เราจะขอให้บุญช่วยชักนำให้เราเจอคนดีๆได้ไหมคะ ทุกครั้งที่หนูนั่งสมาธิหนูจะขอไว้ว่าให้หนูได้เจอมิตรที่ดี เจอคนดีๆ (แอบระบุคุณสมบัติไว้ด้วย ) เพราะกลัวว่าในอนาคตเราจะเจอคนไม่ดีแล้วต้องมานั่งเสียใจ อ้อ . . . ในที่นี้รวมถึงคนรักด้วยนะคะ (อย่าคิดว่าหนูแก่แดดนะ ) เพราะหนูยังไม่คิดเรื่องนี้ค่ะ แต่ในอนาคตถ้าต้องมี อยากเจอคนดีๆอ่ะค่ะ ขอได้ไหมคะ

การกระทำและความคิดลักษณะนี้พอเรียกได้ว่าตั้งสัจกิริยา

เรามีสิทธิ์แต่จะได้ตามนั้นหรือไม่ ไม่มีใครพยากรณ์ได้ แต่เป็นการเริ่มต้นที่ดีไม่เสียหายอะไร ความคิดดี สมาธิดี จิตย่อมมีพลังมีอำนาจในทางบวก จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัว พาตัวเข้าหาสิ่งที่ดีดังประสงค์ได้ ฝึกจิตให้มีพลังมีอำนาจอยู่เสมอๆก็เดินถูกทางแล้ว


ถ้าจำไม่ผิด เหมือนคุณร่มธรรมเคยตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับฝึกสมาธิใช่ไหมครับ แต่หายไปเลย เป็นไงบ้าง
ตอนนี้ยังฝึกจิตฝึกสมาธิอยู่ไหม

คำถาม : ทุกครั้งที่หนูนั่งสมาธิหนูจะขอไว้ว่าให้หนูได้เจอมิตรที่ดี
คำตอบ : google ตอบอะไรไม่รู่คับ ...ไม่รู้เรื่องเลยสรุปมาตอบมะได้คับ
ขอโทษกัฟ

ตามความเห็น..ผมว่า
คิดไม่ออกกัฟ..ง่วงนอนจัง(แต่อยากได้ดาวกัฟต้องพยายามตอบๆๆ)
อึม..นั่งสมาธิต้องเพื่อไปหาความปล่อยวางเป็นบั้นปลายกัฟ

..งง ไหมกัฟ//ผมก็ งง แต่อันนี้คับอาจเป็นคำตอบ
http://www.thewayofdhamma.org/page3_2/patum37.html

เจริญในธรรม

ก่อนอื่นหนูต้องทำความเข้าใจกับคำว่าสมาธิก่อนนะ ว่าคืออะไร
คำว่าสมาธิ เป็นสภาวะที่ตั้งมั่นอยุ่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง
แนวทางวิปัสสนาฯท่านให้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน เรียกว่า ปัจจุบันธรรม
ปัจจจุบันธรรมนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติมาก เพราะถ้ากำหนดให้ได้ปัจจุบันธรรมแล้ว ขณิกะสมาธิจะรวมตัวเมื่อขณิกะสมาธิรวมตัวมากขึ้น ๆ จะทำให้อินทรีย์พละคือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา มีกำลังเติบกล้าขึ้น แข็งแรงขึ้น มีกำลังกายดีขึ้น เหมือนลับมีดไว้คมดีแล้ว ย่อมใช้ประโยชน์ได้ทุกขณะ
จึงจำเป็นที่จะต้องกำหนดให้ต่อเนื่องอยู่โดยตลอด ต้องมีองค์คุณ ๓ คือ
๑. อาตาปี – เพียรตั้งใจทำจริง
๒. สติมา – มีสติระลึกรู้อยู่ที่รูปนามที่กำลังเกิดขึ้น
๓. สัมปชาโน – รู้ตัวทั่วพร้อมติตามอิริยาบถอยู่ทุกขณะ
๔. ปรับอินทรีย์พละให้เสมอกัน
ศรัทธา ต้องเสมอกับปัญญา
วิริยะ ต้องเสมอกับ สมาธิ
สติ เป็นผู้ควบคุม
ศรัทธายิ่ง ปัญญาหย่อน โลภะจะครอบงำ
ปัญญายิ่ง ศรัทธาหย่อน วิจิกิจฉาจะครอบงำ
วิริยะยิ่ง สมาธิหย่อน อุททัจจะจะครอบงำ
สมาธิยิ่ง วิริยะหย่อน ถีนมิทธะจะครอบงำ
การปฏิบัติจได้ผลเร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับการปรับอินทรีย์พละนี้เป็นประการสำคัญ
ดังนั้น ถ้าเราอยากพบคน....แล้วขอในขณะนั่งสมาธิ มันคงไม่เป็นสมาธิ คงเป็นอย่างอื่นไป ถ้าอยากได้...หรือปราถนาโดยการปรารภ"บุญ"อย่างที่หนูบอก น่าจะเป็นการทำหลังจากปฏิบัติ จึงจะสงเคราะห์เข้ากับ "สัจจกิริยา"ได้
และหนูต้องอย่าลืมนะว่า เราปฏิบัติสมาธิ เพื่ออะไร
เพื่อที่จะยกสถานะภาพทางจิตของเรา จากความเป็นปุถุชนขึ้นมาเป็นกัลยาณาชน และอริยชนในที่สุด
ถ้าเพียงแต่อยากได้คนดี พบคนดี ไม่อยากเสียใจภายหลัง ง่ายๆ ก็คือเพียงเรามีสติที่ฝึกมาดี เป็นโยนิโสมนสิการ คิดให้รอบคอบ มีคุณพ่อ-แม่ ครู คบเพื่อนที่เป็นกัลยานมิตร แค่นี้ก็พิชิตความกังวลได้แล้ว
เจริญพร

ขอบคุณทุกท่าน และ พระอาจารย์ค่ะ

ขอไดครับ....แต่จะได้ตามที่ขอรึป่าวนี่ ? (ไม่รู้) ...ต้องแล้วแต่กรรมที่ทำมาแต่อดีตด้วยนะครับ

ตามปกติแล้วคนเราคบกันตามนิสัย นิสัยเหมือนกันก็คบกันได้ นิสัยต่างกันคบกันก็ไม่สนิท เราทำตัวดีคนดีก็จะเข้ามาหาเรา หากเราทำตัวเลวก็เข้ากับคนเลว กับคนไม่ดี คนดีก็คงไม่มาคบเราหรอก อยากได้มิตรดีก็ต้องทำตัวให้ดี อีกอย่างบางทีว่าเราคิดว่าเราอยากได้เพื่อนดี อย่างนี้มันควบคุมไม่ได้ เหมือนกับเราอยากให้คนยิ้ม ให้เรา วิธีง่ายกว่าคือเรายิ้มให้เขาแล้วเขาก็จะยิ้มให้เรา (โดยส่วนใหญ่นะ) แทนที่จะคิดว่าทำยังไงถึงจะได้เพื่อนดี ให้คิดว่าทำยังไงเราถึงจะเป็นเพื่อนที่ดีของเขามันจะดีกว่ามั้ย เรื่องคู่ครอง ต้องพัฒนาความมีเสน่ห์และความน่าประทับใจ อย่างนี้ตัวเลือกมีเพียบ