วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 14:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2009, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้ดีมากๆ กระทู้หนึ่ง ขอเชิญนะครับ

เตือนสติผู้ปฏิบัติธรรม และการเจริญสติปัฏฐานสี่
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=20981

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2009, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
กระทู้ดีมากๆ กระทู้หนึ่ง ขอเชิญนะครับ

เตือนสติผู้ปฏิบัติธรรม และการเจริญสติปัฏฐานสี่
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=20981


โมทนา สาธุค่ะคุณคามิน ที่นำคำสอนครูบาฯมาแบ่งปันกัน
:b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 14 มี.ค. 2009, 23:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2009, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2008, 20:09
โพสต์: 112


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:

คืออัญญาสิติดตามบทความของคุณwalaiporn
เป็นผู้เจริญ เป็นผู้ไม่โกรธ มาตลอดนะครับ
....

เจริญในธรรมยิ่งๆทั้งสองท่านครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2009, 23:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


อัญญาสิ เขียน:
:b8: :b8:

คืออัญญาสิติดตามบทความของคุณwalaiporn
เป็นผู้เจริญ เป็นผู้ไม่โกรธ มาตลอดนะครับ
....

เจริญในธรรมยิ่งๆทั้งสองท่านครับ
:b8:



ขอบคุณค่ะ คุณอัญญาสิ
:b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 00:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
คุณพี่ walaiporn ครับ

ผมก็มองว่าเรื่องโกรธ เป็นเรื่องธรรมดานะครับ ผมก็โกรธน่ะ ใครๆก็โกรธ

หลวงปู่ดูลย์ท่านยังพูดเลยว่าท่านมีโกรธ
มีคนถามท่านว่าหลวงปู่มีโกรธอยู่ไหม ท่านตอบว่า "มี แต่ไม่เอา"

เราไม่ใช่ทั้งพระอนาคามี หรือพระอรหันต์
การมีโกรธ ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดานะครับ อย่าไปซีเรียสเลย

ถ้าพูดถึงลำดับธรรมชาติการสัมประยุตกับกิเลส
"สักกายทิฐิ" ยังมาก่อน "โลภะ โทสะ โมหะ" เลยนะครับ

วิธีที่เราปุถุชนรับมือกับ โลภะ โทสะ โมหะ
ก็เป็นเพียงแค่การกดข่มเอาไว้ด้วยอำนาจของศีล หรือสมาธิ
เหมือนคำพูดที่ว่า "เอาหินไปทับหญ้า"

หลวงพ่อผมเทศน์ว่า
มีก็ปล่อยมันมี ตามรู้ตามดูมันไป นี่แหละของจริง ดูของจริงที่จิตมันแสดงให้ดู
อย่าไปกดข่มมันเอาไว้ แต่ก็อย่าให้มันล้นออกมาทางกาย ทางวาจา ให้รักษาศีลไว้


ธรรมดาภาษิตว่า "ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ" อันนี้น่ากลัว
แต่ประเภท "ปากปราศัย แต่ไม่รู้สึกตัว ว่าน้ำใจตัวนั้นเชือดคอคน"
อันนี้ผมว่าน่าสงสารมากกว่า

เพราะไม่สามารถจะดูจิตตนได้เลยว่าตอนนี้มีโลภะ โทสะ หรือไม่
ไม่รู้ตัวเลยว่าที่คิด ที่พูด ที่ทำอยู่นี้ ตกอยู่ใต้อำนาจโลภะ โทสะ หรือไม่อย่างไร

ที่ว่าน่าสงสาร เพราะโทสะมันเห้นง่ายๆที่สุด แต่กลับไม่เห็น
แถมกลับมองว่าไม่มี แล้วก็เลยเชือดคอคนไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาว่าเป้นเพราะอำนาจโทสะ
ถ้าโทสะ โลภะ ไม่เห็น ... ก็ไม่ต้องไปพูดถึงโมหะเลย

มีโกรธ ... เห็นโกรธ.. แล้วรับมือได้ในที่สุด ... อันนี้ผมว่าธรรมชาติครับ
แต่ถ้า... มีโกรธ มีโทสะ แต่ไม่เห็น ไม่รู้ตัว ผมว่าอาการน่าเป้นห่วงนะครับ
เห็นแล้วก็ได้แต่อืมเนาะ อะนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 03:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


ธรรมสวัสดีค่ะคุณ Walaiporn และคุณน้องคามิน และทุกท่าน :b8:

ขออนุญาตแสดงความเห็นต่อเรื่อง "โทสะ" นี้สักเล็กน้อยนะคะ...
เผื่อว่าอาจเป็นประโยชน์กับพี่น้องผองเพื่อนบ้างน่ะค่ะ
ผิดถูกประการใด โปรดใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูนะคะ

โดยส่วนตัวคิดว่าเราสามารถรับมือกับเจ้า "โทสะ" ได้อยู่ ๒-๓ วิธี

๑.ทำความเข้าใจกับเขา

หากสามารถทำความเข้าใจกันได้
โดยลดทิฏฐิ และมานะมมังการของทั้งสองฝ่าย
ก็เป็นการดีอย่างยิ่ง
(ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นอนาคามี..
แต่ฝึกฝนและสั่งสมบารมีไว้ก็ใช่จะเสียหาย / บอกตัวเองอยู่ทุกวันเหมือนกัน)
:b9:

เพราะประเด็นที่ทำให้เราเกิดความโกรธนั้น
อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน
หรือด่วนสรุปกันไปเอง
จากการสื่อสารของอีกฝ่ายหนึ่ง
ที่บางครั้งอาจใช้ถ้อยคำเปรียบเปรยที่ดูปกติธรรมดา
(เพราะใช้จนเคยชินเป็นปกตินิสัย)

แต่ตัวเราเองนั้น ไปปรุงแต่งมันให้เลยเถิดไปเอง
(พิจารณาตัวเองก่อน)

๒. สงสาร และแผ่เมตตาให้แก่เขา

เพราะคนที่มาทำให้เราโกรธ นับเป็นคนไม่ฉลาดเลย
และกำลังสร้างภัยอย่างใหญ่หลวงให้กับตนเอง
ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
เพราะหากเป็นคนฉลาด
ก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น

ดังนั้นเราควรสงสารเขา
เมื่อความสงสารก่อตัว
ความเมตตาอ่อนๆ ก็จะบังเกิดขึ้น
ความโกรธจะค่อยๆสลายไป

มันเป็นปฏิกิริยาที่ตรงข้ามกัน
เสมือนที่ใดที่มีความสว่างมากพอ
ความมืดก็จะหายไปนั่นเองค่ะ

๓. ข่มและอดกลั้นไว้ด้วยศีล
และต้องวิปัสสนาให้รู้เท่าทันด้วยปัญญาว่า


ความโกรธ มันเป็นแค่อารมณ์หนึ่ง สภาวะหนึ่งเท่านั้น
มันไม่ใช่เรา เราไม่ใช่อารมณ์
พอเราพรากตัวเองมาจากอารมณ์ได้
อารมณ์นั้นก็ไม่มีฐานที่ตั้ง
จิตจะเริ่มวินิจฉัย เรียนรู้ กลั่นกรอง
ความโกรธก็กลายเป็นเพียงสัญญาเท่านั้น

แถมเวลามีอารมณ์โกรธ
หากพิจารณาดีดีแล้วจะพบว่า
ร่างกายต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ
อำนาจของสติที่เคยตั้งมั่นถูกลดทอนกำลังลงไปมากมาย....เลยค่ะ


อย่างไรก็ตามแนวทางเหล่านี้
ขอให้พิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาวการณ์ดูอีกครั้งนะคะ

:b43: :b43: :b43:

แม้จะมีภาษิตจีนได้กล่าวไว้ว่า...

"ไม่รบกัน....ก็ไม่รู้จักกัน"

แต่เคยสงสัยมั้ยคะว่า
ทำไมเราต้องไปรบกับเขาด้วย...หนอ?


เพราะจริงๆ แล้วแค่รบกับตัวเอง
และชนะตัวเองให้ได้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว...จริงมั้ยคะ
:b12:

:b43: :b43: :b43:

แถมท้ายด้วยของฝากค่ะ :

ต บ ะ อั น แ ก่ ก ล้ า : อัคร ศุภเศรษฐ์ :b8:
viewtopic.php?f=2&t=21061

เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ :b4: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 05:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: โมทนา สาธุ...เจ้าของกระทู้ และผู้ที่มาโพสต์ทุกท่าน
เมื่ออ่านแล้ว นักปฏิบัติ จะได้อ่านใจตัวเอง
ไปด้วย :b8: :b8: :b8:

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กุหลาบสีชา เขียน:
ธรรมสวัสดีค่ะคุณ Walaiporn และคุณน้องคามิน และทุกท่าน :b8:

ขออนุญาตแสดงความเห็นต่อเรื่อง "โทสะ" นี้สักเล็กน้อยนะคะ...
เผื่อว่าอาจเป็นประโยชน์กับพี่น้องผองเพื่อนบ้างน่ะค่ะ
ผิดถูกประการใด โปรดใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูนะคะ

โดยส่วนตัวคิดว่าเราสามารถรับมือกับเจ้า "โทสะ" ได้อยู่ ๒-๓ วิธี

๑.ทำความเข้าใจกับเขา

หากสามารถทำความเข้าใจกันได้
โดยลดทิฏฐิ และมานะมมังการของทั้งสองฝ่าย
ก็เป็นการดีอย่างยิ่ง
(ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นอนาคามี..
แต่ฝึกฝนและสั่งสมบารมีไว้ก็ใช่จะเสียหาย / บอกตัวเองอยู่ทุกวันเหมือนกัน)
:b9:

เพราะประเด็นที่ทำให้เราเกิดความโกรธนั้น
อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน
หรือด่วนสรุปกันไปเอง
จากการสื่อสารของอีกฝ่ายหนึ่ง
ที่บางครั้งอาจใช้ถ้อยคำเปรียบเปรยที่ดูปกติธรรมดา
(เพราะใช้จนเคยชินเป็นปกตินิสัย)

แต่ตัวเราเองนั้น ไปปรุงแต่งมันให้เลยเถิดไปเอง
(พิจารณาตัวเองก่อน)

๒. สงสาร และแผ่เมตตาให้แก่เขา

เพราะคนที่มาทำให้เราโกรธ นับเป็นคนไม่ฉลาดเลย
และกำลังสร้างภัยอย่างใหญ่หลวงให้กับตนเอง
ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
เพราะหากเป็นคนฉลาด
ก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น

ดังนั้นเราควรสงสารเขา
เมื่อความสงสารก่อตัว
ความเมตตาอ่อนๆ ก็จะบังเกิดขึ้น
ความโกรธจะค่อยๆสลายไป

มันเป็นปฏิกิริยาที่ตรงข้ามกัน
เสมือนที่ใดที่มีความสว่างมากพอ
ความมืดก็จะหายไปนั่นเองค่ะ

๓. ข่มและอดกลั้นไว้ด้วยศีล
และต้องวิปัสสนาให้รู้เท่าทันด้วยปัญญาว่า


ความโกรธ มันเป็นแค่อารมณ์หนึ่ง สภาวะหนึ่งเท่านั้น
มันไม่ใช่เรา เราไม่ใช่อารมณ์
พอเราพรากตัวเองมาจากอารมณ์ได้
อารมณ์นั้นก็ไม่มีฐานที่ตั้ง
จิตจะเริ่มวินิจฉัย เรียนรู้ กลั่นกรอง
ความโกรธก็กลายเป็นเพียงสัญญาเท่านั้น

แถมเวลามีอารมณ์โกรธ
หากพิจารณาดีดีแล้วจะพบว่า
ร่างกายต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ
อำนาจของสติที่เคยตั้งมั่นถูกลดทอนกำลังลงไปมากมาย....เลยค่ะ


อย่างไรก็ตามแนวทางเหล่านี้
ขอให้พิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาวการณ์ดูอีกครั้งนะคะ

:b43: :b43: :b43:

แม้จะมีภาษิตจีนได้กล่าวไว้ว่า...

"ไม่รบกัน....ก็ไม่รู้จักกัน"

แต่เคยสงสัยมั้ยคะว่า
ทำไมเราต้องไปรบกับเขาด้วย...หนอ?


เพราะจริงๆ แล้วแค่รบกับตัวเอง
และชนะตัวเองให้ได้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว...จริงมั้ยคะ
:b12:

:b43: :b43: :b43:

แถมท้ายด้วยของฝากค่ะ :

ต บ ะ อั น แ ก่ ก ล้ า : อัคร ศุภเศรษฐ์ :b8:
viewtopic.php?f=2&t=21061

เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ :b4: :b1:



ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆที่นำมาฝากค่ะคุณกุหลาบสีชา
:b8:

ขอบคุณจริงๆค่ะ สำหรับทุกๆข้อความที่โพสมา
:b8:

ไม่มีอะไรค้างคาใจแล้วค่ะ นิดเดียวก็ไม่มี ตั้งแต่มาอ่านข้อความที่คุณอัญญาสิโพส ... ถึงได้ลบข้อความที่โพสไว้ทิ้งไปหมด

ด้วยอารมณ์โกรธและความน้อยใจที่เกิดขึ้น เลยทำให้คนดีๆเสียหาย จริงๆแล้ว ตัวเองผิดเองค่ะ ถ้าไม่ไปต่อปากต่อคำกับเขา ก็คงไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นมา เขาเพียงกระเซ้าเล่น ดูจากอีโมที่เขาใช้ :b28: อาจจะด้วยความเคยชิน คิดยังไงก็โพสมาอย่างนั้น เลยไม่ทันคิดว่า สำนวนบางสำนวนไม่เหมาะที่จะใช้กับผู้หญิง

ขอโทษอย่างมากมาย ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ถ้าใครเข้ามาอ่านข้อความที่โพสไว้เมื่อวานแล้วเข้าใจเขาผิด ส่วนดีของเขานั้นมีเยอะมาก มากเกินที่จะไปติติงเขามากมาย จริงๆแล้วเขาเป็นคนมีน้ำใจ ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจ ดูจากการที่เขาคอยติดตามสอบถามผู้ปฏิบัติที่ปรึกษากับเขา เขาจะติดตามอย่างต่อเนื่อง ความรู้ที่เขานำมาโพสอย่างต่อเนื่องก็ให้ประโยชน์ต่อผู้อื่นมากมาย รวมทั้งตัวเองด้วยก็ได้ประโยชน์จากข้อความนั้นๆ :b8:

รู้สึกผิดจริงๆค่ะ คิดว่าเรื่องจบไปแล้วตั้งแต่ลบข้อความที่โพสทิ้งไป นึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องยืดยาวออกมาอีก อย่าต่อว่าเขาอีกเลยนะคะ :b8:

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ว่าเราควรยับยั้งชั่งใจให้นานก่อนที่จะโพสข้อความลงไป การโพสด้วยอารมณ์ อาจทำให้คนดีๆหรือคนอื่นๆเขาเสียหายได้ :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 15 มี.ค. 2009, 10:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไม่ใช่คนแร้งน้ำใจ


“แร้ง” เป็นนกชนิดหนึ่งที่ชอบกินกินของเน่า กินซากศพซากสัตว์ตายแล้ว เนื้อตัวเหม็นสาบ สกปรก
อ่านๆข้างต้นก็รู้สึกดีอยู่ดอก แต่ถึง (ไม่ใช่คนแร้งน้ำใจ) รู้สึกโกรธๆ เสียใจจนน้ำตาร่วงน้ำตาหล่นเลย :b2:
คุณวลัยพรดูถูกกรัชกายมากๆ ในใจคงคิดว่า กรัชกายเป็นคนชอบกินของเน่า เนื้อตัวเหม็นสาบ สกปรก น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ฯลฯ
ไม่เคยมีใครดูถูกกรัชกายแบบนี้จริงๆ นะ นี่หากเป็นชายด้วยกันอืมมน่าดู :b6:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณกรัชกาย

ขอโทษด้วยค่ะ ที่ใช้ภาษาไทยผิดๆ แล้ง ค่ะ ไม่ใช่ แร้ง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 12:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อืมม ขอถามคุณคามินหน่อย เรารู้สึกโกรธ หลังจากอ่านข้อความนี้ => (ไม่ใช่คนแร้งน้ำใจ) โกรธๆ รู้สึกโกรธ พอใช้ได้หรือยังครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อืมม ขอถามคุณคามินหน่อย เรารู้สึกโกรธ หลังจากอ่านข้อความนี้ => (ไม่ใช่คนแร้งน้ำใจ) โกรธๆ รู้สึกโกรธ พอใช้ได้หรือยังครับ


โกรธ เป็นเพียงแค่ชื่อหนึ่ง-ของส่วนหนึ่งของโทสะนะ

คำว่า "โกรธ" หรือ "โกรธหนอ" มันไม่เพียงพอที่จะใช้อธิบายความรู้สึกที่เรียกว่าโทสะ
เหมือนเราไปพยามเรียกมอเตอร์ไซด์ว่า "จักรยานหนอ (โกรธหนอ)" ..
นานเข้าๆมันก้จะฝังหัวว่านี่จักรยานจริงๆ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปเรียกว่า "มอเตอร์ไซด์หนอ" (โทสะหนอ)
เพราะพูดตามจริง คนที่กำลังดูอยู่ ล้วนแล้วแต่ไม่รู้จักมอเตอรืไซด์มาก่อน
ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน ถ้าไปตั้งชื่อผิดอัน แล้วไปตั้งชื่อกำกับลงไป มันก็จะยุ่งยากไปอีกนาน

แต่ถ้าหัดดูไปนานๆ ดูไปตรงๆ ตามความเป็นจริง วิจัยแยกแยะจนช่ำชอง
ในที่สุดก็ไม่ต้องใช้ชื่อเรียกอะไรเลยก็ได้
แต่เข้าใจว่าจิตอย่างนี้ผิดไปจากปรกติ นำมาซึ่งความไม่สบาย



วิธีดูก็ง่ายๆ ถ้ารู้สึกว่ามีความดัน แรงดัน อยากจะผลักบางสิ่งบางอย่างออกมาจากใจ
เช่นอยากจะด่าเขา อยากจะขว้างของ อยากจะสาดอารมณ์ใส่เขา ฯลฯ
เรียกว่าอยากจะผลักอะไรบางอย่างออกไปจากใจ นั่นแหละโทสะ


มันจะมอเตอร์ไซด์หรือจักรยาน ถ้าเห็นอะไรก็ดูมันไปอย่างนั้น อย่างที่มันเป็น
ไม่ต้องไปกำหนดชื่อแส้ หรืออะไรหนอ หนออะไรอีก
ไม่ต้องไปปรุงสังขารมาทำให้มันซับซ้อนเข้าไปอีก
แล้วธัมวิจัยเอาว่า โทสะมันมีลักษณะผลัก ดัน อยู่ในจิต
โลภะ มีลักษณะ โหย อยาก ต้องการ จะเอาเข้า จิตอยากจะเอาเข้ามา

นี่ตอบอย่างจริงจังนะครับ
พยามจะปรุงไปว่าคนถามไม่มีเจตนาจะชวนคุยลองภูมิ
หรือทำแกล้งขี่ม้าเลียบค่ายมาท้ารบนะ

ขอตีปลาหน้าไซไว้ก่อนอย่างนี้นะ
:b21:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกายรู้ตัวแล้วว่าโกรธ คุณวลัยพร จึงถามคุณว่า (โกรธๆ รู้สึกโกรธ พอใช้ได้ หรือ ยัง ครับ) แบบนั้นน่ะ ใช้ได้หรือยัง ตอบสั้นๆว่า “ใช้ได้แล้ว” ว่า “ยังใช้ไม่ได้” จบประเด็นคำถาม
แต่นี่เหวี่ยงสะจับใจความไม่ได้ :b1:

ที่ถามนั้น เพราะเห็นข้อความของคุณที่ว่า

อ้างคำพูด:
(มีโกรธ มีโทสะ แต่ไม่เห็น ไม่รู้ตัว ผมว่า อาการน่าเป้นห่วงนะครับ
เห็นแล้วก็ได้แต่ อืม เนาะ อะนะ
)


พูดเหมือนคุณรู้ว่า คนนั้นคนนี้กำลังโกรธอยู่ แต่เขาไม่รู้ตัว จึงถามน่าขอรับ :b1:
หรือได้เจโต-ตามอาจารย์ไปแล้ว :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่คุยด้วยแล้วนะพี่
เหมือนคุยกันว่า "ไปไหนมา" ตอบ"สามวาสองศอก"
คนละ"คลื่น" / คนละ "ธาตุ" กันนะ


คุยตรงนี้ไม่พอ แวะไปเหน็บครูบาร์อาจารย์อีก สร้างบาปสร้างกรรมนะ
ตอบตรงประเด้นที่สุดแล้วนะ ยังว่าผมหลงประเด้น
ไม่ดูตัวเองว่าแตกประเด็นไปเหน็บ "พระอริยสงฆ์" อีก

กรรมฐานเสื่อมนะ ที่ยังไม่ได้ก็จะไม่ได้นะ น่ากลัวนะ
เชื่อไม่เชื่อก็อยู่เฉยๆ อย่าสนุกปากทำเล่น จะเดือดร้อนทีหลัง

ที่พูดนี่ไม่ได้หวงอาจารย์นะ ท่านสบายแล้ว ท่านไม่ได้ไม่เสียอะไรแล้ว
แต่ที่ห่วง คือ"ห่วงคนเหน็บ" มากกว่านะ
จะมาเสียหายใหญ่หลวงเพราะการประทะคารมเล็กๆน้อยๆ
เกลือแลกพิมเสน ไม่คุ้มนะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 15 มี.ค. 2009, 14:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2009, 14:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พูดเหมือนคุณรู้ว่า คนนั้นคนนี้กำลังโกรธอยู่ แต่เขาไม่รู้ตัว จึงถามน่าขอรับ :b1:
หรือได้เจโต-ตามอาจารย์ไปแล้ว :b12:


จิตยังไม่รวมเลย จะเอาเจโตเจไดอะไรครับ ปฐมฌานยังไม่ได้เลย
เรื่องโกรธนี่นะ มันไม่ต้องเจโตหรอกนะ ดูสำนวนพูด ดูบริบท ดุเจตนาก็รู้แล้ว

เข้าใจคำว่า"ปากปราศัย น้ำใจเชือดคอ"ไหม
พวกไอคอนแบบนี้ :b32: :b16: :b27: :b9:
มันอำพรางได้แต่คนพูด .. หลอกตัวเองว่าไม่ได้ด่าเขา
แต่หลอกคนอื่นไม่ได้นะ คนทั่วไปอ่านแล้วก้รู้ว่าด่า
ไม่งั้นคุณ walaiporn จะโกรธได้ยังไง

เจโต เจได อะไรไม่เกี่ยวนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร