วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 07:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 18:05
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ครอบครัวผมมีกันอยู่ 2 คนแม่ลูก (พ่อยังอยู่แต่แยกกันอยู่กับแม่ ส่วนใหญ่ผมเลยสนิทกับแม่)
แม่จะตามใจผมในเรื่องเงิน เวลาอยากได้อะไรก็จะได้ทุกอย่าง แต่ในทางกลับกัน
ถ้าผมทำอะไรที่ขัดใจแม่แม่ก็จะนิ่ง และไม่คุยกับผม
เรียกว่าถ้าทำตามที่แม่วางแผนไว้ ผมก็จะได้ทุกอย่าง แต่ถ้าขัดใจ แม่จะไม่คุยกับผมทันที
อย่างถ้าไปซื้อเสื้อด้วยกัน ผมกับแม่ชอบคนละตัว แม่ก็จะบอกแม่ว่าตัวนี้ดีนะ
แต่ถ้าผมยังดื้อจะเอาอีกตัว แม่จะทำหน้านิ่งๆ เสียงเรียบๆ แล้วส่งเงินให้ พร้อมกับเดินไปรอหน้าร้าน
สุดท้ายผมก็ต้องเลือกอย่างที่แม่ต้องการ

หลังจากเรียนจบ ผมเริ่มทำงาน และคบคนอยู่ 1 คน ซึ่งที่ผ่านมาแม่ผมจะไม่ชอบแฟนผมซักคน
แต่คนนี้ทั้งพี่ ป้า น้า อา ผมทุกคนชอบ เพราะเค้าเรียบร้อย และหน้าที่การงานดี
และที่สำคัญแม่ผมพึ่งผ่าตัดมะเร็งได้ประมาน 1 ปี ตลอดเวลาเค้าก็คอยดูแลไปรับไปส่ง
แต่ระยะหลัง (ช่วงที่แม่ผ่าตัดมะเร็งนั่นแหละ) ผมตกงาน เพราะบริษัทเจ๊ง
เรื่องการเงินรวมทั้งความเครียดที่ตกงานทำให้ทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ จนสุดท้าย ต่างคนต่างไม่คุยกัน
ทำให้เราเริ่มห่างกัน ในความรู้สึกผม (แต่เค้าก็ยังทำตัวกับครอบครัวผมอย่างปกติ เพราะเราไม่อยากให้ใครรู้ว่าทะเลาะกัน) หลังจากอยู่ในสภาวะนี้มา 3-4 เดือน ผมก็ตัดสินใจว่าจะคุยเป็นเพื่อนกันดีกว่า
และหลังจากนั้นผมก็ไปเจอผู้หญิงคนนึง ตอนแรกเราคุยกันเป็นเพื่อน แต่พอแฟนผมรู้ก็อาละวาด
ทำให้ผมมานั่งคิดทบทวนความรู้สึกของผมดู และพบว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับแฟนผมแล้ว
นอกจากความผูกพันธ์ แต่ตอนแรกผมยอมรับว่าไม่อยากเลิก เพราะเกี่ยวกับหลายเรื่อง
โดยเฉพาะคุณแม่ผม จริงอยู่ คนที่เข้ามาใหม่เป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจ แต่ก่อนหน้านั้น
ผมก็คิดเรื่องนี้มาหลายครั้ง แต่ติดที่เรื่องครอบครัว จึงพยายามทำให้ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย
ครั้งสุดท้ายที่ทะเลาะกันมันหนักมาก ถ้าต้องอยู่ด้วยเหตุผลมันจะความสุขจริงหรือ...

สุดท้ายผมเลือกที่จะคบอีกคน ปัญหาคือแม่ผม เค้าบอกเค้ารับคนนี้ไม่ได้ เพราะแฟนผมคนใหม่เค้าเรียนไปด้วยและรับงานพริตตี้ไปด้วย ซึ่งแม่เห็นว่าไม่เหมาะกับผม ทั้งทางฐานะและหน้าตาในสังคม...
(ผมพอจะเข้าใจแม่ เพราะพ่อกับแม่ผมเลิกกันเพราะผู้หญิงที่ทำงานกลางคืน แต่ผมก็ยืนยันกับแม่ว่า
อาชีพพริตตี้มันไม่ใช่อาชีพแบบนั้น แต่แม่ผมก็บอกว่ารับไม่ได้ และรังเกียจ พออธิบายมากๆ ก็กลายเป็นว่าผมออกหน้าแทน ผมเลยเลิกพูด จริงๆ ผมอยากจะบอกว่าผมกับพ่อคือคนละคนกัน และคนที่ผมคบ เค้าก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่ทำให้พ่อกับแม่เลิกกัน แต่ก็ไม่ได้พูด เพราะเด๋วจะไปกันใหญ่)

เรานั่งคุยนั่งเถียงเรื่องนี้กันเป็นอาทิตย์ ผมรู้ดีว่าการเถียงพ่อแม่มันบาป
ถ้าเลือกได้ผมไม่อยากทำหรอกครับ ผมพยายามอธิบายทุกอย่างแล้ว แต่แม่ก็ไม่ฟังผม
ล่าสุดเราทะเลาะกันรุนแรง เพราะแม่ผมคอยโทรเช็คตลอดว่าผมอยู่บ้านมั้ย
แม่ผมอยู่ ตจว. การเช็คคือ โทรเข้าห้อง ไม่โทเข้ามือถือ เพื่อเช็คว่าผมอยู่รึปล่าว บางทีถึงขนาด
นอนหลับไปแล้วตื่นมาตอนเที่ยงคืน เพื่อโทรเช็คว่าผมออกไปข้างนอกรึปล่าว ผมเครียดมาก
และครั้งสุดท้ายที่เราทะเลาะกันคือแม่โทรมาตอนเที่ยงคืน แล้วผมอยู่ข้างนอก จึงทะเลาะกันรุนแรงว่าผมออกไปหาคนที่ผมคบใช่มั้ย แล้วแม่ผมก็พูดมาว่า งั้นต่อไปนี้ไม่ต้องคุยกันแล้วกันจะได้ไม่ต้องมีแม่มาจุกจิกให้กวนใจ หลังจากนั้นท่านก็ไม่รับโทรศัพ ผมอีกเลย ตอนนี้ก็ 3 อาทิตย์แล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไง เพราะถึงตอนนี้ผมก็ไม่กล้าโทรไปหาแม่แล้ว ที่ไม่โทรเพราะกลัวโทรไปแล้วทะเลาะกัน ที่สำคัญหลังจากที่ทะเลาะกันมากๆ ผมพบว่าผมได้สะสมความเครียดถึงขั้นที่เรียกได้ว่าต้องพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดกันเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ผมเกิดอาการกลัวที่จะโทรไปหาแม่ เพราะถ้าทะเลาะกันอีก มันก็จะไม่เป็นผลดีต่อทั้งแม่และผมเลย

ผมอยากถามว่า การที่ผมไม่ตามใจแม่ ทำให้แม่เครียด ร้องไห้เพราะรู้สึกเสียใจที่ผมไปคบคนๆ นึง
ที่ท่านไม่ชอบ ผมบาปมากมั้ยครับ...


การที่ผมชอบคนๆ หนึ่ง แต่แม่ผมไม่ชอบ ผมจำเป็นต้องเลิกคบตามที่แม่ผมต้องการรึปล่าวครับ ถึงจะเรียกว่าเป็นลูกที่ดีและไม่บาป จริงอยู่คนที่แม่ชอบเค้าดี แต่ถ้าผมไม่ได้รักแล้ว ผมต้องกลับไปคบเพื่อให้แม่สบายใจรึปล่าวครับ จึงจะไม่บาป .....

ข้อความสุดท้ายที่ผมส่งถึงท่านผ่านแมสเสสมือถือตอนที่ท่านปิดเครื่องคือ ผมขอโทษที่เป็นอย่างที่แม่ต้องการไม่ได้ ถ้าการที่ผมเป็นคนดีของสังคม เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่แล้วมันยังไม่พอ ผมก็ต้องขอโทษ ...

พวกคุณคิดว่าผมเลวมากมั้ยคับ สำหรับผมทุกวันนี้เครียดตลอดเวลาทุกวัน แม้แต่ตอนหลับก็ยังเอาไปฝันและคิดว่าตัวเองเลวมาก แต่ถ้าให้ผมไปคบคนที่ผมไม่ได้รัก ผมก็ทำไม่ได้จริงๆ..........


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่เป็นห่วง และหวังดีต่อคุณที่สุด
คือคุณแม่ของคุณนี่แหละค่ะ

ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านผ่านอะไรต่ออะไรมาเยอะ้
แล้วท่านก็ต้องมองออก ว่าผู้หญิงคนไหน
ที่ท่านจะไว้ใจได้ ในการดูแลคุณต่อจากท่าน

เราก็มีลูกชาย (แต่ยังเด็กอยู่) เราคิดว่า
ถ้าต่อไปเค้าโตขึ้น เค้าจะมีแฟน เราขอเลือกคนที่
เค้าจะดูแลลูกชายเราได้ดีมั๊ย! เราไว้ใจได้มั๊ย!
และที่สำคัญ เวลาเราเจ็บป่วย
เราพึ่งเค้าได้มั๊ย!

จริงๆแล้ว คุณเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่ง
ที่มีคุณแม่คอยดูแล และคอยเป็นห่วง
แต่.....คุณอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ ความรู้สึกของท่าน
คุณอย่าเพิ่งโกรธ หรืองอนท่านเลยค่ะ
ค่อยๆหาเหตุผลไปก่อนเถอะค่ะ :b41: :b55: :b47:

viewtopic.php?f=5&t=31380


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 29 มิ.ย. 2010, 19:34, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 20:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


สมัยก่อนนั้น การครองเรือนนั้นเขาดูกันที่ความเหมาะสมกันระหว่างครอบครัวทั้งสองฝ่ายมากกว่าที่จะดูความรักระหว่างหนุ่มสาว ครอบครัวในสมัยก่อนนั้นจึงมีปัญหาการหย่าร้างน้อยมาก บ้างคู่เจอกันในวันแต่งงานก็มีนะแต่อยู่กันนานๆก็รักกันไปเอง สมัยนี้มองกันแต่ความรักมากกว่าความเหมาะของระหว่างครอบครัวจึงมีปัญหากันมากที่สุด เพราะความรักนั้นนานๆมักเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ โดยเฉพาะความรักที่บวกกับความหลงแล้วยิ่งง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง คนที่เรารักเราต้องตามเขา แต่คนที่รักเราเขาจะตามเรา หากผมเป็นท่านจะเลือกที่ความเหมาะสมของครอบครัว เพราะการแต่งงานไม่ใช่เรื่องแค่คนสองคนแต่เป็นเรื่องของคนหลายๆคนต่างหาก

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2010, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 18:05
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเข้าใจคับว่าการเลือกคู่ครองต้องมององค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน
แต่แบบไหนถึงเรียกว่าคนดีและเหมาะกับเราล่ะ ต้องฐานะดี การศึกษาดี ชาติตระกูลดี แค่นั้นจริงหรือ
คุณค่าของคนๆ นึง เราวัดจากอะไร จริงอยู่พื้นฐานครอบครัวนั้นสำคัญ
แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะประพฤติตัวได้ไม่ใช่เหรอ ผมยังไม่ได้ตกลงว่าคนๆ นี้ดีจริงรึเปล่า
แค่อยากให้เวลา และพฤติกรรมพิสูจน์คุณค่าในตัวเองของคนๆนึง
ว่าเค้าจะเป็นคนดีจริงรึเปล่า แค่นั้นเอง ไม่ใช่ตัดสินคนนึงๆ จากฐานะ และครอบครัวของเค้า
แต่แม่ผมเค้าก็ไม่ยอม

เฮ้อออ... มีใครตอบผมหน่อยได้มั้ยครับว่าการทำให้บุพการีเป็นทุกข์เพราะเราไม่ทำตามอย่างที่ท่านอยากให้เป็นและผิดหวัง จากการคาดหวังกับเรานั้นเป็นบาปกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน ขอบคุณมากครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2010, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


บาปมากน้อยแค่ไหนนั้น รอผู้รู้ท่านอื่น
มาออกความคิดเห็นน่ะค่ะ

เราจะเล่าเรื่อง บาปที่อยู่ในใจเราให้ฟังค่ะ คือตอนเด็กๆ
เรามักจะชอบขโมย ข้าวสาร-อาหารในบ้าน ไปช่วยคนอื่น
ซึ่งฐานะที่บ้านเรา ก็แค่พอมีกินมีใช้ พอนานๆเข้า

คุณแม่ก็จับได้ ก็ตีเรา แล้วก็ว่าเรา
เราก็ว่าคุณแม่ว่า "ทำไมแม่ถึงเป็นคนขี้เหนียว ทำไมถึงไม่คิดจะช่วยคนอื่นบ้าง
แม่เป็นคนเห็นแก่ตัว" เราก็เห็นคุณแม่เราร้องไห้
แล้วท่านก็พูดว่า"โธ่!เอ๊ยทำไมถึงมีลูกแบบนี้น่ะ"

แค่คำพูดแค่นี้ล่ะค่ะ ถ้าเราสามารถย้อนอดีตกลับไปได้
เราจะยืนให้ท่านตีเฉยๆ จะไม่พูดไม่เถียงอะไรให้ท่านเสียใจ

คุณรู้มั๊ย! บางครั้งที่เรานั่งสมาธิ คำพูดที่เราเคยเถียงแม่นั้น
เข้ามาในหูแล้วภาพก็จะเกิด

ทั้งๆที่เรา ก็ไม่ได้คิด แต่ความรู้สึกนั้นจะมาเอง
ถ้าถามว่าทรมานมั๊ย !ขอบอกเลยค่ะทรมานมากๆ

ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เราได้เคยกราบขอโทษท่านแล้ว
ท่านก็ยกโทษให้ แต่เรารู้สึกว่า
บาปนั้นอยู่ในใจของเราไปแล้ว ลบอย่างไรก็ลบไม่ออก

วันหลัง เวลาที่ท่านพูด คุณก็อย่าไปเถียงท่านสิค่ะ
คุณเฉยๆ พูดเรื่องอื่น ยังไงๆคนเป็นแม่ ต้องตามใจลูก
แต่คุณ ก็ต้องให้เวลาท่านด้วยเหมือนกัน
เราคิดว่า ท่านคงไม่คิดถึงเรื่องฐานะอะไรหรอกค่ะ

ไม่มีใครหรอกค่ะ ที่ไม่เคยเถียงแม่ตัวเอง แล้วก็ไม่เคยมีใคร
ที่ไม่เคยขัดใจคุณแม่ของตัวเองหรอกค่ะ
ทุกคนต้องมี มีมากหรือมีน้อยเท่านั้นเอง :b41: :b55: :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2010, 22:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากจะแนะนำนะ แต่พูดยากจริงๆ

ที่คนเรายุ่งเหยิงอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะ "ความไม่น่ารัก" ของคนเรา

และเพื่อที่จะแก้ไขความยุ่งเหยิงนั้น
เราจึงต้องพูดถึงความไม่น่ารักเหล่านั้น

และพอเราพูดถึงความไม่น่ารักเหล่านั้นแล้ว
ก็ไม่พ้นการพูดถึงความผิดพลาดของผู้คน

พอใครเขามาว่าเราผิดพลาด เราก็ไม่ชอบ ไม่พอใจ ไม่ยอมรับ
ใครเขามาว่าเรา คนของเรา เราก็ย่อมโกรธ
ท้ายสุดก็เลยกลายเป็นโกรธ ที่มีใครเขามาแนะนำวิธีออกจากความยุ่งเหยิง
แ้ลวเราก็แสวงหาทางออกจากความยุ่งเหยิงใหม่ในภายหลัง

ผมคิดว่า "ธรรมะ" เหมือนกับ "ยาใส่แผล"
เวลาใส่ยา มันแสบมันร้อน คนเลยไม่ชอบ
คนเรานั้น อยากให้แผลหายก็อยาก
แต่ใจนึงก็เกลียดยา ใส่ยาแล้วแสบ

พระพุทธเจ้าของเราถึงบอกว่า
อย่าพูด ถ้าคนฟังเขาฟังแล้วจะเคืองข้องจิตใจ
และท่านถึงกับบัญญัติเป็นศีลสำหรับพระเลยว่า
ถ้าไม่อาราธนา (ไมไ่ด้เชิญให้สอน) อย่าไปเทศน์สอนใคร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 18:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพิ่งจะทำให้แม่โกรธมากไม่นานมานี้เองค่ะ แต่ในตอนนี้ท่านก็หายโกรธแล้ว

ตอนที่แม่โกรธอยู่ไม่สบายใจเลย ไม่มีความสุขสักวัน เหตุก็มาจากเราเถียงแม่ เพราะเราว่าแม่คิดไม่ถูก เมื่อไม่ถูกเราเลยต้องเถียง ก็เลยเป็นเรื่อง

ช่วงเวลานั้นก็ห่างกันสักพัก ไม่โทรคุยกันเลย เพราะแม่บอกว่าไม่ต้องโทรหาแม่ แล้วก็ไม่กล้าโทรด้วยกลัวแม่ไม่พูดด้วยแล้วจะทำใจไม่ได้ จึงเฉยๆไป

ช่วงเวลานั้น (สัก2 อาทิตย์มั้ง) ก็กลับมานั่งคิด ว่าไม่น่าเถียงแม่เลย ต่อไปนี้แม่จะอะไรไยังไงก็ตามใจแม่เถอะ ให้แม่ได้สบายใจ เงียบๆไว้ดีกว่า ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่า ต่อไปจะไม่เถียงไม่พูดอะไรให้แม่ไม่สบายใจอีกแล้ว ขอเก็บไว้ในใจ เป็นการตอบแทนพระคุณแม่ แล้วก็ไปหาแม่...ทำไม่รู้ไม่ชี้ พูดน้อยๆ ยิ้มมากๆ คอยช่วยเหลือการงาน ไม่ขัดใจไม่ว่าเรื่องอะไร กอดบ้าง หอมบ้างสุดท้าย แม่ก็ลืมโกรธ

แม่ทุกคนน่ะ มีความรักลูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วล่ะค่ะ


เราว่าความคิดบางอย่างของเราอย่าให้ผู้ใหญ่รู้เลย เพราะท่านทำใจไม่ได้เปล่าๆ ความคิดของเรา ยิ้มมากๆ พูดน้อยๆ ฟังเยอะๆ เป็นดีที่สุด เรื่องอื่น เช่นความรักไม่ขอเม้นต์..เพราะไม่ถนัดในการตัดสินใจนะคะ

สุดท้ายขอให้คุณผ่านเรื่องทุกอย่างไปได้ด้วยดีนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 00:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


akila เขียน:
ผมเข้าใจคับว่าการเลือกคู่ครองต้องมององค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน
แต่แบบไหนถึงเรียกว่าคนดีและเหมาะกับเราล่ะ ต้องฐานะดี การศึกษาดี ชาติตระกูลดี แค่นั้นจริงหรือ
คุณค่าของคนๆ นึง เราวัดจากอะไร จริงอยู่พื้นฐานครอบครัวนั้นสำคัญ
แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะประพฤติตัวได้ไม่ใช่เหรอ ผมยังไม่ได้ตกลงว่าคนๆ นี้ดีจริงรึเปล่า
แค่อยากให้เวลา และพฤติกรรมพิสูจน์คุณค่าในตัวเองของคนๆนึง
ว่าเค้าจะเป็นคนดีจริงรึเปล่า แค่นั้นเอง ไม่ใช่ตัดสินคนนึงๆ จากฐานะ และครอบครัวของเค้า
แต่แม่ผมเค้าก็ไม่ยอม

เฮ้อออ... มีใครตอบผมหน่อยได้มั้ยครับว่าการทำให้บุพการีเป็นทุกข์เพราะเราไม่ทำตามอย่างที่ท่านอยากให้เป็นและผิดหวัง จากการคาดหวังกับเรานั้นเป็นบาปกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน ขอบคุณมากครับ

เรื่องนี้ของท่าน คล้ายกับปัญหาของเพื่อนผมมาก ที่รักใครแม่ก็ไม่เอาด้วยตลอด ก็เลยอยู่เป็นโสดสบายไป
ถามว่าบาปไหมมีแน่นอนอาจหนักตามปัญหาและเวลาแต่ละปัญหา ในกรณีของเพื่อนผมนั้นให้เขารีบขอขมาโทษต่อแม่ แต่แม่จะให้อภัยนั้นเรื่องท่าน แต่ของเรานั้นต้องไม่โกธรท่านหลังจากขอขมาแล้วเป็นดีที่สุด (รักใครๆนั้นไม่จริงเลยที่สุดคือการรักตัวเอง)

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 17:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 11:50
โพสต์: 25

แนวปฏิบัติ: ดูลมหายใจ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ ถักโครเชต์ ฟังธรรมะ
สิ่งที่ชื่นชอบ: มีเยอะจนบอกไม่ได้
อายุ: 0
ที่อยู่: somewhere over the rianbow

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้ว่าบาปหรือไม่บาปนะคะ ตอบยากมากเลย
แต่จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง คุณแม่ไม่เคยว่าเลยถ้าจะมีแฟน
แม่บอกแบบนี้ตลอด แต่แม่ขออย่างเดียวว่าอย่าท้อง ( เดี๋ยวเรื่องจะยาว ) ^ ^


ตอนมีแฟน เคยร้องไห้ให้แ่ม่เห็นอยู่ครั้งนึง
แล้วท่านก็พูดว่า >> ในโลกใบนี้ไม่มีใครที่จะรักเรามากไปกว่าตัวเราเอง
ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเสียเท่าไร ด้วยความที่ว่าตัวเองยังเด็ก
แล้วท่านก็พูดอีกว่า >> รองลงมาจากตัวเราก็คือพ่อแม่


เวลาผ่านไปสองปี หลังจากที่เลิกกับแฟน ระหว่างนั้นก็มีดู ๆ กับเพื่อนคนนึง
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้คบ ด้วยเหตุผลและความจำเป็นหลาย ๆ อย่าง
พอมานั่งทบทวนคำพูดแม่แล้ว มันเป็นความจริงเป็นสัจธรรมเลยก็ว่าได้



สำหรับตัวดิฉัน แฟนเลิกไป ยังไงก็หาใหม่ได้ ถ้าหาดี ๆ ไม่ได้ ก็อยู่คนเดียวไป
มันก็ไม่เห็นจะเป็นจะตาย จะทุกข์ร้อนอะไร
แต่แม่ เกิดมาชาตินึง มีแม่ได้แค่คนเดียว แล้วหาใครแทนไม่ได้ด้วยค่ะ
ที่พูดแบบนี้ เพราะเคยเกเรกับแม่มา้ิ้เยอะ แต่ท่านก็ยังรักและดีกับลูกคนนี้อยู่ดี

TT^TT


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร