วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 09:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2013, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องเล่าสู่กันฟัง


๑. ธรรม ๔ ประการ คือ สัตยะ สัตวะ ปฏิสนธิและปัจจยาการ

นี่แหละ เป็นะรรมที่ เห้นได้ยาก ทั้งยากที่จะแสดงด้วย


ดังนี้ เหตุใด เพราะเหตุนั้น การสังวรรณนาความแห่ง ปฏิจจสมุปบาท อันใครๆ เว้นเสียแต่

ท่านผู้สำเร็จ อาคม(คือ พระปริยัติ)
และอธิคม(คือ มรรคผล)

จะทำได้ มิใช่ง่าย เหตุดังนี้ ข้าพเจ้าชั่งใจดูแล้ว

บัดนี้ ใคร่จะกล่าวพรรณนา ปัจจยาการ(ทั้งๆที่) ไม่ได้(นัยอันเป็น)
ที่ตั้ง(ที่อาศัย ด้วยกำลังปัญญาตน)

ดังก้าวลงสู่สาคร ยังไม่ได้ที่เหยียบยัน

พระพุทธโฆสเถระ รจนา


๒. เรื่อง นิพพาน รจนาโดยพระอนุรุทธาจารย์

http://palipage.com/p/index.php?option= ... itstart=13

ไม่แตกต่างจาก พระพุทธโฆสเถระ

ดังก้าวลงสู่สาคร ยังไม่ได้ที่เหยียบยัน




ไม่ว่าตำรา จะมาจากที่ไหนก็ตาม ผู้เขียนส่วนมาก เขียนตามเท่าที่ตัวเองรู้

ใครอ่านแล้วเชื่อหรือไม่เชื่อ ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่มีต่อกัน

รู้ไว้ ใช่ว่า ใส่บ่า แบกหาม

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2013, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
คุณนามของนิพพาน

เท่าที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จะเห็น ได้ว่า นิพพาน นั้น

ก. กล่าวโดยสภาพ ก็มีเพียง ๑ คือ สันติสุข สงบจากกิเลสและขันธ์ ๕

ข. กล่าวโดยปริยายแห่งเหตุ ก็มี ๒ คือ สอุปาทิเสสนิพพาน และ อนุปาทิเสสนิพพาน
ค. กล่าวโดยอาการเข้าถึง ก็มี ๓ คือ อนิมิตตนิพพาน อัปปณิหิตนิพพาน และ สุญญตนิพพาน

นอกจากนี้แล้ว ยังมีแสดงไว้อีกหลายนัย เช่น

ง. กล่าวโดยประเภทแห่งมัคค ก็มี ๔ คือ นิพพานแห่งโสดาปัตติมัคค แห่งสกิทาคามิมัคค แห่งอนาคามิมัคค และ แห่งอรหัตตมัคค
จ. กล่าวโดยการดับกามคุณ ก็มี ๕ คือ ดับความยินดีในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส และในการสัมผัสถูกต้อง
ฉ. กล่าวโดยการดับตัณหา ก็มี ๖ คือ การดับตัณหาในรูป คือการดับรูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฐฐัพพตัณหา และ ธัมมตัณหา
ช. กล่าวโดยชื่อ คือ นามแห่งคุณของนิพพาน มีตั้ง ๑๐๐ กว่าชื่อ เพียงแต่ชื่อของนิพพาน ก็พอที่จะทำให้ทราบความ หมายแห่งนิพพานด้วย ดังนั้นจึงขอยกมากล่าวสัก ๓๐ ชื่อ คือ

๑. อเสสวิราคนิโรโธ เป็นธรรมที่ ดับทุกข์โดยพ้นจากราคะไม่มีเศษเหลือ
๒. อเสสภวนิโรโธ เป็นธรรมที่ ดับภพไม่มีเศษเหลือ

๓. จาโค เป็นธรรมที่ สละจากตัณหาทั้งปวง
๔. ปฏินิสฺสคฺโค เป็นธรรมที่ พ้นจากภพต่างๆ
๕. มุตฺติ เป็นธรรมที่ พ้นจากกิเลส
๖. อนาลโย เป็นธรรมที่ ไม่มีความอาลัย
๗. ราคกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นราคะ
๘. โทสกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นโทสะ
๙. โมหกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นโมหะ
๑๐. ตณฺหกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นตัณหา
๑๑. อนุปฺปาโท เป็นธรรมที่ ดับขันธ์ ๕
๑๒. อปวตฺตํ เป็นธรรมที่ ดับรูปนาม
๑๓. อนิมิตฺตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีสังขารนิมิต
๑๔. อปฺปณิหิตํ เป็นธรรมที่ ปราศจากความต้องการ
๑๕. สุญฺญตํ เป็นธรรมที่ สูญสิ้นจากทุกข์อย่างแท้จริง
๑๖. อปฺปฏิสนฺธิ เป็นธรรมที่ ไม่ปฏิสนธิอีก
๑๗. อนุปฺปตฺติ เป็นธรรมที่ ไม่อุบัติต่อไป
๑๘. อนายูหนํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความพยายามอีกแล้ว
๑๙. อชาตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความเกิด
๒๐. อชรํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความแก่

๒๑. อพยาธิ เป็นธรรมที่ ไม่มีความเจ็บป่วย
๒๒. อคติ เป็นธรรมที่ ไม่มีที่ไป
๒๓. อมตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความตาย
๒๔. อโสกํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความโศกเศร้า
๒๕. อปริเทว เป็นธรรมที่ ไม่มีการร้องไห้
๒๖. อนุปายาส เป็นธรรมที่ ไม่มีการรำพันพร่ำบ่น
๒๗. อสงฺกิลีฏฺฐ เป็นธรรมที่ ไม่มีความเศร้าหมอง
๒๘. อสงฺขตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
๒๙. นิวานํ เป็นธรรมที่ พ้นจากเครื่องร้อยรัด
๓๐. สนฺติ เป็นธรรมที่ สงบสุขจากทุกข์ทั้งปวง

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2018, 13:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณนามของนิพพาน

เท่าที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จะเห็น ได้ว่า นิพพาน นั้น

ก. กล่าวโดยสภาพ ก็มีเพียง ๑ คือ สันติสุข สงบจากกิเลสและขันธ์ ๕

ข. กล่าวโดยปริยายแห่งเหตุ ก็มี ๒ คือ สอุปาทิเสสนิพพาน และ อนุปาทิเสสนิพพาน
ค. กล่าวโดยอาการเข้าถึง ก็มี ๓ คือ อนิมิตตนิพพาน อัปปณิหิตนิพพาน และ สุญญตนิพพาน

นอกจากนี้แล้ว ยังมีแสดงไว้อีกหลายนัย เช่น

ง. กล่าวโดยประเภทแห่งมัคค ก็มี ๔ คือ นิพพานแห่งโสดาปัตติมัคค แห่งสกิทาคามิมัคค แห่งอนาคามิมัคค และ แห่งอรหัตตมัคค
จ. กล่าวโดยการดับกามคุณ ก็มี ๕ คือ ดับความยินดีในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส และในการสัมผัสถูกต้อง
ฉ. กล่าวโดยการดับตัณหา ก็มี ๖ คือ การดับตัณหาในรูป คือการดับรูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฐฐัพพตัณหา และ ธัมมตัณหา
ช. กล่าวโดยชื่อ คือ นามแห่งคุณของนิพพาน มีตั้ง ๑๐๐ กว่าชื่อ เพียงแต่ชื่อของนิพพาน ก็พอที่จะทำให้ทราบความ หมายแห่งนิพพานด้วย ดังนั้นจึงขอยกมากล่าวสัก ๓๐ ชื่อ คือ

๑. อเสสวิราคนิโรโธ เป็นธรรมที่ ดับทุกข์โดยพ้นจากราคะไม่มีเศษเหลือ
๒. อเสสภวนิโรโธ เป็นธรรมที่ ดับภพไม่มีเศษเหลือ

๓. จาโค เป็นธรรมที่ สละจากตัณหาทั้งปวง
๔. ปฏินิสฺสคฺโค เป็นธรรมที่ พ้นจากภพต่างๆ
๕. มุตฺติ เป็นธรรมที่ พ้นจากกิเลส
๖. อนาลโย เป็นธรรมที่ ไม่มีความอาลัย
๗. ราคกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นราคะ
๘. โทสกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นโทสะ
๙. โมหกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นโมหะ
๑๐. ตณฺหกฺขโย เป็นธรรมที่ สิ้นตัณหา
๑๑. อนุปฺปาโท เป็นธรรมที่ ดับขันธ์ ๕
๑๒. อปวตฺตํ เป็นธรรมที่ ดับรูปนาม
๑๓. อนิมิตฺตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีสังขารนิมิต
๑๔. อปฺปณิหิตํ เป็นธรรมที่ ปราศจากความต้องการ
๑๕. สุญฺญตํ เป็นธรรมที่ สูญสิ้นจากทุกข์อย่างแท้จริง
๑๖. อปฺปฏิสนฺธิ เป็นธรรมที่ ไม่ปฏิสนธิอีก
๑๗. อนุปฺปตฺติ เป็นธรรมที่ ไม่อุบัติต่อไป
๑๘. อนายูหนํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความพยายามอีกแล้ว
๑๙. อชาตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความเกิด
๒๐. อชรํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความแก่

๒๑. อพยาธิ เป็นธรรมที่ ไม่มีความเจ็บป่วย
๒๒. อคติ เป็นธรรมที่ ไม่มีที่ไป
๒๓. อมตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความตาย
๒๔. อโสกํ เป็นธรรมที่ ไม่มีความโศกเศร้า
๒๕. อปริเทว เป็นธรรมที่ ไม่มีการร้องไห้
๒๖. อนุปายาส เป็นธรรมที่ ไม่มีการรำพันพร่ำบ่น
๒๗. อสงฺกิลีฏฺฐ เป็นธรรมที่ ไม่มีความเศร้าหมอง
๒๘. อสงฺขตํ เป็นธรรมที่ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
๒๙. นิวานํ เป็นธรรมที่ พ้นจากเครื่องร้อยรัด
๓๐. สนฺติ เป็นธรรมที่ สงบสุขจากทุกข์ทั้งปวง

ข้อที่ ๒๒ ผมเคยยกเอามาแสดง มีคนคัดค้านกันตรึม
กว่าจะหาที่มาได้ว่า อคติ เป็นคำไวพจน์ของพระนิพพาน
อคติ นี้ซึ่งคำๆ นี้จะไปตรงกับคำที่เป็นอกุศล ได้แก่
อคติ แปลว่า ไม่ควรถึง หมายถึงไม่ควรประพฤติ
ซึ่งจะใช้ในความหมายว่าลำเอียง มี 4 คือ
ฉันทาคติ โทสาคติ ภยาคติ โมหาคติ

๑.ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรัก
๒.โทสาคติ ลำเอียงเพราะชัง
๓.ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
๔.โมหาคติ ลำเอียงเพราะไม่รู้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร