วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 11:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 268 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2020, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะ คนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะ คือ พระดาบส 2 คน นะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



จนมุม เขาซอยตัน คิกๆๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2020, 12:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะ คนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะ คือ พระดาบส 2 คน นะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



จนมุม เขาซอยตัน คิกๆๆ :b32:

:b32:
คิดเองเออเองหมดเลยนะ
คิดสิ...เจ้าชายสิทธัตถะคือปุถุชน
ส่วน...ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าคืออริยบุคคล
ตอบมาสิใช่คนเดียวกันไหม555จิตก็คนละดวงแล้ว
ทุกขณะจิตแต่ละ1ขณะคือทุก1ดวงใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์ไม่ใช่คนเก่าเลยค่ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2020, 12:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
คุณเป็นคนบอกเองว่า ทวาร6 ต้องรู้ตรงขณะ

นั่นแหละครับ ยึดมั่นถือมั่น

ในสังขตธรรม

:b12:
ผิดแล้วค่ะ
ตีความไม่แตก
ตัวเองน่ะเป็นคน
คิดตามได้เท่านั้น
ไม่เข้าใจอีกแล้วค่ะ
บอกว่าคำสอนคิดตามตรงทีละคำได้เท่านั้น
ตรงปัจจุบันขณะนั้นน่าาาาเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้า=จิตเกิดดับถึงแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้
คนเราเนี่ยปกติจะเรียนอะไรก็ตามคิดสิคะตรงปัจจุบันจะคิดทุกคำในพระไตรปิฏกเลยได้ไหม
นั่นน่ะค่ะปัญญาของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ตรัสรู้ทั้งหมดแล้วก่อนมาแสดงให้คิดตามตรงคำให้ถูกตัวตนไงคะ
:b12:
:b4: :b4:


ยึดติดครับ

ติดในทวาร

ไม่เรียกว่าปล่อยวางในธรรม

:b12:
เอ้ายังอีกยังไม่เก็ต
เดี๋ยวนี้เห็นตัวอักษร
คือจิตคิดนึกหลังจิตเห็นดับนับขณะจิตไม่ได้แล้ว
มันคือการจำอดีตสีหลากสีตัดกันจนเป็นรูปร่างแล้ว=เห็นผิดไปแล้วค่ะคิดตรงๆ
:b16:
ไม่เข้าใจเห็นตรงตามคำสอนหรือคะว่าคิดตามให้ตรงคำแต่ละคำได้เท่านั้น
ไม่ได้ทำเห็นเข้าใจมั๊ยคะเพราะคุณเห็นแล้วและก็คิดผิดแล้วด้วยตามเห็นผิดของตนเองทันทีเลยเด่ววววนี้ค่ะ
การจะผลิตปัญญาตรงตามคำสอนต้องอาศัยการลืมตาดูหูฟังขณะที่กำลังฟังคนอื่นกล่าวตรงตามคำตถาคต
เนี่ยที่คุณกำลังอ่านเนี่ยไม่ใช่การทำปัญญาแต่เป็นการอ่านความคิดของเดี๊ยนที่อธิบายว่าคุณกำลังเห็นผิด
รายละเอียดของการเห็นดูที่ตาเนื้อตัวเองกำลังดูเทียบตามความคิดให้ตรงกับที่คุณกำลังดูคือคิดเห็นผิดอยู่
:b20:
จะคิดเห็น-ถูก-ตรง-ตาม-ตรง-จริง-ตรง-คำ-ได้-ต้องกำลังฟังคำว่าเห็นเข้าใจเห็นตรงตามคำสอนตามเสียง
ไม่ใช่เข้าใจเห็นตามการดูเพราะเสียงของคำว่าเห็นเกิดในความมืดและความคิดก็เกิดในมืดดูสิเห็นคืออะไรคะ
คิดตามนี้นะ...
:b12:
วิธีฟังคุณต้องใช้หูฟังทีละคำตรงจริงไม่ใช่มานั่งอ่านความคิดคนอื่นอยู่แบบนี้ค่ะ
อ่านแล้วก็ไปเริ่มต้นฟังเพื่อผลิตปัญญาของตนเองให้ตรงจริงคือทำสุตมยปัญญา
เห็น=วิบากจิต=ผลกรรมที่ตาไม่บอด=ธัมมะที่เกิดทางตา=จักษุวิญญาณ=จิต+รูปจักษุประสาท+รูปแสงสี1สี
อันที่คุณกำลังคิดตามตัวอักษรแล้วเห็นสติ๊กเกอร์โน่นนี่นั่นนั้นน่าาา=คิดเห็นผิดแล้วเกิน1สีตรงขณะไปแล้ว
https://youtu.be/TmzhYdLwoko


:b55: :b55: :b55: :b55: :b55:


ทวารทั้ง6 เป็นสังขตธรรมครับ

เวลาพิจารณา ต้องลง ทุกขัง อนิจจัง อนัตตาครับ

เพราะสังขตธรรม มีปัจจัยปรุงแต่ง

นี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ

:b32:
โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion


เว้าขัดแย้งกันเอง นี่แหละ มันก็ออกมาเอง เป็นตัวอย่างของความไม่รู้

:b12:
โลกของเห็นเกิดทางตาเท่านั้นมีแค่แสงสีเท่านั้นและเกิดดับทีละ1ขณะมีแค่1สีตรงทางตรงปัจจุบันขณะด้วย
และโลกของเห็นมีเพียงแสง+สีไม่มีคิดปนไม่มีเสียงปนไม่มีกลิ่นปนไม่มีรสปนไม่มีร้อนหนาวปนอะไรกันได้เลย
โลกทางหูจมูกลิ้นกายใจก็เกิดคนละทางคนละขณะทีละ1ขณะจิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางเกิดในความมืด
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2020, 18:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

คิดเองเออเองหมดเลยนะ
คิดสิ...เจ้าชายสิทธัตถะคือปุถุชน
ส่วน...ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าคืออริยบุคคล
ตอบมาสิใช่คนเดียวกันไหม555จิตก็คนละดวงแล้ว
ทุกขณะจิตแต่ละ1ขณะคือทุก1ดวงใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์ไม่ใช่คนเก่าเลยค่ะ


พะน่ะ คิกๆๆๆ

ปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันอยู่นิดเดียวที่ใจ จิตใจของปุถุชนมีกิเลสมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ เมื่อปฏิบัติกรรมฐานจนจิตใจหมดกิเลสไปตามลำดับขั้น (โสดา สกทาคา อนาคา อรหันต์) สุดท้ายอรหันต์จิตใจหมดกิเลส ส่วนรูปร่างหรือร่างกายก็ยังเป็นคนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย (อาจเปลี่ยนบ้างตอนหนุ่ม กับ ตอนแก่) :b32: สิทธัตถะก็ฉันนั้น แล้วอย่างนี้คุณโรสว่าคนๆเดียวกันไหม

เอาตัวอย่างใหม่ก็ได้
คุณโรสเองตอนนี้ยังมีกิเลสอยู่ (ปุถุชน) แต่ไปปฏิบัติถูกต้อง (ไม่ใช่อย่างแม่สุจินนะ) กิเลสหมดไป ถามว่าใช่คนๆเดียวกันไหม โรสตอนมีกิเลส กับ โรสตอนหมดกิเลสแล้ว ตอบสิ

1. คนละคนกัน
2.คนๆเดียวกัน

ข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2020, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะ คนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะ คือ พระดาบส 2 คน นะคะ


อ้างคำพูด:
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะ คนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะ คือ พระดาบส 2 คน นะคะ


คุณโรสอ่านหนังสือแล้วโยงมาที่ชีวิตไม่เป็น ดูสิน่า

เดิมเจ้าชายสิทธัตถะ ทำสมาธิไม่เป็นเลย เพราะอยู่แต่ในรั้วในวังปกครองบ้านเมือง พอออกบวชแสวงหาโมกขธรรม ก็ไปให้ดาบสสอนเรื่องสมาธิให้ ท่านก็ตั้งใจเรียนตั้งใจปฏิบัติจนจบสมาบัติ ๘ (รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ = สมาบัติ ๘) เห็นไหมจากเมื่อก่อนเจ้าชายทำไม่เป็น พอดาบสสอนให้ทำเป็นทำได้เลย :b32: ทีนี้พอจบแล้ว ท่านต้องการจะไปต่อ ดาบสก็บอกว่าไม่รู้แล้ว ท่านก็ลาจากสำนักไปคิดค้นเอง (แต่ท่านก็ไม่ได้ทิ้งสภาวะที่ได้นะ) มาสุดท้ายเลย สุดท้ายท่านก็นั่งค้นคว้าทางจิตที่ใต้โพธิ (นั่งนะไม่ใช่นอน :b1: นั่ง ) คืนวันตรัสรู้ ท่านไม่ใช้จิตถึงอรูป ใช้แค่รูปฌาน ๔ ก็บรรลุโพธิญาณ
จบข่าวแค่นี้ก่อน

ปล.อย่าทำเป็นเล่นไปนะ แค่รูปฌาน (สมาธิระดับนี้) นิวรณ์สงบราบคาบไม่โผล่หน้ามามารบกวนแล้วนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2020, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะคนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะคือพระดาบส2คนนะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



เฉลยเองแล้วกัน ไม่ถูกใจค้านได้ ความหมายสภาวะ,สภาวธรรม พร้อมตัวอย่าง

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา

สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

ตย.

อ้างคำพูด:
ฉันเลยได้แต่ปลูกต้นไม้เล่นไปวันๆ ความเงียบสงบ ทำให้ฉันทำสมาธิได้สำเร็จ ซึ่งเมื่ออยู่เมืองไทย พยายามทำแล้วไม่สำเร็จ
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ให้เราไปเรียนวิปัสสนา โดยมีแม่ชีมาสอน นั่งเรียงแถวจ้องเทียน ยุบหนอพองหนอ กำหนดลมหายใจ พอตกกลางคืน ฉันร้องกรี๊ดเอะอะโวยวายขึ้นมาขณะนอนหลับ
ฉันรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงบนหัว เสียงเหมือนระเบิดดังเปรี๊ยะ พร้อมกับเหมือนมีแสงสว่างแวบเข้ามาอย่างน่ากลัว ฉันผวาลุกขึ้น ตัวสั่นเหงื่อแตกด้วยความกลัว
ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ยอมไปนั่งวิปัสสนาอีกเลย คงเป็นเพราะฉันยังเป็นคนมีบาป ไม่มีบารมีพอที่จะรับบุญนี้ จึงบันดาลให้เกิดอาการประหลาดนี้ขึ้น



http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57705&start=30

สภาวธรรม หมายถึง รูปนามมันเป็นของมันอย่างนั้นเองตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่มีตัวตนอีกทั้งไม่มีผู้สร้างผู้บันดาล

หากไปคิดว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำให้เป็นไปเช่นนี้เช่นนั้น นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิเป็นความเห็นผิด เมื่อมีความเห็นเห็น ก็ดำริผิด มีพยายามใดๆก็เป็นความพยายามผิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2020, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะคนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะคือพระดาบส2คนนะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



เฉลยเองแล้วกัน ไม่ถูกใจค้านได้ ความหมายสภาวะ,สภาวธรรม พร้อมตัวอย่าง

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา

สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

ตย.

อ้างคำพูด:
ฉันเลยได้แต่ปลูกต้นไม้เล่นไปวันๆ ความเงียบสงบ ทำให้ฉันทำสมาธิได้สำเร็จ ซึ่งเมื่ออยู่เมืองไทย พยายามทำแล้วไม่สำเร็จ
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ให้เราไปเรียนวิปัสสนา โดยมีแม่ชีมาสอน นั่งเรียงแถวจ้องเทียน ยุบหนอพองหนอ กำหนดลมหายใจ พอตกกลางคืน ฉันร้องกรี๊ดเอะอะโวยวายขึ้นมาขณะนอนหลับ
ฉันรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงบนหัว เสียงเหมือนระเบิดดังเปรี๊ยะ พร้อมกับเหมือนมีแสงสว่างแวบเข้ามาอย่างน่ากลัว ฉันผวาลุกขึ้น ตัวสั่นเหงื่อแตกด้วยความกลัว
ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ยอมไปนั่งวิปัสสนาอีกเลย คงเป็นเพราะฉันยังเป็นคนมีบาป ไม่มีบารมีพอที่จะรับบุญนี้ จึงบันดาลให้เกิดอาการประหลาดนี้ขึ้น



http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57705&start=30

สภาวธรรม หมายถึง รูปนามมันเป็นของมันอย่างนั้นเองตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่มีตัวตนอีกทั้งไม่มีผู้สร้างผู้บันดาล

หากไปคิดว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำให้เป็นไปเช่นนี้เช่นนั้น นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิเป็นความเห็นผิด เมื่อมีความเห็นเห็น ก็ดำริผิด มีพยายามใดๆก็เป็นความพยายามผิด

:b32:
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นเองเป็นไปเองตามเหตุตามปัจจัย
แล้วเอาตัวตนไปทำไปสร้างอะไรขึ้นมาอีกอยู่ล่ะคะ
แสดงว่าทำไปตามความคิดตัวตนที่เข้าใจผิดว่าทำได้...มันก็เป็นเช่นนั้นเอง555
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2020, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คิดเองเออเองหมดเลยนะ
คิดสิ...เจ้าชายสิทธัตถะคือปุถุชน
ส่วน...ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าคืออริยบุคคล
ตอบมาสิใช่คนเดียวกันไหม555จิตก็คนละดวงแล้ว
ทุกขณะจิตแต่ละ1ขณะคือทุก1ดวงใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์ไม่ใช่คนเก่าเลยค่ะ


พะน่ะ คิกๆๆๆ

ปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันอยู่นิดเดียวที่ใจ จิตใจของปุถุชนมีกิเลสมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ เมื่อปฏิบัติกรรมฐานจนจิตใจหมดกิเลสไปตามลำดับขั้น (โสดา สกทาคา อนาคา อรหันต์) สุดท้ายอรหันต์จิตใจหมดกิเลส ส่วนรูปร่างหรือร่างกายก็ยังเป็นคนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย (อาจเปลี่ยนบ้างตอนหนุ่ม กับ ตอนแก่) :b32: สิทธัตถะก็ฉันนั้น แล้วอย่างนี้คุณโรสว่าคนๆเดียวกันไหม

เอาตัวอย่างใหม่ก็ได้
คุณโรสเองตอนนี้ยังมีกิเลสอยู่ (ปุถุชน) แต่ไปปฏิบัติถูกต้อง (ไม่ใช่อย่างแม่สุจินนะ) กิเลสหมดไป ถามว่าใช่คนๆเดียวกันไหม โรสตอนมีกิเลส กับ โรสตอนหมดกิเลสแล้ว ตอบสิ

1. คนละคนกัน
2.คนๆเดียวกัน

ข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
เอางิดูตัวอย่างพระเทวทัตก็ได้
พระเทวทัตได้สมาบัติแปลงร่างได้
กับพระเทวทัตที่ธรณีสูบไปตกลงนรกอยู่
เป็นบุคคลในภพภูมิเดียวกันแต่มีจิตครบ4ชาติคือ
1.จิตชาติที่เป็นกุศล
2.จิตชาติที่เป็นอกุศล
3.จิตชาติที่เป็นวิบาก
4.จิตชาติที่เป็นกิริยา
ปุถุชนมีจิตครบทั้ง4ชาตินี้ในภพภูมิเดียวคือเกิดทีละ1ภพภูมิ
และมีชาติเดียวจิตดวงเดียวที่พาตกนรกคือจิตชาติที่เป็นอกุศล
เรานะที่เป็นชาติของคนๆนี้ที่เป็นเราแล้วมีตัวตนเนี่ยรู้แล้วใช่ไหม
แต่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังสะสมจิตชาติอะไรอยู่เนี่ยถึงต้องฟังให้รู้
และการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจให้ถูก
ว่าปุถุชนไม่สามารถเลือกทำเพื่อไม่ให้ตกนรกได้เข้าใจเปล่า
การไม่ฟังคำสอนให้เข้าใจคือการปิดกั้นมรรคผลและนิพพาน...คือขาดปัญญา
จำแต่ชื่อจำแต่เรื่องจำผิดอยู่...บอกว่าให้ฟังให้เข้าใจ...ไม่มีคนสัตว์วัตถุคือไม่มีคนฟังมีแต่จิตรู้ตามเสียงจ้ะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2020, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
หัดฟังให้มันเข้าใจสักทีสิจะได้เลิกถาม
ที่ถามเนี่ยเรียกว่าสงสัยคือมีนิวรณธรรม
ถ้าฟังเข้าใจเกิดปัญญาแล้วเขาไม่ถามหรอก
https://youtu.be/-JBoNHVKYVw
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะคนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะคือพระดาบส2คนนะคะ
:b32: :b32:


เจ้าชายสิทธัตถะ กับ พระพุทธเจ้าใช่คนๆเดียวกันไหม

1. คนๆเดียวกัน
2.คนละคนกัน

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

สภาวธรรมตามที่คุณโรสเข้าใจว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เช่นไร ตอบ

1.
2.

:b32:



เฉลยเองแล้วกัน ไม่ถูกใจค้านได้ ความหมายสภาวะ,สภาวธรรม พร้อมตัวอย่าง

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา

สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

ตย.

อ้างคำพูด:
ฉันเลยได้แต่ปลูกต้นไม้เล่นไปวันๆ ความเงียบสงบ ทำให้ฉันทำสมาธิได้สำเร็จ ซึ่งเมื่ออยู่เมืองไทย พยายามทำแล้วไม่สำเร็จ
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ให้เราไปเรียนวิปัสสนา โดยมีแม่ชีมาสอน นั่งเรียงแถวจ้องเทียน ยุบหนอพองหนอ กำหนดลมหายใจ พอตกกลางคืน ฉันร้องกรี๊ดเอะอะโวยวายขึ้นมาขณะนอนหลับ
ฉันรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงบนหัว เสียงเหมือนระเบิดดังเปรี๊ยะ พร้อมกับเหมือนมีแสงสว่างแวบเข้ามาอย่างน่ากลัว ฉันผวาลุกขึ้น ตัวสั่นเหงื่อแตกด้วยความกลัว
ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ยอมไปนั่งวิปัสสนาอีกเลย คงเป็นเพราะฉันยังเป็นคนมีบาป ไม่มีบารมีพอที่จะรับบุญนี้ จึงบันดาลให้เกิดอาการประหลาดนี้ขึ้น



http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57705&start=30

สภาวธรรม หมายถึง รูปนามมันเป็นของมันอย่างนั้นเองตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่มีตัวตนอีกทั้งไม่มีผู้สร้างผู้บันดาล

หากไปคิดว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำให้เป็นไปเช่นนี้เช่นนั้น นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิเป็นความเห็นผิด เมื่อมีความเห็นเห็น ก็ดำริผิด มีพยายามใดๆก็เป็นความพยายามผิด

:b32:
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นเองเป็นไปเองตามเหตุตามปัจจัย
แล้วเอาตัวตนไปทำไปสร้างอะไรขึ้นมาอีกอยู่ล่ะคะ
แสดงว่าทำไปตามความคิดตัวตนที่เข้าใจผิดว่าทำได้...มันก็เป็นเช่นนั้นเอง555
:b32: :b32:



แล้วเราเห็นความไม่มีตัวตนหรือยังล่ะ หรือ ที่พูดว่าไม่มีตัวตน เป็นอนัตตา ไปจำจากไหนมา จากหนังสือ จากคำพูดของคนนั้นคนนี้

1. เห็นเอง
2. จำมา

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
หัดฟังให้มันเข้าใจสักทีสิจะได้เลิกถาม
ที่ถามเนี่ยเรียกว่าสงสัยคือมีนิวรณธรรม
ถ้าฟังเข้าใจเกิดปัญญาแล้วเขาไม่ถามหรอก
https://youtu.be/-JBoNHVKYVw
:b12:
:b12: :b12:


ก็บอกแล้วว่า แม่สุจินมิจฉาทิฎฐิตัวแม่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คิดเองเออเองหมดเลยนะ
คิดสิ...เจ้าชายสิทธัตถะคือปุถุชน
ส่วน...ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าคืออริยบุคคล
ตอบมาสิใช่คนเดียวกันไหม555จิตก็คนละดวงแล้ว
ทุกขณะจิตแต่ละ1ขณะคือทุก1ดวงใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์ไม่ใช่คนเก่าเลยค่ะ


พะน่ะ คิกๆๆๆ

ปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันอยู่นิดเดียวที่ใจ จิตใจของปุถุชนมีกิเลสมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ เมื่อปฏิบัติกรรมฐานจนจิตใจหมดกิเลสไปตามลำดับขั้น (โสดา สกทาคา อนาคา อรหันต์) สุดท้ายอรหันต์จิตใจหมดกิเลส ส่วนรูปร่างหรือร่างกายก็ยังเป็นคนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย (อาจเปลี่ยนบ้างตอนหนุ่ม กับ ตอนแก่) :b32: สิทธัตถะก็ฉันนั้น แล้วอย่างนี้คุณโรสว่าคนๆเดียวกันไหม

เอาตัวอย่างใหม่ก็ได้
คุณโรสเองตอนนี้ยังมีกิเลสอยู่ (ปุถุชน) แต่ไปปฏิบัติถูกต้อง (ไม่ใช่อย่างแม่สุจินนะ) กิเลสหมดไป ถามว่าใช่คนๆเดียวกันไหม โรสตอนมีกิเลส กับ โรสตอนหมดกิเลสแล้ว ตอบสิ

1. คนละคนกัน
2.คนๆเดียวกัน

ข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
เอางิดูตัวอย่างพระเทวทัตก็ได้
พระเทวทัตได้สมาบัติแปลงร่างได้
กับพระเทวทัตที่ธรณีสูบไปตกลงนรกอยู่
เป็นบุคคลในภพภูมิเดียวกันแต่มีจิตครบ4ชาติคือ
1.จิตชาติที่เป็นกุศล
2.จิตชาติที่เป็นอกุศล
3.จิตชาติที่เป็นวิบาก
4.จิตชาติที่เป็นกิริยา
ปุถุชนมีจิตครบทั้ง4ชาตินี้ในภพภูมิเดียวคือเกิดทีละ1ภพภูมิ
และมีชาติเดียวจิตดวงเดียวที่พาตกนรกคือจิตชาติที่เป็นอกุศล
เรานะที่เป็นชาติของคนๆนี้ที่เป็นเราแล้วมีตัวตนเนี่ยรู้แล้วใช่ไหม
แต่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังสะสมจิตชาติอะไรอยู่เนี่ยถึงต้องฟังให้รู้
และการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจให้ถูก
ว่าปุถุชนไม่สามารถเลือกทำเพื่อไม่ให้ตกนรกได้เข้าใจเปล่า
การไม่ฟังคำสอนให้เข้าใจคือการปิดกั้นมรรคผลและนิพพาน...คือขาดปัญญา
จำแต่ชื่อจำแต่เรื่องจำผิดอยู่...บอกว่าให้ฟังให้เข้าใจ...ไม่มีคนสัตว์วัตถุคือไม่มีคนฟังมีแต่จิตรู้ตามเสียงจ้ะ
:b12:
:b32: :b32:


ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

แล้วที่พูดมาก็ผสมปนเปมั่วไปหมด :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 08:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

โอ๊ยยยยยย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เหลือใจหลายเด้ด้ด้ด้
เอ้อ...บ่หู้จักติ๊วาเด่วนี้ฮั่นน่าง้าวแล้ว
อ่านตัวอักษรอยู่เนี่ยเป็นตัวเราอ่านแมนบ่อ
บอกวาตัวเฮาบ่มี...กะยังมีโตเฮามาอ่านยุ่นี่ฮั่นน่าแปลวาเจ้าของบ่ฮู้วา
เฮ็ดปัญญาฮั่นน่าต้องนั่งฟังคนอื่นเว้าให้ฟัง...ฮู้จักวิธีนั่งฟังแล้วคิดตามเสียงเว้าให้เข้าใจทีละคำบ่ล่ะ
:b32:
อันที่มีตัวตนไปทำทุกๆอย่างนั่นแหละคือการคิดพูดทำตามๆกันตามความคิดเห็นผิดพูดผิดคิดผิดอยู่
บอกว่าให้เริ่มต้นฟังคนที่เขาพูดตรงสัจจะตามคำสอน ถ้าไม่ทำสุตมยปัญญาก่อนแล้วปัญญาอื่นเกิดไม่ได้เลย
:b12:
:b16: :b16:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้เข้าใจไหมคะ
onion onion onion



ผุ้ใดสินั่ง ตัวเฮาบ่มีเด๊ะ :b32:
ูฮุ้จั๊กนั่งสมาธิบ่

:b12:
ปัญญาเริ่มต้นทำก็เกิดได้ตามลำดับไม่ข้ามขั้นคือสุตะ-จินตา-ภาวนา...เริ่มที่สุตะคือลืมตาดูหูฟังทุกครั้ง
เพื่อสะสมปัญญาให้ถึงความจริงตรงตามลำดับเมื่อถึงแล้วก็ไม่ลดลงโสดาบันสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิไม่พึ่งการระลึกตามคำสอน=ขาดสตินะคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนนั่งสมาธิค่ะคนที่สอนนั่งสมาธิให้เจ้าชายสิทธัตถะคือพระดาบส2คนนะคะ
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
อันว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวะธรรมเองคือมิจฉาสมาธิ


สภาวธรรมพูดไปแล้ว ทีนี้มาถึงที่ว่านั่งหลับตาคิดนึกเดาสภาวธรรมเอง...

จะให้ดูตัวอย่างหลับตานี่แหละเห็นสภาวธรรมแท้ พอลืมตาไม่เห็นสภาวธรรมแถมยังถูกสภาวะมันหลอกเอาอีกด้วย

ดู ตย.

ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว
เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน.

ตย.นี้มีครบทุกรูปแบบ คือ เขารู้เรื่องร่างกายดีเพราะเรียนหมอ :b1: และเมื่อเรียนรู้ทางหลักธรรมว่าขันธ์ 5 ว่าไม่มีตัวตนจริงๆ ฯลฯ รู้เพราะอ่าน เพราะได้ยินได้ฟังมา


สรุปทิ้งท้ายอีกทีว่า รู้จากฟังมา (ฟังจากคลิปจากห้องสัมมนาก็แล้วแต่) จากอ่านหนังสือมาแล้วมาคิดตามว่านั่นนี่โน่นเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา :b1: ลึกไม่ถึงมัน :b12: ลึกไม่ถึงแก่น ถ้าให้เทียบก็ เปรียบเหมือนมะพร้าวลูกหนึ่ง กว่าจะถึงน้ำถึงเนื้อมะพร้าวต้องผ่านตั้งหลายชั้นกว่าจะถึงน้ำถึงเนื้อมัน ชั้นที่แข็งที่สุดคือกะลา
คุณโรสพอเข้าใจที่พูดไหมขอรับ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
หัดฟังให้มันเข้าใจสักทีสิจะได้เลิกถาม
ที่ถามเนี่ยเรียกว่าสงสัยคือมีนิวรณธรรม
ถ้าฟังเข้าใจเกิดปัญญาแล้วเขาไม่ถามหรอก
https://youtu.be/-JBoNHVKYVw
:b12:
:b12: :b12:


ก็บอกแล้วว่า แม่สุจินมิจฉาทิฎฐิตัวแม่ :b32:

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่กำลังเกิดดับทีละ1ขณะตรงปัจจุบันเป็นคนละหนทาง6ทางคนละขณะด้วย
บอกไม่รู้จักฟังการทำฟังตรงๆตามคำสอนเนี่ยต้องกำลังทำทางหูโดยลืมตาดูไปด้วยไม่ต้องหลับตา
ที่พากันไปนั่งทำหลับตาคิดเองโดยไม่พึ่งการพิจารณาความจริงตอนกำลังดูเนี่ยแปลว่ามีอวิชชา
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้มีไว้ให้ใครท่องจำเอาไปทำเพราะปฏิบัติในภาษาบาลีไม่ใช่ทำ
ภาษาไทยปฏิบัติเพี๊ยนเอามาแปลว่าทำ...แต่ภาษาตั้งต้นคืออันนี้ ปะ-ติ-ปัต-ติ เขียนปเป็นบ
ปะติ=เฉพาะ/ปัตติ=ถึง ภาษาตปท.แปลหลังไปหน้า ปะติปัตติ=ถึงเฉพาะ
ภาษาไทยตัดตัวอักษรออกหลายตัวแล้วก็แปลเพี๊ยนมา
ปฏิปัตติแปลว่าถึงเฉพาะลักษณะสภาวะธรรมที่กำลังมี
ตรงตามที่กำลังได้ยินตรงกับที่รู้สึกตัวตอนกำลังฟัง
ทำปัญญาตรงตามคำสอนข้ามสุตมยปัญญาไม่ได้
ตัวตนที่มีเนี่ยต้องฟังจริงตรงตามคำสอนตามลำดับ
ไม่มีตัวตนแยกออกไปจากปกติทำปัญญาต้องใช้หูทำเข้าใจไหมคะ
เวลาคุณเกิดพบพระพุทธเจ้าเห็นแค่หน้าแล้วรู้จักพระองค์เลยหรือ
ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไรเลย...จะรู้ไหมว่าใครคือพระพุทธเจ้าค๊ะะะะ
อย่าลืมว่าเกิดชาติใหม่ร่างใหม่จำอันใหม่แล้วความจำชาตินี้ไม่ตามไป
พระธรรมคำสอนไม่ได้มีไว้ให้เชื่อและไม่มีใครทำให้รู้แบบตถาคตได้เข้าใจมั๊ยคะ
ชาติใดไม่ได้ฟังคำสอนและประมาทการฟังคำสอนแปลว่าชาตินั้นไม่มีปัญญาเกิด
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2020, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คิดเองเออเองหมดเลยนะ
คิดสิ...เจ้าชายสิทธัตถะคือปุถุชน
ส่วน...ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าคืออริยบุคคล
ตอบมาสิใช่คนเดียวกันไหม555จิตก็คนละดวงแล้ว
ทุกขณะจิตแต่ละ1ขณะคือทุก1ดวงใหม่หมดในสังสารวัฏฏ์ไม่ใช่คนเก่าเลยค่ะ


พะน่ะ คิกๆๆๆ

ปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันอยู่นิดเดียวที่ใจ จิตใจของปุถุชนมีกิเลสมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ เมื่อปฏิบัติกรรมฐานจนจิตใจหมดกิเลสไปตามลำดับขั้น (โสดา สกทาคา อนาคา อรหันต์) สุดท้ายอรหันต์จิตใจหมดกิเลส ส่วนรูปร่างหรือร่างกายก็ยังเป็นคนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย (อาจเปลี่ยนบ้างตอนหนุ่ม กับ ตอนแก่) :b32: สิทธัตถะก็ฉันนั้น แล้วอย่างนี้คุณโรสว่าคนๆเดียวกันไหม

เอาตัวอย่างใหม่ก็ได้
คุณโรสเองตอนนี้ยังมีกิเลสอยู่ (ปุถุชน) แต่ไปปฏิบัติถูกต้อง (ไม่ใช่อย่างแม่สุจินนะ) กิเลสหมดไป ถามว่าใช่คนๆเดียวกันไหม โรสตอนมีกิเลส กับ โรสตอนหมดกิเลสแล้ว ตอบสิ

1. คนละคนกัน
2.คนๆเดียวกัน

ข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
เอางิดูตัวอย่างพระเทวทัตก็ได้
พระเทวทัตได้สมาบัติแปลงร่างได้
กับพระเทวทัตที่ธรณีสูบไปตกลงนรกอยู่
เป็นบุคคลในภพภูมิเดียวกันแต่มีจิตครบ4ชาติคือ
1.จิตชาติที่เป็นกุศล
2.จิตชาติที่เป็นอกุศล
3.จิตชาติที่เป็นวิบาก
4.จิตชาติที่เป็นกิริยา
ปุถุชนมีจิตครบทั้ง4ชาตินี้ในภพภูมิเดียวคือเกิดทีละ1ภพภูมิ
และมีชาติเดียวจิตดวงเดียวที่พาตกนรกคือจิตชาติที่เป็นอกุศล
เรานะที่เป็นชาติของคนๆนี้ที่เป็นเราแล้วมีตัวตนเนี่ยรู้แล้วใช่ไหม
แต่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังสะสมจิตชาติอะไรอยู่เนี่ยถึงต้องฟังให้รู้
และการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจให้ถูก
ว่าปุถุชนไม่สามารถเลือกทำเพื่อไม่ให้ตกนรกได้เข้าใจเปล่า
การไม่ฟังคำสอนให้เข้าใจคือการปิดกั้นมรรคผลและนิพพาน...คือขาดปัญญา
จำแต่ชื่อจำแต่เรื่องจำผิดอยู่...บอกว่าให้ฟังให้เข้าใจ...ไม่มีคนสัตว์วัตถุคือไม่มีคนฟังมีแต่จิตรู้ตามเสียงจ้ะ
:b12:
:b32: :b32:


ถามอย่างตอบอย่าง :b32:

แล้วที่พูดมาก็ผสมปนเปมั่วไปหมด :b13:


ทำปัญญาตรงตามคำสอน
ไม่ใช่ไปคิดทำตัวตนขึ้นมาใหม่
บอกให้ฟังให้เข้าใจว่าอะไรคือตัวตน
บอกว่าตัวตนนั้นไม่มียังจะเอาแต่ตัวตนไปทำ
อยากได้อะไรให้ตัวตนก็บอกอยู่ว่าทำปัญญาเริ่มที่ฟัง
ที่ไปทำอย่างอื่นนอกจากฟังคือทำไม่รู้นอกคำสอนอยู่
คิดแล้วเถียงไปข้างๆคูๆอ้างบัญญัติคำตถาคตมาเถียง
ไม่รู้เลยว่าปัญญาจริงๆไม่มีถึงได้คิดว่าตัวเองจำถูกแล้ว
ท่องจำบัญญัติเอามาเถียงไม่รู้จักสุตมยปัญญาตรงจริง
คิดจำอะไรมากมายที่ไม่ใช่ปัญญาจริงของตัวเองอยู่
ทำมาเยอะแล้วลืมฟังรู้ยังฟังสักทีสิทั้งชาตินี้แหละ
ปัญหาที่ทำให้ไม่รู้คือขาดสุตมยปัญญาก็คือไม่ฟังคนอื่นบอก
ฟังด้วยหูตัวเองจะได้รู้ว่าเกิดปัญญาแทรกเข้าแทนอวิชชาได้แค่ตอนที่กำลังฟังเท่านั้นนะคะ
https://youtu.be/7W1D0mJPLSM
:b12:
:b17: :b17:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 268 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 135 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร