วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 16:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ตอน เกือบเสียท่า

นานมาแล้ว ในเมืองเสริวะ มีพ่อค้า ๒ คนชื่อว่าเสริวะเหมือนกัน แต่ทว่านิสัยใจคอแตกต่างกันราวขาวกับดำ คนหนึ่งเห็นแก่ได้ แม้จะได้มาโดยวิธีดีหรือไม่ดีเป็นเอาทั้งนั้น ดังนั้นชาวบ้านชาวเมืองจึงต่อท้ายชื่อให้ว่า “เสริวะโลภ” ส่วนอีกคนใจซื่อถือมั่นอยู่ในศีลในธรรม ของเขาไม่เอา ของเราชอบให้ และไม่ยอมเอาเปรียบใคร ดังนั้นจึงได้ชื่อต่อท้ายว่า “เสริวะซื่อ”

ยังไงก็ตาม ทั้งสองก็อยู่บ้านตำบลเดียวกัน และทำมาหากินร่วมกัน โดยซื้อจำพวกเครื่องประดับมาเที่ยวขายตามบ้านน้อยเมืองใหญ่เรื่อยไป ซึ่งก็พอมีกำไรและอยู่กันได้เสมอมา

ต่อมาวันหนึ่ง ทั้งสองชวนกันไปขายเครื่องประดับที่บ้านตำบลหนึ่ง แต่เพื่อให้รวดเร็วทันกลับบ้านในวันเดียวจงตกลงแยกกันขาย โดยนายเสรีวะโลภเข้าทางตะวันตก ส่วนนายเสริวะซื่อเข้าทางตะวันออก จะได้มาบรรจบกันตรงหมู่บ้านแล้วก็พากันกลับพร้อมกัน

นายเสริวะโลภ ผู้เข้าทางตะวันตก เดินแร่ขายเรื่อยมาอย่างรวดเร็ว สักครู่ก็มาถึงบ้านเศรษฐีตกยากหลังหนึ่งซึ่งขณะนั้นมียายกับหลานสาว อยู่บ้านเพียงสองคนเท่านั้นและหลานสาวพอเห็นเครื่องประดับสวยๆ เข้า ก็นึกอยากได้เป็นกำลัง

“เราไม่มีเงินจะซื้อเขาหลานเอ๊ย!” ยายปลอบ “อดใจไว้สักหน่อยเถอะ รอให้เรามีเสียก่อนค่อยซื้อใส่”

“แหม! ยายก็ พอหนูอยากได้ทีไรก็บอกว่าไม่มีทุกที” หลานสาวตัดพ้อต่อว่า พร้อมกับร้องห่มร้องไห้เป็นการใหญ่ “ไม่ยอมคราวนี้เป็นตายยังไงหนูต้องเอาให้ได้”

“โถ! แม่คุณ ก็เราไม่มีเงินจริงๆ นี่จ๊ะ” ยายครวญ พลางเอื้อมมือไปลูบศรีษะหลานสาว ด้วยความสงสารเห็นใจ “นิ่งเสียเถอะ คนดี อายพ่อค้าเขา”

“แต่ยังไง ยายต้องซื้อให้หนู” หลานสาวคงตะแบงจะเอาให้ได้ “ไม่มีเงินก็เอาของแลกเอาซียาย”

ฝ่ายยายเมื่อได้ยินหลานสาวพูดเช่นนั้น ก็นึกถึงถาดเก่าสนิมเขรอะใบหนึ่ง ซึ่งทิ้งไว้กันครัวมาเป็นเวลานานแล้วขึ้นมาได้ จึงบอกหลานว่า

“งั้นรอยายเดี๋ยวนะ ยายจะไปเอาของมาแลกเขาให้”

ครั้นแล้ว ก็รีบลุกเดินเข้าไปในครัว หยิบถาดเก่าเกรอะกรังด้วยสนิมและฝุ่น จนแทบจะดูไม่ออกว่าเป็นถาดออกมาวางลงตรงหน้าพ่อค้า

“นี่จ๊ะ พ่อคุณ ยังไงก็นึกว่ากรุณาหลานยายเถอะ” แก่พูดเสียงละห้อย “เงินทองยายไม่มี แต่หลานยายอยากได้เครื่องประดับ พ่อคุณจงรับเอาถาดใบนี้ไปเถอะ แล้วเอาเครื่องประดับให้หลานสาวยายบ้างก็แล้วกัน”

นายเสริวะโลภหยิบถาดใบนั้นขึ้นมาพิจารณา พลางล้วงเข็มในกระเป๋าเสื้อมากรีดดู ก็รู้ว่าถาดนั้นเป็นทองคำ และครั้นเอาวางบนฝ่ามือลองชั่งดูน้ำหนัก ปรากฏว่าหนักหลายร้อยบาทและมีราคาไม่ต่ำกว่าแสนทีเดียว

“ถาดของยายไม่มีราคาค่างวดอะไรนี่” เขาแกล้งวางถาดลงกับพื้น พลางส่ายหน้า เพื่อกดราคาหรือมิฉะนั้นก็จะเอาไปเสียเปล่าๆ “ฉันรับไม่ได้หรอก”

“โถ! พ่อคุณ นึกว่ากรุณาเถอะ” ยายอ้อนวอน

“ไม่ได้ ฉันรับไม่ได้หรอก ของๆ ฉันซื้อมาเป็นเงินเป็นทอง มิใช่มาแลกกับของห่วยๆ อย่างงี้ ฉันก็ขาดทุนแย่นะซี”

นายเสรีวะโลภ คงแกล้งส่ายหน้าไม่ยอมรับท่าเดียวและเพื่อให้ยายหลานเห็นสมจริงยิ่งขึ้น เขารีบลุกเดินหนีไปบ้านอื่น ด้วยหวังจะย้อนกลับมาเอาใหม่

“เดี๋ยวเรากลับมาอีกที แกก็ต้องอ้อนวอนให้เอาถาดนั้นแลกเปลี่ยนเครื่องประดับเราอันสองอันเท่านั้นเอง หวานคอแร้งแน่ๆ”

เขาเดินพลางพึมพำกับตัวเอง อย่างกระหยิ่มยิ้มย่องใจเป็นที่สุด

บางทีมันอาจจะเป็นโชค ของยายและหลานคู่นี้ก็ได้ พอนายเสรีวะโลภเดินลงจากบ้านแกไปได้ไม่ทันไร นายเสรีวะซื่อก็มาถึง และเมื่อขึ้นไปนั่งบนบ้านยาย แกก็เอาถาดใบนั้นมาขอแลก กับเครื่องประดับให้หลานสาวอย่างเคย

“ยายไม่มีเงิน มีแต่ถาดนี้แหละ” แกบอกกับเสรีวะซื่อ “ถ้าสงสารยายกับหลานก็โปรดรับไว้เถอะ แล้วเอาเครื่องประดับให้หลานสาวยายบ้านก็แล้วกัน”

นายเสรีวะซื่อจับถาดใบนั้นขึ้นมา รู้สึกว่าหนักกว่าถาดธรรมดา จึงล้วงเข็มในกระเป๋าเสื้อมากรีดดูก็รู้ว่าเป็นทองคำ

“ยายจ๋า! ถาดของยายใบนี้เป็นทองคำ มีราคาเป็นแสน” เขาบอกกับยายอย่างตรงไปตรงมา “ส่วนเครื่องประดับของฉันมีราคาเพียงห้าร้อยเท่านั้น ฉันแลกกับยายไม่ได้หรอก”

“เอ๊ะ เมื่อกี้นี้พ่อหนุ่มคนนั้นเขามาดูแล้ว บอกว่าถาดนี้ไม่มีราคาค่างวดอะไรนี่นา” ยายท้วงขึ้นอย่างแปลกใจ “แต่เอาเถอะ เมื่อพ่อหนุ่มเห็นเป็นทองคำมันก็คงจะเป็นบุญของพ่อละซี ยังไงขอให้ยายแลกกับเครื่องประดับเถอะ”

“ไม่ได้หรอกยาย ฉันทำยังงั้นไม่ได้หรอก” นายเสริวะซื่อคงยืนกรานปฏิเสธ “ถาดของยายราคาสูงค่านัก ถ้ายายอยากได้เครื่องประดับจริงๆ ฉันจะให้ยายเปล่าๆ”

“ไม่เอา พ่อคุณ ถ้าพ่อคุณไม่เอาถาดใบนี้ไป ฉันก็ไม่เอาเครื่องประดับหรอก” ยายปฏิเสธเหมือนกัน “ยังไงก็ช่วยยายเถอะน่า อย่าคิดเป็นทองคำอะไรเลย คิดว่าเป็นเพียงถาดธรรมดาใบหนึ่งเท่านั้นก็พอ”

ยายพยายามอ้อนวอนเขาต่อไปอีกหลายครั้ง จนในที่สุด เขาก็อ่อนใจ ยอมตกลงยกเครื่องประดับทั้งหมดของเขาให้ พร้อมกับแถมเงินให้อีก ๕๐๐ กหาปณะ แล้วถือเอาถาดทองนั้นลงเรือนไป

เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ นายเสริวะโลภก็ย้อนกลับมาหมายจะเอาถาดทอง แต่ครั้นมาถึงก็ได้ทราบว่าเสริวะซื่อได้ไปเสียแล้ว

“โธ่! เพื่อนระยำ มันทำข้าได้” เขาโอดกาเหว่าเขาอ่อนลงทันที “ดีละ เดี๋ยวข้าจะตามไปเอามาเป็นของข้าให้ได้”

ครั้นแล้ว ก็รีบแข็งอกแข็งใจคว้าไม้วิ่งไล่ตามเพื่อนผู้ได้ถาดทองไปอย่างเร่งรีบ แต่ช้าไปเสียแล้วเขาไปถึงท่าน้ำนายเสรีวะซื่อลงเรือไปลอยอยู่กลางแม่น้ำเสียแล้ว

“เฮ้ย! กลับมาก่อน” เขาตะเบ็งเสียงเรียกลั่นขึ้น

แต่ไร้ผล เพราะเพื่อนของเขาอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยิน

กระนั้น เขาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะแหกปากตะโกนเรียกต่อไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดแรงตะเบ็งเกร็งเสียงนั่นเอง คอก็แตก กระอักเป็นเลือดสดๆ ออกมาพร้อมกับร่างของเขาทรุดฮวบลงสู่พื้นดิน

“ดีละ ฝากไว้ก่อน” เขาพยายามพึมพำประโยคสุดท้ายออกมาอย่างยากเย็นแสนเข็ญเต็มที่ “ชาติหน้าข้าจะตามล้างแกให้ได้ และขอให้ได้ตามล้างแกทุกๆ ชาติ”

และแล้วนายเสริวะโลภก็ดับดิ้นสิ้นใจตาย ณ ที่นั้นนั่นเอง

คติที่จะได้จากเรื่องนี้ คือ ขึ้นชื่อว่าคนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนสมัยใด ย่อมมีทั้งคนดีและคนชั่ว มีทั้งคนเล่ห์เหลี่ยมจัดและคนซื่อ ดังนั้น การจะคบใครควรเลือกคบเฉพาะคนดีกับคนซื่อเท่านั้น แล้วก็คอยระมัดระวังคนชั่วกับคนเล่ห์เหลี่ยมจัด อย่าให้เข้ามาใกล้ มิฉะนั้นจะเสียท่าอย่างคาดไม่ถึง


ที่มา : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ โดย จอม บุญตาเพศ ป.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร