วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2009, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: เรียน คุณบัวศกล

วันนี้ว่างหรือคะ
ดิฉันพูดไม่เก่งน่ะค่ะ
แถมวันนี้ก็เป็นโรคสายตาขี้เกียจซะงั้น
มึนๆ งงๆ ง่วงๆ เด๋วจะไปอาบน้ำ และสวดมนต์

:b6: แต่ยังมีบางคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ
จะรบกวนจากคุณบัวศกลได้มั้ยคะ
...รู้มากขึ้นแต่ก็ยัง :b10: อยากรู้อีกอยู่ดี :b32:
ตอบเถอะค่ะ จะรอฟัง :b8:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: ทำบาปอะไรหรือคะจึงไปเกิดเป็นอสูรกาย แล้วต่อจากอสูรกายจะไปเกิดที่ไหนต่อคะ
:b39: ปกติมนุษย์เมื่อตายแล้วจิตจะไปเสวยกุศลกรรมก่อนหรือกรรมวิบากก่อน

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2009, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบคุณ Bwitch ครับ

หลายท่านที่มาตอบกระทู้ ก็คงตอบไว้มากแล้ว

ส่วนตัวผมเอง ไม่ค่อยสันทัดเท่าไร เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
จะมีรู้อยู่บ้างก็ งูๆ ปลาๆ

ดังนั้นขอไม่แสดงความไม่รู้ออกไปดีกว่าครับ

ขอบคุณครับที่ อุตสา่ห์ถาม

ขอให้คุณได้คำตอบที่ดีๆครับ


:b9: :b21: :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 19:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


บุญบาปไม่ใช่เลขคณิตนะ ที่จะเอามาบวกลบกัน แล้วเหลือเท่าไร...

จิตเราถ้าสว่างมาก (คือสงบมาก = มีความดีมาก) ก็ไปเกิดในภูมิที่สูงกว่า ตามแต่ความสว่างของจิต ถ้าใจมืดก็แน่นอน ไปอบายภูมิ ถ้ากลั้วๆ กันไป ก็คงมาเกิดเป็นคนอีก
ดีกรีของความสว่างนั้น มันเกินวิสัยของใครๆ ที่จะรู้ได้ และเราก็ยังไม่รู้ว่า จะต้องมีญาณถึงระดับไหนที่จะรู้ได้

จิตสว่างมาก วิบากก็เข้าถึงได้ไม่มาก ภูมิเทวดาและพรหม จึงเป็นภูมิที่ทุกข์น้อย... อายุขัยของมนุษย์อยู่ที่สังขาร แต่อายุขัยของเทวดา พรหม หรืออสูรกายนั้น ขึ้นอยู่กับอะไร ยังไม่ทราบได้... ที่เราคาดไว้ตอนนี้คือ เมื่อจิตลดความสว่างลง จิตก็จะไปจุติในภูมิที่ต่ำลงมา หมายความว่า หากเหล่าเทวดาไม่ทำชั่ว ไม่หมกมุ่นในสิ่งใดมากเกินไป คือสามารถคงความสว่างของจิตได้เรื่อยๆ ก็จะอยู่ในภูมินั้นไปตลอด... และหากเทวดาประพฤติตนดี ทำสมาธิดี เมื่อจิตสว่างถึงจุดๆ หนึ่ง ก็จะไปเกิดใหม่ในภูมิที่สูงขึ้น

สัตว์นรก ใจมืดเป็นทุนเดิม ไม่มีสิ่งใดเป็นเครื่องคุ้มกันกาย วิบากจึงเข้ามาเต็มๆ วิบากเก่าก่อให้เกิดวิบากใหม่ ความชั่วย่อมก่อให้เกิดความชั่ว สัตว์นรกจึงยากที่จะหลุดพ้นออกมาได้...

เป็นไปได้ที่เมื่อก่อนตาย หากเราคิดในเรื่องความชั่วที่เคยทำไว้ จิตเราอาจไปเกิดในอบายภูมิก่อน... แต่หากจิตเรามีความสว่างเป็นทุนเดิม เราก็จะพ้นจากภูมินั้นอย่างรวดเร็ว หรือแทบจะในทันที เรื่องนี้จึงไม่มีนัยสำคัญมากนัก...
ในอีกทางหนึ่ง มีบางคนบอกว่า ให้คนชั่วคิดเรื่องดีๆ ก่อนตาย แล้วจะไปเกิดในสวรรค์นั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย... คนดีย่อมรู้ว่าความรู้สึกชั่วนั้น เป็นเช่นไร แต่คนชั่วย่อมยากที่จะนึกคิดว่า ความดีนั้นเป็นอย่างไร เปรียบง่ายๆ ว่า หากเราเคยทำบุญอย่างบริสุทธิ์ใจ เราจะรู้ได้เลยว่า การทำบุญนั้น เต็มใจหรือไม่เต็มใจ ซึ่งถ้าเราไม่เคยรู้สึกถึงความบริสุทธื์ใจนั้นมาก่อน เราจะแยกแยะไม่ออกเลยว่า เต็มใจกับไม่เต็มใจนั้น เป็นอย่างไร
คนชั่ว แม้พยายามจะคิดดีก่อนตายอย่างไร ก็ย่อมไม่เกิดผลอันใด...


เพิ่มเติม: เปรียบให้ง่ายเข้า หากจิตเราเหมือนแสงเทียน เทียนที่มีไฟ ย่อมสามารถมีอะไรมาบังแสงได้ หากคิดไม่ดี แสงสว่างก็ถูกบดบัง แต่เมื่อไปเกิดในอบาย หรือภูมิที่ต่ำกว่าปกติ (เช่น พรหมมาเกิดเป็นเทวดา) ความคิดที่มาบดบัง ย่อมไม่เหลืออยู่ ความสว่างของจิต ก็จะนำพาจิตไปเกิดใหม่อีกครั้ง

แต่ในอีกทางหนึ่ง คนชั่วเปรียบเสมือนเทียนที่ไม่มีไฟ ไม่มีแสง ไม่ว่าจะทำอย่างไร ย่อมไม่มีแสงสว่างนำพาจิตให้ไปเกิดในภูมิที่สูงกว่า เป็นต้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณ คุณ murano มากค่ะ ที่กรุณาสละเวลามาตอบให้ด้วยเมตตาจิต
ทำให้ดิฉันเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
:b8: อนุโมทนา สาธุ ค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


มาเรียบเรียงความคิดเพิ่มเติม...

ถ้าอายุขัยของร่างทิพย์ทั้งหลาย ขึ้นอยู่กับความสว่างของจิต การไปเกิดในภพภูมิต่างๆ โดยพลาด จึงเป็นไปไม่ได้ (หรือเป็นไปได้เพียงชั่วขณะ ก็จะไปเกิดใหม่ในภูมิที่สมควรจะเป็น) ยกเว้นกรณีเดียวคือ หากจุติมาเป็นมนุษย์ หรือสัตว์เดรัจฉาน ก็จะต้องอยู่ไปจนสิ้นอายุขัย ซึ่งกำหนดโดยสังขาร...

พรหมจึงจุติมาเป็นเทวดาไม่ได้ แต่ทั้งพรหมและเทวดาสามารถจุติมาเป็นมนุษย์ได้

ทีนี้เมื่ออายุขัยของร่างทิพย์ ถูกกำหนดโดยจิต เราก็เลยคิดได้เพิ่มเติมว่า...
นรกและสวรรค์ ที่เราเชื่อว่า อยู่ต่างภพ (เป็นโลกคู่ขนาน) มันจึงอาจไม่ใช่เป็นโลกคู่ขนานแบบวิทย์ คือ แต่ละโลกก็มีวัตถุของตัว เรามีทีวี อีกโลกก็มีทีวี คือเป็นโลกวัตถุทั้งคู่ แต่ซ้อนเหลื่อมกัน เป็นมิติที่แยกจากกันอย่างเด็ดขาด

โลกคู่ขนาน คือทั้งพรหม สวรรค์ มนุษย์ และนรก ก็อาจจะอยู่ในโลกใบเดียวกันนี้แหล่ะ แต่มองไม่เห็นกัน เพราะมีมิติที่ต่างกัน คำว่ามิตินี้ ใช้ความหมายทางพุทธ คือมี ความละเอียด ที่ต่างกัน

คนและสัตว์ มองเห็นกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความละเอียดที่ใกล้กัน คือมีช่วงของการรับรู้ที่คาบเกี่ยวกัน แต่คนและสัตว์นั้น มองโลกได้ไม่เหมือนกัน จะลองยกเรื่อง แสง มาเอ่ย แสงมีหลายช่วงคลื่น เป็นไปได้ไหมว่า อาจมีช่วงคลื่นที่เหนือกว่า อุลตราไวโอเลต ขึ้นไปอีกเรื่อยๆ และมีที่ต่ำกว่า อินฟราเรด ลงมามากๆ แต่เครื่องมือที่นักวิทย์ผลิตขึ้นมานั้น ผลิตในโลกวัตถุ จึงมีข้อจำกัดเพียงเท่าที่เห็น

โลกเรานี้มี 2 ส่วน ส่วนวัตถุและส่วนทิพย์ และส่วนทิพย์ก็อาจจะแบ่งออกไปได้อีกหลายชั้น เราคิดว่า พวกเปรตและเทวดาระดับล่าง น่าจะอยู่ในชั้นเดียวกัน แต่ทางพุทธเขาแยกเป็นระดับของจิต (อันหมายถึง ทิพยอำนาจ ด้วย) พวกนี้เราสามารถเรียกรวมๆ ได้ว่า ผี เป็นระดับที่ใกล้โลกวัตถุมากที่สุด และถ้าเราเข้าใจไม่ผิด พวกผีนี้ สามารถมองเห็นมนุษย์ สัตว์ และสิ่งของได้ โดยมองส่วนที่เป็นทิพย์ ดังนั้น เมื่อภูมิประเทศเปลี่ยน เช่น ระเบิดภูเขา พวกนี้ก็สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงด้วย

ในส่วนทิพย์ระดับอื่นๆ นั้น เห็นจะเกินวิสัยของเรา แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่า มันอาจจะหยาบหรือละเอียด จนพ้นการรับรู้ของแต่ละชั้นไป คือ ไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของโลกมนุษย์ รวมถึงโลกทิพย์ที่ต่างระดับกัน เช่น พรหมย่อมไม่เห็นเทวดา เทวดาย่อมไม่เห็นมนุษย์ มนุษย์ย่อมไม่เห็นเปรต และเปรตย่อมไม่เห็นนรก ส่วนเทวดาแต่ละชั้น จะเห็นกันหรือไม่นั้น ไว้จะลองพิจารณาอีกที...

ก็เพราะพวกร่างทิพย์ในหลายระดับ สามารถรับรู้ถึง แสง ได้ เราก็เลยคิดว่า แสงอาจมีหลายช่วงคลื่น (สเปกตรัม) มากกว่าที่มีอยู่ และดังนั้น... สิ่งที่เป็นสากลที่สุด แต่ไม่ทุกภพภูมิก็คือ ไฟ แต่ยังไม่แน่ใจว่า ผลของไฟในแต่ละชั้นนั้น มีผลอย่างไร

เมื่อโลกทิพย์ (มิติ) ทั้งหลายนั้น อยู่ที่เดียวกัน ไม่ได้แยกจากกันอย่างเด็ดขาด ดังนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา โลกทิพย์ทั้งหลายก็จะถูกทำลายไปด้วย อาจจะมียกเว้นในชั้นของพรหมบางชั้น ที่อยู่เหนือแสงทั้งหมด (ชั้นอะไร เราก็จำไม่ได้) คือเหนือพลังงาน และแน่นอน เหนือไฟ
ตรงนี้จะไม่ใช่แนวคิดโลกคู่ขนานแบบวิทย์ ที่แต่ละโลก ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย...

เท่านี้ก่อน เดี๋ยวไปเรียบเรียงความคิดต่อ... :b6: :b6: :b6:


เพิ่มเติม: เมื่อเทวดาระดับล่าง และพวกเปรต อยู่ในโลกทิพย์ระดับเดียวกัน (เหมือนมนุษย์และสัตว์ไง) 2 กลุ่มนี้ จึงสามารถมองเห็นกันได้ ผีเจ้าที่ (เทวดา) จึงสามารถคุ้มครองสถานที่ ให้พ้นจากพวกเปรตได้

เพิ่มเติม 2: ส่วนเทพทั้งหลาย คือผู้ที่มีกำลังจิตสูงมากๆ จนสามารถข้ามภพ (มิติที่มีความละเอียดต่างกันมากๆ) มาได้ พวกนี้ย่อมมีทิพยอำนาจเหนือหมู่เทพเทวดาทั่วไป ที่ก็ใช้ชีวิตไปในภพภูมิของตน เช่นเดียวกับมนุษย์ ที่ส่วนใหญ่ก็ดำรงชีวิตไปตามปกติ จะมีส่วนน้อยเท่านั้น ที่สามารถส่งจิตข้ามภพได้
คนส่วนน้อยนั้นก็ย่อมถือได้ว่า มีทิพยอำนาจ เสมือนเทพ และโดยนัยก็คือ เหนือเทวดาทั่วไป... :b6: :b6:


แก้ไขล่าสุดโดย murano เมื่อ 08 ก.ค. 2009, 20:19, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุค่ะ คุณ murano
:b6: ดิฉันก็คงต้องเรียบเรียงสติปัญญาเพื่อรับความรู้ใหม่ๆ นี้เช่นกัน :b11: :b4:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 22:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบเหมือนทุกท่านที่ให้คำตอบแล้วนะค่ะ
เพราะไม่มีอะไรต้องกล่าวเพิ่มเติมแล้ว
:b4: :b4: :b4: :b4:

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 19:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 21:25
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุด้วยนะคร้า

.....................................................
ศัตรูของคนเราที่แท้จริงแล้ว คือ โลภ โกรธ หลง
ต้องแก้ด้วยมี ศีล สมาธิ ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร