วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 04:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2009, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2009, 21:35
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อคิด สำหรับ การดำเนินชีวิต


- อย่าหยุดยั้ง แต่อย่าอยู่อย่างอยาก.
ความพยายามที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จอาจดู
เหมือนเป็นยาขม ที่กินยากในเบื้องต้น แต่ยาขมชื่อว่าเป็นยาดี ที่ช่วยให้โรคหายขาดได้ ความพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นก็เช่นเดียวกัน. เบื้องแรกก็อาจลำบากที่จะทำความเข้าใจ แต่รสชาติที่ได้รับจากความพยายามที่ได้มานั้น ย่อมเป็นความหอมหวานที่ชีวิตใฝ่หาเสมอ ดังนั้น “ เกิดเป็นคนควรพยายามอย่างสุดความสามารถ จนกว่าความตายจะมาพรากความพยายามนั้นไปจากเรา.”



- คุณธรรมของผู้ยิ่งใหญ่.
ให้กำเนิด โดยมิอ้างเป็นเจ้าของ
บำรุงเลี้ยง โดยมิถือเป็นบุญคุณ
เกื้อกูล โดยมิก้าวก่าย
ไม่นำความยิ่งใหญ่ ไปแทรกแซงขู่เข็ญ บังคับใคร
เมื่อได้รับการเทิดทูน ท่านไม่ทะนงตน
เมื่อได้รับการทักท้วง ท่านไม่ท้อแท้
เมื่อกิจการงานอันยิ่งใหญ่สำเร็จลง...ท่านถอนตัวออกไป.



สุภาษิตจีนโบราณสอนว่า...
สงบได้ จะสำนึกในความวุ่นวายของตน
เงียบเป็น จะสำนึกในความเพ้อเจ้อของตน
มีน้ำใจ จะสำนึกในการด่วนสรุปคนอื่นของตน.



- คบคนเช่นใด เป็นเช่นนั้น
“ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ” เป็นนิยามของการฟ้องว่า หากเราคบสิ่งใด โอกาสที่เราจะกลายพันธุ์เป็นสิ่งนั้นย่อมมีสูง. เพราะอิทธิพลที่เกิดจาการเสพสิ่งที่เราใกล้ชิด มักจะคอยซึมซาบเข้าไปในชีวิตอย่างไม่รู้สึกตัว ถึงแม้บางครั้งอาจจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างที่เป็นความงดงามมักจะเหลือน้อยเต็มที ด้วยเหตุนี้สิ่งที่เราต้องใส่ใจในการสร้างสิ่งที่คอยเกาะกุมชีวิตให้มีกำบังสำหรับตัวเองก็คือ “ กัลยาณมิตร” ผู้ชื่อว่าเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรผู้ดีงาม เพราะการเสพส้องกับสิ่งดีๆ โอกาสที่สิ่งดีนั้นจะซึมซับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตก็มีสูงเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกให้ใครผ่านเข้ามาในชีวี ของเราสง่างามหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจที่จะเกี่ยวก้อยร้อยดวงใจ มอบให้แก่กัน....



ธาตุอดทน
“ คนเรามีธาตุของความอดทนอยู่ในตัวทุกคน แต่ก็มีน้อยคนที่จะยอมให้ความอดทนนั้นเข้ามาอยู่ประจำในชีวิตจิตใจ เพราะสังเกตได้จากการที่เวลาอารมณ์เข้ามากระทบทีไร เรามักจะตอบโต้ด้วยความรู้สึกต้องการเอาคืนเสมอ เรื่องที่ควรจะจบลงในเวลามี่สั้นจึงยืดยาวออกไป แต่ถ้าเรียนรู้ที่จะให้ความอดทนเฝ้าประจำ ด้วยความเข้าใจ อดทนที่จะศึกษาอารมณ์ของตัวเองผ่านการกระทบจากสิ่งต่างๆที่เข้ามา เบื้องต้นอาจจะดูเหนื่อยล้าจากสิ่งที่ทำให้เจ็บตัว แต่เมื่ออดทนต่อสิ่งเหล่านั้นอย่างผู้มีปัญญาได้แล้ว ปัญหาที่ยุ่งยากก็มักจะคลายตัวลง เมื่อนั้นเราย่อมสามารถโบยบินไปสู่อิสรภาพของความสุข เพราะการขึ้นไปอยู่เหนือ
อารมณ์ เหล่านั้นด้วยภาวะที่โปร่ง เบาสบาย...”



เราเลือกเอง
การตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งในชีวิต เป็นสิทธิ์ที่คนเราได้มาจากการเกิด และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ดีและสิ่งเลวร้ายนั้น ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราต้องเลือกให้ตัวเอง เพราะหากเลือกผิดชีวิตที่ดำเนินไปย่อมเต็มไปด้วยคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ เพราะใจที่ตัดสินเลือกโดยอาศัยความไม่รู้ เป็นคู่มือนำทางเป็นเสมือนสิ่งที่คอยผลักไสสิ่งดีๆ ให้ไกลออกไป “ ชีวิตจึงต้องจมอยู่กับความด้อยค่าโดยเข้าใจว่ามันดีที่สุดแล้ว” เช่นเดียวกับ หนอนที่อยู่ในกองอุจจาระที่สกปรก แต่ก็เข้าใจว่ามันดีที่สุดแล้ว ตรงกันข้าม หากเลือกสิ่งที่ดีเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ชีวิต สิ่งที่ได้มาย่อมมีคุณค่าราคางาม และช่วยต่อยอดให้สิ่งดีงามผลิบานได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น “ เมื่อชีวิตมีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเอง เราก็ควรเลือกสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของเรา” เพราะหากเลือกผิด ชีวิตจะบ่ายหน้าไปสู่ความด้อยค่าเสมอ...



ทำตามโดยไม่รู้สาเหตุ
สิ่งที่น่ากลัวในการแสวงหาความสุขให้กับตัวเองคือ “ การไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนเช่นไร และต้องการอะไรในชีวิตกันแน่” เพราะเมื่อมิดบอดจากการมองเห็นตัวเองแล้ว โอกาสที่โลกที่สดใสกว่าจะปิดตัวลงย่อมมีง่ายขึ้น จึงทำให้เราต้องเดินทางสู่เป้าหมายอย่างคนที่ไร้แสงสว่างนำทาง ยิ่งการเดินตามผู้อื่นอย่างไร้ทิศทางแล้วถือว่าเป็นการตามหาสิ่งที่ชีวิตต้องการโดยไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเจอ,เมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราได้มาครอบครอง และสิ่งที่พยายามแสวงหาเพื่อตอบสนองตัวเราให้สมบูรณ์ขึ้นย่อมกลายเป็นความบกพร่อง อย่างน่าเสียดาย ดังนั้น “ การรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร และเป้าหมายที่ช่วยทำชีวิตให้มีความดีงามนั้นเป็นเช่นไร ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ซึ่งมีหลักซึ่งจะช่วยปูทางให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหวังและเต็มไปด้วยพลังแห่งความเป็นตัวตนอย่างภาคภูมิ.”



การกระทำสำคัญกว่าการพูด.
การที่ใครคนหนึ่งจะทำให้ผู้อื่นเชื่อมั่นในตัวเองนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่คนที่เป็นผู้นำนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีหรือไม่ เพราะ “ หากใครก็ตามที่ชอบการเป็นผู้นำ แต่ไม่ยอมเป็นตัวอย่างที่ดี การนำนั้นมักจะทำให้คนที่เดินตามไม่ประทับใจ เพราะผู้ที่เขาเดินตาม ไม่นำมาซึ่งความเชื่อมั่นในเส้นทางที่กำลังก้าวไป แต่หากใครก็ตามเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำด้วยความจริงใจ การนำทางของเขาคนนั้นย่อมเป็นการเชื้อเชิญให้ผู้อื่นคล้อยตามอย่างไร้ปัญหา ดังนั้น เมื่อต้องการให้ผู้อื่นเดินตามความคิดของตน ผู้นำก็ต้องกล้าที่จะทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ในทางที่ถูกต้องด้วย เพราะตัวอย่างที่ดีย่อมก่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ตามเสมอ...”



สวยนอก สวยใน
ถ้าชีวิตติดอยู่กับความพอใจ ในสิ่งที่เห็นแต่เพียงภายนอกอย่างเดียว เราจะต้องแสวงหาสิ่งที่ต้องการอย่างไม่มีสิ้นสุด เพราะสิ่งที่อยู่ภายนอกที่ตาแลเห็น ย่อมมีการเกิดขึ้น,ตั้งอยู่, และเปลี่ยนสภาพไปตามกาลเวลา ความต้องการที่อยากไขว่คว้ามาครอง ก็จะเคลื่อนไหวตามไปอย่างไม่มีสิ้นสุดเช่นกัน แต่หากรู้จักพิจารณาอย่างแยบคาย ปรับทัศนคติ หรือมุมมอง ให้เป็นบวก กระทั้งก้าวสู่ความแจ่มใสในใจ ย่อมทำให้เราได้รับรู้รสชาติของความสุข และคุณค่าของสิ่งที่ปรารถนาอย่างแท้จริง เพราะ “ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในมิติของจิตใจ ภายในนั้นมีมวลของความสุขรอคอยให้เชยชมอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเสมอ...”



ค้นเหตุ หาผล.
“ การจะรู้อะไรสักอย่างหนึ่งนั้น เราควรรู้จักที่มาที่ไปของเรื่องนั้นๆ ให้ชัดเจน ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ที่ถูกทาง แล้วปัญญาชนิดไหนก็จะปรากฏแก่เรา ที่สำคัญ การค้นเหตุหาผล ไม่ควรมองข้ามผู้มีประสบการณ์ที่ผ่านการใช้ชีวิตมานาน แต่ควรรู้จักเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ จากท่าน ด้วยความเคารพ เพราะประสบการณ์ชีวิตของคนที่ผ่านการใช้เวลามาอย่างยาวนาน ย่อมช่วยสะท้อนเหตุแห่งความจริงที่มี เพื่อนำไปสู่ผลที่ถูกต้องได้ด้วยภาวะที่ลงตัว การค้นเหตุหาผลในเรื่องต่างๆ จึงจำเป็นที่เราจะต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งการตระหนักรู้ในตัวเอง และการรับรู้จากผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อม ถ่อมตน จึงจะทำให้สิ่งที่ได้รับมา เป็นเครื่องฟ้องคุณค่าที่ควรแก่การจดจำ...”



เริ่มต้นได้ ไม่มีวันสาย.
คนเรามักคิดว่า บางสิ่งที่อยากทำมักสายเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการทำความดี หรือการกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา เพราะเกิดความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง และอายุของตัวเองไม่อำนวย แต่สำหรับปราชญ์ท่านกลับมองว่า การเริ่มต้นทำสิ่งดีหรือแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดนั้นไม่มีวันสาย เพราะแม้จะเริ่มต้นด้วยความเหนื่อยยากเพราะชาชินกับสิ่งเดิมที่เคยเป็นมา แต่อย่างน้อยสิ่งที่ได้รับจากการรู้จักเริ่มต้น ย่อมทำให้ ความดีที่ได้ก่อตัวมา เติบโตขึ้นมากกว่าเดิมได้ แม้นความผิดที่เคยสร้างไว้ ย่อมมีโอกาสกลับมาเป็นบทเรียน สอนให้รู้ว่า ความดีและสิ่งที่ไร้ค่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ทุกอย่างจึงไม่มีวันสายหากรู้จักเริ่มต้นอย่างคนที่ใช้ปัญญา...< เกิดมาทั้งที... ตายฟรีได้ไง>
...................................................................................................
เอกสารนี้ ข้าพเจ้าได้มาจาก นาย ชีวทัศน์ รัตนะพันธ์ ในปี 2550 ซึ่งมีพระภิกษุนำมาเผยแผ่ ข้าพเจ้าเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับการดำเนินชีวิตเลย นำมาเผยแผ่ อีกที.
หากผู้ที่ได้อ่านเห็นว่า มีประโยชน์ ก็สามารถนำมาเผยแผ่ได้ ไม่มี ลิขสิทธิ์แต่ประการใด
..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2009, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 15:28
โพสต์: 307

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ :b8:

.....................................................
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร