีใครเห็นสีตอนกระทบตารู้ยัง
:b12:
:b32: :b32:


ไอ้เรื่องจะรู้ได้ยังไงเล่าว่า ตอนคุณโรสกวาดบ้านใช้มือจับไม้กวาดหรือใช้อะไรจับ ถึงได้ถามไงเล่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณโรส จำสามคำ คือ อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ พร้อมความหมายไว้ให้แม่น

Kiss
:b12:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ
:b32:
ตัวตนนั้นมันมีอยู่แล้วก็ที่มีเราเห็นคนสัตว์วัตถุน่ะจำผิดไงคะ
มีเราที่ไหนในเห็นนั้นน่ะดูสิ...จิตเห็น=มหาภูตรูปที่เรียกว่าตาที่ไม่บอด+จักขุปสาทะรูป+แสงสี1สีดับทันที
มีเราและมีคนสัตว์วัตถุในเห็นไหมมีแต่อุปาทานขันธ์ยึดมั่นในธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ว่ามีตัวตนไปทำอะไรกัน
เดี๋ยวนี้เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาตามปกติที่มีความไม่รู้ว่าทุกข์
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริงมันดับจริงๆมีตัวตนที่ไหนมีแต่เราอยากได้อยากดีอยากไปทำตามเขาลืมว่าขาดสุตะ
ก็จิตเห็นมีแค่สี1สีกระทบตาดับแล้วคิดนึกถึงอะไรนอกตานู่นแล้วก็ทำไปตามที่อยากทำบวชเห็นเงินก็รับเงิน
:b12:
ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นน่ะไม่มีแสวงหาเงินทองมาเพื่อซื้อความสุขน่ะของมันมีที่ไหนหลงผิดว่ามีของไง
ไม่เคยจำว่าเห็นแค่สีกระทบตาดับแล้วเป็นโลกที่สั้นแสนสั้นดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีกจนกว่าจะเริ่มฟังคำสอน
แล้วเข้าใจว่ามันไม่เที่ยงก็มันไม่มีอ่ะค่ะหลงยึดถือยึดมั่นว่ามีเรามีบ้านรถที่ดินพ่อแม่ผัวเมียลูกนั่นน่ะคืออะไร
มันมีตัวเราไหมก่อนเกิดเห็นไม่มีเห็นแล้วก็เห็นนิดเดียวแล้วหายไปเลยอนัตตาบังคับให้เห็นไม่ดับได้ไหมล่ะคะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีใครเป็นเจ้าของธัมมะมันดับแล้วแปลว่ามีแต่สิ่งที่เกิดดับคือโลก
จิต6ทางเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันจิตขณะต่อไปเกิดได้เมื่อจิตก่อนหน้านั้นดับไม่เหลือจึงเกิดจิตต่อๆไปได้
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์สี่มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไหนคะคำว่าสุขในอริยสัจจ์สี่อยู่ตรงไหนคะ


ดูคุณโรสถามดิ ไม่อยากว่าเลย กลัวไปไม่กลับ คิกๆๆ

สุขในอริยสัจสี่ก็อยู่ตรงนิโรธนั่นไง เออ ถามได้ นิโรธเป็นใครถึงว่าเป็นสุข นิโรธ ก็นิพพานไง แล้วไงต่อ ก็ นิพพานัง ปรมัง สุขัง ไง เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม

:b1:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง

ที่กายใจตนมีตรง1คำตรงสัจจะที่กายใจตนกำลังปรากฏว่ามี
เป็นปัจุบันขณะตรงๆคิดคำว่านิพพานน่ะไม่มีที่กายใจตนแน่ๆ
บอกแล้วไงว่าอ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรคือจำสีที่ดับไปหลายขณะไม่เกิดสติปัญญา
ทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ตรงปัจจุบันธรรมต้องกำลังฟังและคิดตามอยู่แล้วรู้สึกตัวว่าไม่รู้อะไรบ้าง
เพราะคำจริงทำให้รู้ตัวตรงสัจจะคือคำของตถาคตคิดถูกตามได้ตรงปรมัตถสัจจะทีละคำตรงทีละ1ทางก่อน
https://youtu.be/8tGzYLOzMoQ
:b12:
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
คิดนึกเกิน1คำน่ะขาดสติแล้วทำอะไรได้ไหมคะ

สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะตรงจริง


ก็ทำไปเยอะนั่นไง ก็ทำด้วยสติปัญญาสมาธิ เป็นต้น อ้อ นิ้วมือด้วยกระดิกกุ๊กกิ๊กๆ ตาก็แลดู ใจก็คิดไปด้วย คิกๆๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย

:b32:
จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก...เห็นสีกระทบตาดับไม่เหลือคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้รสสัมผัสเย็นร้อนสุขทุกข์รู้สึกในมืด
เห็นเกิดที่ตามีตัวอักษรนอกตาได้ที่ไหนยังเมาอ่านตำราอยู่ไม่ใช่ทางเกิดปัญญารู้ตามคำสอนคิดตามทีละ1คำ
คิดอ่านเองตามที่เห็นตัวอักษรน่ะมันผิดทางเกิดปัญญาเพิ่มเข้าใจไหมสิกขาตรงจริงไม่ใช่เรียนภาษาบาลีนะ
ต้องใช้หลักกาลามสูตร10ฟังให้มันรอบรู้ทีละคำทุกคำตรงคำเข้าใจตรงทางตรงจริงมีพหูสูตฟังจนรอบรู้จริงๆ
คนที่เขาสิกขาคำสอนตรงทางจริงๆไม่มีใครเชื่ออะไรง่ายๆเพราะคำสอนตรงจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนไม่ได้เลย


เหมือนเคยพูดครั้งหนึ่งว่า คุณโรสพูดเรื่องอื่นๆรู้เรื่องฟังได้ แต่พอให้พูดซึ่งเขาเรียกกันว่าธรรมะเนี่ยนะ พูดไม่รู้เรื่องเพี้ยน ดูสินะ จะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิกๆๆ เพราะเข้าใจธรรมะผิด ผิดเพราะได้บาปมิตรจากยูทูปนั่น

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม

:b32:
อ่ะนะ...ความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจถูกตามได้เดี๋ยวนี้
ที่เป็นตัวคุณเห็นคนสัตว์วัตถุหรือตัวอักษรให้อ่านให้คิดอยู่เนี่ยคือมิจฉาทิฏฐิ
เพราะพระพุทธเจ้าแสดงความจริงตรงปัจจุบันขณะว่าไม่มีตัวตนคนสัตว์วัตถุมีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือเห็นว่าเป็นเราเห็นแต่พระพุทธเจ้าแสดงว่าจิตเห็นมีแค่แสงสะท้อนเข้าตาดับแล้วมืดไม่มีคนสัตว์วัตถุ
ที่กำลังเห็นแต่คิดนึกถึงคนสัตว์วัตถุน่ะคืออดีตสีที่สะท้อนเข้าตาหลายขณะหลากสีตัดกันปรากฏเป็นสัณฐาน
ทำให้เสมือนมีรูปร่างต่างๆปรากฏเป็นการหลงผิดจำผิดจำสภาพธรรมที่ดับนับไม่ถ้วนรวมๆกันคือมีอวิชชาจร้า
จนกว่าจะเริ่มฟังตรงจริงตรงขณะเข้าใจถูกตามเสียงคำจริงตรงที่กายใจคุณกำลังมีว่าตรงกับ1ใน6ทางไหน



ไม่ได้สนอกสนใจคำถามเบยนะคุณโรส เขาถามว่า ไปไหนมา ? นี่ คำถาม

ถามนะ ตอบให้ตรงคำถาม ในชีวิตประจำวัน คุณโรสทำนั่นทำนี่ เช่น ล้างจาน เป็นต้น คุณโรส ใช้มือหยิบจับ ใช้ตาแลดูไหม


เสริมอีก คุณโรสกวาดบ้านถูเรือน ใช้มือหยิบจับไม้กวาดไหม ใช้ตาแลดูไหม เออ :b13: หรือ ใช้เท้าจับไม้กวาด ใช้ตาตุ่มแลดูก็เห็น คิกๆๆ

:b1:
บอกให้คิดตามเข้าใจถูกตามคำสอนได้ไง
จะอ้อมไปไหนตาไม่บอดก็ดูสิว่าเห็นอะไร
เอามาเทียบตามคำสอนเดี๋ยวนี้รู้ถึงสีไหม
จิตเห็น1สี+แสงสะท้อนเข้าตาดับตรงนั้นเลย
ไม่เหลือซากเห็นอันนั้นแล้วตายทุกขณะไม่มีตัวตน
เอาอะไรมารู้ถ้าไม่คิดตามตรงคำตรงกับที่ตาคุณเห็น
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงคนอื่นไม่มีใครเห็นสีตอนกระทบตารู้ยัง
:b12:
:b32: :b32:


ไอ้เรื่องจะรู้ได้ยังไงเล่าว่า ตอนคุณโรสกวาดบ้านใช้มือจับไม้กวาดหรือใช้อะไรจับ ถึงได้ถามไงเล่า

:b32:
โลกภายในแต่ละ1ทางน่ะมันตรงสัจจะ
ไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนเองกำลังมีก็คือมีกิเลส
มันเพิ่มขึ้นเพราะมัวแต่คิดเองตามที่ตาเนื้อเห็น
ข้างนอกนั่นน่ะมันคืออดีตสีที่ดับไปแล้วหลายขณะ
หลงเงาตัวจริงของสัจจะส่วนสัจจะที่กำลังมีจริงๆรู้ตามได้
ตอนกำลังฟังแล้วคิดถูกตามตรงคำตรงทางตรงสัจจะที่กำลังมี
อยากรู้ความจริงไม่ใช่หรือถึงไปสำนักปฏิบัติเพื่อไปทำอะไรล่ะคะ
บอกตั้งนานแล้วว่าให้ใช้หูตัวเองเริ่มฟังแล้วดูความจริงให้เข้าใจตามเกิดสัมมาตามได้
อันที่ถามมานั้นน่าใครก็ตอบได้จะเอาแต่ความรู้ตามตำราที่จำไว้เยอะๆนั่นน่ะสัญญาไม่ใช่ปัญญาตามคำสอน
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกาย
ไอ้เรื่องจะรู้ได้ยังไงเล่าว่า ตอนคุณโรสกวาดบ้านใช้มือจับไม้กวาดหรือใช้อะไรจับ ถึงได้ถามไงเล่า


อ้างคำพูด:
Rosarin
โลกภายในแต่ละ1ทางน่ะมันตรงสัจจะ
ไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนเองกำลังมีก็คือมีกิเลส
มันเพิ่มขึ้นเพราะมัวแต่คิดเองตามที่ตาเนื้อเห็น
ข้างนอกนั่นน่ะมันคืออดีตสีที่ดับไปแล้วหลายขณะ
หลงเงาตัวจริงของสัจจะส่วนสัจจะที่กำลังมีจริงๆรู้ตามได้
ตอนกำลังฟังแล้วคิดถูกตามตรงคำตรงทางตรงสัจจะที่กำลังมี
อยากรู้ความจริงไม่ใช่หรือถึงไปสำนักปฏิบัติเพื่อไปทำอะไรล่ะคะ
บอกตั้งนานแล้วว่าให้ใช้หูตัวเองเริ่มฟังแล้วดูความจริงให้เข้าใจตามเกิดสัมมาตามได้
อันที่ถามมานั้นน่าใครก็ตอบได้จะเอาแต่ความรู้ตามตำราที่จำไว้เยอะๆนั่นน่ะสัญญาไม่ใช่ปัญญาตามคำสอน


งั้นถามใหม่ คุณโรสคิดว่าที่ตนพูดนั่นว่าว่าเป็นธรรมะ มีคำถาม คุณโรสเรียนธรรมะดังว่านั่นไปเพื่ออะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
ไอ้เรื่องจะรู้ได้ยังไงเล่าว่า ตอนคุณโรสกวาดบ้านใช้มือจับไม้กวาดหรือใช้อะไรจับ ถึงได้ถามไงเล่า


อ้างคำพูด:
Rosarin
โลกภายในแต่ละ1ทางน่ะมันตรงสัจจะ
ไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนเองกำลังมีก็คือมีกิเลส
มันเพิ่มขึ้นเพราะมัวแต่คิดเองตามที่ตาเนื้อเห็น
ข้างนอกนั่นน่ะมันคืออดีตสีที่ดับไปแล้วหลายขณะ
หลงเงาตัวจริงของสัจจะส่วนสัจจะที่กำลังมีจริงๆรู้ตามได้
ตอนกำลังฟังแล้วคิดถูกตามตรงคำตรงทางตรงสัจจะที่กำลังมี
อยากรู้ความจริงไม่ใช่หรือถึงไปสำนักปฏิบัติเพื่อไปทำอะไรล่ะคะ
บอกตั้งนานแล้วว่าให้ใช้หูตัวเองเริ่มฟังแล้วดูความจริงให้เข้าใจตามเกิดสัมมาตามได้
อันที่ถามมานั้นน่าใครก็ตอบได้จะเอาแต่ความรู้ตามตำราที่จำไว้เยอะๆนั่นน่ะสัญญาไม่ใช่ปัญญาตามคำสอน


งั้นถามใหม่ คุณโรสคิดว่าที่ตนพูดนั่นว่าว่าเป็นธรรมะ มีคำถาม คุณโรสเรียนธรรมะดังว่านั่นไปเพื่ออะไร

:b1:
ศึกษาคำสอนไปทำไมไม่รู้หรือ
อริยสัจจ์ถึงได้ด้วยอริยทรัพย์
อริยทรัพย์คืออะไรรู้ไหมล่ะคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2018, 21:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ทุกคำในพระไตรปิฎกส่องถึงเดี๋ยวนี้มีแล้วตรงขณะทุกคำ
รู้จักวิปลาส3หรือยังสัญญาวิปลาสจิตตวิปลาสทิฏฐิวิปลาส
โลกทางตาทางเดียวที่มีแสงมีแค่สีล้วน1สีกระทบตาดับทันที
ดูพฤติกรรมคนบนโลกสิ...โลกจึงเป็นที่ดูผลของบุญและบาป
ถามจริงๆเถอะถ้าบรรพชิตเห็นเพียงโลกของสีเพียง1สีจะรับเงินไหม
ตถาคตเป็นใครรู้หรือยัง...ฉลาดมากไหม...ค่าของคำสอนอยู่ไหนลืมสุตมยปัญญา
ผู้ที่รู้ตรงสัจจะตามได้ย่อมสะสมปัญญาเข้าใจความจริงตรงได้ทีละ1สัจจะที่กายใจตนกำลังมี
และรู้จักพระพุทธเจ้าได้เท่าที่ตนรู้ตรงสัจจะนั้นตรงปัจจุบันขณะตอนพึ่งคิดตามคำจริงที่มีผู้อื่นกล่าวให้ฟัง
อุชุคือเป็นผู้ตรงคำตรงขณะและรู้จักความตรงตามคำสอนเท่าที่ตนตรงจริงคือรู้จักพระพุทธเจ้าเท่าที่ตนตรง
:b12:
:b4: :b4:
https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8% ... 2%E0%B8%AA


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2018, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
ไอ้เรื่องจะรู้ได้ยังไงเล่าว่า ตอนคุณโรสกวาดบ้านใช้มือจับไม้กวาดหรือใช้อะไรจับ ถึงได้ถามไงเล่า


อ้างคำพูด:
Rosarin
โลกภายในแต่ละ1ทางน่ะมันตรงสัจจะ
ไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนเองกำลังมีก็คือมีกิเลส
มันเพิ่มขึ้นเพราะมัวแต่คิดเองตามที่ตาเนื้อเห็น
ข้างนอกนั่นน่ะมันคืออดีตสีที่ดับไปแล้วหลายขณะ
หลงเงาตัวจริงของสัจจะส่วนสัจจะที่กำลังมีจริงๆรู้ตามได้
ตอนกำลังฟังแล้วคิดถูกตามตรงคำตรงทางตรงสัจจะที่กำลังมี
อยากรู้ความจริงไม่ใช่หรือถึงไปสำนักปฏิบัติเพื่อไปทำอะไรล่ะคะ
บอกตั้งนานแล้วว่าให้ใช้หูตัวเองเริ่มฟังแล้วดูความจริงให้เข้าใจตามเกิดสัมมาตามได้
อันที่ถามมานั้นน่าใครก็ตอบได้จะเอาแต่ความรู้ตามตำราที่จำไว้เยอะๆนั่นน่ะสัญญาไม่ใช่ปัญญาตามคำสอน


งั้นถามใหม่ คุณโรสคิดว่าที่ตนพูดนั่นว่าว่าเป็นธรรมะ มีคำถาม คุณโรสเรียนธรรมะดังว่านั่นไปเพื่ออะไร

:b1:
ศึกษาคำสอนไปทำไมไม่รู้หรือ
อริยสัจจ์ถึงได้ด้วยอริยทรัพย์
อริยทรัพย์คืออะไรรู้ไหมล่ะคะ
:b32: :b32:


แทนที่จะตอบคำถาม มาย้อนถามอีกเอ้า คิกๆๆ

อ้างคำพูด:
อริยสัจจ์ถึงได้ด้วยอริยทรัพย์

อริยทรัพย์คืออะไรรู้ไหมล่ะคะ


ไม่รู้ คือ อะไรกันอริยทรัพย์ บอกเป็นวิทยาทานหน่อยเถอะขอรับโผม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร