วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2011, 18:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2010, 13:04
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เขาไม่มีความรู้ เราให้ความรู้ มีสัญญาว่า ห้ามบอกความรู้นี้แก่ใคร เพราะผมบากบั่นมานาน
เขาให้เราช่วยงาน เราไม่เกี่ยง
งานเขาดีขึ้น ผู้บริหารชอบ เพราะได้ความรู้เราไปแล้วทำให้งานประณีตขึ้นมาก
พอได้ความรู้เรา ไปว่าคนอื่นเขาว่าโง่ แต่เงินเดือนมากกว่าเขา บ่นให้ผมฟังเป็นประจำ
พอผมจะไปสมัครทำงานที่เดียวกัน มันบอกให้เรียกเงินเดือนเหมือนเด็กจบใหม่ ทำๆไปเหอะ
ทั้งๆที่เขารู้ศักยภาพเรา แต่ไม่ช่วยพูดเรื่องเงินเดือนให้
ผมไม่สนใจ ผมเรียกเงินตามศักยภาพผม เขาบอกว่า ถ้ากูได้เงินเดือนเท่าเมิง กูลาออกดีกว่า
ล่าสุดโทรมาเล่า กูได้บอกเทคนิคความรู้ลูกน้องแล้วว่ะ น้องๆเขาชอบว่ะ กูได้เครดิต ดูแล้วน้องๆแม่งชอบและยอมรับกูแล้วนะ กูว่า
(ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับผม ว่าความรู้นั้นห้ามบอกใคร)
แล้วก็ให้งานมาให้ผมช่วย(หลังจากพูดไปแล้วนั้น คำพูดที่มันว่า คนโง่แต่ได้เงินเดือนมากกว่ามันเด้งขึ้นมาเลย นี่ผมยังไม่ได้เงินเดือนซะด้วย ใช้ฟรี)

หลังจากมันได้บอกผมว่า มันได้บอกความรู้ที่กว่าผมจะหามายากลำบากมากหลายปี บอกให้ลูกน้องฟัง
ผมก็ไม่ได้รับสายโทรศัพท์มันอีกเลย

มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับผมมาตลอดชีวิตที่ผ่านมาเหลือเกิน
โดยเปลี่ยนเป็นช่วยเหลือเรื่องเงินคนอื่นบ้าง แต่โดนทับถมกลับเวลาเราขัดสน
ช่วยเหลือเรื่องงานเพื่อส่วนรวม จนตัวเองเดือดร้อน แต่เมื่องานเสร็จ พวกไม่ช่วยกลับ ทำหน้าแบบ ทำได้แค่นี้
(ใจจริงผมไม่ได้อยากทำ แต่ไม่มีคนทำเลยอาสา)
โดนหลอกใช้งานฟรี

ตอนนี้อโหสิกรรมให้ทุกคน บางคนอโหสิให้แล้ว พอเจอหน้ากันอีกครั้งก็เอาเปรียบเราอีกที
กูต้องการคนดีลกับลูกค้าและหาลูกค้าให้หน่อย เมิงรู้กว้างดี กูเพิ่งตั้งบริษัทกับเพื่อนสองคน ใช้บ้านกูเป็นออฟฟิต
ค่าตอบแทนเป็นไง ค่ารถมีไหม presentationบริษัท งานในมือที่จะไปให้ลูกค้าดูมีไหม
ไม่มีเลย กำลังทำอยู่ และไม่มีเงินเดือนให้ และคงสู้จ้างพวกนักศึกษาเดือนละ 8พัน-หนึ่งหมื่นไม่ได้เพราะไม่มีงานก็ไม่มีเงิน เพราะกูกับเพื่อนลงเงินกันไม่กี่หมื่นเอง ถ้าได้งานเมิงก็ได้ส่วนแบ่งไป แต่ก็หักจากกูกับเพื่อนก่อน และไม่ได้เป็นหุ้นส่วนนะ เมิงเป็นพนักงาน
แล้วมาจ้างกูทำไม
ก็เพราะหาใครไม่ได้แล้วที่จะรับข้อเสนอนี้ กูนึกถึงเมิงคนเดียว

แล้วผมก็ตัดเพื่อนไปอีกคน คนอื่นๆก็มีอีกเพียบรวมถึงเพื่อนร่วมงาน

ผมพยายามอโหสิกรรม แต่เมื่อเจอหน้ากันอีกครั้ง ก็เจอเหตุการณ์แบบนี้ทุกครั้ง
ทำอย่างไรจะลดความรู้สึกนี้ได้ เวลานอนแล้วกำลังจะหลับตา ก็นึกขึ้นมา จนบางทีนอนเช้าเลย หรือไม่ได้นอน
บางวันแผ่เมตตาในใจจนหลับไป ก็พอได้
แต่พอต้องกลับมาอยู่ในโลกความจริง เจอหน้ากันกับคนเอาเปรียบ ผมรู้สึก....เฮ้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2011, 22:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2010, 13:04
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวเลือกเพื่อนผม คงหมดแล้วละครับ เพราะมีแต่เปลืองตัวและเงิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2011, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราจะต้องดำรงชีวิตที่เป็นของเราเอง การงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น

และงานคือชีวิตก็ต่อเมื่อเราทำงานนั้นด้วยสติเท่านั้น มิฉะนั้นเราก็จะเหมือนกับ

คนตายที่มีชีวิตอยู่ เราแต่ละคนจะต้องจุดคบเพลิงของชีวิตด้วยตนเอง แต่ชีวิต

ของเราแต่ละคนเกี่ยวพันกับชีวิตของบุคคลรอบๆเราด้วย หากเรารู้จักวิธีปกปักรักษา

และระวังจิตใจและหฤทัยของเราเอง นั่นแหละจะช่วยให้พี่น้องเพื่อนมนุษย์รอบข้างเรา

รู้จักการมีชีวิตอยู่อย่างมีสติ....

เราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับคนรอบข้างเรา ช่วยลดความทุกข์

และเพิ่มความสุขแห่งชีวิตเหล่านั้น....คำตอบก็คือเราจะต้องฝึกสติ

ระลึกถึงคำของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอยู่เสมอ...." จงมองสรรพชีวิตด้วยสายตา

แห่งความรักและความเมตตา "

จากหนังสือปาฎิหารย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ......ติช นัท ฮันห์



เป็นกำลังใจให้คุณ จขกท อดทน ให้อภัย และแผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้นเถอะนะคะ

สู้ๆค่ะ :b4: :b4:

:b45: :b44: :b41: :b45: :b44:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 12:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 13:18
โพสต์: 70

อายุ: 0
ที่อยู่: ลาดพร้าว

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้คุณรู้ทุกอย่างแล้ว และมันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะตัดสินใจว่าเลิกคบเพื่อนคนนั้นไหม

คิดอีกอย่างมันอาจจะถึงเวลาที่คุณต้องหมดการชดใช้กรรมกับเพื่อนคนนั้นแล้วก็เป็นได้ทางก็เลยเปิดสว่างให้คุณได้เห็น...อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเดินกลับลงไปใหม่หรือตัดแล้วทิ้งเดินต่อไปข้างหน้า...คุณจะเป็นคนเลือกเอง

คุณไม่ต้องวิตกกังวลอะไรไปหรอกค่ะ ถ้าคุณคิดว่าเราเคยเป็นหนี้เขาเราก็ใช้เขาไปก็จะไม่เครียด
อาจจะบอกว่าคุณก็พูดได้ซี ก็คุณไม่เจอกับตัวเองนี่...หุหุ
เราขอบอกว่าในโลกนี้ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เจอปัญหาแบบนี้ เพราะตัวเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เคยโดนเพื่อนหลอกใช้ ตอนโดนหลอกขอบอกว่าโง่มากไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้
โดนหลอกให้ทำงานคนเดียวแต่ผลงานรับร่วมกัน
โดนหลอกให้เอารถเราไปหาลูกค้า เพื่อนได้งานเราไม่ได้งานเพื่อนเลื่อนตำแหน่งไปไกลแล้ว
โดนหลอกให้เป็นแพะรับเรื่องที่เขานินทาทั้งที่เราไม่ได้ทำ
ฯลฯ
อีกเยอะค่ะ มีคนเตือนนะไม่ใช่ไม่มีแต่ตอนนั้นเหมือนหูหนวกตาบอด โดนเอาเปรียบตั้งแต่ตอนเรียนแล้วค่ะ เพื่อนหลายๆ คนชอบด่าว่าเราโง่ไม่ทันคน(เป็นอย่างนั้นจริงๆ นะ)
แม่เพื่อนยังบอกว่าเป็นแม่เลิกคบกับมันไปนานแล้ว (เพื่อนคนนี้คบมายี่สิบปี ตอนนี้เลิกคบแล้วโชคดีที่มีคดีข่าวดังที่เรามีเอี่ยวเลยตัดกันไปได้)
อีกคน คนนี้ทำเอาเราหมดอนาคตกว่าจะตัดได้ก็ร่วมสิบปีเหมือนกัน

ตอนนี้เหมือนความทุกข์ผ่านพ้น สบายใจ ดีใจ มีความสุข
ตอนนั้นเราไม่กล้าตัดนะ เห็นว่าคบกันมานาน แต่พอตัดไปได้เราถึงรู้ว่าเพื่อนที่เห็นแก่ตัวหลายคนไม่ได้มีผลต่อการดำรงชีวิตของเราเลย ครอบครัวเราต่างหากที่เราควรจะแคร์

และเชื่อไหมว่าตอนนี้เรามีเพื่อนสนิทจริงๆ(ไม่รวมที่คุยๆ นะ) แค่ 2 คน เป็นคนที่เราเคยเขม่นสมัยเรียน แต่ตอนนี้มันกลับเป็นคนที่ห่วงใยเรามากที่สุด มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว ยังมีเรื่องอีกเยอะที่เราซึ้งใจกับเพื่อนคนนี้ทั้งที่มันมีครอบครัวแล้วแท้ๆ แต่คนอื่นที่ตัดไปแล้วนั้นบอกเลยว่าไม่ไหว

เพื่อนที่ดีจะเห็นได้ชัดที่สุดตอนที่เราลำบากค่ะ การที่เราเคยช่วยใครไว้เวลาเราลำบากหนีหายหมดจริงๆ ช่วงเราดวงตกเราลิสรายชื่ออยู่ในหัวหมดแล้ว ความจริงเราไม่เคยโกรธใครง่ายๆ เลยแต่ถ้าถึงขนาดตราหน้านี่แสดงว่าสุดๆ เพราะตอนเราดวงตกเราแย่มากจริงๆ เกือบฆ่าตัวตายเพราะเครียดมากแก้ปัญหาเรื่องเงินไม่ตก(ทั้งที่บ้านมีเงินแต่บอกที่บ้านไม่ได้เราเป็นคนก่อหนี้เองทั้งนั้น)

แต่ตอนนี้ผ่านมาหลายปีเราแฮปปี้มากๆค่ะ หวังว่าคอมเม้นเราจะทำให้คุณเจ้าของกระทู้พอตัดสินใจอะไรได้นะคะ...อย่าเชื่อเรา แต่ให้คุณเชื่อตัวเอง เชื่อเซ้นส์ตัวเองค่ะ :b18:

.....................................................
ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา

หากเราเปรียบเจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นเจ้าหนี้
เราคือ ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์โดนทวงได้ทุกเวลา
การทำบุญ ถวายสังฆฑาน ปล่อยชีวิตสัตว์ หรือการทำทาน เป็นเพียงการใช้ดอกเบี้ย
การทำสมาธิแล้วสื่อจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมนั้น เป็นการใช้เงินต้นที่เราได้ติดเขานั่นเอง


ลองดูสิว่าถ้ากลับกันตัวคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากให้ลูกหนี้ใช้หนี้คุณแบบไหนกันล่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 23:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2010, 13:04
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อืม ผมคิดได้ว่าคงไม่เหมือนเดิมแหละครับ แต่ขอเวลาไม่เจอเพื่อนคนนี้จนกว่าแผลจะหาย
ตอนนี้ปิดโทรศัพท์มาเป็นเดือนแล้ว และไม่รู้จะโทรหาใคร เพื่ออะไร

คิดเหมือนกันครับ แทนที่เราจะไปสังสรรค์เฮฮากับคนอื่น ครอบครัวเราสำคัญที่สุด
ถ้าไปกินข้าวข้างนอกกับเพื่อน ก่อนจะมาเทคแคร์ที่บ้านเต็มตัว
ก็จะรู้สึกว่า เงินนี้พาพ่อแม่ไปกินดีกว่าไหม
มันเหมือนไปเพื่อสนุก แต่ใจไม่สนุกและเฟคๆไปงั้นๆ ตอนหลังเลยไม่ไปเลย

ผมก็คงไม่สอนใครอะไรง่ายๆ อีกต่อไป ถ้าพื้นฐานศิษย์เป็นคนโลภ นิสัยไม่ดี
และคงไม่ช่วยอะไรใครง่ายๆอีกต่อไป ถ้าพื้นฐานนิสัยเขา เป็นคนไม่ดีเช่นกัน

ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ช่วยคนดี คนดีก็ไปช่วยคนอื่นด้วยความดีต่อได้
แต่ช่วยคนเลว มันก็ไปช่วยตัวเอง เห็นแก่ตัว แถมเหยียบเราซ้ำด้วย

เคยไปงานศพพ่อเพื่อน เรามีเงินไม่มาก เราช่วยเงินใส่ซอง ยี่สิบบาท ไอ้เพื่อนที่เราบอกว่า ไรวะ ให้แค่นี้
อีกคนมาเจอเราตอนผมยาว พูดขึ้นมาว่า ไรวะ บ้านจน ขนาดไม่มีเงินตัดผมเลยหรอ
มันไม่ใช่การแซวที่ให้ขำ หรืออะไรเลย ไม่รู้พูดขึ้นมาทำไม
ทั้งๆที่ ตอนเรียน เราเลี้ยงข้าว เบียร์ และช่วยเหลืองานมัน มันยังพูดกับเราได้

ทำงานรวมรุ่นเราโคตรเหนื่อย มีฝ่ายหาสถานที่ ทำประชาสัมพันธ์ ทำโปสเตอร์ วีดีโอพรีเซนเทชัน
แต่เราทำหมด

ทีมโปสเตอร์ มี เรา กับเพื่อน และแฟนเพื่อน-ทำแค่โปสเตอร์

งานต้องแบ่งกันทำ สามคน แต่แฟนเพื่อนบอก เฮ้ยแฟนเราเหนื่อย นายทำให้หน่อยซิ
ได้ข่าวว่าผมกลับบ้านตี3 เงินเดือน9พัน น้อยกว่า หนักกว่าแฟนมันอีก
สรุปแฟนมันไม่ได้ทำอะไรเลย

อีกคนเจ็บหนัก คิดว่าเป็นรุ่นพี่ซี้กัน ไปทำงานบริษัทพี่เขา เงินเดือนเดือนแรกไม่ได้ พี่แกบอกช่วยๆกัน
พอเดือนที่สองได้เงิน แต่ไม่ใช่เงินที่ตกลงกัน บอกว่า ก็ดีกว่าเมิงอยู่บ้านและแค่นี้ก็พอกินข้าวแล้ว จะเอาไรอีก

ทุกวันนี้เลย โช๊ะ ขาดสะบั้น แต่พอมาคบเพื่อนสมัยมัธยม ก็ไม่วายเจอเพื่อนเอาเปรียบเช่นเคย
จนต้องมาโพสกระทู้ (จริงๆเพื่อระบาย)

ผมเชื่อว่า ตอนนี้พระเจ้ากำลังทดสอบจิตใจผมอยู่ ด้วยอุปสรรคทั้งหลาย งาน ครอบครัว เงิน เพื่อน
แล้วท่านดูว่าผมจะแก้ปัญหาด้วยวิธีที่มนุษย์ทั่วไปแก้ไขไหม ด้วยการเอาเปรียบมันกลับ
หรือนายจะยังเป็นคนดีอยู่ แม้จะไม่เหลืออะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2011, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าพอตัดได้ ตัดไปเลย แต่ก้ไม่ได้หมายความว่า จะไม่คุยกันต่อไป ให้รู้ว่าเพื่อนแต่ละคนมีนิสัยเปนแบบนี้ จะได้ระวังตัวไม่ไปทำอะไรให้เขาฟรีหรือถุกเอาเปรียบเกินไป จนคิดมากเปนทุกข์อีก หลายครั้ง
ที่เพื่อนทีคบอย่ ชอบแฝงมากับผลประโยชน์ในเนื้องานที่ตัวเราเองรับผิดชอบหรือเข้าไปพัวพันกะเขา
ถ้าเปนคนเอาเปรียบก้ยังเอาเปรียบอย่วันยังค่ำ วิธีหนึ่งคือพยายามอย่าให้คนแบบนี้มาเอาเปรียบอีก
คนพวกนี้จิตใจไม่คงที่ พูดอย่างทำอย่างได้ตลอดเวลาขอแต่ประโยชน์ตัวเองสำเร็จก่อน ต้องให้ทัน
เหลี่ยมเกมคนเหล่านี้ด้วยคับ อะไรที่ทำได้คิดว่าทำแล้วให้เพื่อนได้ก้ให้ แต่ถ้าทำแล้วหรือสัญญากับเพื่อน
แต่เพื่อนกลับทำให้เราแย่ลง ให้คิดเตรียมปฏิเสธเพื่อนไว้ก่อนเรย อย่าไปหลวงตัวเชื่อคารม จนทำไปแล้ว ไม่ได้อะไรตอบแทน แถมยังโดนหัวเราะมันน่าเจ็บใจที่สุด..... ถือเปนบทเรียนชีวิตที่ต้องศึกษาและ
แก้ไขให้ตัวเองต่อไป แต่ก้อย่าไปชิงชัง หรือเกลียดมากไป ให้รู้ว่า มีเข้ามาไว้เพื่อให้เรียนรู้ ต่อไปจะได้ไม่พลาดอีก เพื่อนก้คือเพื่อนวันนี้เปนคนดี วันต่อมาอาจจะตรงกันข้ามก้ได้ ไม่มีอะไรยืนยันได้ แต่จิตใจ
ของเราที่พัฒนาได้นี่แหละ ต้องรักษาไว้ให้ดีที่สุด อย่าให้มาอมทุกข์จนนนอนไม่หลับ และไม่ปลอดโปร่ง
จนทำงานไม่มีสมาธิก้แล้วกัน :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2011, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2010, 13:04
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพิ่งได้คุยอีกครั้ง หลังตัวเองปรับอารมณ์ได้
มาเหมือนเดิมเด๊ะ ใช้งาน และไปว่าคนอื่นในขณะที่ตัวเองก็ทำ

ผมเลยไม่ทำให้ และบทสนทนาก็สั้นกว่าที่ผ่านๆมา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร