วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 21:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s002
...จากตัวอย่างที่ยกมาในการขึ้นบันไดแยกออกได้เข้าใจชัดเจนไหมคะ...ระหว่างมรรคกับผล...
...มรรคก็คืออยู่ระหว่างทางที่ไป...ผลก็คือปัญญาที่ถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้วไงคะ...โอเคป่าว...
....ระหว่างทางขึ้นบันไดเป็นมรรคค่ะ...พอเท้าพ้นจากบันไดก็ถึงผลทันทีค่ะขึ้นกับจิตผู้รู้นั้นเอง...
:b18: :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 11:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฮะโล้ว...ชั้นบนเป็นงัย...บ๊าง...
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 11:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


grin
:b13:
...โปร่ง...โล่ง...เบา...สบาย...ก็ลมมันเย็นขร้า...
:b6: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 13:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วทำไม บางคนที่ถึง กลับไม่แน่ใจว่าได้มาเหยียบขึ้นที่หนึ่งแล้วอะครับ

แล้วทำไมบางทีท่าทางการเหยียบถึงไม่เหมือนกัน

แล้วทำไมมีบางคนที่คิดว่าตัวเองเหยียบอยู่บนขั้นที่หนึ่ง แต่จริงๆยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ก้าวขึ้นไปซักนิด

wink s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 13:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
grin
:b13:
...โปร่ง...โล่ง...เบา...สบาย...ก็ลมมันเย็นขร้า...
:b6: :b32:

rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 16:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
แล้วทำไม บางคนที่ถึง กลับไม่แน่ใจว่าได้มาเหยียบขึ้นที่หนึ่งแล้วอะครับ

แล้วทำไมบางทีท่าทางการเหยียบถึงไม่เหมือนกัน

แล้วทำไมมีบางคนที่คิดว่าตัวเองเหยียบอยู่บนขั้นที่หนึ่ง แต่จริงๆยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ก้าวขึ้นไปซักนิด

wink s006


:b1: ... เป็นคำถามที่ดี ... :b1:

:b9: ... รอฟังคำตอบดีก่า... :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2015, 16:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร....
เหมือนทานข้าวยังไม่เสร็จ
ทานหนึ่งคำ ความอิ่มก็ลดลงหนึ่งส่วน
การทานเป็นมรรค
ความอิ่มเป็นผล

แต่ยังทานไม่เสร็จ คือกิจที่ยังกระทำไม่จบ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2015, 06:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร....
เหมือนทานข้าวยังไม่เสร็จ
ทานหนึ่งคำ ความอิ่มก็ลดลงหนึ่งส่วน
การทานเป็นมรรค
ความอิ่มเป็นผล

แต่ยังทานไม่เสร็จ คือกิจที่ยังกระทำไม่จบ


ดีมากครับ อุปมาให้ได้เข้าใจง่ายดี
ขอเสริมเพื่อให้ชัดเจนขึ้นอีก การทานข้าวก็เหมือนผู้กำลังปฏิบัติบำเพ็ญเพียร
การกลืนคำข้าวเป็นมรรค จึงเกิดการดับทุกข์ที่หิวเกิดขึ้นเป็นผล ไปตามลำดับ
เมื่อทุกข์เพราะหิวยังมีอยู่ก็ยังต้องกินต่อไป จนกว่าจะดับทุกข์เพราะหิวให้สิ้นไป
นั้นคือเป็นการจบสิ้นแล้ว เปรียบได้ดังพระอรหันต์ไม่มีทุกข์อีกต่อไป
(อุปมานะครับ)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2015, 07:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร....
เหมือนทานข้าวยังไม่เสร็จ
ทานหนึ่งคำ ความอิ่มก็ลดลงหนึ่งส่วน
การทานเป็นมรรค
ความอิ่มเป็นผล

แต่ยังทานไม่เสร็จ คือกิจที่ยังกระทำไม่จบ

s004
เอ!!!!!!!
ผมว่า โสดาปัตติมรรคกับโสดาปัตติผลมันไม่เหมือนคนกำลังทานข้าวนะครับคุณเช่นนั้น เพราะ อริยมรรคที่ขึ้นมาตัดทำลายสังโยชน์ทั้ง 4 มรรคนั้น มรรคเกิด ผลเกิดตามทันทีในชั่วพริบตาเดียวไม่มีขณะจิตอื่นมาคั่นกลางและไม่อาจเกิดซ้ำใหม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองในคนคนเดียวกัน อุปมาอุปมัยจึงต้องละเอียดอ่อนมากที่สุดไม่ให้มีข้อสงสัยทักท้วงซักถามหรือแปรเป็นอื่นได้อีกจึงจะควรค่าแก่การเรียกว่า "สัจธรรม"
ขออภัยที่ทักท้วงนะครับ วิตกวิจารณ์กันต่อ.....หลายๆท่านหลายแง่หลายมุมนะครับ
:b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2015, 08:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


เดี๋ยวจะขออุปมามั่ง ไม่ต้องเอาตามตำราหละแค่เทียบเคียงเอาตามตำรา เพราะอาจเข้าใจยาก
เอาเป็นว่า นักปฏิบัติเปรียบเหมือนนักเดินทางไกลย่อมเจออุปสรรคต่างๆ นาๆ ซึ่งจะไม่เหมือนกัน
แต่เมื่อเดินหนทางถึง "มรรคจิต" อุปมาเหมือนเจอคูน้ำแล้วต้องกระโดดข้ามไปอีกฝั่งนึง

อาการที่กระโดดข้ามนั้น เท้าหลุดจากพื้นและยังไม่ถึงพื้นอีกฝากนึง อุปมาเหมือน "มรรคจิต" และ
พอเท้าตกถึงพื้นอีกฝากนึงอุปมาเหมือน "ผลจิต" ซึ่งเป็นผลมาจากมรรคจิตได้ประหารกิเลสลง

ถ้าประหารกิเลสยังไม่หมดสิ้น ก็ต้องเดินทางต่อไปจนกว่าจะถึง "อรหันตผลจิต" ในทำนองกัน
การทำมรรคเบื้องต้นให้เกิดขึ้น เมื่ออรหันตผลจิตเกิดขึ้น เป็นอันว่าภาระกิจที่จะต้องเดินทางได้สำเร็จแล้ว
ไม่มีกิจอย่างอื่นที่จะต้องทำอีกแล้ว ไม่รู้ว่ายกอุปมาเข้าท่าเข้าทางหรือเปล่า ?

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2015, 09:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วที่พุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบไว้ มีไหมครับ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2015, 09:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
แล้วที่พุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบไว้ มีไหมครับ
:b8: :b8: :b8:





มีนะ มีเยอะด้วย

เป็นคนชอบศึกษาพระธรรมคำสอน
มีพระธรรมคำสอน เป็นแนวทางในการทำความเพียร


อันนี้เป็นเสียง

https://archive.org/details/SohDaaBanSootFromTripitaka



ถ้าต้องการพระสูตร ต้องตั้งกระทู้ขึ้นใหม่ค่ะ
ต้องการศึกษา บอกได้นะ เดี่ยวนำลงให้อ่าน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2015, 10:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
แล้วที่พุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบไว้ มีไหมครับ
:b8: :b8: :b8:





มีนะ มีเยอะด้วย

เป็นคนชอบศึกษาพระธรรมคำสอน
มีพระธรรมคำสอน เป็นแนวทางในการทำความเพียร


อันนี้เป็นเสียง

https://archive.org/details/SohDaaBanSootFromTripitaka



ถ้าต้องการพระสูตร ต้องตั้งกระทู้ขึ้นใหม่ค่ะ
ต้องการศึกษา บอกได้นะ เดี่ยวนำลงให้อ่าน



ขอบคุณครับ ขอรบกวน ด้วยครับ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2015, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โสดาปัตติมรรค กับ โสดาปัตติผล ต่างกันอย่างไร....
เหมือนทานข้าวยังไม่เสร็จ
ทานหนึ่งคำ ความอิ่มก็ลดลงหนึ่งส่วน
การทานเป็นมรรค
ความอิ่มเป็นผล

แต่ยังทานไม่เสร็จ คือกิจที่ยังกระทำไม่จบ

s004
เอ!!!!!!!
ผมว่า โสดาปัตติมรรคกับโสดาปัตติผลมันไม่เหมือนคนกำลังทานข้าวนะครับคุณเช่นนั้น เพราะ อริยมรรคที่ขึ้นมาตัดทำลายสังโยชน์ทั้ง 4 มรรคนั้น มรรคเกิด ผลเกิดตามทันทีในชั่วพริบตาเดียวไม่มีขณะจิตอื่นมาคั่นกลางและไม่อาจเกิดซ้ำใหม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองในคนคนเดียวกัน อุปมาอุปมัยจึงต้องละเอียดอ่อนมากที่สุดไม่ให้มีข้อสงสัยทักท้วงซักถามหรือแปรเป็นอื่นได้อีกจึงจะควรค่าแก่การเรียกว่า "สัจธรรม"
ขออภัยที่ทักท้วงนะครับ วิตกวิจารณ์กันต่อ.....หลายๆท่านหลายแง่หลายมุมนะครับ
:b41:

มรรคเกิด ผลเกิด ไม่มีขณะจิตอื่นมาคั่นกลาง
ทานข้าวหนึ่งคำ ก็อิ่มไปหนึ่งคำ
อโศกะเห็นทันไหม

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2018, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร