วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 15:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 26  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:

เอาแบบที่ผมเข้าใจนะครับ ว่า
"มันเป็นกระบวนการในขันธ์5 ของนาม ครับ"
ไม่ยึดมั่นถือมั่น คือ ละ อุปทาน
แยกธาตุแยกขันธ์ คือ ลด ละ ตัวกูของกู =นามรูป
จิตเห็นจิต =จิตเห็นวิญญาณรับผัสสะ
เอาธรรมมาตัด กระแส สมุปบาท ตามสัญญา ก่อนการเกิดทุกข์
ถูกบ้างมั้ยนิ :b8:

คุณฝึกจิต
...เอาสมการอะไรมาใยนใส่ผมก็ไม่รู้ :b23: :b23: :b23:

แต่ดูอันสุดท้ายน่าจะเข้าเค้ากะที่ผมคิด....อยู่นะ


จาก 8 ลดเหลือ 3 ย่อยเหลือ2 จบลงที่ 1 แล้ว กับกลายเป็น 0

มรรค8--> 3 ศิล สมาธิ ปัญญา -->สมถะ วิปัสสนา --> ปัจจุบันขณะ -->
นิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
จิตนี้ มหัศจรรย์นัก
ขนาดที่เห็นหรือได้ยินเป็นอย่างอื่นทันที ทั้งที่ตั้งใจอยากพร้อมสมาธิ ด้วยไม่เคยได้ยินเหมือนกันครับ
ท่านกบ เคยทำ อสุภะมั้ย ครับ แรกๆตอนลด กาม ผมก็ใช้ อสุภะช่วย เห็นเป็นศพบ้าง มีหนอนขึ้นบ้าง แต่ต้องใช้ สมาธิมาก บางครั้งก็ไม่เกิด จนลดได้มากกับการเห็น เข้าใจ ให้เห็นซึ่ง ความไร้ประโยชน์ และมีโทษ ทำให้เราเวียนวายตายเกิด ตอนมี * จริงๆ จึงลดได้มากขึ้น (วิธีเดียวกับการงดอาหารเย็นด้วย)

ส่วนเหตุผลอื่น ไม่ทราบเลยครับท่าน
:b12:

มันได้ยิน...หรือได้เห็น...อย่างตั้งใจใว้....

คุณฝึกจิต..เคยเห็นคนเดินมา...เป็นอสุภะไปเลยมั้ย?...แต่เรื่องนี้มีพระเทศน์ให้ฟัง

ผมเคยแต่...เห็นคนอื่นเป็น..คนที่เราคิดว่า...เขาจะเดินมา

ส่วนเรื่องการได้ยินที่เคย....มีรายละเอียดมาก

จะเห็นว่า....เราสามารถแทรกสัญญาชุดใหม่ที่เราตั้งใว้ในใจ..แทนสัญญาเดิมที่ควรจะเป็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีล สมาธิ ปัญญา นำมารวมกันที่ปัจจุบันอารมณ์ นั่นคือ นิพพาน(อันนี้คือส่วนตัวดิฉัน) แสดงว่าถ้าเรารู้ตัวว่าเรากำลังจะตาย เราก็ทำสมถะให้อยู่ในปัจจุบันอารมณ์ คือ ความว่างแห่งสุญญตา ถูกมั้ยเจ้าค่ะ อันนี้คือความเห็นส่วนตัวเจ้าค่ะ :b40:
เพราะพระพุทธเจ้า ก่อนที่ท่านจะเสด็จปรินิพพาน ท่านก็ทำสมถะทรงอยู่ในฌานแล้วท่านก็ถอนฌานออกมาอยู่ในฌาน1 แล้วท่านก็ปรินิพพาน ผิดถูกประการใดช่วยพิจารณาด้วยนะเจ้าค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย nongkong เมื่อ 17 พ.ค. 2012, 23:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ดังนั้น....ขณะพิจารณาอัฏฐิกังกระดูก 300 ท่อน...คนเดินผ่านมา...ก็เห็นเป็นโครงกระดูกเดิน

จะไม่แปลกใจ..อะไรเลย


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 17 พ.ค. 2012, 23:58, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


บิดเบือน..ด้วยกำลังสมถะภาวนา...ยังอนิจจังอยู่...คือเสื่อมไปได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
จิตนี้ มหัศจรรย์นัก
ขนาดที่เห็นหรือได้ยินเป็นอย่างอื่นทันที ทั้งที่ตั้งใจอยากพร้อมสมาธิ ด้วยไม่เคยได้ยินเหมือนกันครับ
ท่านกบ เคยทำ อสุภะมั้ย ครับ แรกๆตอนลด กาม ผมก็ใช้ อสุภะช่วย เห็นเป็นศพบ้าง มีหนอนขึ้นบ้าง แต่ต้องใช้ สมาธิมาก บางครั้งก็ไม่เกิด จนลดได้มากกับการเห็น เข้าใจ ให้เห็นซึ่ง ความไร้ประโยชน์ และมีโทษ ทำให้เราเวียนวายตายเกิด ตอนมี * จริงๆ จึงลดได้มากขึ้น (วิธีเดียวกับการงดอาหารเย็นด้วย)

ส่วนเหตุผลอื่น ไม่ทราบเลยครับท่าน
:b12:

มันได้ยิน...หรือได้เห็น...อย่างตั้งใจใว้....

คุณฝึกจิต..เคยเห็นคนเดินมา...เป็นอสุภะไปเลยมั้ย?...แต่เรื่องนี้มีพระเทศน์ให้ฟัง

ผมเคยแต่...เห็นคนอื่นเป็น..คนที่เราคิดว่า...เขาจะเดินมา

ส่วนเรื่องการได้ยินที่เคย....มีรายละเอียดมาก

จะเห็นว่า....เราสามารถแทรกสัญญาชุดใหม่ที่เราตั้งใว้ในใจ..แทนสัญญาเดิมที่ควรจะเป็น


ยังเข้าไม่ถึงครับ ขนาด เจริญสติ ยังไม่สมบูรณ์เลยครับ ตอนนี้ กำลัง เจริญสติ หาทางสายกลาง ของความพอดี นำ ธรรม มาครอบ หน้าที่ ในชีวิต ฆารวาส ให้ได้อยู่ครับ ยังเกว่งไปมาไม่เข้าตรงกลางสักที่ ยากกกกสุดๆ grin


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ถ้าเราเจริญ มรรค8 ควบคู่ไปกับสมถะ ก็ไม่น่าจะบิดเบือนนี่เจ้าค่ะ แต่อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอินทรีย์ของแต่ละบุคคลแล้ว ศีล สมาธิ ปัญญา รวมลงที่กายใจ ในปัจจุบันอารมณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


บิดเบือน...เป็นคำพูดผมเอง...กะจะพูดต่อความคิดเห็นตัวเองนะครับ....ไม่คิดว่าคุณน้องจะโผล่มาพอดี... :b9: :b9: :b9:
sorry....sorry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2012, 23:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ศีล สมาธิ ปัญญา นำมารวมกันที่ปัจจุบันอารมณ์ นั่นคือ นิพพาน(อันนี้คือส่วนตัวดิฉัน) แสดงว่าถ้าเรารู้ตัวว่าเรากำลังจะตาย เราก็ทำสมถะให้อยู่ในปัจจุบันอารมณ์ คือ ความว่างแห่งสุญญตา ถูกมั้ยเจ้าค่ะ อันนี้คือความเห็นส่วนตัวเจ้าค่ะ :b40:
เพราะพระพุทธเจ้า ก่อนที่ท่านจะเสด็จปรินิพพาน ท่านก็ทำสมถะทรงอยู่ในฌานแล้วท่านก็ถอนฌานออกมาอยู่ในฌาน1 แล้วท่านก็ปรินิพพาน ผิดถูกประการใดช่วยพิจารณาด้วยนะเจ้าค่ะ


ผมว่านะ นำมารวมกันที่ปัจจุบันอารมณ์ เป็นจิต เห็นทุกข์ ครับ ต้องทำจิตเห็นจิต(วิญญาณรับผัสสะ)ให้ได้ก่อนครับ แรกๆ จิตเห็นทุกข์ ก่อน ถูกแล้ว จากนั้นนำมาลงวิปัสสนา เลยครับ ไม่นาน จิต จะเห็นจิต แล้ว ค่อย แยกธาตุแยกขันธ์ ครับ
สมถะ ยังไม่ได้ใช้ ปัญญา ครับ ต้อง ลงที่วิปัสสนา
การปฏิบัตินั้น จะเป็น 8+3+2+1=0 ครับ ไม่ได้ ทำแค่อย่างเดียว ครับ

ไม่รู้จะถูกมั้ยนะครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 00:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
บิดเบือน..ด้วยกำลังสมถะภาวนา...ยังอนิจจังอยู่...คือเสื่อมไปได้


มันเป็น สมถะ ครับ ข่มกิเลสไว้ได้ หรือไว้ใช้ร่วมพิจารณา กับ วิปัสสนาครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตเห็นทุกข์ ก็คือ ทุกข์ในอริยสัจสี่ พอเรามองเห็นทุกข์ ตามความเป็นจริงแล้ว (ขอประธานอภัยที่อธิบายแบบความเข้าใจของตนเจ้าค่ะ)จิตเราก็จะละอุปทานขันธ์ เห็นกายนี้ไม่ใช่ของเรา แล้วน้อมเข้าสู่อารมณ์นิพพาน..แต่ยากเอาการอยู่เจ้าค่ะ ถ้าคน ศีล สมาธิ ปัญญา ยังเป็นมิจจฉา..เพราะว่าต้องได้ปัญญาวิมุติก่อนถ้าไปมั่วนิ่มนั่งสมถะทรงฌาน จิตไปจับเอาสภาวะใด..คุนน้องไม่อยากนึกสภาพตอนจิตล่วงไปสู่สภาวะนั้น :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 00:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
nongkong เขียน:
ศีล สมาธิ ปัญญา นำมารวมกันที่ปัจจุบันอารมณ์ นั่นคือ นิพพาน(อันนี้คือส่วนตัวดิฉัน) แสดงว่าถ้าเรารู้ตัวว่าเรากำลังจะตาย เราก็ทำสมถะให้อยู่ในปัจจุบันอารมณ์ คือ ความว่างแห่งสุญญตา ถูกมั้ยเจ้าค่ะ อันนี้คือความเห็นส่วนตัวเจ้าค่ะ :b40:
เพราะพระพุทธเจ้า ก่อนที่ท่านจะเสด็จปรินิพพาน ท่านก็ทำสมถะทรงอยู่ในฌานแล้วท่านก็ถอนฌานออกมาอยู่ในฌาน1 แล้วท่านก็ปรินิพพาน ผิดถูกประการใดช่วยพิจารณาด้วยนะเจ้าค่ะ


ผมว่านะ นำมารวมกันที่ปัจจุบันอารมณ์ เป็นจิต เห็นทุกข์ ครับ ต้องทำจิตเห็นจิต(วิญญาณรับผัสสะ)ให้ได้ก่อนครับ แรกๆ จิตเห็นทุกข์ ก่อน ถูกแล้ว จากนั้นนำมาลงวิปัสสนา เลยครับ ไม่นาน จิต จะเห็นจิต แล้ว ค่อย แยกธาตุแยกขันธ์ ครับ
สมถะ ยังไม่ได้ใช้ ปัญญา ครับ ต้อง ลงที่วิปัสสนา
การปฏิบัตินั้น จะเป็น 8+3+2+1=0 ครับ ไม่ได้ ทำแค่อย่างเดียว ครับ

ไม่รู้จะถูกมั้ยนะครับ
:b8:

เราต้องทำสมถะควบคู่ไปกับวิปัสนา น่าจะสมดุลใช่ไหมเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 00:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ยังเข้าไม่ถึงครับ ขนาด เจริญสติ ยังไม่สมบูรณ์เลยครับ ตอนนี้ กำลัง เจริญสติ หาทางสายกลาง ของความพอดี นำ ธรรม มาครอบ หน้าที่ ในชีวิต ฆารวาส ให้ได้อยู่ครับ ยังเกว่งไปมาไม่เข้าตรงกลางสักที่ ยากกกกสุดๆ grin


ผมยิ่งแย่...

แต่...แบบนี้...

อ้างคำพูด:
ดังนั้น....ขณะพิจารณาอัฏฐิกังกระดูก 300 ท่อน...คนเดินผ่านมา...ก็เห็นเป็นโครงกระดูกเดิน

จะไม่แปลกใจ..อะไรเลย


คุณฝึกจิต....เชื่อว่าเป็นไปได้จริงมั้ย?

ผมเชื่อ..แม้ไม่เคยเห็นกระดูกเดินได้...แต่มีประสบการณ์ใกล้เคียง...อธิบายได้

ใช่...นี้เป็นด้วยความจงใจ...ตั้งใจ...เป็นสมถะ

หากเพิ่มวิปัสสนาเข้าไป...ก็มีความเป็นไปได้...ใช่มั้ยละ...แค่เรารู้ว่า...ที่ตั้งใจใว้นั้น..มีเหตุผลเพราะอะไร

ดังนั้น...เมื่อเห็นหลวงปู่มั่นตอบธรรมะ

ถ้าเราจักตั้งใจไม่เพ่งโทษใคร ๆ อาสวะก็จะเกิดได้ด้วยยากเหมือนกัน

จึงเชื่อ...อย่างหนักแน่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 00:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมถึงว่า....

มีความเป็นไปได้ที่...

แค่เราไม่เอา....ก็อาจไปนิพพานได้

ไม่เอาเพราะเข้าใจ....ตั้งใจว่าไม่เอา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 05:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ยังเข้าไม่ถึงครับ ขนาด เจริญสติ ยังไม่สมบูรณ์เลยครับ ตอนนี้ กำลัง เจริญสติ หาทางสายกลาง ของความพอดี นำ ธรรม มาครอบ หน้าที่ ในชีวิต ฆารวาส ให้ได้อยู่ครับ ยังเกว่งไปมาไม่เข้าตรงกลางสักที่ ยากกกกสุดๆ grin


ผมยิ่งแย่...

แต่...แบบนี้...

อ้างคำพูด:
ดังนั้น....ขณะพิจารณาอัฏฐิกังกระดูก 300 ท่อน...คนเดินผ่านมา...ก็เห็นเป็นโครงกระดูกเดิน

จะไม่แปลกใจ..อะไรเลย


คุณฝึกจิต....เชื่อว่าเป็นไปได้จริงมั้ย?

ผมเชื่อ..แม้ไม่เคยเห็นกระดูกเดินได้...แต่มีประสบการณ์ใกล้เคียง...อธิบายได้

ใช่...นี้เป็นด้วยความจงใจ...ตั้งใจ...เป็นสมถะ

หากเพิ่มวิปัสสนาเข้าไป...ก็มีความเป็นไปได้...ใช่มั้ยละ...แค่เรารู้ว่า...ที่ตั้งใจใว้นั้น..มีเหตุผลเพราะอะไร

ดังนั้น...เมื่อเห็นหลวงปู่มั่นตอบธรรมะ

ถ้าเราจักตั้งใจไม่เพ่งโทษใคร ๆ อาสวะก็จะเกิดได้ด้วยยากเหมือนกัน

จึงเชื่อ...อย่างหนักแน่น

:b8: การเพ่งโทษ เป็นการ สร้าง อัตตา ของเราเอง ขึ้นมาเทียบ นะผมว่า ต้องปฏิบัติจนทั้งเพ่งโทษ ก็ไม่เกิด เพ่งดี ก็ไม่เกิด ทุกอย่าง เสมอกัน รู้เฉยๆ (เป็นไปได้มั้ยเนี่ย) เพราะเคยฟังมาว่า จงเพียร ให้เหลือเพียง 1เดียว(นิพพาน) หากยังเกิด คู่ อยู่ ก็ยังไม่พ้นทุกข์-สุข แต่หากให้จบกิจ จริง 1 เดียวก็ต้องทิ้งไป บริจาคไปให้สิ้น จน ไม่เหลือ อะไร เป็น 0 เพราะหากยังมี 1 ก็ยังไม่จบกิจแท้ เพราะยังต้อง คอยรักษา 1 นี้ไว้เสมอด้วย (ที่สุดในที่สุด กระมั่ง)
แต่ยังไม่ได้หา พุทธพจน์ มาดูเลย ท่าน กบ หรือ ท่านอื่นๆ เคยเห็น ประมาณนี้บ้างป่าว ครับ



ครับ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ เพราะมันเป็น อนิจจัง อะไรๆมันไม่แน่ ครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 26  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร