วันเวลาปัจจุบัน 17 มิ.ย. 2025, 17:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 404 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 27  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2015, 10:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




78f6c5f290-libri-pila.png
78f6c5f290-libri-pila.png [ 65.64 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
เข้าเรื่องต่อ :b36: :b18:
อ้างคำพูด:
ปกตินั่งสมาธิไม่เคยฟุ้งซ่านมากขนาดนี้....แทบไม่ได้ความสงบเลย จนหมดเวลายังไม่ทันได้ปล่อยพุท-โธหรอก
แค่ลมพอละเอียดเบาขึ้นบ้างก็ออกละ มันนาน มันเบื่อ
นั่งเป็นชม. ไม่ได้อะไรเลย
(จากที่เคยคิดว่า...ถ้าผ่านความกลัว...จนนั่งหลับตาได้...ก็คงดี...มันก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนักเลย...)

แต่ก็ไม่ยอมแพ้นะ...ยังสู้...ด้วยการเพิ่มรอบ วันละ2-3รอบบ้าง
ที่เสริมมา...15-20นาที...มีเวลาก็แวบไปทำ...ไม่ได้อะไรก็ทำ...
ผลก็คือ...นั่งหลับตาความคิดก็เกิดทันที..เกิดแบบไหลเลื่อนอย่างกะสายน้ำ

  ก็น่าจะเพราะเป็นคนใจเร็ว..ใจด่วน..คิดทำอะไรก็จะทำให้เห็นสำเร็จเร็วๆ
เมื่อมันคิดๆไปเรื่อยๆ...ฟุ้งซ่านอยู่ได้...เหมือนวิ่งไล่จับอะไรก็คอยแต่จะหลุดมืออยู่นั่น  
ไม่อยากเสียเวลาอีก..  
ก็เลยคิดใช้วิธี...ตั้งใจคิด...เมื่ออยากจะคิดไปเรื่อย...เมื่ออยากจะทำงานนัก...
ก็เลยหางานอะไรมาให้มันทำซะเลย  
ก็อย่างที่บอก เริ่มทำความเข้าใจกับคำว่านิวรณ์5
และฟุ้งซ่านก็เป็น1ในนั้น  



...เมื่อใจฟุ้งซ่านมากๆ ก็เลยหาเรื่องให้คิดเอาซะเลย :b14:
ถึงบอกไง...ว่าเป็นคนใจเร็ว ไม่ยอมติดอยู่กับอะไรนานๆ :b5: :b5:
แต่ก็ไม่ใช่ทำขึ้นมามั่วๆนะ..ตอนนั้นมีใจมุ่งมั่น มีความเพียรที่จะเอาชนะ
แต่มันก็มีปัญญาคิดได้แค่...แบบนี้ :b3: :b3:
ก็เห็นบ่อยๆ คำว่านิวรณ์คือเครื่องขวางกั้น...ก็เลยระลึกถึง :b27:
เริ่ม :b26: ..."เราจะไม่เอานิวรณ์5"
1.รูป,,รส,,กลิ่น,,เสียง,,โผฎฐัพพะ
2.เราจะไม่มีความพยาบาท,,โกรธเคือง,,ไม่พอใจ
3.เราจะไม่หดหู่ท้อถอย,,ง่วงเหงาหาวนอน
4.เราจะไม่เอาความฟุ้งซ่าน
5.เราจะไม่มีวิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในการปฏิบัติ
:b44: :b44: :b44:
ก็ท่องวนไปวนมา...ตามนี้ :b55: :b55:
:b9: :b9: :b9:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2015, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


IDEA season 2 rolleyes

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2015, 09:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ホンダ-新型フィット-2016-最新情報-7-197x300.png
ホンダ-新型フィット-2016-最新情報-7-197x300.png [ 40.24 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
:b46: :b46: สวัสดีค่ะ..ท่านอ.เช่นนั้น tongue
:b41: :b41: :b41: :b47: :b41: :b41: :b41:
:b55: :b55: ประมาณ1เดือนที่ทำต่อเนื่องนี้..ไอเดียจะเล่าวิธีที่ทำก่อนนะคะ
..หลายๆเรื่องที่เกิดขึ้น..บางทีอดคิดไม่ได้ว่าจะบังเอิญมากเกินไปรึเปล่า
:b46: เมื่อท่องวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นอย่างตั้งใจ..มันก็กลบความฟุ้งได้จริงนะ :b12: :b12:
เพราะสักพัก..จิตก็ปล่อย..เข้าสู่ความสงบ :b39: ...เหมือนวูบนิดๆ แล้วเบาสบาย
จะรู้ที่ตั้งมั่นในลมที่ละเอียด ที่เหมือนไหลเข้าออกอัตโนมัติ เบาลง,,และเบามาก
สักพักตัวจะเริ่มหมุนเอียงลงด้านข้าง(แค่รู้สึก) จะหมุนลงๆจนเหมือนกลับหัวกลับหาง
ก็ปล่อยไป..จนไม่รู้อยู่ตรงในทิศใด :b39: มันอิ่มสุข..แต่หนักแน่น
และพอผ่านสภาวะนั้นแล้วทุกอย่างจะหยุดนิ่ง
ลมจะละเอียดจนแทบไม่รู้สึก แล้วแสงสว่างจะจ้า จ้าขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนสปอตไลท์ส่องตา :b39:
แต่การเห็นไม่ได้ทำให้แพ้แสงนะ..มันสบายตา
บ้างก็ขาวนวล เหมือนมีเมฆหมอกขาวๆลอยอยู่ จนถึงขาวนวลไปทั่วไม่มีขอบเขต :b20: :b20:
:b55: :b55: แล้ว.. :b14: สักพัก...ก็กลับมารู้ที่ลม,,,แล้วก็กลับมาตัวหมุนๆ,,,และก็กลับไปหยุดนิ่ง
,,,แล้วก็กลับมาแสงจ้า,,,บ้างก็กลับไปรู้ที่ลม,,,ที่กายโยก(จริงๆ)เอียงซ้ายขวาก้มเงยไปมาอยู่นั่น
,,,บ้างก็ร่างกายบิดเกร็งแล้วปล่อย บิดแล้วปล่อยอยู่นั่นอีก,,,ตัวพองตัวใหญ่ :b14: :b14:
:b1: มันดูวุ่นวายนะ..แต่ก็จะแค่ตามรู้ รู้ที่แค่ภายใน..รู้แบบสงบด้วย^^
:b38: :b38:
s005 และเมื่อผ่านสภาวะหลายอย่างนี้นานหน่อย...ก็จะมีเบื่อหน่าย
ก็จะเอาความรู้สึกตามที่ได้เห็นจริงนั้นแหละมาพิจารณา ถึงการเกิดขึ้น,,ตั้งอยู่,,ดับไป ของแต่ละสภาวะ
:b55: มันเป็นความรู้สึกแบบทอดถอนใจ...คิดแบบบ่นๆ :b9:
เพราะบางทีกำลังสงบตั้งมั่น เดี๋ยวลมหายใจก็ผุด,,กำลังรู้สุกเบาสบายลอยๆอยู่ ก็วูบเหมือนตกเหว
แล้วลมหายใจก็หยาบขึ้นอีก,,บ้างแสงสว่างจ้าๆหรือขาวนวล หรือเป็นสุขที่ละเอียดขึ้น
..ก็มารู้ที่กายบิดเกร็ง,,ลมหายใจเข้ายาวหรือออกยาวค้างไว้อย่างเดียวจนหยุดค้างไว้ก็มี
:b7: หลังๆ จึงได้บ่นกะตัวเองว่า,,ทุกอย่างหาความแน่นอนไม่ได้ อยากหรือไม่อยากอะไร
ก็ไม่สามารถไปบังคับบัญชาได้ ก็เห็นๆอยู่มันเป็นไปเอง เปลี่ยนแปลงไปมาไม่หยุด
แล้วจะเอาอะไร ทุกอย่างล้วนแล้วมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ถ้าเราไปชอบอย่างหนึ่ง เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนไปอีกอย่างหนึ่ง ก็ไม่พอใจอีก
หรือเรากำลังพอใจสภาวะนี้ เดี๋ยวมันก็ลื่นไหลตกลดระดับลงมาอีก...ก็ผิดหวัง เซ็งอยากลุก
:b5: คือ..มันเห็นความไม่เที่ยง แปรปรวน และการยึดติดเริ่มที่..ใจ
ก็ชวนให้พิจารณาว่าจะไปยึดเอากับอะไรในความไม่เที่ยงทั้งหลาย
ที่มีการเกิดขึ้น,,ตั้งอยู่,,แล้วก็ดับไป จะเอาอะไรๆๆๆๆ ถามตัวเองบ่อยๆ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2015, 09:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




george-laying.png
george-laying.png [ 99.82 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ที่เล่าไปนั้น...เป็นประสบการณ์ที่เจอในการนั่งสมาธิ :b55: :b55: มักจะออกมาแบบนี้
ในแต่ละครั้งจะต่างกันตรงที่ว่า...เมื่อเริ่มใหม่ๆกว่าจะสงบได้อาจจะแค่ท้ายๆชม.(จะนั่งประมานชม.)
พอเริ่มบ่อยเข้าก็ดีข้นตามลำดับ
:b20: และจะใช้การกำหนดพุทโธเป็นส่วนใหญ่
การใช้ธรรมมาพิจารณาเข้าไปนี้ :b25: จะใช้ในวันที่มีจิตใจฟุ้งซ่านมาก ก็ในช่วงเริ่มๆนี้แหละ
บ้างก็มีบ่นๆเวลาจิตมันจะคอยเลื่อนไหล"จะเอาอะไร จะคิดทำไม"
ประโยคธรรมตามคำสอนหลวงปู่ครูอ.ทั้งหลายที่เคยได้ยิน...เอามากำราบ..พอเริ่มสงบขึ้นบ้างก็..พุทโธเข้าไป
:b38: อืม..แล้วอย่างนะ มันจะมีช่วงเวลาที่เบื่อ เมื่อนั่งไปสักช่วงหนึ่ง :b7: ประมานว่าเบื่อ อยากออกสมาธิแล้ว
บ้างก็เพราะสมาธิตกลดระดับ จากที่เพลินอยู่กับภายใน..ก็มาจับเสียงภายนอก
สุขมันลดระดับ ก็อยากออกอีก :b14:
:b55: ใหม่ๆก็ฝืนสู้ให้นั่งต่อนานหน่อย...แต่แบบด้วยใจอยากให้ถึงจุดที่ไม่มีความเบื่อเร็วๆ :b9: :b9:
ก็เลยไม่ได้ ฝืนสักพักก็ออก หลังๆมาสงบได้นานมากขึ้นเมื่อรู้ว่าจิตเริ่มถอยออกจากสมาธิสักนิดหนึ่ง
ก็จะกำหนดแผ่เมตตาอธิษฐานจิตให้ตัวเอง และแผ่ออกให้ไม่มีประมาณไปทั่วทิศ..
ก็จะออกจากสมาธิแล้วไง...แต่จิตใจกลับมาสงบตั้งมั่นมากขึ้นอีก ก็เลยดูมันต่อไป :b46: :b46:
s007 นั่นขั้นตอนรวมๆ ย้อนกลับมาตอนท่องนิวรณ์ใหม่ สิ่งที่เจอมันก็ถือว่าแปลก
มันเหมือนให้ต้องใด้หาวิธีแก้แบบเอาจริงเอาจัง มันมาแสดงให้ดูแบบชัดๆทีละข้อ :b5: :b5:
:b41: เริ่มจากนำมาท่องข่มเพราะจิตมันฟุ้งมากกกกก..แค่ช่วงนั้น.. ทำให้ได้รับความสงบในไม่กี่รอบ
ก็กลับมาเริ่มที่พุทโธแล้วนะ
ก็พอดีช่วงนั้นที่บ้านด้านล่างที่นั่งอยู่เสียงเครื่องจักรทำงานดัง
จะย้ายที่ก็ไม่ได้...ยังไม่ยอมสู้ความกลัว :b55: อะไรๆ..ก็ยอมสู้..ยกเว้นความกลัว..มันยังสู้ไม่ไหว
:b40: ก็..รูปรสกลิ่นเสียงโผฏฐัพพะ :b14: แหม..เหนื่อยอยู่ค่ะ แต่ก็เร่งความเพียร กำหนดสติให้รู้ที่พุทโธ
จนก็เข้าสู่ความสงบได้ :b4:
จิตที่คอยจะจับอยู่ที่เสียงอย่างเดียว(เสียงเครื่องจักรอ่ะค่ะมันดังมากอยู่ เรานั่งระเบียงมันดังชัดมาก)
ติดอยู่4-5วัน และในทุกวันมันก็ปล่อยได้เร็วขึ้น :b7: มันเหมือนแกล้งนะ..เพราะมาทำกันช่วงนี้พอดี
แต่ก่อนที่เขาจะหยุด..เราหยุดได้ก่อน :b27: :b27:
ด้วยการที่ลงนั่งก็ไม่สนใจเลย...บอกก่อนว่าทุกข้อจะผ่านด้วยการพิจารณา ทั้งในสมาธิ,,นอกสมาธิ
เราอาจจะโชคดี :b22: ที่นิวรณ์มันเหมือนมาชัดเจนให้รบกันทีละข้อ
ไอเดีย..ไม่รู้จะสื่อยังไง ว่าเราเจอแบบประดังประเดดาหน้ากันเข้ามาให้แก้ปัญหาทีละข้อแบบกระชั้นชิด
และต้องแก้ให้ได้ในเวลารวดเร็วด้วย..ยิ่งโดยพื้นฐานไม่ค่อยรู้อะไรด้วย
:b32: :b32: รู้แต่ใจเร็ว..ใจด่วนอ่ะค่ะ จะชนะให้ได้ :b16:
:b1: เวลาเล่าให้ฟัง..มันอาจจะเหมือนดูเล่นๆสบายๆนะ
แต่ตอนนั้นที่ลงมือทำ..มันสู้กันหนัก เหมือนออกรบปราบข้าศึกที่มาประชั้นชิด :b14: :b14:
เฝ้าทบทวนพิจารณาให้เห็นทุกข์เห็นโทษ เห็นขั้นตอนของการเข้าไปยึดตรงไหน?ยังไง?
จนถึงจุดหนึ่งมันปล่อยเอง กลับไปเพิ่งลงนั่ง...เสียงก็ดังอยู่อย่างนั้นไม่เป็นปัญหา :b55:
เหมือนตัดทิ้งไปเลย :b38: :b38:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2015, 09:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




kamus.png
kamus.png [ 47.13 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ไปต่างจ.ยาว เพิ่งมีโอกาสได้มาต่อ หวังว่ารอบนี้คงจบ^^
เพราะจะมีโอกาสมาเอื้ออำนวยอีกครั้ง...สำหรับคนที่ชอบเกเรอย่างไอเดีย :b14: :b9: :b9:
ปลายเดือนนี้จะมีคอร์สปฏิบัติเนื่องในวันวิสาขบูชา เชิญผู้ที่สนใจมาร่วมกันนะคะ :b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2015, 10:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




li-1.png
li-1.png [ 81.7 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ต่อค่ะ
..ข้อแรกผ่านไป..กำลังให้ได้คิดว่า...ดี...แบบรู้ได้ว่าไม่มีเลย
ก็ชะงักกับมาเจอจิตใจหงุดหงิดรำคาญใจ..นิดๆหน่อยๆ มันโมโหโกรธเคืองง่ายไปหมด
มันมาแบบเหมือนไม่มีเหตุมีผลที่จริงจังเลย..นั่งๆอยู่ใจมันโกรธขึง
ไม่พอใจอะไรไม่รู้ เหมือนจุกอยู่กลางอก เหมือนคนอารมณ์ไม่ดี..พร้อมพาลไปทั่วประมาณนั้น
:b20: ก็ทบทวนต่อไป3-4วัน อาการแบบนี้ก็หายไป
s007 จนมาเจอถีนะมิทธะ..อันนี้สุดๆๆๆ :b22: มันที่สุดของที่สุด..หนักสุดๆ..ไม่คิดว่าจะผ่านมาได้ยังไง
ปกตินั่งสมาธิไม่เคยมีง่วงจริง..เพิ่งเคยเจอ..
บวกกับสุดยอดความท้อแท้,,หม่นหมอง,,ไม่อยากทำ,,มันเหนื่อยล้า,,เบื่อหน่าย,,หมดกำลังใจ
มันสุดยอดของการจะดำเนินไปต่อ..คิดๆแล้ว ยกนิ้วให้ตัวเองข้อนี้แหละ :b13: :b13:
:b55: เพราะย้อนคิดไปถึง..ถ้าเกิดขึ้นตอนนี้..คงจะกระเด็นออกนอกทางไปไกล
จริงๆนะ..มันไม่ใช่เหมือนเราขี้เกียจทำสมาธิในชีวิตปกตินะ อันนี้ธรรมดา ใจมันหดหู้ท้อแท้นี่บั่นทอนสุดๆ
s002 คืออาจจะสำหรับไอเดียหนะ :b1: :b9: :b9:
แต่ที่ทำตอนนั้น..ก็เดินไปนั่งทุกวันนะ..แบบจำใจยอม..ไปงั้นๆ
:b39: แต่พอนั่งกำหนด..ความท้อแท้เบื่อหน่ายก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยนะ..ความตั้งใจมาเลย
แต่แค่พักเดียวก็จะง่วงแทนอีก :b5: :b5:
แบบว่านั่งเคลิ้มๆเกือบทั้งชม. กึ่งหลับกึ่งตื่นตลอดเวลา :b2: ยิ่งสงเสริมให้ท้อแท้เบื่อหน่ายเกิดขึ้นหลังออกสมาธิ
ก็ใช้เวลากับการทบทวนสภาวะนี้4-5วันมั้งคะ
:b7: ..เสียดาย..จำไม่ได้..ทุกครั้งที่ผ่านแต่ละข้อ..ทบทวนไป..มันจะเหมือนมี..ร้องอ๋อ!อย่างนี้เองขึ้นมา
เหมือนปลดล๊อก..ก็เข้าไปสู่อีกห้องหนึ่งประมาณนี้ :b12: :b9: :b9:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2015, 21:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Madre-Bebe-87874.gif
Madre-Bebe-87874.gif [ 162.74 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ต่อนะคะ
มาต่อที่เริ่มมีความฟุ้งซ่านเข้ามาอีก :b7: นั่งๆก็สงบดี..สงบเร็วนะ..แต่พอสงบนี่สิ
s002 อืม..เดี๋ยวลมหายใจจะละเอียด,,อืม..เดี๋ยวกำลังจะเกิดปิติ,,เสียงเริ่มเบา,,ตัวหายกายหายรึยัง :b5:
นี่เรียกว่าฌานอะไร :b3: เหมือนคอยตรวจสอบตัวเอง มันฟุ้งแบบนี้อ่ะค่ะ :b14:
มันเลยไม่สงบจริง..ไม่ใช่ตัวรู้..มันเป็นตัวอวดรู้ :b9: :b9:
แต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการพยายามปราบปราม :b18: :b14:
หลังจากเจอบททดสอบ..และสอบผ่าน :b27: :b27:
s005 ทำสมาธิ..ก็กำหนดพุทโธต่อไป..ช่วงนี้ก็ไม่มีอะไร สงบดีมาก
บางวันหลับตาปุ๊บก็จับแสง,,จับอารมณ์,,จับความรู้สึก,,สภาวะที่คุ้นเคย :b43:
แต่ก็นะ..สงบไม่นานก็หมุนเวียนเปลี่ยนสภาวะไปเรื่อยๆตามรูปแบบที่อธิบายไว้ตอนต้น
..แต่แน่นอนว่าสงบจากภายนอกแน่นอน :b1:
เพียงแต่ภายในเลื่อนไหลไปอย่างนั้น...ก็ไม่เข้าใจทำไมออกมารูปแบบนั้น...
เพราะที่เคยทำสมัย15...จำได้ว่ามันไม่ใช่แบบนี้ :b7:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2015, 22:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Image-9894.jpg
Image-9894.jpg [ 81.9 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
นอกจากนั่งประมาณวันละชม.แล้ว ตอนนอนก็มีกำหนดจิตนอนนะ
ด้วยการกำหนดภาพไฟ :b44: แบบนึกถึงแสงเทียน :b1:
รู้สึกชอบมาก..แต่ก็กลัว..รู้สึกเหมือนเป็นของน่ากลัว..แต่ใจก็คอยถวิลหา :b9: จริงนะ อธิบายยาก
มันเหมือนมีความผูกพันธ์กัน คิดถึงการทำสมาธินี่..อยากตัวนี้นำมาก่อนเลย :b9:
แต่ก็จะพยายามผลักหนี..เพราะกลัว :b15:
แต่ตอนนอนมีคนอยู่ด้วยไง..ก็เลยขอสักนิด :b32: :b32: :b14: :b9: :b9:
เอาเป็นว่าทุกคืนสำหรับไอเดียตอนนั้นไม่มีคำว่าง่วงนอนเลยนะ..หมดหน้าที่ระหว่างวันแล้ว
ก็อยากจะอยู่เงียบๆภาวนา ใครจะวิ่งวุ่นวาย ทีวีเสียงดังยังไงไม่เป็นปัญหาสักนิดเลย
แต่....ยังไม่ยอมอยู่คนเดียว :b9: คือ ใจสงบดีขึ้นเยอะนะ..
ไม่ได้คิดอะไร..ความคิดมีน้อยมากตอนนั้น.. แต่ก็คงซ่อนลึกและเลี่ยงที่จะเผชิญกับความกลัว..หรืออยู่คนเดียว
คือ..ตอนนั้นคิดว่า..หมั่นทำสมาธิไปเถอะ..ถึงเวลาก็หายไปเอง รอให้หายไปเองหน่ะค่ะ
อธิบายได้ว่า :b1: ความตื่นกลัวไม่มี..มันอยู่นิ่งๆ..แต่รู้ชัดว่ามันมี..และคอยหลบอยู่ตลอด :b14:
s006 คืองง ต่อดีกว่า
ไอเดียจะระลึกถึงภาพเปลวเทียน..แต่ใจกำหนดพุทโธไปด้วยนะ
ก็จนเห็นมันลุกโพลงๆ..ก็หลับไป
:b26: เวลาตื่นก็จะมีภาพไฟนำออกมาหรือบ้างก็พุทโธออกมาเลย
เคยมีตื่นกลางดึก..ลุกไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่างนั้น..เหมือนรู้สึกขึ้นมา..ไม่มีลมหายใจ :b21:
ก็พยายามสูดเข้า..ก็ไม่มี,,ไม่รู้สึกถึงลม
ก็ทำอยู่3-4รอบ จากที่สงบอยู่..เริ่มตื่นตกใจนิดๆ
ก็พยายามสูดลมเข้าอีกรอบ..ก็รู้สึกถึงลม :b1: :b12: :b2:
:b55: ..ตอนนั้น เห็นชัดเลย ว่ากลัวตาย :b43: :b43:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2015, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
นอกจากนั่งประมาณวันละชม.แล้ว ตอนนอนก็มีกำหนดจิตนอนนะ
ด้วยการกำหนดภาพไฟ :b44: แบบนึกถึงแสงเทียน :b1:
รู้สึกชอบมาก..แต่ก็กลัว..รู้สึกเหมือนเป็นของน่ากลัว..แต่ใจก็คอยถวิลหา :b9: จริงนะ อธิบายยาก
มันเหมือนมีความผูกพันธ์กัน คิดถึงการทำสมาธินี่..อยากตัวนี้นำมาก่อนเลย :b9:
แต่ก็จะพยายามผลักหนี..เพราะกลัว :b15:
แต่ตอนนอนมีคนอยู่ด้วยไง..ก็เลยขอสักนิด :b32: :b32: :b14: :b9: :b9:
เอาเป็นว่าทุกคืนสำหรับไอเดียตอนนั้นไม่มีคำว่าง่วงนอนเลยนะ..หมดหน้าที่ระหว่างวันแล้ว
ก็อยากจะอยู่เงียบๆภาวนา ใครจะวิ่งวุ่นวาย ทีวีเสียงดังยังไงไม่เป็นปัญหาสักนิดเลย
แต่....ยังไม่ยอมอยู่คนเดียว :b9: คือ ใจสงบดีขึ้นเยอะนะ..
ไม่ได้คิดอะไร..ความคิดมีน้อยมากตอนนั้น.. แต่ก็คงซ่อนลึกและเลี่ยงที่จะเผชิญกับความกลัว..หรืออยู่คนเดียว
คือ..ตอนนั้นคิดว่า..หมั่นทำสมาธิไปเถอะ..ถึงเวลาก็หายไปเอง รอให้หายไปเองหน่ะค่ะ
อธิบายได้ว่า :b1: ความตื่นกลัวไม่มี..มันอยู่นิ่งๆ..แต่รู้ชัดว่ามันมี..และคอยหลบอยู่ตลอด :b14:
s006 คืองง ต่อดีกว่า
ไอเดียจะระลึกถึงภาพเปลวเทียน..แต่ใจกำหนดพุทโธไปด้วยนะ
ก็จนเห็นมันลุกโพลงๆ..ก็หลับไป
:b26: เวลาตื่นก็จะมีภาพไฟนำออกมาหรือบ้างก็พุทโธออกมาเลย
เคยมีตื่นกลางดึก..ลุกไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่างนั้น..เหมือนรู้สึกขึ้นมา..ไม่มีลมหายใจ :b21:
ก็พยายามสูดเข้า..ก็ไม่มี,,ไม่รู้สึกถึงลม
ก็ทำอยู่3-4รอบ จากที่สงบอยู่..เริ่มตื่นตกใจนิดๆ
ก็พยายามสูดลมเข้าอีกรอบ..ก็รู้สึกถึงลม :b1: :b12: :b2:
:b55: ..ตอนนั้น เห็นชัดเลย ว่ากลัวตาย :b43: :b43:










สิ่งที่คุณไอเดียเขียนเล่ามานั้น
เป็นความปกติของสภาพธรรมต่างๆ ที่มีเกิดขึ้น

เมื่อใด ให้ค่าให้ความหมายลงไปในสภาพธรรมที่เกิดขึ้น
เป็นปัจจัยให้ ความมีนั่นนี่ มีเกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา




เกี่ยวกับสภาพธรรมต่างๆ ที่มีเกิดขึ้น
เมื่อเห็นความไม่เที่ยงเมื่อไหร่ ก็เลิกเขียนไปเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2015, 12:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




20170724_074002.jpg
20170724_074002.jpg [ 242.29 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ช่วงระหว่างตอนนั้น..พูดได้ว่า..แม้อยู่ท่ามกลางผู้คน..กิจการการงาน
การปฏิบัติมันต่อเนื่องเหมือนเป็นอัตโนมัติ พูดน้อย,,กินน้อย,,นอนน้อย
ความคิดอยู่กับปัจจุบันอารมณ์เป็นหลัก พุท-โธกำกับอยู่เป็นอัตโนมัติ
ไม่ว่าจะเดิน,,นั่ง,,กิน,,นอน มันก็ดังก้องอยู่ ระลึกถึงอยู่อย่างนั้นเป็นไปโดยส่วนมาก
ยกเว้นเวลาพูด___หยุดพูดก็พุทโธอัตโนมัติทันที..เหมือนกลืนอยู่กับลมหายใจ..เหมือนเป็นอันเดียวกันกับลมหายใจ
บ้างไม่พุท-โธหรอก..มันดีกว่านั้น..สงบกว่านั้น แต่จะเป็นเวลาที่อยู่นิ่งๆไม่มีใครมากวนหรือการงานที่เฉพาะเจาะจง
s006 และจะมีช่วงหนึ่งที่เหมือนคลายออก..จะกำหนดก็มา ตั้งใจก็ได้
ไม่ตั้งใจกำหนดก็จู่ๆมาเองเป็นเองก็มี มันเป็นสุขละเอียด..สุขมาก
สุขแบบ...มันอิงอาศัยอะไรนะ???ก็ไม่รู้เหมือนกัน :b1: :b9: :b9:
เวลามาจะทำตัวไม่ถูก..ยอมรับ..ไม่ผลักไส จะให้ดับไปเลยก็ได้..ตั้งอยู่ก็ได้..แต่ให้ตั้งอยู่นานๆเลยไม่ได้
ถึงเวลาก็จะดับไปอยู่ดี
ถ้าถามว่าติดใจยินดี..ก็คงใช่อยู่ เพราะบางทีก็จะหยุดการกระทำทุกอย่าง
อยู่นิ่งๆ...เพื่อให้มันคงอยู่นานที่สุด
แต่ตั้งใจให้เกิด..ไม่ค่อยทำ.ปล่อยให้เป็นเองซะมากกว่า นอกจากอยากพักสบายๆก็ทำบ้าง
สภาวะ..มันเหมือนตกภวังค์(น่าจะเรียกว่านี่หรือเปล่า)
เวลาจะเกิดๆได้ทุกสถานที่ไม่ว่าจะตอนไหนหรือทำอะไรอยู่ในชีวิตปกติ,,เช่น เดินๆอยู่ก็มา
มันก็คงเป็นปิติตัวหนึ่งละมั้ง ลักษณะก็คล้ายๆกันเบาสบาย,,,แต่สุขละเอียดมากถึงมากที่ไม่น่าจะมีที่สุดแล้ว
แต่ไม่มีตัวนะ,,มองไปทางไหนเหมือนไม่มีการปรุงแต่ง,,อะไรๆเป็นอะไร,,หน้าหันไปทางไหนทิศใด
มันไม่คิดอะไรสักอย่าง,,อิ่มสุขเบาสบาย
s005 หลายๆอย่างในผลที่ได้รับจากการทำสมาธิในรอบนี้
ทำให้ได้รู้รู้ว่าสุขในความสงบ,,สุขในการไม่มีอะไร..มีอยู่จริง
จากที่เคยสงสัยอะไรๆเอาไว้มากตั้งแต่เด็ก ประมาณว่าการมีทรัพย์สินเงินทองไม่มีค่าเป็นไปได้อย่างไร
มองโลกให้ว่างเปล่าเพราะอะไรทำไม,,การไม่มีอะไรจะสุขได้อย่างไร
หรือการทำความเข้าใจอื่นๆอีกหลายอย่าง มันมีคำตอบของมันเองเมื่อได้ลงมือปฏิบัติ
cry แต่ก็ยากเหลือเกิน..ที่จะรักษาไว้ได้ มันมีอุปสรรคดึงใจที่ไม่แข็งแรงดวงนี้ไว้เสมอ
ไว้กลับมาเล่า..ยังมีต่อ :b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2015, 13:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




6.gif
6.gif [ 71.79 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
สิ่งที่คุณไอเดียเขียนเล่ามานั้น
เป็นความปกติของสภาพธรรมต่างๆ ที่มีเกิดขึ้น

เมื่อใด ให้ค่าให้ความหมายลงไปในสภาพธรรมที่เกิดขึ้น
เป็นปัจจัยให้ ความมีนั่นนี่ มีเกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา




เกี่ยวกับสภาพธรรมต่างๆ ที่มีเกิดขึ้น 
เมื่อเห็นความไม่เที่ยงเมื่อไหร่ ก็เลิกเขียนไปเอง


:b8:
เข้าใจค่ะพี่วลัยพร
ว่ามันเป็นเรื่องปกติ
กระทู้นี้..ก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ไว้เท่านั้นเองค่ะ
:b1:
:b46: :b46:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2015, 21:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




news_xlarge_akko_bokenka.jpg
news_xlarge_akko_bokenka.jpg [ 58.49 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
การปฏิบัติช่วงนั้น..เรียกว่าคล่องตัว
ถึงจุดๆหนึ่งมันก็ดำเนินไปเองอัตโนมัติ...ได้รู้ได้เข้าใจอะไรขึ้นมาเองหลายๆอย่าง
เวลามีปัญหาหรือคำถามจากใคร..หรือจากใจเราเอง..ไม่ว่าเรื่องอะไร
:b55: :b55: ไอเดียจะขอเปรียบเทียบว่า....คำพูดคำตอบมันจะออกมาเหมือน..สายน้ำไหล
บางทีนั่งในรถอยู่..มองรถคันข้างหน้า
คิดๆขึ้นมาว่า..รถมันไม่เที่ยงยังไง?
ก็ได้เห็นว่ามันเก่าลง (มีคิด..ว่ามันก็ยังเป็นรถ)
ก็ได้เห็นว่ามันทรุดโทรมจอดอยู่มีหญ้ารกพัน (ก็ยังมีคิด..ว่ามันก็ยังเห็นเป็นรถ)
ก็ได้เห็นว่ามันผุพัง แตกสลายคืนสู่ธาตุเดิมไปเลย :b43:
:b27: :b27: มีข้อคิดติดใจสงสัยอะไร..ก็จะได้รู้,,ได้เห็น,,ได้เจอคำตอบทันที
s005 ..มันอาจจะปกติของคนปฏิบัติ..แต่ก็จะไม่เกิดขึ้นเลยสำหรับคนไม่ได้ปฏิบัติ..
โดยเฉพาะมีเรื่องคุณพิเศษที่..จำติดใจ..
คือนั่งรถตอนเช้า..แล้วหันไปมองภาพพระอาทิตย์กำลังขึ้น
:b39: ใจมันก็กำลังเริ่มคิดว่า..สวย..(กำลังจะอิน :b32: :b32: )
แต่ขอใช้คำว่าเริ่ม..เพราะมันจะเกิดความรู้สึกคล้ายกับเห็นระยะทาง..ที่จะเดินไปหาความรู้สึกนั้น
รู้สึกชัดถึงสายใย..ที่ดึงเอาไว้ :b1: และชัดเจนที่เหมือนพยายามดึงรั้งไว้..และตัดออกไปได้ :b12:
:b46: เป็นอย่างนี้..เช่น..เวลาได้ยินเสียงเพลงซึ้งๆที่เคยโปรดปรานก็เหมือนกัน :b32:
แต่ก็นานๆที...ส่วนมากอยู่กับลมหายใจพุทโธ..
ซะเหมือนเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน :b17: :b17: ไม่ต้องได้ตั้งใจหรือพยายาม มันเป็นเองปกติ
จนกลายเป็นว่ากลับกัน..ไปใส่ความพยายามให้ไม่เป็นซะงั้น :b14:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2015, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




El hombre que corre tras la fortuna, y el que la aguarda en su cama.gif
El hombre que corre tras la fortuna, y el que la aguarda en su cama.gif [ 204.41 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ใส่ความพยายามยังไง :b1:
คือเรียกว่าคิด..เล่นๆ..ดีกว่า_________สนุกๆ :b17: :b17: :b27: :b27: เพลินๆ..ประมาณนั้น
อาศัยความชำนาญ..ก็คล่องตัวแล้วอะเนาะ :b13: :b13:
ก็อยู่กะจิต..ดูจิตซะส่วนใหญ่นี่..
huh ไอเดียจะระลึกถึงดวงไฟ..จุดเล็กๆ..อุ่นๆ..โตขึ้นๆ..ย้ายเป็นจุดๆไปทั่วร่างกาย
เร็วๆบ้าง..นึกตรงไหนให้เกิดตรงนั้นทันที แบบชัดเจน
:b46: บ้างก็ระลึกกายนี้เป็นไฟ..คือแบบนั่งท่าไหน ขามือวางลักษณะใด :b12:
มันสนุกที่..ภาพมาชัดทุกสัดส่วนใหม :b32: :b32:
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ทำได้ง่าย
:b46: บ้างก็นึกถึงเป็นโครงกระดูก..แบบภาพซูมชัดทั้งโครง :b32: :b32: :b32:
แล้วลองขยับตัว,,มือไม้แคะแกะเกา,,นั่งไขว้ห้าง,,กางแขน,,เหยียดคู้ขา,,อ้าปากหาว
คือเห็นแค่โครง แบบชัดๆ,,เห็นมันทำไปตามจิตคิด มันนึกทันกันเหมือนเราขยับแขนขยับขา
เหมือนกายเป็นโครง-โครงเป็นกายอันเดียวกันแหละ
คือ..มันก็มีประโยชน์ช่วยให้รวมสมาธิเร็ว..แบบทันที
ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย ไหนจะลูกเล็กที่ดิ้นไปมาบนตัก,,ลูกโต,,คุณสามีอีก ที่ถามๆๆมา,,หูก็ฟังธรรมไปด้วย :b5:
:b46: นึกถึงตัวปิติ,,นึกถึงสุข,,นึกถึงสภาวะอะไรๆก็ได้อีก แค่ระลึกถึงก็เกิดขึ้นทันที(มันแบบเล่นๆหนะ :b19: )
มีอีกเรื่องที่มักจะทำเล่นๆ :b12: เพลินดี..คือ..
ถ้ามีโอกาสขับรถเอง จะกำหนดภาพพระพุทธรูปสีขาว
แล้วย่อ,,ขยาย..เพลินสักพัก..จิตจะรวมเป็นสมาธิ
มันเกิดสภาวะ..เบาโล่ง..มีกายก็ไม่ใช่..ไม่มีก็ไม่ใช่,,คล้ายไม่รู้สึกถึงสัมผัสใด
อยู่ในสถานที่ใด,,ตาเห็นรูปข้างหน้า,,แต่ไม่ร้สึกถึงสัมผัสทางกาย
เหมือนลอยๆไปอยู่อย่างนั้น
:b55: ตรงนี้มีคิดว่า..แล้วรถจะชนมั้ย :b9: :b14:
คือถนนคดเคี้ยวต้องมีหักพวงมาลัยบ้าง,,แล้วถ้ารถข้างหน้าเบรก ก็ต้องเบรก :b5:
แล้วจะไปยังไง จะทำยังไง :b9:
มันเหมือนมีส่วนที่พยายามคิด..แต่ก็คิดไม่ขึ้น..มันเหมือนได้แต่คอยลุ้นก็ไม่ใช่
เหมือนจิตกำลังรู้อารมณ์เดียว แล้วมีการพยายามไปแทรกแทรง
แต่ก็ไม่เกิดอันตรายนะ..ถึงเวลาก็ขยับ..แต่ก็เหมือนว่าไม่ได้ไปตั้งใจขยับ
ก็ตอนนั้นเหมือนไม่รู้สึกถึงกาย :b7:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2015, 20:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




unnamed (4).gif
unnamed (4).gif [ 117.76 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
s005 แค่ประมาน1เดือนจริงๆนา...สำหรับการบากบั่นฝ่าฟันอุปสรรคทางธรรม
จนได้สัมผัส...ความมหัศจรรย์ของจิต แม้จะเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ
เพราะก็มีเหตุการณ์ที่..ทำให้ค่อยถอยออกมา :b9: :b9:
และแม้การทำสมาธิวันละชม.จะหยุดไป แต่พุท-โธยังอยู่กับลมหายใจ..ผู้รู้ยังเด่นชัด
มันเหมือนเป็นอัตโนมัติ..และเมื่อไม่เพิ่มความเพียร..มันจึงเป็นแค่แรงส่ง..
cry ที่ค่อยแผ่วไป :b2: :b2:
แต่ใจที่ยึดมั่นในพระรัตนตรัย มันกลับมั่นคงขึ้น...แบบที่เคยคิดไตร่ตรองว่าหากมีใครมาบังคับให้เปลี่ยนความเชื่อ
ในศาสนานี้ โดยจะบังคับฆ่าเราให้ตายก็ไม่มีวันยอม
:b13: :b13: อย่างน้อยๆก็ยังมีเหลือเนาะ :b21: :b9: :b9:
Kiss และการที่ได้ถอยออกมา..ก็ดีอย่าง..ที่ได้รู้ว่า
แม้ไม่ใช่ตอนที่มีกำลังจากสมาธิ..ก็ยังมั่นคงในเป้าหมาย..ที่อยากออกบวช..ธุดงค์..แสวงหาธรรม
ให้ได้ในชาตินี้.. :b1: ถ้าไม่ตายซะก่อนนะ อีกไม่กี่ปีแล้วหละ^^
:b46: :b46: :b46: :b44: :b46: :b46: :b46:
:b55: คือ..ช่วงนั้น เริ่มมีการเห็นอนาคต แบบแวบๆเป็นภาพนิ่งเข้ามา..บ่อยๆ
ตื่นเต้นใหม..ก็ไม่เลย..ก็เคยแล้วตอนที่เคยทำตอนอายุ15..มันได้มากกว่านี้
จึงมีความคิดว่า..เป็นเรื่องธรรมดาของคนปฏิบัติ
:b55: และฝัน..ที่เข้าใจว่าต้องมีความหมายทุกครั้ง เพราะก็น้อยครั้งมากที่จะฝัน
และทั้งฝัน,,ทั้งนิมิต มักจะมีเห็นพระ ลานดิน ทางเดินไปบ้านไม้ไผ่ตูบเล็กๆสมัยเก่า
และเหมือนตอนนั้นทำให้เข้าใจว่า..ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นพระ..คงปฏิบัติไปได้ไกลพอสมควร
แลวทำผิดอะไรสักอย่าง..ที่เหมือนจะคิดได้.. :b9: แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก :b12: แต่ไม่ดีไม่งามแน่ :b14:
เป็นกรรมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติที่ทำให้มีอุปสรรคมาก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2015, 09:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




BUDA (13).png
BUDA (13).png [ 17.66 KiB | เปิดดู 2959 ครั้ง ]
ไอเดียจะอธิษฐานบ่อยๆ...ตอนไหว้พระเช้า-เย็น,,ก่อนออกจากสมาธิ
ว่าขอให้บรรลุพระนิพพานในชาตินี้ฯลฯ
(ไม่ได้พูดมั่วนะ...ถึงจุดหนึ่ง..มันมีแรงผลักดันและกำลังใจเต็มเปี่ยม..แต่ก่อนทำสมาธิขอแค่รักษาใจ
หากพูดถึงพระนิพพาน..เหมือนเราคงต้องไปเกิดอีกกี่ร้อยชาติ..เหมือนไกลแสนไกล)
แต่ตอนนั้นก็อธิษฐานได้...ขอให้บรรลุพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้
(ตอนอธิษฐานเกิดปิติแรงมากทุกครั้งและต่อเนื่องจนอธิษฐานจบ..เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง)
แต่ตอนนี้เดี๋ยวนี้...ขอให้บรรลุมรรคผลนิพพานให้ได้ในชาตินี้..และถึงอรหัตผลในกาลอันใกล้ด้วยเถิด
ปล. s005 ก็เพิ่งได้รู้จัก..กับคำว่ามรรคผลไม่นานนี้ :b3: :b3:
s002 s002 คือ...อุปสรรคมากมาย...เหนื่อยล้ามาพักๆก่อนนั้น
จนบางครั้งมีคิดว่า..บุญมันมีจริงเหรอ ยิ่งพยายามทำดีมากเท่าไหร่..ปฏิบัติเข้มข้นเท่าไหร่
ก็ยิ่งเจอบททดสอบในเรื่องที่ตั้งใจอย่าง...สาหัส...แต่ก็แค่คิด..
ซึ่งทุกครั้งก็จะเกิดแรงฮึด...ว่าจะเป็นจะตายก็เอา...จะหนักหนาสาหัสยังไงก็จะสู้...
จะไม่มีกินจะยากไร้...ยังไงก็แล้วแต่เวรแต่กรรมมันพาไป..หน้าที่ของเราคือทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอ
ทำเพื่อภาระหน้าที่ต่อคนอื่นที่ยังมี...
คือ..ตอนนั้นใจมันเรียบมาก..ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร..หนัก..แค่ไหน..มันแทบไม่มีกระทบกระเทือนเลย
:b54: คง เพราะไม่มีความอยาก..หรือไม่อยาก มองเห็นใครทำอะไรยังไง,,หรือแม้แต่ธรรมชาติแวดล้อม
มันเข้าใจ,,คือมองอะไรก็เห็นเป็นธรรมไปเสียหมด
ใครจะมายืนค้ำหัว,,ชี้หน้าด่าทอ,,เอาเปรียบซึ่งหน้า,,หรือแม้แต่เดินเข้ามาทำร้าย....ก็เข้าใจ...ไม่โกรธ..
ไม่มีเลย..ซ้ำยังรักษาความเมตตาหรือการให้อภัยแบบเต็มเปี่ยมไม่สั่นไหว :b27:
จนไม่ว่าทุกข์ดาหน้ากันเข้ามาขนาดไหน..จิตมันยังยิ้มได้..ไม่ใช่ยินดีหรือไม่ยินดี..แต่มันเข้าใจ
:b51: คือ...ไม่ว่าปัญหาหรือทุกข์อันใดจะมาทำให้เกิดความเดือดร้อนโดยตรงแก่ตัวเรา..ยอมแล้วทุกอย่าง
ไม่ห่วงสักอย่าง..แม้ตัวจะต้องตายเลย ตอนนั้นคิดทบทวนตรวจสอบใจได้รู้ถึงขนาดนี้
s005 แต่ก็ยังมีเรื่องยกเว้นนะ....มันจึงได้เห็นว่า....ความอยากเป็นเหตุแห่งทุกข์ :b27: :b27:
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 404 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 ... 27  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร