วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 05:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2014, 15:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



การที่บุคคลจะมารู้แจ้งในพระคุณทั้งสามนี้
มันก็ต้องลงมือปฏิบัติตาม "พระธรรม"
คำสอนของพระพุทธเจ้านี้แหละไป


ก็เพราะเรารู้นี่...เหตุที่พระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ก็เพราะมาปฏิบัติ "พระธรรม" นี้
อันผู้ที่เป็นสาวกของพระองค์ก็ดีที่จะได้ละกิเลสตัณหา
ได้หมดสิ้นตามพระองค์ไปก็เพราะมาปฏิบัติ "พระธรรม" นี้

ถ้าเป็นฝ่ายบรรพชิตแล้วก็เรียก
"ปฏิบัติในศีล ปฏิบัติในสมาธิ ปฏิบัติในปัญญา"
ให้เกิดให้มีขึ้นในตน ศีล สมาธิ ปัญญานี้
เมื่อทำให้เกิดมีขึ้นในตนแล้ว ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความอิจฉาพยาบาท กิเลสชาติต่างๆ
อันหมักดองอยู่ในจิตในนี้ให้เบาบางหรือหมดไปสิ้นไป

นี่...เรียกว่า ผู้ที่จะเป็นพระพุทํธเจ้าก็มาปฏิบัติพระธรรม
ผู้ที่จะเป็นพระสงฆ์สาวกก็มาปฏิบัติพระธรรม
เหมือนอย่างคำโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า

"คนสามบ้าน กินน้ำบ่อเดียว
เดินทางเดียวกันแต่ไม่เหยียบรอยกัน"



"คนสามบ้าน" นั้นได้แก่ บุคคลที่เกิดอยู่ในสามภพ
กามภพ รูปภพ อรูปภพ ผู้ที่จะไปเกิดในสวรรค์ ๖ ชั้นนั้นก็ดี
ผู้จะเกิดในพรหมโลก จะเป็นรูปพรหม-พรหมที่มีรูปก็ดี
อรูปพรหม-พรหมที่ไม่มีรูปก็ดี ล้วนแต่เมื่อเป็นมนุษย์อยู่นี้
ได้เพียรพยายามละบาปแล้วบำเพ็ญบุญให้เกิดมีขึ้นในตน
ด้วยข้อปฏฺิบัติสามประการดังกล่าวมานั้นเหมือนกันหมดเลย

ต่างแต่ว่า การละกิเลสบาปอธรรมนั้นมันก็ยิ่งกว่ากัน หย่อนกว่ากัน
ไม่ใช่ว่าจะไปละกิเลสบาปอธรรมให้หมดสิ้นไปในขณะเดียวกัน
พร้อมกันได้ทั้งหมด..ไม่ได้ ก็เพราะเหตุนั้นน่ะ
ถึงแม้ว่าคนอยู่ในสามภพอันนี้จะมาปฏิบัติ
ในตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านี้เหมือนกันก็จริงอยู่หรอก
แต่ว่าการปฏฺิบัติของคนทั้งหลายนี้มันยิ่งกว่ากัน หย่อนกว่ากัน
แล้วก็เวลาที่ผลมันอำนวยให้ก็แตกต่างกันไป
บางคนก็มีความสุขน้อย บางคนก็มีความสุขมากตามบุญตามกุศลที่ตนทำนั้น


นี่ล่ะเพราะฉะนั้นจึงว่า เดินทางเดียวกันแต่ไม่เหยียบรอยกัน
นั่นแหล่ะ ให้พึงเข้าใจ ผู้ใดเข้าใจแบบนี้แล้ว
ก็ไม่ท้อถอยแหละที่จะพากเพียรพยายามไป
เพราะถ้าท้อถอยเสีย กิเลสบาปอธรรมมันก็ลุกขึ้น
ครอบงำดวงจิตนี้ให้เป็นทุกข์เดือดร้อนไป



:b46: :b46:


ที่มา : ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนา
https://www.youtube.com/watch?v=Bi-B3keKfso



:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708

:b44: รวมคำสอนและประมวลภาพ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2015, 19:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร