วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 17:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2011, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2008, 18:05
โพสต์: 136


 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="นามะธรรม"]ผมอาจไม่เก่งด้านทฤษี แต่ปฏิบัติก็คงพอไปวัดไปวาได้อยู่ ผมขอเรียนปรึกษาอย่างนี้ครับ แต่ก่อนผมนั่งสมาธิแล้วก็จิตใจเงียบสงบดี บางครั้งก็มองเห็นโลกแปลกๆนะครับ เช่น มองเห็นวิญญาน ภูตผีปีศาจ รุกขเทวดา ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไรดีครับคือผมชอบเอานาฬิกาที่มีเสียงของวินาทีมาวางไว้ข้างๆ ถ้าจิตที่จุดหนึ่งก็จะไม่ได้ยินเสียงนาฬิกานะครับแล้วเมื่อกลับก็จะได้ยินเสียงนาฬิกาอีกครั้งครับ ผู้รู้ช่วยตอบทีครับ ผมสามารถทำแบบนี้ได้ทุกวันนะครับ[/quote


จิตหลุดออกจากสมาธิไปแล้วครับ
จิตมิได้อยู่กับฐานภาวนาในเบื้องต้นแล้ว
ควรรีบดึงจิตกลับมาอยู่กับฐานภาวนาเดิมครับ
หากปล่อยให้จิตไหลไปเช่นที่ว่ามานี้ จิตมันก็จะไหลไปเรื่อยไม่สิ้นสุด ครับ
แล้วมันก็จะยิ่งไปรับรู้เรื่องพิศดารหนักขึ้นไปเรื่อยๆครับ


การเจริญสมาธิ ก็เพื่อการรำงับสังขาร ปล่อยวางสังขาร
เตสัง วูปะสะโมสุโข
การสงบรำงับสังขารเสียได้คือความสุข


สมาธิที่แท้จริง หากยิ่งลึก ก็ยิ่งว่าง ยิ่งโล่ง ยิ่งโปร่ง ยิ่งไม่มีอะไรๆ
สุดท้ายมันจะไปสิ้นสุดจบลงตรงที่สัญญาเวทยิตนิโรธ.


มีผัสสะย่อมมีเวทนา
มีเวทนาย่อมมีตัณหา
มีตัณหาย่อมมีอุปาทาน

อย่าปล่อยให้จิตไหลไปกับนิมิตใดๆเลยครับ
นิมิตก็คือนิมิต เป็นสักแต่ว่าธรรมมารมณ์อย่างหนึ่งเท่านั้น
นิมิตเป็นเหตุปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดมโนวิญญาณขึ้นมา
นิมิตเป็นเพียงมายาภาพ เป็นเพียงมโนภาพ เป็นเพียงจินตนาการ เป็นสิ่งไร้สาระ ไม่มีแก่นสารใดๆ
เมื่อเข้าไปจับถือสำคัญมั่นหมาย นิมิตก็ย่อมเป็นภพคือสถานที่ที่ให้เกิดจิตดวงใหม่ขึ้นมาอีกดวงหนึ่ง

จิตที่ภาวนาอยู่กับฐานเดิม ก็เป็นจิตดวงหนึ่ง
จิตไปรับรู้เรื่องนิมิต เข้าไปคลุกเคล้ากับนิมิต ก็เป็นจิตอีกดวงหนึ่ง
หากจิตยังมีการเคลื่อนไหวโยกย้ายซัดส่ายไปมา
โอกาสที่จะรู้จักกับธรรมชาติที่แท้จริงของจิตได้นั้นก็เป็นเรื่องที่ยาก
โอกาสที่จะปล่อยจิตอยู่ สละละวางจิต ไม่ยึดมั่นถือมั่นในจิต ก็จะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2011, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ท่านปล่อยรู้


ขออนุึโมทนาครับ
:b8: :b8: :b8:

อย่างไรก็ตามการเห็นนิมิตไม่ไ้ด้เป็นสิ่งผิด หรือเลวร้ายอะไร
เด๋ว นักปฏิบัติที่นิมิตเกิดจะกลุ้มใจไปกันใหญ่
เพียงแต่ว่าเมื่อเกิดแล้วต้องดึงจิตกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าทำไปเรื่อยๆ ไม่หยุดปฏิบัติซะก่อน เด๋วสติมันก็เร็วพอเองแหละคับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2011, 06:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2008, 18:05
โพสต์: 136


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างไรก็ตามการเห็นนิมิตไม่ไ้ด้เป็นสิ่งผิด หรือเลวร้ายอะไร
เด๋ว นักปฏิบัติที่นิมิตเกิดจะกลุ้มใจไปกันใหญ่
เพียงแต่ว่าเมื่อเกิดแล้วต้องดึงจิตกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าทำไปเรื่อยๆ ไม่หยุดปฏิบัติซะก่อน เด๋วสติมันก็เร็วพอเองแหละคับ[/quote]



:b8:
เห็นด้วยครับที่ว่า นิมิตใดๆมิใช่สิ่งผิด หรือเลวร้ายอะไร
ความเข้าไปเกี่ยวข้องซ่องเสพคลุกเคล้ากับนิมิตนั้นเอง คือสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ
คือสิ่งที่ไม่สมควรทำให้เจริญ


สิ่งยั่วยวนชวนให้หลงใหล ในระหว่างทาง มีมากมาย
การหยุดพักชื่นชมจมแช่ มีแต่จะทำให้สิ้นเปลืองเวลาในการเดินทาง
หนทางข้างหน้า จะต้องเจออะไรอีกมากมาย
เนื่องด้วยเวลามีจำกัด...ไปให้ถึงจุดหมายเสียก่อน :b41:

เมื่อถึงจุดหมาย...เวลาเหลือ ค่อยย้อนกลับมาเก็บ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแล้ว :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2011, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
...จิตเป็นสภาพท่องเที่ยว 6 ทางคือทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ...
...เป็นสภาพคิดดีและคิดไม่ดีที่จดจำว่าเป็นตัวตนชื่ออะไรอยู่ที่ไหน...
...เห็นเป็นคน สัตว์ สิ่งของ และรับรู้อารมณ์ต่างมาสะสมกลายเป็นสุข-ทุกข์...
...การทำสมาธิที่หลับตาก็เพื่อทำให้จิตใจสงบเป็นการหยุดความคิดที่รับรู้มาทั้งวันลง...
...หยุดการส่งจิตออกข้างนอกไปรับรู้สภาพต่างๆมาคิดให้ก่อเกิดอารมณ์ไปตามการรับรู้ทั้ง6ทาง...
...แล้วให้กำหนดจิตให้รู้ตัวที่กายอันเป็นฐานที่ตั้งที่เรียกว่ากรรมฐานก็คือรู้ที่ตั้งของกายและจิตขณะนี้...
...การนั่งสมาธิแล้วออกไปรู้เห็นสิ่งต่างๆ...จึงไม่พ้นสภาพจิตส่งออกไม่ว่าจะออกไปรู้เห็นนรก-สวรรค์...
...ก็คือสภาพคิดปรุงแต่งของจิตเอง...พอมีเทวดามาชวนไปเที่ยวก็ตามไป...วิธีแก้ก็คือไม่ตามไป...
...แต่ให้กำหนดรู้ว่า...เห็นหนอๆๆๆจนกว่าภาพนั้นจะหายไป...ก็คือให้รู้สติหยุดการส่งออกนั่นเองค่ะ...
s002 wink


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร