วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 22:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2022, 03:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ค. 2020, 07:10
โพสต์: 465

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
อุบายมีไว้เทียบเคียงความจริงคืออย่างไร
ไม่มีใครรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้
เพราะจิตเกิดดับเร็วไม่มีประมาณได้จึงทรงแสดงอุบายเพื่อ
ให้ผู้ฟังคิดตามเพื่อเทียบเคียงระหว่างความคิดเดิมกับความจริงที่กำลังปรากฏ
สัจจะดับเร็วกว่าที่จะคิดเองได้ทันจึงต้องพึ่งการฟังพระพุทธพจน์เพื่อสิกขาตรงคำตามได้
สิกขาคือศึกษาความจริงด้วยการคิดตรงทีละคำเข้าใจตรงตามที่ฟังไม่คิดแต่งต่อคำใดลงไปในคำที่ได้ยิน
เพราะจะทำให้ฟังไม่ทันฟังขาดตอนฟังไม่ต่อเนื่องเพราะความจริงที่ทรงแสดงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
:b8:
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมตรงตามที่ตรัสรู้ทุกคำเพื่อให้ฟังเข้าใจและคิดเห็นถูกตรงตามได้
เพื่อรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่าเราไม่สามารถรู้ความจริงตรงตามที่พระองค์ทรงแสดงได้เอง
เพราะความจริงดับหายไปเร็วมากจนปรากฏเป็นนิมิตคือภาพมายาตามภพภูมิปัจจุบัน
โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับและขันธ์แปลว่าเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่าจึงไม่มีเรา
จึงต้อเงี่ยหูฟังดีดีคิดดีดีว่ามีอะไรกันแน่ที่กำลังมีกำลังปรากฏตรงตามที่กำลังฟัง
โลกอันอะไรย่อมนำไปโลกอันอะไรย่อมเสือกไสไปโลกอันอะไรย่อมชักนำพามา
โลกอันจิตย่อมนำไปโลกอันจิตย่อมเสือกไสไปโลกอันจิตย่อมชักนำพามาเกิด
:b20:
เกิดแล้วเป็นด้วยมีอาสาวะกิเลสคือมีอวิชชานอนเนื่องตกตะกอนอยู่ภายในจิต
สิ่งที่กำลังมีจริงจริงในขณะนี้คือความไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง(ธรรม=สิ่งที่มีจริง)
พระธรรมทุกคำในพระไตรปิฏกสำหรับฟังเพื่อศึกษาสมมุติสัจจะเทียบอุบายบัญญัติคำ
ทุกคำที่ทรงตรัสรู้เป็นธรรมะคือสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทุกคำ
ทุกคำต้องเพียรอดทนอาศัยผู้อื่นกล่าวอธิบายขยายความจริงตรงตามที่กำลังฟังเพื่อเข้าใจตาม
เพราะจิตเกิดดับเร็วมากเพียงลัดนิ้วมือเดียวแค่ดีดนิ้วโป้งแตะนิ้วชี้จิตตนแล่นไปนับแสนโกฏิขณะ
เทียบได้กับความเร็วหนังตาบนแตะหนังตาล่างเร็วไม่ถึง1วินาทีมีอวิชชาใหม่เกิดแล้วหายวับไปกับตา
:b1:
ไม่ใช่ให้เชื่อแต่จงตั้งใจฟังโดยไม่หวังผลเพราะจิตเกิดดับมีอากาศธาตุเป็นพื้นหลังมืดสนิท
แค่มีอุบายเทียบเคียงไว้ว่าที่เกิดของจิตท่องเที่ยวอยู่ในกายจิตใจตนเองนับไม่ถ้วนในขณะนี้
คำสอนของพระพุทธเจ้าเปิดเผยความจริงให้เข้าใจถูกตรงตามที่ฟังได้ตลอดเวลาตลอดชีวิตนี้
เกิดมาแล้วเพราะไม่เข้าใจความจริงและเวลานี้เมื่อไม่ฟังคำสอนไม่เข้าใจความจริงก็เพลินทำอย่างอื่น
ลืมฟังเพื่อศึกษาสมมุติสัจจะตรงตามสมมุติบัญญัติเพื่อให้ปัญญาผุดเกิดแทนกิเลสตรงตามที่กำลังฟัง
ไม่มีใครรู้ความจริงได้อย่างพระพุทธเจ้าเพราะทุกคำในพระไตรปิฏกคือปัญญาทศพลญาณมีแค่1เดียว
ความจริงที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่งจงเพียรฟังเพื่อปรุงแต่งจิตให้คิดตรงคำตามเป็นจริง
https://youtu.be/r2J11_rfdJQ
:b12:
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร