ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56892 |
หน้า 9 จากทั้งหมด 33 |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 23 ธ.ค. 2018, 23:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
คนอื่นเขาอ่านพระสูตรทางตา แล้วเห็นไตรลักษณ์ และเห็นทางพ้นทุกข์กันหมดแล้ว คุณโรสยังเห็นเป็นสีๆๆอยู่เลย ปัญญาสะสมมาต่างกันก็แบบนี้ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 23 ธ.ค. 2018, 23:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
แค่อากาศ เขียน: คนอื่นเขาอ่านพระสูตรแล้วเห็นไตรลักษณ์และทางตาเห็นทางพ้นทุกข์กันหมดแล้ว คุณโรสยังเห็นเป็นสีๆๆอยู่เลย ปัญญาสะสมมาต่างกันก็แบบนี้ จิตเห็นสีแค่1สีนะ ตาเนื้อไม่ได้เห็นสี บอกไม่ผิดตรงมาก ดูตาตัวเองสิไม่เห็นรึ ตถาคตทำได้แค่บอก สาวกที่ฟังเข้าใจถูกตาม ก็ทำได้แค่บอกเท่านั้นเอง เพราะสาวกมีหน้าที่ตั้งใจฟัง พระอาฬารดาบสกับพระอุทกดาบส สำเร็จฌานทุกชั้นขาดอย่างเดียวเองไม่ได้ฟังคำสอน มีคลิปเด็ดมาให้พิจารณา...ขอเชิญรับยาช่องนี้ค่ะ https://youtu.be/HvCuvu_fRL8 |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 23 ธ.ค. 2018, 23:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: คนอื่นเขาอ่านพระสูตรแล้วเห็นไตรลักษณ์และทางตาเห็นทางพ้นทุกข์กันหมดแล้ว คุณโรสยังเห็นเป็นสีๆๆอยู่เลย ปัญญาสะสมมาต่างกันก็แบบนี้ บอกไม่ผิดตรงมาก ดูตาตัวเองสิไม่เห็นรึ ตถาคตทำได้แค่บอก สาวกที่ฟังเข้าใจถูกตาม ก็ทำได้แค่บอกเท่านั้นเอง เพราะสาวกมีหน้าที่ตั้งใจฟัง พระอาฬารดาบสกับพระอุทกดาบส สำเร็จฌานทุกชั้นขาดอย่างเดียวเองไม่ได้ฟังคำสอน มีคลิปเด็ดมาให้พิจารณา...ขอเชิญรับยาช่องนี้ค่ะ https://youtu.be/HvCuvu_fRL8 นี่แสดงว่าคุณโรสนี้ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลยนะ สุตะไม่ใช่การฟังเท่านั้น ที่บอกว่าฟัง "เพราะสมัยก่อนไม่มีบันทึกไว้ให้อ่าน จึงกล่าวว่า เธอจงมาฟังธรรม" - แต่สุตะที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนโดยแท้จริงแล้วหมายถึง การเรียนรู้ศึกษา ซึ่งการเรียนรู้ศึกษานั้นมีทั้งการดู-ฟัง-อ่าน ถ้าฟังเท่านั้นจึงจะรู้ธรรม..พระพุทธเจ้าก็บัญญัติเป็น "สดับมยะปัญญา" แล้วสิ ถึงบอกว่าคุณโรสมั่วมาก มั่วเห็นผิดมาตลอด (สิ่งนี้เป็นแนวทางวิธีทำ เป็นป้ายบอกทาง เป็นแผนที่), การสังเกตุคิดพิจารณาทำความเข้าใจตาม(จินตะ) จนเมื่อเจริญปฏิบัติตามจนเห็นชัดจริงก็จึงเป็นจิตนะแท้ๆ(สิ่งนี้เป้นการเดินทางตามแผนที่ ตามป้ายบอกทาง) - ทำไม่สุตะในหัวใจนักปราชญ์ จึงเป็น ดู คิด ถาม จด กันนะ ทั้งๆที่เป็น สุตะมยปัญญาเหมือนกัน เป็นสิ่งที่บัณฑิต ที่นักปราชญ์ทำ หรือว่า สุตะมีความหมายที่มากกว่าฟัง คนมีปัญญาคงเห็นและเข้าใจได้เนาะ - วันที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีคนเทศนา ไม่มีเทป ไม่มีซีดี ไม่มีเครื่องเสียงในโลก มีแต่ใบลานพระไตรปิฏกในตู้ คุณโรสก็คงจะผิดศีล ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน เบียดเบียน ลักขโมย เป็นชู้กับสามีเขา พูดจาหยาบคาย โกหก ปลิ้นปล้อน ตอแหล ยุยงให้คนแตกกัน พูดแต่คำไม่มีประโยชน์ กินเหล้าเสพย์ยา เมาราคะ เมาโทสะ เมาโมหะ พูดไปแต่ดูเหมือนปัญญาของคุณโรสคงยังไม่เข้าใจเนาะ มันทำให้เห็นอะไรๆอีกมากมายกับของปลอมจากคุณโรส "เดินแต่ไม่ดูทางฟังเสียงเคาะไปเรื่อยๆเลยจิตนาการไปมากถึงสิ่งต่างๆว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งๆที่ไม่เคยได้เห็นจริงเลย" ที่ไม่เฉลยแต่ต้นเพราะดูปัญญาคนโรสว่าจะฉุกคิดอะไรได้บ้างไหม เหมือน โมหะ กับอุเบกขา ถามว่าต่างกันอย่างไร จนถึงตอนนี้ยังเป็นเพียงสีๆที่ละขณะจิตอยู่เลย ..ที่ผมแนะนำนี้ไม่ได้บอกว่าการฟังไม่ดีนะครับ แต่กล่าวถึงความเห็นผิดคือเข้าใจผิดๆ ทำให้คุณโรสคิดผิด พูดผิด ทำผิดตาม.. การฟังอะมันดี ฟังแล้วทำตามด้วยมันยิ่งดีมันทำได้ทันทีขณะนั้นเลย แต่การดูก็ทำได้เหมือนครูบาอาจารย์เดินจงกรมให้ดู เราก็เดินตามได้ถูกต้องตรงตาม ฟังเฉยๆมันก็ไม่รู้แนวไหน หรือ ..อ่าน ในขณะอ่านใจเราน้อมตามธรรมนั้นๆเราก็เข้าถึงทำได้ ..ขณะที่อ่านแล้วใจน้อมไปตามธรรมสิ่งที่เห็นทางตาจะกลายเป็นเพียงนิมิตที่จิตจับมั่นเป็นอารมณ์เดียวทางตาแล้วจิตเดินเข้าสมาธิ เหมือนคนที่เล่นกสิน เขาใจตาจดจำภาพ..แล้วมองที่ใจน้อมใจไปในอารมร์เดียวที่ภาพนั้นจิตเดินเข้าฌาณด้ยอาาศัยนิมิตนั้น เพราะทำมันทำที่ใจไม่ใช่ที่ตา หรือหู ..ดังนั้นการเรียนศึกษาไม่ว่าทางไหนก็ดีหมดถ้าเรียนแล้วทำเจริญปฏิบัติเพื่อความเข้าใจเห็นจริง(จินตะ) ..เวลาที่จิตเข้าไปเห็นนี้มันไม่ได้ฟังนะ จิตมันมองเห็นสังขาร เห็นของจริงนี่จินตะเป็นระดับที่ 2 ของปัญญา หากฟังเป็นการรู้แนวทางวิธีทำแล้วแต่ไม่ทำให้ใจเข้าไปมองเห็นจริงมันก็เป็นแค่ สัญญา เท่านั้น แล้วก็อนุมานเอา อย่างที่คุณโรสอนุมานสีๆทีละขณะนั้นแหละ ของจริงที่เห็นจริงเรื่องสีผมก็รู้และเห็นจริงแล้วด้วยแต่ไม่เอามาเพ้อ เพราะไม่ใช่วิธีให้เดินถึงความพ้นทุกข์พูดไปก็แค่เป็นความจำเท่านั้นว่าเป็นแบบนี้ๆอย่างที่คุณโรสท่องจำแต่ไม่เห็นจริงสักทีนั้นแหละครับ การเรียนอภิธรรมมันดี มันเป็นปัญญา พระไตรก็ดีคือปัญญาแท้ๆทั้งหมด แต่จะมีคุณค่าเมื่อปฏิบัติให้เข้าถึงเท่านั้น ท่องจำไปไม่ทำให้เข้าถึงก็ไม่เห็นจริงอนุมานเอาไปทั่ว สอนกันผิดๆ เหมือนคุณโรสเจอและเป็นอยู่ตอนนี้แหละครับ - ดังนี้ทำความเข้าใจเสียใหม่(ความรู้ความเข้าใจ คือ ความเห็น ทิฏฐิ) สุตะ นั้นคือ การศึกษาเรียนรู้ในทุกๆทางทุกๆด้าน เพื่อเป็นแนวทางในการเจริญปฏิบัติที่ถูกต้องแท้จริงนั่นเอง เมื่อใดที่รู้แนวทางแท้จริงเดินไปถูกตรงทาง นี้คือปัญญา รวมกัน สตุมยปัญญา คือ รู้แนวทางที่แท้จริงถูกต้องจากการเรียนศึกษา หรือ ศึกษาเรียนรู้จนแจ้งชัดในแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องแท้จริงนั่นเอง ขอให้เจริญในธรรมครับ ถ้าเพ้อถึงสีก็ได้แค่สี ถ้าเอาของจริงก็ได้ของจริง |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 01:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
แค่อากาศ เขียน: Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: คนอื่นเขาอ่านพระสูตรแล้วเห็นไตรลักษณ์และทางตาเห็นทางพ้นทุกข์กันหมดแล้ว คุณโรสยังเห็นเป็นสีๆๆอยู่เลย ปัญญาสะสมมาต่างกันก็แบบนี้ บอกไม่ผิดตรงมาก ดูตาตัวเองสิไม่เห็นรึ ตถาคตทำได้แค่บอก สาวกที่ฟังเข้าใจถูกตาม ก็ทำได้แค่บอกเท่านั้นเอง เพราะสาวกมีหน้าที่ตั้งใจฟัง พระอาฬารดาบสกับพระอุทกดาบส สำเร็จฌานทุกชั้นขาดอย่างเดียวเองไม่ได้ฟังคำสอน มีคลิปเด็ดมาให้พิจารณา...ขอเชิญรับยาช่องนี้ค่ะ https://youtu.be/HvCuvu_fRL8 นี่แสดงว่าคุณโรสนี้ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลยนะ สุตะไม่ใช่การฟังเท่านั้น ที่บอกว่าฟัง "เพราะสมัยก่อนไม่มีบันทึกไว้ให้อ่าน จึงกล่าวว่า เธอจงมาฟังธรรม" - แต่สุตะที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนโดยแท้จริงแล้วหมายถึง การเรียนรู้ศึกษา ซึ่งการเรียนรู้ศึกษานั้นมีทั้งการดู-ฟัง-อ่าน ถ้าฟังเท่านั้นจึงจะรู้ธรรม..พระพุทธเจ้าก็บัญญัติเป็น "สดับมยะปัญญา" แล้วสิ ถึงบอกว่าคุณโรสมั่วมาก มั่วเห็นผิดมาตลอด (สิ่งนี้เป็นแนวทางวิธีทำ เป็นป้ายบอกทาง เป็นแผนที่), การสังเกตุคิดพิจารณาทำความเข้าใจตาม(จินตะ) จนเมื่อเจริญปฏิบัติตามจนเห็นชัดจริงก็จึงเป็นจิตนะแท้ๆ(สิ่งนี้เป้นการเดินทางตามแผนที่ ตามป้ายบอกทาง) - ทำไม่สุตะในหัวใจนักปราชญ์ จึงเป็น ดู คิด ถาม จด กันนะ ทั้งๆที่เป็น สุตะมยปัญญาเหมือนกัน เป็นสิ่งที่บัณฑิต ที่นักปราชญ์ทำ หรือว่า สุตะมีความหมายที่มากกว่าฟัง คนมีปัญญาคงเห็นและเข้าใจได้เนาะ - วันที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีคนเทศนา ไม่มีเทป ไม่มีซีดี ไม่มีเครื่องเสียงในโลก มีแต่ใบลานพระไตรปิฏกในตู้ คุณโรสก็คงจะผิดศีล ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน เบียดเบียน ลักขโมย เป็นชู้กับสามีเขา พูดจาหยาบคาย โกหก ปลิ้นปล้อน ตอแหล ยุยงให้คนแตกกัน พูดแต่คำไม่มีประโยชน์ กินเหล้าเสพย์ยา เมาราคะ เมาโทสะ เมาโมหะ พูดไปแต่ดูเหมือนปัญญาของคุณโรสคงยังไม่เข้าใจเนาะ มันทำให้เห็นอะไรๆอีกมากมายกับของปลอมจากคุณโรส "เดินแต่ไม่ดูทางฟังเสียงเคาะไปเรื่อยๆเลยจิตนาการไปมากถึงสิ่งต่างๆว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งๆที่ไม่เคยได้เห็นจริงเลย" ที่ไม่เฉลยแต่ต้นเพราะดูปัญญาคนโรสว่าจะฉุกคิดอะไรได้บ้างไหม เหมือน โมหะ กับอุเบกขา ถามว่าต่างกันอย่างไร จนถึงตอนนี้ยังเป็นเพียงสีๆที่ละขณะจิตอยู่เลย ..ที่ผมแนะนำนี้ไม่ได้บอกว่าการฟังไม่ดีนะครับ ฟังอะมันดี ฟังแล้วทำตามด้วยมันยิ่งดีมันทำได้ทันที ดูก็ทำได้เหมือนครูบาอาจารย์เดินจงกรมให้ดู เราก็เดินตามได้ถูกต้องตรงตามไม่เฉยๆมันก็ไม่รู้แนวไหน หรือ ..อ่าน ในขณะอ่านใจเราน้อมตามธรรมนั้นๆเราก็เข้าถึงทำได้ ..ขณะที่อ่านแล้วใจน้อมไปตามธรรมสิ่งที่เห็นทางตาจะกลายเป็นเพียงนิมิตที่จิตจับมั่นเป็นอารมณ์เดียวทางตาแล้วจิตเดินเข้าสมาธิ เหมือนคนที่เล่นกสิน เขาใจตาจดจำภาพ..แล้วมองที่ใจน้อมใจไปในอารมร์เดียวที่ภาพนั้นจิตเดินเข้าฌาณด้ยอาาศัยนิมิตนั้น เพราะทำมันทำที่ใจไม่ใช่ที่ตา หรือหู ..ดังนั้นการเรียนศึกษาไม่ว่าทางไหนก็ดีหมดถ้าเรียนแล้วทำเจริญปฏิบัติเพื่อความเข้าใจเห็นจริง(จินตะ) ยังไม่ชัดหรือคะ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของคำสอนคือดับเห็นผิดที่กำลังเห็นทันทีที่เข้าใจถูกตาม เข้าใจไม่ถูกไม่ตรงหรือคะว่าเด่วนี้กำลังเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุตัวอักษรอยู่ค่ะ อ่านคำว่า...จิตเห็นสี...นี่คือจริง...ตัวเองเห็นไม่ตรงตามคำสอนอยู่เดี๋ยวนี้เองคือมีกิเลส |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 01:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
ก็อปมาให้อ่านใหม่ชัดๆ2ประโยคสีม่วงนั้นดับเห็นผิดทันทีที่คิดตรงตามที่ตาคุณกำลังเห็นนั้นน่ะ Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: คนอื่นเขาอ่านพระสูตรแล้วเห็นไตรลักษณ์และทางตาเห็นทางพ้นทุกข์กันหมดแล้ว คุณโรสยังเห็นเป็นสีๆๆอยู่เลย ปัญญาสะสมมาต่างกันก็แบบนี้ จิตเห็นสีแค่1สีนะ ตาเนื้อไม่ได้เห็นสี บอกไม่ผิดตรงมาก ดูตาตัวเองสิไม่เห็นรึ ตถาคตทำได้แค่บอก สาวกที่ฟังเข้าใจถูกตาม ก็ทำได้แค่บอกเท่านั้นเอง เพราะสาวกมีหน้าที่ตั้งใจฟัง พระอาฬารดาบสกับพระอุทกดาบส สำเร็จฌานทุกชั้นขาดอย่างเดียวเองไม่ได้ฟังคำสอน มีคลิปเด็ดมาให้พิจารณา...ขอเชิญรับยาช่องนี้ค่ะ https://youtu.be/HvCuvu_fRL8 |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 24 ธ.ค. 2018, 01:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 02:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
แค่อากาศ เขียน: เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด 1ขณะตรงขณะของตาเนื้อคุณเห็นรูปคือจิตเห็นแสง+สี1สีไม่รู้เลยว่าตัวเองเห็นผิดอยู่ ทีนี้ดูตาตัวเองสิบอดสนิทไม่เห็นหรือว่ามีแค่สีล้วนสีเดียวไหมนึกออกไหมคะมันมีแค่สีเดียวที่ไหนล่ะ สีดับไปกี่สีแล้วมันถึงตัดกันจนทำให้จำผิดตามเห็นอยู่นั่นน่ะก็บอกอยู่ว่าสีดับในลูกตาไปแล้วไม่มีสีนอกตา |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 02:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด 1ขณะตรงขณะของตาเนื้อคุณเห็นรูปคือจิตเห็นแสง+สี1สีไม่รู้เลยว่าตัวเองเห็นผิดอยู่ ทีนี้ดูตาตัวเองสิบอดสนิทไม่เห็นหรือว่ามีแค่สีล้วนสีเดียวไหมนึกออกไหมคะมันมีแค่สีเดียวที่ไหนล่ะ สีดับไปกี่สีแล้วมันถึงตัดกันจนทำให้จำผิดตามเห็นอยู่นั่นน่ะก็บอกอยู่ว่าสีดับในลูกตาไปแล้วไม่มีสีนอกตา ทำไมตถาคตไม่แสดงว่าจิตเห็นคนสัตว์วัตถุตัวอักษรคะแล้วสุตมยปัญญาคืออะไร ไม่ให้เชื่อตำราคืออะไรก็เห็นผิดตามตัวอักษรน่ะสะสมผิดทางเกิดปัญญา ทรงแสดงว่าให้ฟังไม่ให้เชื่อตามกาลามสูตร10แล้วมันยังไงคะ ตอนนี้ที่มีความคิด ถึงเห็น ที่กำลังเห็น ไม่ใช่สีล้วน1สี แปลว่ากำลังคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีไงคะ จะไปคิดตรงตอนหลับตาหรือคะก็ถูกนะคะ หลับตามีแค่สีล้วนสีเดียวจริงๆ555 แต่จักขุปสาทะรูปกระทบกะแสงสี จะต้องลืมตาดูเหมือนกะหลับรึ ดูรูปที่ลืมตาเห็นอยู่สิ...นี้แหละ ที่กำลังสะสมจิตชาติกิริยา กิเลสก็กำลังเห็นผิดเกินสี จะไปรู้จริงตอนไหนคะ ทุกคำทั้ง3ปิฎกตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 24 ธ.ค. 2018, 08:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด 1ขณะตรงขณะของตาเนื้อคุณเห็นรูปคือจิตเห็นแสง+สี1สีไม่รู้เลยว่าตัวเองเห็นผิดอยู่ ทีนี้ดูตาตัวเองสิบอดสนิทไม่เห็นหรือว่ามีแค่สีล้วนสีเดียวไหมนึกออกไหมคะมันมีแค่สีเดียวที่ไหนล่ะ สีดับไปกี่สีแล้วมันถึงตัดกันจนทำให้จำผิดตามเห็นอยู่นั่นน่ะก็บอกอยู่ว่าสีดับในลูกตาไปแล้วไม่มีสีนอกตา ทำไมตถาคตไม่แสดงว่าจิตเห็นคนสัตว์วัตถุตัวอักษรคะแล้วสุตมยปัญญาคืออะไร ไม่ให้เชื่อตำราคืออะไรก็เห็นผิดตามตัวอักษรน่ะสะสมผิดทางเกิดปัญญา ทรงแสดงว่าให้ฟังไม่ให้เชื่อตามกาลามสูตร10แล้วมันยังไงคะ ตอนนี้ที่มีความคิด ถึงเห็น ที่กำลังเห็น ไม่ใช่สีล้วน1สี แปลว่ากำลังคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีไงคะ จะไปคิดตรงตอนหลับตาหรือคะก็ถูกนะคะ หลับตามีแค่สีล้วนสีเดียวจริงๆ555 แต่จักขุปสาทะรูปกระทบกะแสงสี จะต้องลืมตาดูเหมือนกะหลับรึ ดูรูปที่ลืมตาเห็นอยู่สิ...นี้แหละ ที่กำลังสะสมจิตชาติกิริยา กิเลสก็กำลังเห็นผิดเกินสี จะไปรู้จริงตอนไหนคะ ทุกคำทั้ง3ปิฎกตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ 555 ขำแท้ ขนาดบอก จักขุวิญญาณ ยังไม่รู้อีก วิญญาณ คือ รู้ๆๆๆ วิญญาณ ๖ จิตทางทวาร ๖ ไม่มีจิตเห็นรูป ผัสสะก็ไม่มี ตา+รูป+วิญญาณ จึงมีผัสสะ คนตายเห็นรูปทางตาไหม ศพมีตา ศพลืมตา เปิดรับรูปภายนอก เมื่อไม่มีใจเข้ายึดครองกายนั้น วิญญาณเจ้าของศพจะเห็นรูปจากตาศพที่มองไหม - ข้อนี้บ่งบอกถึงความไม่รูปเห็นผิดของคุณโรสรินโดยแท้ เห็นผิดมาตลอด การเห็นสีๆทางตานั้นจิตเห็น โดยการส่งผ่านของปสาทตา นี่แสดงให้เห็นว่าเอาธรรมสิ่งใดมาก็มั่วหมดเลย ผมไม่แปลกใจที่พูดถึงความแตกต่างระหว่าง อุเบกขากับโมกหะ ก็ยังอ้างสีๆๆ แถมลามปามพ่อแม่เขาอีก หมิ่นครูบาอาจารย์อีก โน้นไปคิดถึงเอเบกขาเวทนาแระ พูดถึงจิตๆแต่ละขณะแต่กลับตอบไม่ได้ ไม่รู้ อภิธรรมน่ะดีเรียนรู้เป็นปัญญา แนวทางปฏิบัติ แต่ดันเอามาเป็นอัตตาท่องจำคิดเอาไม่ใช่การเข้าถึงนี้เขาเรียกว่าบ้า เพ้อสิ่งที่ไม่รู้จริง |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 09:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
แค่อากาศ เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด 1ขณะตรงขณะของตาเนื้อคุณเห็นรูปคือจิตเห็นแสง+สี1สีไม่รู้เลยว่าตัวเองเห็นผิดอยู่ ทีนี้ดูตาตัวเองสิบอดสนิทไม่เห็นหรือว่ามีแค่สีล้วนสีเดียวไหมนึกออกไหมคะมันมีแค่สีเดียวที่ไหนล่ะ สีดับไปกี่สีแล้วมันถึงตัดกันจนทำให้จำผิดตามเห็นอยู่นั่นน่ะก็บอกอยู่ว่าสีดับในลูกตาไปแล้วไม่มีสีนอกตา ทำไมตถาคตไม่แสดงว่าจิตเห็นคนสัตว์วัตถุตัวอักษรคะแล้วสุตมยปัญญาคืออะไร ไม่ให้เชื่อตำราคืออะไรก็เห็นผิดตามตัวอักษรน่ะสะสมผิดทางเกิดปัญญา ทรงแสดงว่าให้ฟังไม่ให้เชื่อตามกาลามสูตร10แล้วมันยังไงคะ ตอนนี้ที่มีความคิด ถึงเห็น ที่กำลังเห็น ไม่ใช่สีล้วน1สี แปลว่ากำลังคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีไงคะ จะไปคิดตรงตอนหลับตาหรือคะก็ถูกนะคะ หลับตามีแค่สีล้วนสีเดียวจริงๆ555 แต่จักขุปสาทะรูปกระทบกะแสงสี จะต้องลืมตาดูเหมือนกะหลับรึ ดูรูปที่ลืมตาเห็นอยู่สิ...นี้แหละ ที่กำลังสะสมจิตชาติกิริยา กิเลสก็กำลังเห็นผิดเกินสี จะไปรู้จริงตอนไหนคะ ทุกคำทั้ง3ปิฎกตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ 555 ขำแท้ ขนาดบอก จักขุวิญญาณ ยังไม่รู้อีก วิญญาณ คือ รู้ๆๆๆ วิญญาณ ๖ จิตทางทวาร ๖ ไม่มีจิตเห็นรูป ผัสสะก็ไม่มี ตา+รูป+วิญญาณ จึงมีผัสสะ คนตายเห็นรูปทางตาไหม ศพมีตา ศพลืมตา เปิดรับรูปภายนอก เมื่อไม่มีใจเข้ายึดครองกายนั้น วิญญาณเจ้าของศพจะเห็นรูปจากตาศพที่มองไหม - ข้อนี้บ่งบอกถึงความไม่รูปเห็นผิดของคุณโรสรินโดยแท้ เห็นผิดมาตลอด การเห็นสีๆทางตานั้นจิตเห็น โดยการส่งผ่านของปสาทตา นี่แสดงให้เห็นว่าเอาธรรมสิ่งใดมาก็มั่วหมดเลย ผมไม่แปลกใจที่พูดถึงความแตกต่างระหว่าง อุเบกขากับโมกหะ ก็ยังอ้างสีๆๆ แถมลามปามพ่อแม่เขาอีก หมิ่นครูบาอาจารย์อีก โน้นไปคิดถึงเอเบกขาเวทนาแระ พูดถึงจิตๆแต่ละขณะแต่กลับตอบไม่ได้ ไม่รู้ อภิธรรมน่ะดีเรียนรู้เป็นปัญญา แนวทางปฏิบัติ แต่ดันเอามาเป็นอัตตาท่องจำคิดเอาไม่ใช่การเข้าถึงนี้เขาเรียกว่าบ้า เพ้อสิ่งที่ไม่รู้จริง จิตเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันไม่ปนกันไม่ซ้ำเก่าไม่เข้าใจหรือ จิตเกิดดับ1ขณะ=จิต+เจตสิก+รูป กุศลจิต=จิต+โสภณเจตสิก+รูป อกุศลจิต=จิต+อกุศลเจตสิก+รูป กุศลกับอกุศลมันเกิดไม่พร้อมกันในจิตขณะเดียวกัน มีครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6 มีครบแล้วนะตาหูจมูกลิ้นกายใจ โลกทางตา1ทางไม่มีทางอื่นปน กายก็มีแล้วคือมหาภูตรูป4คือธาตุ4 จิตใจก็มีแล้วต้องไปทำเห็นเพิ่มไหม มันเห็นแล้วไม่ต้องทำเพราะกำลังเป็นไปตามเหตุปัจจัย จิตคือวิญญาณขันธ์ เจตสิกมี3ขันธ์ 1เวทนาขันธ์ 2สัญญาขันธ์ 3สังขารขันธ์ รูปคือรูปขันธ์ รูปเนี่ยอายุยืนกว่าจิต17ขณะ ทุกขณะจิตครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ไม่รู้ว่ามีแล้วไม่ต้องทำ กิเลสมีมาแต่ก่อนเกิดโน่นนอนมาในจิตพอไม่ฟังเลยเกิดแต่กิเลส อะไรที่ยังไม่มีรู้ป่าวปัญญาไงเพราะขาดสุตมยปัญญา |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 24 ธ.ค. 2018, 09:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
ปรกติแหละที่คุณโรสรู้แค่นั้น เพราะเข้าไม่ถึงธาตุ 6 ไม่เห็นกาย เวทนา จิต ธรรม ก็ไปท่องจำนับเอาได้แต่สิ่งที่เป็นจิตสังขาร วิญญาณสังขาร ที่เป็นธัมมารมณ์ วิญญาณขันธ์ ที่ส่งให้ใจรู้ เพราะใจคุณโรสมันรู้แค่สัญญา ใจเลยไม่เคยเห็นของจริง ก็ปรกติที่จะไปจำเอาจิตสังขาร แยกแยะคำสอนยังไม่ได้เลย นี่หราสุตะมาก คิดไว้แล้วพูดถึงวิญญาณ 6 วิญญาณขันธ์ คุณโรสต้อแถแนวนี้ |
เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 24 ธ.ค. 2018, 09:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด 1ขณะตรงขณะของตาเนื้อคุณเห็นรูปคือจิตเห็นแสง+สี1สีไม่รู้เลยว่าตัวเองเห็นผิดอยู่ ทีนี้ดูตาตัวเองสิบอดสนิทไม่เห็นหรือว่ามีแค่สีล้วนสีเดียวไหมนึกออกไหมคะมันมีแค่สีเดียวที่ไหนล่ะ สีดับไปกี่สีแล้วมันถึงตัดกันจนทำให้จำผิดตามเห็นอยู่นั่นน่ะก็บอกอยู่ว่าสีดับในลูกตาไปแล้วไม่มีสีนอกตา ทำไมตถาคตไม่แสดงว่าจิตเห็นคนสัตว์วัตถุตัวอักษรคะแล้วสุตมยปัญญาคืออะไร ไม่ให้เชื่อตำราคืออะไรก็เห็นผิดตามตัวอักษรน่ะสะสมผิดทางเกิดปัญญา ทรงแสดงว่าให้ฟังไม่ให้เชื่อตามกาลามสูตร10แล้วมันยังไงคะ ตอนนี้ที่มีความคิด ถึงเห็น ที่กำลังเห็น ไม่ใช่สีล้วน1สี แปลว่ากำลังคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีไงคะ จะไปคิดตรงตอนหลับตาหรือคะก็ถูกนะคะ หลับตามีแค่สีล้วนสีเดียวจริงๆ555 แต่จักขุปสาทะรูปกระทบกะแสงสี จะต้องลืมตาดูเหมือนกะหลับรึ ดูรูปที่ลืมตาเห็นอยู่สิ...นี้แหละ ที่กำลังสะสมจิตชาติกิริยา กิเลสก็กำลังเห็นผิดเกินสี จะไปรู้จริงตอนไหนคะ ทุกคำทั้ง3ปิฎกตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ 555 ขำแท้ ขนาดบอก จักขุวิญญาณ ยังไม่รู้อีก วิญญาณ คือ รู้ๆๆๆ วิญญาณ ๖ จิตทางทวาร ๖ ไม่มีจิตเห็นรูป ผัสสะก็ไม่มี ตา+รูป+วิญญาณ จึงมีผัสสะ คนตายเห็นรูปทางตาไหม ศพมีตา ศพลืมตา เปิดรับรูปภายนอก เมื่อไม่มีใจเข้ายึดครองกายนั้น วิญญาณเจ้าของศพจะเห็นรูปจากตาศพที่มองไหม - ข้อนี้บ่งบอกถึงความไม่รูปเห็นผิดของคุณโรสรินโดยแท้ เห็นผิดมาตลอด การเห็นสีๆทางตานั้นจิตเห็น โดยการส่งผ่านของปสาทตา นี่แสดงให้เห็นว่าเอาธรรมสิ่งใดมาก็มั่วหมดเลย ผมไม่แปลกใจที่พูดถึงความแตกต่างระหว่าง อุเบกขากับโมกหะ ก็ยังอ้างสีๆๆ แถมลามปามพ่อแม่เขาอีก หมิ่นครูบาอาจารย์อีก โน้นไปคิดถึงเอเบกขาเวทนาแระ พูดถึงจิตๆแต่ละขณะแต่กลับตอบไม่ได้ ไม่รู้ อภิธรรมน่ะดีเรียนรู้เป็นปัญญา แนวทางปฏิบัติ แต่ดันเอามาเป็นอัตตาท่องจำคิดเอาไม่ใช่การเข้าถึงนี้เขาเรียกว่าบ้า เพ้อสิ่งที่ไม่รู้จริง จิตเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันไม่ปนกันไม่ซ้ำเก่าไม่เข้าใจหรือ จิตเกิดดับ1ขณะ=จิต+เจตสิก+รูป กุศลจิต=จิต+โสภณเจตสิก+รูป อกุศลจิต=จิต+อกุศลเจตสิก+รูป กุศลกับอกุศลมันเกิดไม่พร้อมกันในจิตขณะเดียวกัน มีครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6 มีครบแล้วนะตาหูจมูกลิ้นกายใจ โลกทางตา1ทางไม่มีทางอื่นปน กายก็มีแล้วคือมหาภูตรูป4คือธาตุ4 จิตใจก็มีแล้วต้องไปทำเห็นเพิ่มไหม มันเห็นแล้วไม่ต้องทำเพราะกำลังเป็นไปตามเหตุปัจจัย จิตคือวิญญาณขันธ์ เจตสิกมี3ขันธ์ 1เวทนาขันธ์ 2สัญญาขันธ์ 3สังขารขันธ์ รูปคือรูปขันธ์ รูปเนี่ยอายุยืนกว่าจิต17ขณะ ทุกขณะจิตครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ไม่รู้ว่ามีแล้วไม่ต้องทำ กิเลสมีมาแต่ก่อนเกิดโน่นนอนมาในจิตพอไม่ฟังเลยเกิดแต่กิเลส อะไรที่ยังไม่มีรู้ป่าวปัญญาไงเพราะขาดสุตมยปัญญา ไปทำมาก่อนค่อยมาโม้คุณโรส อ้างกาลามูตรแต่กลับไม่รู้จุดนี้ แถไปเรื่อย |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 11:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
แค่อากาศ เขียน: Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: แค่อากาศ เขียน: เฮ้อยังโง่เหมือนเดิมนะครับคุณโรส เห็นสีๆไม่มีตัวตน รถวิ่งมาบอกสีๆๆคุณโรสคงเดินให้รถเหยียบตาย ไม่มีจริงในสิ่งที่เห็น ไม่มีตัวตน สัตว์ใด สิ่งใด แบบคุณโรสว่า นี่ดก็แสดงความโง่ออกมาแล้ว สอนและจำกันมาผิดๆ ถ้าคุณโรสตาบอดมองไม่เห็น ตัวตนอะไรก็คงเต็มไปหมด 1ขณะตรงขณะของตาเนื้อคุณเห็นรูปคือจิตเห็นแสง+สี1สีไม่รู้เลยว่าตัวเองเห็นผิดอยู่ ทีนี้ดูตาตัวเองสิบอดสนิทไม่เห็นหรือว่ามีแค่สีล้วนสีเดียวไหมนึกออกไหมคะมันมีแค่สีเดียวที่ไหนล่ะ สีดับไปกี่สีแล้วมันถึงตัดกันจนทำให้จำผิดตามเห็นอยู่นั่นน่ะก็บอกอยู่ว่าสีดับในลูกตาไปแล้วไม่มีสีนอกตา ทำไมตถาคตไม่แสดงว่าจิตเห็นคนสัตว์วัตถุตัวอักษรคะแล้วสุตมยปัญญาคืออะไร ไม่ให้เชื่อตำราคืออะไรก็เห็นผิดตามตัวอักษรน่ะสะสมผิดทางเกิดปัญญา ทรงแสดงว่าให้ฟังไม่ให้เชื่อตามกาลามสูตร10แล้วมันยังไงคะ ตอนนี้ที่มีความคิด ถึงเห็น ที่กำลังเห็น ไม่ใช่สีล้วน1สี แปลว่ากำลังคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากสีไงคะ จะไปคิดตรงตอนหลับตาหรือคะก็ถูกนะคะ หลับตามีแค่สีล้วนสีเดียวจริงๆ555 แต่จักขุปสาทะรูปกระทบกะแสงสี จะต้องลืมตาดูเหมือนกะหลับรึ ดูรูปที่ลืมตาเห็นอยู่สิ...นี้แหละ ที่กำลังสะสมจิตชาติกิริยา กิเลสก็กำลังเห็นผิดเกินสี จะไปรู้จริงตอนไหนคะ ทุกคำทั้ง3ปิฎกตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ 555 ขำแท้ ขนาดบอก จักขุวิญญาณ ยังไม่รู้อีก วิญญาณ คือ รู้ๆๆๆ วิญญาณ ๖ จิตทางทวาร ๖ ไม่มีจิตเห็นรูป ผัสสะก็ไม่มี ตา+รูป+วิญญาณ จึงมีผัสสะ คนตายเห็นรูปทางตาไหม ศพมีตา ศพลืมตา เปิดรับรูปภายนอก เมื่อไม่มีใจเข้ายึดครองกายนั้น วิญญาณเจ้าของศพจะเห็นรูปจากตาศพที่มองไหม - ข้อนี้บ่งบอกถึงความไม่รูปเห็นผิดของคุณโรสรินโดยแท้ เห็นผิดมาตลอด การเห็นสีๆทางตานั้นจิตเห็น โดยการส่งผ่านของปสาทตา นี่แสดงให้เห็นว่าเอาธรรมสิ่งใดมาก็มั่วหมดเลย ผมไม่แปลกใจที่พูดถึงความแตกต่างระหว่าง อุเบกขากับโมกหะ ก็ยังอ้างสีๆๆ แถมลามปามพ่อแม่เขาอีก หมิ่นครูบาอาจารย์อีก โน้นไปคิดถึงเอเบกขาเวทนาแระ พูดถึงจิตๆแต่ละขณะแต่กลับตอบไม่ได้ ไม่รู้ อภิธรรมน่ะดีเรียนรู้เป็นปัญญา แนวทางปฏิบัติ แต่ดันเอามาเป็นอัตตาท่องจำคิดเอาไม่ใช่การเข้าถึงนี้เขาเรียกว่าบ้า เพ้อสิ่งที่ไม่รู้จริง จิตเกิดดับทีละ1ขณะสลับกันไม่ปนกันไม่ซ้ำเก่าไม่เข้าใจหรือ จิตเกิดดับ1ขณะ=จิต+เจตสิก+รูป กุศลจิต=จิต+โสภณเจตสิก+รูป อกุศลจิต=จิต+อกุศลเจตสิก+รูป กุศลกับอกุศลมันเกิดไม่พร้อมกันในจิตขณะเดียวกัน มีครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6 มีครบแล้วนะตาหูจมูกลิ้นกายใจ โลกทางตา1ทางไม่มีทางอื่นปน กายก็มีแล้วคือมหาภูตรูป4คือธาตุ4 จิตใจก็มีแล้วต้องไปทำเห็นเพิ่มไหม มันเห็นแล้วไม่ต้องทำเพราะกำลังเป็นไปตามเหตุปัจจัย จิตคือวิญญาณขันธ์ เจตสิกมี3ขันธ์ 1เวทนาขันธ์ 2สัญญาขันธ์ 3สังขารขันธ์ รูปคือรูปขันธ์ รูปเนี่ยอายุยืนกว่าจิต17ขณะ ทุกขณะจิตครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6ไม่รู้ว่ามีแล้วไม่ต้องทำ กิเลสมีมาแต่ก่อนเกิดโน่นนอนมาในจิตพอไม่ฟังเลยเกิดแต่กิเลส อะไรที่ยังไม่มีรู้ป่าวปัญญาไงเพราะขาดสุตมยปัญญา ไปทำมาก่อนค่อยมาโม้คุณโรส อ้างกาลามูตรแต่กลับไม่รู้จุดนี้ แถไปเรื่อย โอ๊ย...บอกปากเปียกปากแฉะ...มีตามันไม่รู้จักดูให้มันตรงทาง บอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วทรงบอกว่าจิตเห็นสี ใครมันจะมาอวดว่าไปทำจนเห็นเป็นสีได้แสดงว่าโกหก เพราะพระพุทธเจ้าคนเดียวที่รู้ความจริงนี้ตาไม่บอดดูไม่ชัดรึ ก็ไม่ดูเหรอว่าตาตัวเองกำลังเห็นอะไรดูแต่กิเลสตัวเองปรุงไปนั่นน่ะ บอกว่าสีสะท้อนแสงเข้าไปกระทบตาดำมันดับทันทีตรงนั้นแล้วไม่มีไง เอากิเลสที่เห็นแล้วคิดเองว่ามีคนสัตว์วัตถุเหรอมาพึ่งตาเนื้อกิเลสพึ่งไม่ได้ไงคะต้องพึ่งฟังคำสอน |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 24 ธ.ค. 2018, 12:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: โอ๊ย...บอกปากเปียกปากแฉะ...มีตามันไม่รู้จักดูให้มันตรงทาง บอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วทรงบอกว่าจิตเห็นสี ใครมันจะมาอวดว่าไปทำจนเห็นเป็นสีได้แสดงว่าโกหก เพราะพระพุทธเจ้าคนเดียวที่รู้ความจริงนี้ตาไม่บอดดูไม่ชัดรึ ก็ไม่ดูเหรอว่าตาตัวเองกำลังเห็นอะไรดูแต่กิเลสตัวเองปรุงไปนั่นน่ะ บอกว่าสีสะท้อนแสงเข้าไปกระทบตาดำมันดับทันทีตรงนั้นแล้วไม่มีไง เอากิเลสที่เห็นแล้วคิดเองว่ามีคนสัตว์วัตถุเหรอมาพึ่งตาเนื้อกิเลสพึ่งไม่ได้ไงคะต้องพึ่งฟังคำสอน คุณรส กล่าวตู่ไม่ดีนะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 24 ธ.ค. 2018, 16:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: โอ๊ย...บอกปากเปียกปากแฉะ...มีตามันไม่รู้จักดูให้มันตรงทาง บอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วทรงบอกว่าจิตเห็นสี ใครมันจะมาอวดว่าไปทำจนเห็นเป็นสีได้แสดงว่าโกหก เพราะพระพุทธเจ้าคนเดียวที่รู้ความจริงนี้ตาไม่บอดดูไม่ชัดรึ ก็ไม่ดูเหรอว่าตาตัวเองกำลังเห็นอะไรดูแต่กิเลสตัวเองปรุงไปนั่นน่ะ บอกว่าสีสะท้อนแสงเข้าไปกระทบตาดำมันดับทันทีตรงนั้นแล้วไม่มีไง เอากิเลสที่เห็นแล้วคิดเองว่ามีคนสัตว์วัตถุเหรอมาพึ่งตาเนื้อกิเลสพึ่งไม่ได้ไงคะต้องพึ่งฟังคำสอน คุณรส กล่าวตู่ไม่ดีนะ ก็ดูให้ชัดสิคะเดี๋ยวนี้กำลังเห็น ไม่รู้ความจริงของเห็นที่กำลังมี กำลังคิดเห็นผิดไม่ตรงไม่ตามอยู่ ถ้ากำลังตามต้องกำลังมีเสียงให้ได้ยิน กำลังไม่รู้ว่าตนมีมิจฉามรรคเพราะขาดฟังอยู่เดี๋ยวนี้ |
หน้า 9 จากทั้งหมด 33 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |