วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 00:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2012, 09:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ตลกดีครับ จะเขียนอะไรสักเรื่อง ก็ไม่พยายามศึกษาเนื้อหา
สิ่งที่ตัวเอามาเป็น หลักหรือประเด็นให้ดีเสียก่อน

ไอ้ธรรมโอสถที่ใช้แก้เวทนาเขาต้องใช้..
สมถกรรมฐาน

แต่ไอ้ที่จ้อมามันเป็นวิปัสสนากรรมฐาน แถมที่จ้อมาก็ผิดๆถูกๆ
ประเภทนึกอะไรได้ก็ใส่มา


ที่ จขกท....จ้อมา...นั้น...ไม่ผิดหรอก :b17:

ที่โฮว่า...ต้องใช้สมถะ...ก็ไม่ผิด :b4:

และที่โฮว่า...ที่จ้อมาเป็นวิปัสสนากรรมฐาน...ก็ไม่ผิดอีก.. :b32:

แต่ที่ไม่มีใครคิด..คือ...ผลที่ท่าน จขกท..ทำ...คือได้สมถะ

ประเภท...ปัญญาอบรมสมาธิ...

จ๊ะ.. rolleyes rolleyes

อิ๊ก...เอิ๊ก... :b12:

ถูกอย่างที่พี่กบนอกกะลาว่า ปัญญาอบรมสมาธิ ครับ...จริตผมมันเป็นประเภทนี้แหละครับและขออนุโมทนากับคำแนะนำของพี่อโสกะกับพี่โฮฮับด้วยนะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2012, 10:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
โฮฮับ.......เมื่อหาเหตุแห่งทุกข์จนพบแล้ว ก็ให้ดับทุกข์ด้วยการทำสมถกรรมฐาน
สิ่งนี้เป็นการระงับความเจ็บปวดที่ได้รับจากผัสสะ

ที่ผมพูดมาเป็นไปตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่สิ่งที่คุณโสกะพูด คล้ายกับคนทรงจ้าว ถึงจะไม่ใช่ซะทีเดียว
แต่ก็ใกล้เคียง
:b12:
Onion_L
ใช้ความเห็นผิดๆของตน แล้วกล่าวตู่กล่าวอ้างว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า นี่เป็นเรื่องบาปหนักนะครับคุณโฮ...

มีเหรอที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ดับทุกข์ด้วยการทำสมถกรรมฐาน? นั่นเป็นวิธีการของฤาษีมากกว่า

มีแต่ทรงสอนให้ดับเหตุ คือความเห็นผิดว่าเป็นตัวกูของกู หรือสักกายทิฐิ
เมื่อไม่มี "กู" ผู้รับความเจ็บเสียแล้ว ความเจ็บก็เป็นสักแต่ว่าธรรมชาติชนิดหนึ่งกำลังแสดงอยู่ตามกำลังแห่งเหตุและปัจจัย ความเจ็บเป็นสภาวะธาตุลม ธาตุลมกำลังแสดงตัว ไม่มีผู้รับความเจ็บ มีแต่สติและปัญญาที่รู้ทันและรู้ตามสภาวธรรม ไม่มีใคร ไม่มีเขา ไม่มีเรา


พูดอย่างนี้ไม่ทราบว่าปัญญาของคุณโฮ...อันยึดแน่นอยู่กับบัญญัติจะรู้เรื่องปรมัตถ์เช่นนี้หรือไม่?
:b34: :b34: :b34:
:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2012, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
มีแต่ทรงสอนให้ดับเหตุ คือความเห็นผิดว่าเป็นตัวกูของกู หรือสักกายทิฐิ
เมื่อไม่มี "กู" ผู้รับความเจ็บเสียแล้ว ความเจ็บก็เป็นสักแต่ว่าธรรมชาติชนิดหนึ่งกำลังแสดงอยู่ตามกำลังแห่งเหตุและปัจจัย ความเจ็บเป็นสภาวะธาตุลม ธาตุลมกำลังแสดงตัว ไม่มีผู้รับความเจ็บ มีแต่สติและปัญญาที่รู้ทันและรู้ตามสภาวธรรม ไม่มีใคร ไม่มีเขา ไม่มีเรา


พูดอย่างนี้ไม่ทราบว่าปัญญาของคุณโฮ...อันยึดแน่นอยู่กับบัญญัติจะรู้เรื่องปรมัตถ์เช่นนี้หรือไม่?

พูดจาเป็นหนังการ์ตูน จะดับเหตุอะไรเพ้อเจ้อ หยิบเรื่องโน้นมาปนเรื่องนี้ไม่ได้ความ
เหตุที่ว่าในกระทู้นี้ มันเป็นผัสสะที่ต่อเนื่อง มันเป็นเหตุปัจจัยเป็นปฏิจสมุบาทและ
เป็นอิทัปปัจถตา

มันมีเหตุปัจจัยย่อมต้องมีผลตามมา คนที่ไม่สบายความเจ็บปวดย่อมต้องมี

คุณโสกะเอามั้ย ให้ผมไปนั่งตบหัวคุณแบบถี่ๆไม่หยุด
แล้วให้คุณนึกว่า ฝามือผมที่กระทบหัวคุณมันเป็นเพียงธาตุลม คุณไม่รู้สึกเจ็บปวด
อยากลองมั้ยครับ
:b32:

พูดอะไรให้มันอยู่กับความเป็นจริงหน่อย อย่าเอาธรรมมาละเลงเล่น
มันไม่เหมาะสม เป็นเด็กจะไม่ว่าเลยครับ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2012, 20:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
มีแต่ทรงสอนให้ดับเหตุ คือความเห็นผิดว่าเป็นตัวกูของกู หรือสักกายทิฐิ
เมื่อไม่มี "กู" ผู้รับความเจ็บเสียแล้ว ความเจ็บก็เป็นสักแต่ว่าธรรมชาติชนิดหนึ่งกำลังแสดงอยู่ตามกำลังแห่งเหตุและปัจจัย ความเจ็บเป็นสภาวะธาตุลม ธาตุลมกำลังแสดงตัว ไม่มีผู้รับความเจ็บ มีแต่สติและปัญญาที่รู้ทันและรู้ตามสภาวธรรม ไม่มีใคร ไม่มีเขา ไม่มีเรา


พูดอย่างนี้ไม่ทราบว่าปัญญาของคุณโฮ...อันยึดแน่นอยู่กับบัญญัติจะรู้เรื่องปรมัตถ์เช่นนี้หรือไม่?

พูดจาเป็นหนังการ์ตูน จะดับเหตุอะไรเพ้อเจ้อ หยิบเรื่องโน้นมาปนเรื่องนี้ไม่ได้ความ
เหตุที่ว่าในกระทู้นี้ มันเป็นผัสสะที่ต่อเนื่อง มันเป็นเหตุปัจจัยเป็นปฏิจสมุบาทและ
เป็นอิทัปปัจถตา

มันมีเหตุปัจจัยย่อมต้องมีผลตามมา คนที่ไม่สบายความเจ็บปวดย่อมต้องมี

คุณโสกะเอามั้ย ให้ผมไปนั่งตบหัวคุณแบบถี่ๆไม่หยุด
แล้วให้คุณนึกว่า ฝามือผมที่กระทบหัวคุณมันเป็นเพียงธาตุลม คุณไม่รู้สึกเจ็บปวด
อยากลองมั้ยครับ
:b32:

พูดอะไรให้มันอยู่กับความเป็นจริงหน่อย อย่าเอาธรรมมาละเลงเล่น
มันไม่เหมาะสม เป็นเด็กจะไม่ว่าเลยครับ :b9:

:b12:
ปฏิฆะ โทสะขึ้นจนถามจะตบหัวพิสูจน์ธรรมเจียวหรือคุณโฮ....
รอไปอีกสักหน่อยให้ผมได้อนาคามี ละความยึดถือในกายได้ หรืออรหันต์ ละความยึดถือในจิตได้ แล้วค่อยมาตบหัวผมดู คุณจะได้รู้ว่าคนที่ยังมี "กู" อยู่เต็มหัวใจอย่างคุณโฮฮับ กับคนที่หมด "กู"และมานะทิฏฐิโดยสิ้นเชิงแล้ว ปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไร?
:b12: :b12: :b12:
ความเจ็บปวดนะมันมีแน่ตามธรรม แต่"ผู้รับความเจ็บปวด" นั้นนะจะมีหรือไม่มีก็เป็นเรื่องปัจจัตตัง
Onion_L
คุณโฮ...อย่ามาชักใบให้เรือเสียอยู่ด้วย "สัปปับผลาวาจา"อยู่เนืองๆเลย สังเกตตัวเองหรือเปล่า ? รู้ตัวหรือเปล่า ว่ามีแต่สติกับความรู้ที่ท่วมหัว แต่ขาดสัมปะชัญญะ ปฏิฆะและโทสะของคุณโฮ...นั้นนะมันแสดงออกมาทางตัวหนังสืออยู่ตลอดเวลา ดารดาษไปแทบทุกกระทู้ทีเดียว รู้ตัวไหมครับ?
แล้วเรื่องปฏิจจสมุปบาทที่คุณชอบยกมาอ้างอยู่เรื่อยนั้นนะ บอกได้ว่าคุณโฮ...รู้และยึดอยู่แต่ปฏิจจสมุปบาทที่เป็นบัญญัติ แต่ยังไม่ล้วงลึกถึงปฏิจจสมุปบาทที่เป็นปรมัตถ์ เพราะมีรายละเอียดที่ซ่อนลึกอยู่เบื้องหลังห่วงโซ่ปฏิจจสมุปบาททั้ง 12 ห่วงนั้นอยู่....ที่คุณโฮ...ไม่รู้ เพราะยังปฏิบัติไม่ถึง
ยกตัวอย่างแค่ช่วงต่อระหว่างผัสสะกับเวทนา และเวทนาต่อกับตัณหา พระพุทธบิดาตรัสบอกแต่ว่าเป็นปัจจัย แต่อะไรเป็น เหตุ ที่เมื่อมีผัสสะแล้วเวทนาถึงเกิด เมื่อมีเวทนาแล้วตัณหาถึงเกิด คุณโฮ..รู้หรือเปล่า?
:b12: :b12: :b16: :b16:
:b34: :b34: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2012, 21:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
ถูกอย่างที่พี่กบนอกกะลาว่า ปัญญาอบรมสมาธิ ครับ...จริตผมมันเป็นประเภทนี้แหละครับ :b8:


อ้าวว....ไม่ใช่คอแป๊ปคอทองแดง

แต่เป็น...คนคอเดียวกัน...นี้เอง :b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2012, 23:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
ถูกอย่างที่พี่กบนอกกะลาว่า ปัญญาอบรมสมาธิ ครับ...จริตผมมันเป็นประเภทนี้แหละครับ :b8:


อ้าวว....ไม่ใช่คอแป๊ปคอทองแดง

แต่เป็น...คนคอเดียวกัน...นี้เอง :b4: :b4: :b4:

สวัสดีครับพี่กบนอกกะลา :b8:
คนประเภทปัญญาอบรมสมาธิ พระอาจารย์ท่านว่าเป็นคนจิตแข็งรวมลงยากเพราะปัญญานำ แต่ถ้าหัดเข้าและออกจนชำนาญแล้วจะไปได้เร็วว่าสมาธิอบรมปัญญา...ตอนที่ผมเข้านาคคืนแรกที่กุฏิเดี่ยว รุ่งเช้าพระอาจารย์ท่านถามผมหนึ่งคำถามแล้วบอกกับผมว่า"โตเป็นคนจิตแข็งนะ" คำถามที่ท่านถามผมคือ..."เมื่อคืนนอนหลับสบายดีนะ"... :b1:
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2012, 01:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ก็เลยตั้งใจกำหนดพิจารณาเวทนาที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดขึ้นที่ไหนกันแน่ที่กายหรือที่ใจ สักพักใจก็เริ่มสงบขึ้นมาจึงพอรู้ตัวบ้างว่าเวทนาที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเกิดขึ้นทั้งกายและใจ ที่กายนั้นเป็นเพราะธาตุขันธ์มันแปรปวน แต่ที่ใจนั้นเพราะจิตสังขารมันไปยึดมั่น


ชอบการวิเคราะห์หาเหตุผลมากครับ คุณลูกพระป่าเป็นคนเก่งครับ หากจิตใจที่น้อมเข้าหาธรรม ขอให้มีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2012, 15:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมโอสถ

แต่ก่อนเวลาที่เราเจ็บป่วย
เราชอบเดินลมปราณ อิอิ เหมือนหนังจีนกำลังภายในนั่นล่ะ
และนอกจากเราจะเดินลมปราณรักษาตัวเองแล้ว
ยังเดินลมปราณช่วยคนอื่นได้ด้วย
เคยช่วยคนที่เป็นโรคท้องผูก พอปรับลมปราณให้เขา
คือตอนส่งพลังปราณให้เขา เราก็อยู่ห่างจากเขาประมาณ 1 เมตร
ก็คือ ทำจิตให้ว่าง ทำความรู้สึกถึงปราณ และโคจรปราณปรับธาตุที่เสียดุลย์
ก็เคยได้ใช้ช่วยบรรเทาความเจ็บให้คนอยู่บ้าง (เวลานึกอยากโชว์ออฟน่ะ)

แต่ช่วงหลัง ๆ เวลาเราเจ็บป่วยส่วนใหญ่ก็จะปล่อยตามยถากรรม

เหมือนเป็นวิชานอกรีต อิอิ
เพราะคำนึงถึงความเป็นเถรวาท สิ่งใดที่ไม่อยู่ในพระไตร
ก็คิดไปซะว่าต้องทิ้งหมด

แต่เราสัมผัสมันได้ เราหนีความจริงในส่วนนี้ไม่พ้น
เราเห็นความเป็นไปในเรื่องของกำลังภายในวัดเส้าหลิน ไทเก๊ก
เรื่องของปราณ เรื่องของชี่
เรื่องของพลังจักรวาล
เราก็ปฏิบัติอยู่กับสิ่งเหล่านั้น และเฝ้ามองความสัมพันธ์
ปราณ - ธาตุ สิ่งที่หล่อหลอมเรามา

เราไม่ใช่ผู้ที่เติบโตมาจากการศึกษาธรรมตามแนวทางเถรวาท

เรารู้จากการสัมผัสในด้านกำลังภายใน ปราณ ชี่

ธรรม นอกรีต อิอิ

:b12:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 22 เม.ย. 2012, 17:54, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2012, 17:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยรู้สึกเหมือนใกล้ตายสองครั้ง
และเคยรู้สึกเหมือนระลึกได้หนึ่งครั้ง

มันเห็น/รู้สึกได้ ว่ามันมีจุดตาย เส้นตาย

มันมี ลักษณะ ธาตุแตก

ซึ่งก็เคยได้มีโอกาสอ่านงานแปลของทางสายธิเบต
เอ้อ...มันมีลักษณะอย่างที่ท่านบรรยายจริง ๆ แฮะ...

การเตรียมตัวก่อนตาย ไม่ใช่เรื่องง่าย
เป็นสภาวะที่ ธาตุจะมีลักษณะการกระเจิง และ โกลาหล

เมื่อสภาพร่างกายเรา ธาตุยังเกาะกุมรวมตัวทำงานประสานกันอยู่
แม้สภาพร่างกายจะบาดเจ็บพร่องไปบ้าง
แต่ธาตุต่าง ๆ ยังแสดงลักษณะแห่งการดำรง
การที่จิตตรึกไปในความตายในลักษณะเช่นนี้
มันจะเฉียดเข้าไปใกล้การเตรียมตัวก่อนตายได้สักแค่ไหนกันเชียว
เพราะมันเป็นการฝึกจิตด้วยแรงกดจากภายนอก
ส่วนในการตายจริง ๆ มันเป็นแรงกระทำ ดันจากภายใน
เหมือนศพที่เน่าอืด มันจะระอุ ฟู พอง มันดัน ปริ แตก ระเบิดออก


ถ้าเพียงแต่ใครระลึก(จำ)ขณะตายได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจ
ที่สภาวะนั้นจะฉายอยู่ในทัศนะ ให้เขาได้ตระหนักในกิจทางจิตที่พึงกระทำ
เพื่อเผชิญหน้ากับสภาวะการณ์นั้น ๆ :b1:

ซึ่งนักปฏิบัติเป็นจำนวนมาก หากระลึกชาติได้
มักระลึกได้ว่าตนเคยเป็นอะไร
แต่มักจะจำไม่ได้ว่า ตนเคยตายอย่างไร

ซึ่งจุดสำคัญจริง ๆ ก็คือ ตอนขณะที่จิตจะดับจากภพ นี่ล่ะ
อาจารย์บอกว่า
มีน้อยมาก(แทบจะไม่มีเรย) ผู้ปฏิบัติที่เข้าสู่นิพพานในลักษณะนี้ได้สำเร็จ

แต่จะมีผู้ปฏิบัติระดับหนึ่ง
ที่จะรู้วิธีเข้าดับจุดตาย คือเขาจะตายด้วยการใช้กำลังจิตเข้าดับ
เป็นวิธีที่ ... ใช้กัน
พวกเขาเป็น เนื้อธาตุพิเศษ

ก็ยากที่จะตอบได้
เพราะตราบใดวันตายยังไม่มาถึง เราก็ไม่อาจจะรู้ได้

:b12:

นิทาน นอกรีต เพลิน ๆ น่ะ

อาจารย์ในฝัน สอนศิษย์ในฝัน

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2012, 20:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ธรรมโอสถ

เคยช่วยคนที่เป็นโรคท้องผูก พอปรับลมปราณให้เขา
คือตอนส่งพลังปราณให้เขา เราก็อยู่ห่างจากเขาประมาณ 1 เมตร
ก็คือ ทำจิตให้ว่าง ทำความรู้สึกถึงปราณ และโคจรปราณปรับธาตุที่เสียดุลย์
ก็เคยได้ใช้ช่วยบรรเทาความเจ็บให้คนอยู่บ้าง (เวลานึกอยากโชว์ออฟน่ะ)

แต่ช่วงหลัง ๆ เวลาเราเจ็บป่วยส่วนใหญ่ก็จะปล่อยตามยถากรรม


:b12:

:b17: :b17: :b17:

ทำอะไรได้...ช่วยอะไรใครได้...แล้วก็ได้ช่วยไป...นับว่าเป็นกุศลดีแล้ว :b8:

อย่าไปกังวลว่ามันมีหรือไม่มีในตำรา...หรือกลัวว่าจะเป็นมิจฉาไปเลย...

การหมกหมุ่นอยู่แต่กับเรื่อง...เอาโลก...อยากในโลก...อยู่ในโลก...ต่างหาก...เป็นมิจฉา :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2012, 20:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ซึ่งนักปฏิบัติเป็นจำนวนมาก หากระลึกชาติได้
มักระลึกได้ว่าตนเคยเป็นอะไร
แต่มักจะจำไม่ได้ว่า ตนเคยตายอย่างไร

อิอิ

แค่รู้....แต่ไม่รู้สึก

อาจเพราะความรู้สึก....มันก็แตกสลายไปกับธาตุ...เวทนาไม่เที่ยง...สัญญาก็ไม่เที่ยง

อีกอย่าง...ตัวรู้เผ่นออกมาก่อนจะรู้สึก... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2012, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันเคยรุ้สึกว่าตัวเองตายแล้วฟื้น (สงสัยยมทูตไม่ยอมให้ตายกระมั้งเจ้าค่ะ เพราะใช้กรรมยังไม่หมด :b5:)
ตอนนั้นอายุประมาณ 17-18ปี คืนวันนั้นดิฉันนอนดึกแล้วรู้สึกตัวประมาณใกล้จะตี 5 แล้ว รู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ ก็เดินลงไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ดิฉันและแม่อยู่กันสองคน ห้องน้ำก็เป็นแบบนั่งยองๆอ่ะตอนนั้น
ดิฉันจำได้ว่านั่งสักพักก็จำไรไม่ได้ ไม่รุ้สึกตัวเลย ซักพักลืมตาตื่นขึ้นมา หัวกระแทกพื้นกระมังมีเลือดออกตรงกลางศรีษะ บนพื่นก็มีหยดเลือดที่กระเด็น เป็น หยด ประมาณ 2-3หยด ตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บ แล้วเดินขึ้นมาบอกแม่ว่าเป็นลมในห้องน้ำแล้วหัวแตก ถ้าดิฉันตายก็คงไม่มีใครช่วยทันตอนนั้น ดิฉันก็ไปโรงบาลให้หมอเย็บแผลให้ ดิฉันเคยคิดว่าถ้าเราตายแบบหมดสติเหมือนตอนนั้นคงไม่รู้ว่าตัวเองตาย คงไม่เจ็บปวด ทรมาณ :b1:
แต่ตอนนี้ยังตายไม่ได้ เพราะกว่าจะได้เกิดเป็นมนุษยืสุดแสนลำบากยากเข็ญ ต้องหมั่นสร้างบารมี และทำความดี ต่อไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้อยู่เพื่อลูกถ้าลูกโตเมื่อไหร่ ชีวิตดิฉันคงจะแสวงหาทางหลุดพ้นที่แท้จริงได้ซักที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 11:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ดิฉันเคยรุ้สึกว่าตัวเองตายแล้วฟื้น (สงสัยยมทูตไม่ยอมให้ตายกระมั้งเจ้าค่ะ เพราะใช้กรรมยังไม่หมด :b5:)


:b8:

:b1:

เคยเห็นลักษณะของการเห็นอนาคต
ว่าเป็นเรื่องของการอ่านธาตุ
คล้าย ๆ กับว่า หากคนที่เข้าห้องพระจุดธูปสวดมนต์ทุกวัน
เมื่อเขาจุดธูป มันจะปรากฎควัน ประกายสีส้มที่ปลายก้านธูป ขี้เถ้าสีเทา
คนที่เห็นสามสิ่งนี้ ย่อมรู้การดำเนินไปตามกาลก็ได้ ย่อมรู้ที่สุดตามกาลก็ได้
แต่กระนั้นก็ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจทำให้สิ่งที่รู้นั้นผันแปร

เกิดก็ธาตุ ดำรงอยู่/แปรเปลี่ยนก็ธาตุ ดับก็ธาตุ
ก็ ก้อนธาตุ นี่ล่ะ

อิอิ น่าจะยังอยู่ในโซน
นอกรีต

:b8:

:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 16:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b17: :b17: :b17:

ทำอะไรได้...ช่วยอะไรใครได้...แล้วก็ได้ช่วยไป...นับว่าเป็นกุศลดีแล้ว :b8:

อย่าไปกังวลว่ามันมีหรือไม่มีในตำรา...หรือกลัวว่าจะเป็นมิจฉาไปเลย...

การหมกหมุ่นอยู่แต่กับเรื่อง...เอาโลก...อยากในโลก...อยู่ในโลก...ต่างหาก...เป็นมิจฉา :b16:


พอเผลอ มันก็เป็นความเพลินไปในอารมณ์น่ะ

เหมือน วิชาทำนายทายทักน่ะ
แรกก็ ลองทำเล่น ๆ ลองวิชา
พอต่อมาก็ทำเพราะเห็นเขาเดือดร้อนมา
พอต่อมาก็กลายเป็น ทำเป็นรายได้พิเศษ
พอต่อมา ก็กลายเป็นทำเป็นอาชีพ

:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 20:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่...พอเผลอ...ก็มักจะยึด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร