วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=25



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

คำสอนของพ่อ
เรื่อง...“เศรษฐกิจพอเพียง”


เรื่องโดย อมรรัตน์ ล้อถิรธร
จาก...ผู้จัดการออนไลน์ 21 ก.ย. 48


ทุกครั้งที่บ้านเมืองประสบภาวะวิกฤต
ทุกคนจะคิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ด้วยพระองค์ได้ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรมาโดยตลอด
ยามนี้กระแสสังคมมีการพูดถึงพระราชดำรัสเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”
ที่พระองค์ได้เคยพระราชทานแก่รัฐบาลชุดต่างๆ และคณะบุคคลที่ได้เข้าเฝ้าฯ

ผู้จัดการออนไลน์ ขอน้อมนำบางส่วนของพระราชดำรัสในเรื่องดังกล่าว
มาเผยแพร่ส่งผ่านถึงประชาชนคนไทยทุกคน
ด้วยคิดว่าเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ทันสมัยอยู่เสมอ
และสอดคล้องเหมาะควรกับประเทศไทยและคนไทยทุกยุคทุกสมัย
ต่อไปนี้คือบางส่วนของพระราชดำรัสที่พระองค์ได้พระราชทาน
แก่รัฐบาลและคณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าถวายพระพร
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


วิกฤต...อะไรที่ควรทำ อะไรที่ควรเว้น

ในระยะนี้ที่บอกว่าเป็นระยะวิกฤตก็ต้องพิจารณาอยู่เสมอว่า
“อะไรที่ควรจะทำ อะไรที่ควรจะเว้น”
ที่ท่านเห็นอยู่บนเวทีนี้คงแปลกใจ
ทำไมจะมาตี “กลองยาว” หรืออย่างไร
แต่ว่าข้อสำคัญหีบที่ใส่กลองยาวนี้เห็นได้ชัดว่า
เขียนว่า “เมดอินไทยแลนด์”

เมดอินไทยแลนด์นี่จะเป็นประโยชน์
ถ้าเรามาใช้ของไทย ซื้อของไทย เที่ยวเมืองไทย กินข้าวไทย
อันนี้จะได้ประโยชน์ แต่ว่าก็ไม่แก้ปัญหา
ปัญหามีอยู่ว่า เมื่อผู้ที่ทำกลองนี้เขาเป็นบริษัท
เป็นร้านที่นำเข้าสินค้าที่เขาขาย เขาบอกแย่
เพราะเขานำเข้ามา ก็ต้องเสียเงินแพง
และต้องขายในราคาเดิมที่มีการตกลงว่าจะขาย
เขาบอกขาดทุน แต่เขามีความคิดอยู่
เขาสามารถที่จะผลิตกลองนี้และส่งนอก
ส่งไปที่อเมริกาส่วนหนึ่ง ส่งไปที่ยุโรปส่วนหนึ่ง
และเขาทำงานหนัก ก็เพิ่งได้ส่งไป
หมายความว่า เขาถัวกับที่เขาสั่งเข้า
เขาถัวไปก็ยังพอไปได้ ถ้ากลองนี้เป็นที่นิยมมาก
ก็สามารถที่จะมีกำไรและประเทศชาติก็จะมีกำไรไปด้วย

หมายความว่า การสั่งของจากต่างประเทศ
มีความจำเป็นบ้างในบางกรณีแต่ก็สามารถที่จะส่งออกนอก
ซึ่งผลิตที่ทำในเมืองไทย ไม้ที่ใช้ก็เป็นไม้ที่มีในเมืองไทย
คือเป็นไม้ที่โดยมากก็ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ใช่ไม้ต้องห้าม
อย่างที่เขาห้ามตัดป่าไม้ ไม่ใช่ไม้ที่เป็นป่าไม้
เป็นไม้ยางพารา ไม้ยางพาราที่ต้องเปลี่ยนเพื่อให้มีผลผลิตยางให้ดี
เขาก็เปลี่ยน เขาก็ตัดยางเก่าเอามา
โดยมากก็ไม่ได้ใช้มากนัก มาตอนหลังเขาใช้ทำเครื่องเรือน
แต่สำหรับในกรณีนี้เขาลงไปภาคใต้ไปซื้อไม้ยางพารา
มาด้วยตนเองแล้วมาทำกลองนี้
มีกลองแบบกลองยาวและมีกลองเล็กๆ ใช้ไม้ในเมืองไทย
และที่ขึงหนังบนกลองก็เป็นสิ่งที่ผลิตในเมืองไทยเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นสามารถทำให้มีการส่งออกสิ่งของ
ที่ทำด้วยวัตถุดิบในเมืองไทยและทำด้วยแรงงานของคนไทย
อันนี้เป็นการแก้ไขสถานการณ์วิกฤตอย่างดี
เป็นของเอกชน เขาทำเอง
แต่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย เขาบอกเหนื่อยมากจะเป็นโรคประสาท
เพราะว่าทำไม่ทันที่จะส่ง แต่เมื่อส่งแล้ว
เขาก็มาพบและมามอบผลิตผลของเขา
และบอกว่าสบายใจขึ้น อันนี้เป็นวิธีแก้ไข
ที่เห็นเป็นประจักษ์ว่า ทำได้ แต่ต้องมีความเพียร ต้องมีความอดทน

ดังนี้ ทำให้ได้คิดว่า ทำไมวิกฤตการณ์เกิดขึ้นได้
เราเป็นเมืองอุดมสมบูรณ์ และเราได้ชื่อว่ากำลังก้าวหน้า
ไปสู่เมืองที่เป็นมหาอำนาจทางการค้า
ทำไมเกิดวิกฤตการณ์

ความจริงวิกฤตการณ์นี้เห็นมาแล้ว
แต่ไม่รู้ตัวมา 40 กว่าปี
เมื่อ 40 กว่าปี มีผู้หนึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยมาขอเงิน
ที่จริงเคยได้ให้เงินเขาเล็กๆ น้อยๆ
เขาบอกไม่พอ เขาก็ขอยืมเงิน ขอกู้เงิน ก็บอกเอ้าให้
แต่ขอให้เขาทำบัญชี บัญชีรายรับ บัญชีรายจ่าย
รายรับคือเงินเดือนของเขา และรายรับที่อุดหนุนเขา
ส่วนรายจ่ายก็เป็นของที่ใช้ในครอบครัว
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ครั้งนั้นไม่เข้าใจ ไม่เคยเห็น ไม่เคยทราบ
คือมีรายการหนึ่งบอกว่า “ค่าแชร์”
แล้วอีกตอนหนึ่งก็มีค่าแชร์อีก

ก็ถามเขาว่า “แชร์” คืออะไร ?
เขาก็อธิบายว่า เป็นเงินที่จ่ายให้เจ้ามือทุกเดือน
และเมื่อเดือดร้อนก็ขอประมูลแชร์ได้
แต่ประมูลนี้หมายความว่า สมมติแชร์ 100 บาท
เขาจะได้รับคล้ายๆ เป็นเงินกู้
เงินควรจะเป็นเงิน 1,200 บาทในปีหนึ่งก็ควรจะดี
แต่ว่าเขาไม่ได้ 1,200 บาท เขาได้ 800 บาท หรือ 700 บาท
แล้วแต่ประมูลได้ แล้วคนที่มีเงินเขาไม่ประมูล
เขาทิ้งไว้ในแชร์นั้น พอถึงเวลาเขา
ก็ได้กลับคืนเงินมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย

อย่างนี้ถามเขาว่า สามารถจะหมุนเงินนี้ได้หรือเปล่า ?
ถามว่าทำไมแชร์แล้วยังซ้ำแชร์อีก
เขาบอกว่า สำหรับจ่ายแชร์เดือนนั้น
ต้องทำแชร์สัปดาห์ 7 วันนี้ เขาเปียแชร์มาเพื่อไปใช้ค่าแชร์เดือน
เขานึกว่าเขาฉลาดและความจริงแชร์นี้ไม่ใช่เฉพาะคนนี้ทำ
แต่ทั่วไปทุกแห่ง ทั้งราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ก็มี
ทุกบริษัททุกส่วน แม้เอกชนก็มีแชร์
เลยบอกให้เขาเลิกแชร์และให้ทำบัญชีมา
ทีหลังเขาทำบัญชีมา เขาไม่ขาดทุนแล้ว
เขาสามารถที่จะมีเงินพอใช้
เพราะว่าบอกเขาว่า เรามีเงินเดือนเท่าไร
จะต้องใช้ภายในเงินเดือนของเรา
เพราะการทำแชร์เท่ากับเป็นการกู้เงิน
กู้เงินนำมาใช้ในสิ่งที่ไม่มีรายได้ อันนี้เป็นข้อสำคัญ
เพราะว่าถ้ากู้เงินและทำให้มีรายได้ก็เท่ากับจะใช้หนี้ได้
ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ

มีอีกรายหนึ่งในระยะนั้นเมื่อ 40 ปีมาแล้ว
เขาขอกู้เงิน 30,000 บาท เอาไปซื้อเครื่องมือ
สำหรับตัดเย็บผ้าให้ภรรยาทำร้านก็ตกลงให้เขา
ในที่สุดเมื่อเขาตั้งร้านแล้ว เขาก็เอาเงินมาคืน
ทุกเดือนสม่ำเสมอ จนกระทั่งหมดจำนวนที่ได้ให้กู้
ด้วยความฉลาด ด้วยความซื่อสัตย์ของเขา
รู้ว่ากิจการนี้จะทำให้มีกำไรได้
สามารถที่จะคืนเงินมาให้ครบจำนวนที่กู้
ต่อไปเป็นกำไรทั้งนั้นก็ชมเขาว่าดี
คนนี้เขาเป็นคนซื่อสัตย์
ในที่สุดมาเป็นคนที่ช่วยในด้านช่างฝีมือ
และได้รับใช้อย่างซื่อสัตย์จนกระทั่งถึงสิ้นอายุ

มีอีกรายหนึ่ง เขาเอาหัวเข็มขัดมาให้
เราถามว่าหัวเข็มขัดนี้เอามาให้ทำไม
ในที่สุดทราบว่าเขาขอกู้เงิน
อันนี้เป็นสิ่งที่ประหลาดเพราะว่าเขาไม่มีเงินใช้
ทำไมไปซื้อหัวเข็มขัดซึ่งก็ราคาไม่ใช่ถูก
แล้วเอามาให้ เลยบอกเขาว่าไม่ให้
เพราะทราบดีว่าถ้าให้เขา เขาจะไม่มีเอามาใช้เรา
กู้เงินจะให้เขาก็มี แต่ว่าถ้าให้เงินเขาแล้วก็ไม่มีผล
คือเขาเอาไปใช้อีลุ่ยฉุยแฉก
และไม่มีผลอย่างผู้ที่ขอกู้สำหรับทำอาชีพ
จะกลายเป็นการทำให้คนเขายิ่งเสียใหญ่
อันนี้เป็นสิ่งที่จะต้องสอน กู้เงิน
เงินนั้นจะต้องให้เกิดประโยชน์
มิใช่กู้สำหรับไปเล่นไปทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์

อันนี้มีอีกคนหนึ่ง เขาจะแต่งงานและขอกู้เงิน
เลยนึกว่าคนนั้นเขาทำงานมาดี
น่าจะให้เหมือนเป็นรางวัลเขา
ก็ให้เงินเขา 10,000 บาท สมัยโน้น 10,000 บาทมิใช่น้อย
10,000 บาทเพื่อไปจัดงานแต่งงานของเขา
เขาก็ตกลงแต่งงานและยังไม่ได้คืนเงิน
ไม่ค่อยถืออะไร เพราะว่าเขาแต่งงาน เขามีความสุขก็ดีไป
เขาทำงานได้ดี แต่หารู้ไม่สักปีสองปีให้หลัง
เขามาขอเงิน 30,000 บาท ก็บอกเอ๊ะ ! 30,000 บาท
เอาไปทำอะไร เขาบอกว่า เมื่อแต่งงาน เงินเขาไม่พอ
เลยไปกู้เงินที่อื่นมา แต่ใช้คืนไม่ได้เลยต้องเสียดอกเบี้ย
จนกระทั่งใช้คืนเงินต้นหมดแล้ว
ต้องใช้ดอกเบี้ยจำนวนนั้นด้วยคือ 30,000 บาท
ไม่นับ 10,000 บาทที่เราให้เขาไปแล้ว
หมายความว่า ไปติดนุงนัง
หนี้ไม่สามารถที่จะใช้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ได้รู้อีกว่า ถ้าไม่ได้อย่างนี้เขาจะฆ่าตัวตาย
เพราะว่าไม่มีทางออก เงินเดือนเขาไม่พอจะใช้หนี้
ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย
เพราะว่าต้องติดอีกต่อไปทบต้น
ก็เห็นว่าครั้งแรกเขายืมเงินสำหรับแต่งงานน่าจะมีความสุข
กลับมีความทุกข์ เลยไหนๆ ให้ไป 10,000 บาท
แล้วก็ให้ไปให้ครบที่จะไปใช้หนี้ได้
ลงท้ายเขาสามารถที่จะมีชีวิตต่อไปและทำงานได้
แต่คงเป็นบทเรียนที่ดี อันนี้หมายความว่า
เขาขอเราก็ให้ เราจะได้ช่วยชีวิตเขา

มีอีกรายหนึ่งเป็นคนข้างนอกมาบอกว่า
ลูกของเขาเจ็บตา ถ้าไม่ทำอะไรตาจะบอด
เราก็สงสารเขา ให้เงินเขา 30,000 บาทเหมือนกัน
ลงท้ายไม่ทราบว่าลูกเขาได้ไปผ่าตัดตาได้ผลดีอย่างไร
แต่วันหนึ่งโผล่มาอีกทีบอกว่า รักษาตาลูกเรียบร้อยแล้ว
แต่ขอบ้านอยู่ และบ้านนั้นเขาไปสืบเสร็จว่าบ้านนั้นว่าง
แล้วมาขออยู่ฟรี เลยเลิกเลย
เพราะเขาควรจะมีฐานะพอสมควรที่จะมีบ้านอยู่
บ้านที่ขอนี้นับว่าเป็นบ้านใหญ่
ถ้าขอบ้าน ถ้าให้บ้าน เขาก็ต้องมาขอค่าใช้จ่ายสำหรับบ้านอีก
เมื่อบ้านใหญ่คงมีญาติมีเพื่อนมาอาศัยบ้านก็ต้องเสียเงินอีก
เลยบอกว่าไม่ให้ ที่พูดว่าไม่ให้นั้น
เรียกว่ามีความเดือดร้อนเหมือนกันที่จะพูดอย่างนั้น
จะว่าสงสารก็สงสาร เวลาใครมาขออะไร
แล้วไม่สามารถที่จะให้มันก็ไม่ค่อยสบายใจ
ในที่สุดก็เงียบไป ข้อเหล่านี้ที่เล่าให้ฟัง
เพราะว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์ในปัจจุบัน

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


ทำอย่างเหมาะสมกับอัตภาพ

ขอเล่านิทานอีกเรื่อง คือ
ไปทางชลบุรีครั้งหนึ่งก็หลายสิบปีแล้ว
มีพ่อค้าคนหนึ่งเขาบอกว่า เขาทำโรงงานสับปะรดกระป๋อง
เขาลงทุนเป็นล้าน จำไม่ได้ว่ากี่ล้านเพื่อสร้างโรงงาน
การลงทุนมากอย่างนั้นเลยบอกให้เขาทราบว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย
เพราะว่าเคยทำโรงงานเล็กๆ ที่ทางภาคเหนือใช้เงิน 300,000 บาท
เพื่อที่จะเอาผลิตผลของชาวบ้านชาวเขามาใส่กระป๋องแล้วขาย
ก็ได้ผลเพราะเป็นโรงงานเล็กๆ
แต่โรงงานเขาเองลงทุนเป็นล้านรู้สึกว่าเสี่ยง
เขาบอกว่า ต้องทำอย่างนั้น เขาก็ลงทุน
ทำไปทำมาสับปะรดที่อำเภอบ้านบึงและที่ชลบุรีก็มีไม่พอ
ต้องไปสั่งสับปะรดมาจากปราณบุรี ต้องขนส่งมา
ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ทำไปทำมาโรงงานก็ล้ม
อย่างนี้แสดงให้เห็นว่า ทำโครงการอะไร
ต้องให้นึกถึงขนาดที่เหมาะสมกับที่เรียกว่า
อัตภาพหรือกับสิ่งแวดล้อม

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


รอบคอบและอย่าตาโต

นี่พูดไปพูดมายังคิดถึงอีกรายหนึ่งที่ลำพูน
มีการตั้งโรงงานสำหรับแช่แข็งผลผลิตของชาวไร่ได้ไปเยี่ยม
แล้วเขาบ่นว่า คุณภาพของข้าวโพดที่ใช้ใส่กระป๋องสำหรับแช่แข็ง
คุณภาพไม่ค่อยดี เขาบอกว่าซื้อในราคาแพงไม่ได้
ตอนนั้นไม่ทราบว่าเขาจะมีอันเป็นอย่างไร
ได้บอกเขาว่าน่าจะส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด
ให้ได้ข้าวโพดที่คุณภาพดี โรงงานจะเจริญ
เขาบอกว่าให้ไม่ได้ เพราะว่าคุณภาพเขาไม่ดี
อันนี้เป็นปัญหาโลกแตก ถ้าไม่ให้ราคาดี
หรือไม่สนับสนุนเกษตรกรก็ทำให้ข้าวโพดคุณภาพดีไม่ได้

เรื่องนี้ตอนแรกอาจจะดูเหมือนขาดทุน
ดูจะไม่ได้ประโยชน์ จะไม่ได้คุณภาพ
จะได้ข้าวโพดที่ฟันหลอ ซึ่งเขาบอกเขาต้องทิ้ง
เพราะว่าเครื่องจักรของเขาต้องมีข้าวโพดที่มีขนาดที่เหมาะสม
เมื่อเป็นอย่างนั้น ความจริงไม่ได้แช่งเขา
แต่นึกในใจว่าโรงงานอยู่ไม่ได้ และในที่สุดก็จริงๆ ก็ล้ม
อาคารอะไรต่างๆ ยังอยู่เดี๋ยวนี้ แต่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
เกะกะอยู่อย่างนั้น ฉะนั้นการที่จะทำโครงการอะไร
จะต้องทำด้วยความรอบคอบและอย่าตาโตเกินไป

คือบางคนเขาเห็นว่า แม้มีโอกาสที่จะทำโครงการอย่างโน้นอย่างนี้
และไม่ได้นึกถึงว่าปัจจัยต่างๆ ไม่ครบ
ปัจจัยคือ ขนาดของโรงงาน หรือเครื่องจักรที่สามารถจะปฏิบัติได้
แต่ข้อสำคัญที่สุด คือ วัตถุดิบ เอาวัตถุดิบมาแล้ว
ไม่สามารถที่จะให้ค่าตอบแทนกับเกษตรกรที่นำวัตถุดิบมาส่ง
ยิ่งถ้าวัตถุดิบสำหรับทำในโรงงานนั้นเป็นวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าก็ยิ่งยาก
เพราะว่าวัตถุดิบที่นำเข้านั้นราคาไม่สม่ำเสมอ
บางปีวัตถุดิบนั้นบริบูรณ์ราคาอาจจะต่ำลงมา
แต่เวลาจะขายสิ่งของที่ทำที่ผลิตจากโรงงาน
หรือจากกิจการก็ขายยากเหมือนกัน
เพราะมีมากจึงทำให้ราคาตก อันนี้เป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องมี

ข้อสำคัญอยากจะพูดถึงว่า ถ้าหากว่าเราทำโครงการที่เหมาะสม
ขนาดที่เหมาะสม อาจจะไม่ดูหรูหรา แต่ว่าจะไม่ล้ม
หรือถ้าล้มถ้ามีอันตรายไปก็ไม่เสียมาก
เช่น โรงงานกระป๋องที่ริเริ่มทำที่อำเภอฝางนั้น
วันหนึ่งเขาติดต่อมาบอกว่าน้ำท่วม
น้ำจากเขาลงมาพัดโรงงานเสียหาย
เลยบอกว่าไม่เป็นไรจะสนับสนุนเงินเพิ่มเติม
เพราะที่ดินตรงนั้นซื้อแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้ก็ไม่เสียหมด
ก็สนับสนุนเขาอีก 400,000 ก็ตั้งขึ้นมาใหม่ต่อไป
ก็ใช้งานได้มีกำไร อันนี้หลายปีมาแล้ว

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


เศรษฐกิจแบบพอเพียง

มาใหม่ๆ นี้ โครงการต่างๆ ก็เกิดขึ้น
โรงงานก็เกิดขึ้นมาก จนกระทั่งคนเขานึกว่าประเทศไทย
เป็นเสือตัวเล็กๆ และเป็นเสือตัวโตขึ้น
เราไปเห่อว่าจะเป็นเสือ
ความจริงเคยพูดเสมอในที่ประชุมอย่างนี้ว่า
การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ
สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน
และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน
แบบพอมีพอกินหมายความว่า
อุ้มชูตัวเองได้ให้มีพอเพียงกับตัวเอง
อันนี้เคยบอกว่า ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่า
ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัว
จะต้องทอผ้าใส่ให้ตัวเองสำหรับครอบครัว อย่างนั้นมันเกินไป
แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอจะต้องมีความพอเพียงพอสมควร
บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้
แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไร ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก

อย่างนี้นักเศรษฐกิจต่างๆ ก็มาบอกว่าล้าสมัย
จริง...อาจจะล้าสมัย เพราะว่าคนอื่นเขา
ก็ต้องมีการเศรษฐกิจที่ต้องมีการแลกเปลี่ยน
เรียกว่าเป็นเศรษฐกิจการค้า ไม่ใช่เศรษฐกิจความพอเพียง
รู้สึกไม่หรูหรา แต่เมืองไทยเป็นประเทศที่มีบุญอยู่ว่า
การผลิตที่พอเพียงทำได้

อย่างข้าวที่ปลูก เคยสนับสนุนให้ปลูกข้าวให้พอเพียงกับตัวเอง
เก็บเอาไว้ในยุ้งเล็กๆ แต่ละครอบครัวเก็บและถ้ามีพอก็ขาย
แต่คนอื่นกลับบอกว่าไม่สมควร โดยเฉพาะทางภาคอีสาน
เขาบอกต้องปลูกข้าวหอมมะลิเพื่อที่จะขาย
อันนี้ถูกต้องข้าวหอมมะลิขายได้ดี
แต่เมื่อขายแล้วของตัวเองจะบริโภคเองต้องซื้อ
จะซื้อจากใคร ทุกคนปลูกข้าวหอมมะลิ ในภาคอีสาน
ส่วนมากเขาชอบบริโภคข้าวเหนียว
ซึ่งใครจะเป็นคนปลูกข้าวเหนียว
เพราะว่าประกาศโฆษณาว่าคนที่ปลูกข้าวเหนียวเป็นคนโง่
อันนี้ที่เป็นสิ่งสำคัญเลยสนับสนุนบอกว่า
ให้เขาปลูกข้าวบริโภค เขาชอบข้าวเหนียวก็ปลูกข้าวเหนียว
เขาชอบข้าวอะไรก็ตามให้เขาปลูกข้าวอย่างนั้น
และเก็บไว้เพื่อใช้บริโภคตลอดปี
ถ้ายังมีที่ที่จะทำนาปรังหรือมีที่มากพอสำหรับปลูกข้าว
ก็ปลูกข้าวหอมมะลิเพื่อที่จะขาย
ที่พูดอย่างนี้เพราะว่า ข้าวที่ปลูกสำหรับบริโภคไม่ต้องเที่ยวรอบโลก
ถ้าข้าวที่ซื้อมาต้องข้ามจังหวัด
หรืออาจจะข้ามประเทศมา ค่าขนส่งนั้นก็บวกเข้าไปในราคาข้าว

เขาบอก ขายข้าวหอมมะลิได้ราคาแพงซึ่งเป็นความจริง
ตอนที่ขายผู้บริโภคในต่างประเทศ
แต่ต้นทางไม่ได้ค่าตอบแทนมากนัก
และยังต้องไปซื้อข้าวบริโภคซึ่งจะแพงกว่า
เพราะว่าต้องขนส่งมา
ข้อนี้ได้ทราบดีเพราะว่าเมื่อมีภัยธรรมชาติจะเป็นที่ไหนก็ตาม
สมมติว่ามีอยู่ที่เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า
ออกไปสงเคราะห์และก็ขอข้าวที่จะไปแจก
เราก็ซื้อข้าวในราคากรุงเทพฯ
หมายความว่าข้าวนั้นมาจากเชียงราย
เพราะเชียงรายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ มาจากเชียงราย
เสียค่าขนส่งเท่าไร แต่แท้จริงไปซื้อที่เชียงรายได้
ซื้อที่กรุงเทพฯ แต่ให้เขาจ่ายที่เชียงราย
ข้าวนั้นไม่ต้องเดินทาง แต่ว่าราคาเขาเดินทาง
คือ พ่อค้าเขานำข้าวในนามในเอกสารนำเข้ากรุงเทพฯ
เขาเอาค่าเดินทางของข้าวจากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ
และบวกค่าเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงราย
ลงท้ายต้องเสียเงินราคาข้าวแพง
ผู้ที่บริโภคข้าวในภาคเหนือก็ต้องเสียแพงเช่นเดียวกับภาคใต้
ถ้าใกล้หน่อยอย่างนราธิวาสก็ซื้อข้าวจากพัทลุง

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจแบบค้าขาย
ภาษาฝรั่งเขาเรียก Trade Economy ไม่ใช่แบบพอเพียง
ซึ่งฝรั่งเรียก Self-Sufficient Economy
ถ้าเราทำแบบที่ไหนทำได้คือเศรษฐกิจแบบพอเพียงกับตัวเอง
เราก็อยู่ได้ไม่ต้องเดือดร้อน

พูดกลับไปกลับมาในเรื่องการค้า การบริโภค การผลิต
และการขาย รู้ว่าท่านทั้งหลายกำลังกลุ้มใจในวิกฤตการณ์
ตั้งแต่คนที่มีเงินน้อยจนกระทั่งคนที่มีเงินมาก
แต่ถ้าสามารถที่จะเปลี่ยนให้กลับเป็นเศรษฐกิจแบบพอเพียง
ไม่ต้องทั้งหมด แม้จะไม่ถึงครึ่ง อาจจะเศษหนึ่งส่วนสี่
ก็จะสามารถที่จะอยู่ได้ การแก้ไขจะต้องใช้เวลา ไม่ใช่ง่ายๆ
โดยมากคนก็ใจร้อนเพราะเดือดร้อน
แต่ว่าท่านทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ก็จะสามารถที่จะแก้ไขได้

ในเมืองไทยนี้มีที่ดินกว้างขวางพอสมควร
แม้จะมีอัตราการเพิ่มของพลเมืองขึ้นมามาก
แต่ก็ยังมีที่ดิน แต่ที่ดินส่วนมากเป็นที่ดินแร้นแค้น
ที่ไม่ดี บางแห่งก็เปรี้ยว บางแห่งก็เป็นด่าง บางแห่งก็เค็ม
หรือบางแห่งก็ไม่มีดินเลย อย่างเช่นที่ชะอำ
เดินๆ ไปสงสัยว่าทำไมตรงนี้ดินมันแข็ง
มันเป็นดาน ดานไม่มีดินเลย
เดี๋ยวนี้กำลังหาวิธีซึ่งใช้ได้ผลไปส่วนหนึ่งแล้ว
โดยใช้หญ้าแฝก หญ้าแฝกนั้นจะระเบิดหิน
นึกว่าการค้นคว้าเหล่านี้อาจจะไม่ทันในสถานการณ์ปัจจุบันทันที
แต่ก็มีหวังภายในปีสองปีนี้ก็สามารถทำให้คนมีที่ทำกินมากขึ้น
และใช้วิทยาการสมัยใหม่สามารถที่จะให้ผลผลิตดีขึ้น

เรื่องนี้จะต้องมีการลงทุนสำหรับการวิจัย
จะต้องมีการลงทุนช่วยสำหรับผู้ที่จะเป็นเกษตรกร
ดังนั้นเงินที่ยังเหลืออยู่เอาไปสนับสนุนในทางนี้
ส่วนหนึ่งจะเป็นผลที่ดี จะเป็นผลช่วยประเทศไทย
ให้รอดพ้นวิกฤตการณ์ ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยนี้
จะสามารถพ้นวิกฤตการณ์ได้ดีกว่าหลายประเทศ
เพราะว่าที่ดินภูมิประเทศยังให้ หมายความว่า
ยังเหมาะสมกับความเป็นอยู่ได้
แต่ว่าความเป็นอยู่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัด
และต้องไปในทางที่ถูกต้อง

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


ต้องถอยหลัง เพื่อก้าวหน้า

ที่วันนี้ได้พูดไปแล้วนั้นเป็นวิธีแก้ไขสถานการณ์วิกฤต
ในปัจจุบันวิธีหนึ่ง เพราะในสมัยนี้เป็นสมัยที่พูดกันได้ว่า
โลกาภิวัตน์ ซึ่งเราก็จะต้องทำตามประเทศอื่นด้วย
เพราะว่าถ้าไม่ทำตามประเทศอื่นตามคำสัญญาที่มีไว้
เขาอาจจะไม่พอใจ แต่ว่าทำไมเขาไม่พอใจ
เพราะว่าของเขาเองก็มีวิกฤตการณ์เหมือนกัน
การที่ประเทศใกล้เมืองไทยในภูมิภาคนี้มีวิกฤตการณ์ด้วย
ก็ทำให้เราฟื้นจากวิกฤตการณ์นี้ยากขึ้น
และไม่ใช่เฉพาะประเทศที่อยู่ในภูมิภาคนี้
แม้ประเทศที่ดูท่าทางเจริญรุ่งเรืองดี
ก็ยังรู้สึกว่าก็กำลังจะเดือดร้อนขึ้น
เพราะว่าถ้าไม่แก้ไขวิกฤตการณ์ในมุมไหนของโลก
ส่วนอื่นของโลกก็จะต้องเดือดร้อนเหมือนกัน
ฉะนั้นต้องดูว่าเราพยายามที่จะอุ้มชูประชาชนได้
และให้ประชาชนได้ทำงานได้ มีรายได้
ก็จะสามารถผ่านวิกฤต
ถ้าจะทำแบบนี้ที่เคยมีนโยบาย คือ
ผลิตสิ่งของทางอุตสาหกรรมมากเกินไป
ในเมืองไทยตลาดก็น้อยลงเพราะว่าคนมีเงินน้อยลง
แต่ข้อสำคัญเขาบอกว่า ให้ส่งออกไปยังประเทศอื่น
ประเทศอื่นเขาก็เดือดร้อนเหมือนกัน เขาก็ไม่ซื้อ
ถ้าผลิตเป็นผลิตผลทางอุตสาหกรรมและไม่มีผู้ซื้อ
ก็เป็นหมันเหมือนกัน

นี่ก็เป็นเรื่องของการแก้ไขวิกฤตการณ์
แต่ว่าผู้ที่ชอบเศรษฐกิจแบบสมัยใหม่อาจจะไม่ค่อยพอใจ
มันต้องถอยหลังเข้าคลอง มันจะต้องอยู่อย่างระมัดระวัง
และต้องกลับไปทำกิจการที่อาจจะไม่ค่อยซับซ้อนนัก
คือใช้เครื่องมือที่ไม่หรูหรา
อย่างไรก็ตามมีความจำเป็นที่จะต้องถอยหลัง
เพื่อที่จะก้าวหน้าต่อไป
และถ้าไม่ทำอย่างที่ว่าก็จะแก้วิกฤตการณ์นี้ยาก

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


ใช้สติปัญญา ทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม

ยังไม่ได้พูดถึงคำที่ทุกครั้งเคยพูดว่าต้องสามัคคีกัน
ต้องอย่าปัดขากันมากเกินไป แต่ว่าไม่ได้หมายความว่า
จะต้องมีการทำแบบที่บางคนนึกจะทำ
คือจะต้องให้ทุกคนมีโอกาสทำงานตามหน้าที่
และเมื่อทำงานตามหน้าที่แล้วก็หวังดีต่อผู้อื่น
อันนี้เป็นหลักที่สำคัญ คือทำงานด้วยการเห็นอกเห็นใจกัน
และทำด้วยความขยันหมั่นเพียร

วันนี้ได้พูดเรื่องราวที่อาจจะน่าคิด
และท่านเองเป็นผู้ที่มีความรู้ก็ต้องใช้ความรู้ความฉลาด
ที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ ในการนี้ขอให้ทุกท่าน
ซึ่งมีหน้าที่แต่ละท่านพยายามใช้สติปัญญา
และกำลังให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ทั้งนี้ ประเทศชาติจะก้าวหน้าและมีความปลอดภัยต่อไป


------ จบ ------

:b8: นำมาจากบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณลูกโป่ง สาธุๆๆ ค่ะ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3099

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2009, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยุคข้าวยากหมากแพงทุกแห่งหน
แต่ละคนในบ้านเมืองมีเรื่องกลุ้ม
อัตคัตขัดสนเหมือนจนมุม
ร้อนที่สุมใครอาสาพาบรรเทา
แต่เหมือนฟ้าปราณีทุกชีวิต
ด้วยแนวคิดพึ่งพาตนพ้นความเศร้า
องค์พ่อหลวงทรงห่วงราษฎร์ช่วยชาติเรา
ร้อนที่เผาคงพัดผ่านท่านชี้ทาง

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ........ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2018, 09:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร