วันเวลาปัจจุบัน 05 ส.ค. 2025, 01:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 01:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:


ที่ความเห็นผมเป็นสังขาร เพราะมีทั้งสังขารฝ่ายกุศล และ อกุศล




อกุศลสังขาร

กุศลสังขาร

และอัพยากตสังขาร







สังขารขันธ์

[๒๐] สังขารขันธ์ เป็นไฉน

สังขารเหล่าใดเหล่าหนึ่ง คือ
สังขารอดีต
สังขารอนาคต
สังขารปัจจุบัน
สังขารภายใน
สังขารภายนอก
สังขารหยาบ
สังขารละเอียด
สังขารทราม
สังขารประณีต
สังขารไกล
สังขารใกล้

ประมวลย่อเข้าเป็นกองเดียวกัน
นี้เรียกว่าสังขารขันธ์




http://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php ... =226&Z=308

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 06:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2015, 21:52
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลมหายใจสั้น ยาว หยาบ หรือละเอียด เราไม่ได้ไปปรุงแต่มันครับ มันเกิดขึ้นเอง เราเพียงแต่สังเกตุอาการ ลักษณะของลมที่ผ่านเข้าออก แต่เดิม ปกติผมเป็นคนที่ใช้ความคิดมาก เวลานั่งสมาธิ ความคิดมักเป็นตัวนำ ซึ่ง(ผมเข้าใจเองว่า) มันไม่ถูกต้องเพราะสิ่งที่เราคิด ใช้ความรู้ของเราไปทำความเข้าใจ ไปสังเกตุ มันจะเข้าไปปรุงแต่งจิตและอารมณ์ เป็นความฟุ้งซ่าน ผมแก้โดยใช้การภาวนา ก่อนจะหายใจเข้าก็ตั้งสติว่า ตั้งจิตมั่นหายใจเข้า ก่อนหายใจออกก็ตั้งสติว่าตั้งจิตมั่นหายใจออก เพื่อไม่ให้จิตไปตามความคิด เพื่อให้จิตละความคิด เมื่อจิตเริ่มสงบ และอยู่กับสติ มันจะอยู่กับลมหายใจเข้าออกเอง และลมหายใจก็จะค่อย ๆ ละเอียดขึ้นเอง เราปล่อยให้มันเป็นไปเอง เพียงแต่ตั้งสติหรือให้มีความรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา แล้วคอ ดดู พิจารณาสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น ทำเหมือนเสือซุ่มคอยดักเหยื่อแหละครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 12:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ...

คุณ "บ้านสุขใจ" เล่าต่อ...

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2015, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนากับคำตอบทุกท่านครับ

ท่านอื่นมีประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกอานาปานสติก็ขอเชิญครับ

ทิ้งท้ายกับพระสูตรอานาปานสติ

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 924&Z=4181

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2015, 04:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2016, 14:48 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2961


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2016, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2015, 21:52
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีเห็นกระทู้นี้ขึ้นมาอีก มาอ่านทบทวนดู ก็เลยนึกอยากเล่าอะไรต่ออีกสักหน่อย แต่ขอบอกก่อนว่าผมเล่าจากการสังเกตจิตและอารมณ์ของตนเองนะครับ ก่อนเล่าบอกก่อนว่าผมเดินสายสมถกัมมัฏฐาน ก็คือพยายามรู้ทันกิเลสที่กระทบจิต และข่มมัน ถ้ารู้ไม่ทัน หรือกิเลสแรงกว่าก็ให้มันชนะไป แต่ถ้าจิตรู้ตัว จิตตั้งมั่นดี เราก็เอาชนะมันคืน มันก็เป็นอย่างนี้แหละครับตราบใดที่กิเลสมันยังเกาะกุมจิตเราอยู่ ผมเคยเจริญวิปัสสนา แต่ขอยอมยกธง ความสามารถของตนเองไม่ถึง คือมันทำได้แค่อ่านและทำความเข้าใจตามตัวหนังสือ เช่น พิจารณาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันก็พิจารณาได้นะแต่ผมว่ามันรู้ เข้าใจแค่ระดับความคิด มันรู้ไม่จริง เลยยอมแพ้ มันเหมือนกับความรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ หลาย ๆ อย่างถ้าไม่ลงมือทำจริง ๆ ก็จะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นอย่างไร

ปกติการเจริญกัมมัฏฐานเราจะได้ยินคำว่าปฐมฌาน ทุติยฌาน... แต่ที่ผมอยากเล่านี้เป็นระดับก่อนปฐมฌาน ซึ่งผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับนี้ ผมเองก็เคยวนเวียนในระดับนี้อยู่นานมาก หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้ว่าจะไปอย่างไรต่อ ตอนนี้คิดว่าหาทางออกเจอแล้วก็เลยอยากเล่าสู่กันฟัง ระดับก่อนปฐมฌานนี้ ผมขอแบ่งย่อยออกเป็น 3 ระดับ คือหยาบ ปานกลางและละเอียด (ตามที่ผมรู้สึกนะ)

ระดับหยาบ เป็นระดับที่จิตเป็นสมาธิน้อย จิตมีความกังวล ยังคิดถึงกาม คิดถึงงาน คิดภึงครอบครัว ฯลฯ คือนั่งหลับตาจริง พยายามกำหนดลมหายใจ แต่กำหนดไม่ค่อยได้ หายใจเข้า หายใจออก ไม่กี่ครั้ง จิตก็คิดอะไรต่อมิอะไร ฟุ้งซ่านไปหมด หรือนั่งไปสักพักตัวเริ่มโค้งงอลงแล้วก็หลับ (เมื่อก่อนผมเป็นบ่อย ๆ แถมยังหลงคิดว่าทำสมาธิอยู่เลย 555) การก้าวผ่านขั้นนี้ที่จริงทำได้ไม่ยาก แค่ให้มีสติรู้ตัวว่ากำลังหายใจเข้า กำลังหายใจออก ทำไปสักพัก จิตจะเริ่มสงบลง ลมหายใจจะละเอียดขึ้น (สังเกตได้ จับอาการได้) ถ้าทำได้แสดงว่าสมาธิเริ่มตั้งมั่นขึ้นมานิดนึง จิตเริ่มเข้าสู่ระดับปานกลาง สำหรับผู้ที่มีปัญหา เช่นกำหนดได้แป๊บเดียวจิตเตลิดไปกับกิเลส ตัณหา ลองแบ่งย่อยออกไป เช่นทำได้ 5 ครั้ง แล้วเริ่มต้นใหม่ ทำได้ 10 ครั้งแล้วเริ่มต้นใหม่ ลองทำดูสักพักก็จะดีขึ้น

ระดับปานกลาง เป็นระดับที่เรารู้สึกตัวอยู่ตลอดว่าหายใจ หายใจออก แต่จิตไม่ตั้งมั่นที่จุดใดจุดหนึ่ง และมีบ่อยครั้งที่มักมีสิ่งที่จำในใจ (สัญญา) ปรากฎรบกวน (บางครั้งผมก็ยังสงสัยว่า ตกลงตอนนี้จิตเรายังคงสมาธิอยู่ไหม ) และก็มีบ่อยครั้งเหมือนกันที่จิตสงบนิ่งไม่คิดอะไรเลย การก้าวผ่านระดับนี้ก็ยังทำได้ไม่ยาก เมื่อจิตสงบในขั้นนี้ให้พยายามเพ่งจิต ไปที่จุดใดจุดหนื่งเช่น หว่างคิ้ว กระหม่อม กลางอก เป็นต้น ถ้าเริ่มทำได้แสดงว่า เริ่มก้าวไประดับละเอียด

ในระดับนี้บางครั้งจิตอาจดิ้นรนไปที่ระดับหยาบ แต่เราบังคับจิตให้กำหนดรู้ลมหายใจอยุ่ ดังนั้นอาจมีอาการแปลก ๆ เช่น หายใจถี่ หายใจแรงขึ้น เป็นต้น บางครั้งบังคับลมหายใจมากไปก็เกิดอาการหายใจอึดอัดได้เช่นกัน

ระดับละเอียด เมื่อจิตเราอยุ่ในระดับปานกลางและเราเพียรเพ่งจิตที่จุดใดจุดหนึ่ง (ทำจิตให้ตั้งมั่น) จิตจะสงบลงมากยิ่งขึ้น ลมหายใจละเอียดมากขึ้น และเห็นนิมิต เช่น แสง สี เป็นต้น (หลายคนก็ติดและไปเล่นกับนิมิตสนุกไปเลย) ถัดจากระดับนี้ก็จะเข้าสู่ปฐมฌาน ผมเองก็เคยเข้าไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คือไม่รู้ว่ามันเข้าไปอย่างไร แต่มันเกิดไม่บ่อย แค่ครั้งหรือสองครั้ง และพยายามทำเท่าไรก็ทำไม่ได้อีก

ระดับละเอียดนี้ผมว่าสำคัญมากที่จะทำให้เราก้าวเข้าสู่ปฐมฌาน เพราะเป็นระดับที่ทำให้เราเพ่งเป็น หรือทำให้จิตตั้งมั่น ในฐานะที่เราฝึกอานาปานะสติ ฐานของจิตที่ใช้เพ่งมี 3 ฐาน ตามทางผ่านของลมหายใจ คือ จมูก กลางอก และท้อง (ตัวผมใช้ฐานจมูก) เดี๋ยวนี้การปฏิบัติของผม ก็จะเริ่มที่ระดับหยาบ ปานกลาง สองระดับนี้ง่าย เพราะทำมานาน ทำประจำ พอถึงระดับละเอียด เมื่อเริ่มเพ่งได้แล้วก็จะย้ายฐานเพ่งไปที่ปลายจมูกต่อไป

(ปฐมฌานผมยังไม่ชำนาญ ขอยังไม่เล่า ยกยอดไว้คราวหน้านะครับ ไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไร )

เพิ่มเติมอีกนิด
การเจริญกัมมัฏฐานบางครั้งเราอาจทำได้ถึงระดับละเอียด พอวันต่อมากลับทำไม่ได้ พยายามทำอีกหลายวันก็ยังทำไม่ได้ เป็นเรื่องปกติครับ ที่เป็นอย่างนี้เพราะ สมาธิระดับปานกลางยังไม่แน่นพอ ที่ต้องทำคืออย่างไปกังวลกับมัน พยายามทำไปตามลำดับ ทำให้มาก แล้วมันจะไปถึงเอง

ขอให้เจริญในธรรมทุก ๆ คนครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร