วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2020, 05:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


...ศิษย์ : ท่านอาจารย์
อยากให้พวกลูกศิษย์
ไปนิพพานไหมคะ

.
พระอาจารย์ : อยากให้ไป
..จะได้ไม่มารบกวน
สองปีแล้วยังไปไม่ถึงไหนเลย
น่าจะเรียนจบและย้ายไปโรงเรียนอื่นแล้ว
นี่..ยังอยู่ซ้ำชั้น..
"อาจารย์ก็อยากจะให้ลูกศิษย์
เรียนจบ ได้รับปริญญากันทุกคน".
......................................
.
จุลธรรมนำใจ10 กัณฑ์ 372
ธรรมะบนเขา 2/9/2550
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี









".. กรรม คือ การกระทำด้วย กาย วาจา ใจ เพียงแค่คิดนึกอยากจะฆ่าจะแกงเขา คิดอิจฉาริษยาพยาบาทเขา อันนั้นก็เป็นมโนกรรมและเป็นบาปแล้ว แต่ไม่ถึงกับทำบาปพร้อมด้วยอาการสาม ยังแก้ไขด้วยตนเองได้อยู่ มโนกรรมนี้ถ้ารู้แล้วแต่ไม่กลับแก้ตัว สามารถนำบุคคลไปอบายภูมิได้เหมือนกัน

ส่วนมโนกรรมอย่างที่กล่าวมาแล้ว เราคิดชั่วแล้วกลัวบาปกรรม กลับทำความดีเสีย ก็พ้นจากกรรมนั้นๆ ได้..."

หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี









#หัวใจพุทธศาสนาสอนว่า

"ไม่ให้ทำความผิด แล้วก็ทำจิตให้เป็นกุศล แล้วก็จะเกิดปัญญา แต่ทุกวันนี้ทำบุญกัน
แต่การละบาปนั้นไม่มีใครคิดเห็น
ความเป็นจริงนั้นก็ต้องละบาปก่อนจึง
บำเพ็ญบุญ ถ้าบาปไม่ละจะเอาบุญไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่จะอยู่หรอกบุญนั้น
ฉะนั้น เราต้องกวาดเครื่องสกปรกออก
จากใจของเราเสีย​ แล้วจึงจะทำความสะอาด
เรื่องนี้พวกเราควรจะเอาไปคิดพิจารณา.. "

#หลวงปู่ชา_สุภทฺโท












"พระพุทธเจ้าก็ดี สาวกก็ดีที่ทรงแสดงว่าบาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี พรหมโลกมี นิพพานมี เหล่านี้ พระองค์ทรงแสดงมาตามหลักประเพณีของพระพุทธเจ้าผู้ทรงธรรมรู้แจ้งแทงทะลุ เรียกว่าโลกวิทู ท่านรู้ขึ้นมาจากการบำเพ็ญในหลักธรรมชาติที่ถูกต้องกับธรรมขึ้นมาต่างหาก ไม่ใช่ไปประดิษฐ์ขึ้นมา นรกไม่มีก็บอกว่ามี สวรรค์ไม่มีก็บอกว่ามี นรกก็ดี สวรรค์ก็ดี พวกเปรตพวกผี พรหมโลกก็ดี นิพพานก็ดี ธรรมชาติเหล่านี้มีมาดั้งเดิม ไม่มีใครสามารถอาจเอื้อมที่จะบอกได้ยืนยันได้ว่าไปพบไปเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ด้วยความด้นเดาเกาหมัด อย่างนี้ไม่มี มีแต่ผู้บำเพ็ญธรรม เมื่อถูกแนวทางตามความเป็นจริงที่จะควรรู้ควรเห็นสิ่งที่มีอยู่ดั้งเดิมนั้นแล้ว ต้องรู้ต้องเห็นตามนิสัยวาสนาของตน

พระพุทธเจ้าเป็นพุทธวิสัยสามารถที่จะรู้นอกรู้ใน โลกวิทูรู้แจ้งทั้งโลกนอกโลกในตลอดทั่วถึงไปหมด นี่คือพุทธวิสัย สาวกวิสัยก็ต้องรู้ตามนิสัยวาสนาของตน เรื่องนรกอเวจี พวกเปรตผีอสุรกายเหล่านี้ที่มีนี่ยอมรับว่ามีอยู่ แต่นิสัยวาสนาของผู้ที่จะรู้เห็นนั้นมีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงหยาบละเอียดต่างกัน ไม่ได้รู้เสมอกันหมด สิ่งเหล่านี้มีอยู่แต่ท่านไม่ได้ปฏิเสธว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มี แต่ผู้สามารถที่จะอาจเอื้อมหรืออาจรู้เห็นได้นั้นเป็นไปตามนิสัยวาสนา เพราะฉะนั้นเราผู้ถือพุทธศาสนาให้ถือตามธรรมของพระพุทธเจ้า ท่านว่านรกมีก็เชื่อตามธรรมดาของเรา สวรรค์หรือพรหมโลก-นิพพานก็เชื่อตามคำของศาสดาแสดงออกบอกว่าไม่ผิด แต่อย่างไรการปฏิบัติขอให้รู้ นรกก็ดี-สวรรค์ก็ดีจะเป็นชั้นใดก็ตามจนกระทั่งถึงพรหมโลกนิพพานก็ดี ขอให้มาประจักษ์กับใจของการปฏิบัติแห่งชาวพุทธของเราเถิด จะเป็นความเหมาะสม อย่าพากันด้นเดาเกาหมัด ใช้ไม่ได้ ไม่ถูกทางของศาสดา

ทางของศาสดาคือการจิตตภาวนา ประกอบกับนิสัยวาสนา เมื่อจิตตภาวนาสามารถรู้แจ้งแทงทะลุไปโดยลำดับ จนกระทั่งทำลายกิเลสที่เป็นตัวมืดมิดปิดตาให้บอดทั้งวันทั้งคืนยืนเดินนั่งนอน พาเราไปตายกองกันอยู่ในโลกสมมุติสามแดนโลกธาตุนี้มากี่กัปกี่กัลป์เราก็ไม่รู้ เพราะกิเลสตัวนี้มันปิดมันบัง เกิดในภพใดชาติใดก็ไม่ทราบภพชาติของตัวเอง ทั้งๆ ที่เจ้าของนั่นละเป็นผู้ไปเกิดไปตาย แต่ไม่ทราบร่องรอยของตัวเองที่เกิดตายมาเป็นสัตว์ประเภทใดบ้าง นรกอเวจี ขึ้นสวรรค์ชั้นพรหม ลงนรกอเวจี เหมือนเขาขึ้นบันไดบ้านเรือนนั้นแหละ บรรดาสัตว์ผู้สร้างดีสร้างชั่วมันเป็นอยู่อย่างนี้ นี่เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสามารถรู้แจ้งแทงทะลุไปหมดทุกๆ พระองค์ ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดในธรรมชาติเหล่านี้จะปิดบังพระทัย จะไม่ให้ทรงรู้ทรงเห็นได้เลย"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส
ณ หอพระ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี
เมื่อบ่ายวันที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐










การให้พร ไม่ใช่ว่าเป็นการได้บุญ แต่เป็นการแสดงธรรมให้ฟัง การทำบุญด้วยความสงบ อย่างที่ใส่บาตรก็ทำด้วยความสงบ อย่างสมัยแต่ก่อนนี้ บางคนเขาก็ขอพร ใส่บาตรแล้วก็นั่งขอพร พระท่านก็เกรงใจ เพราะว่าการบิณฑบาตแต่โบราณนี่ไม่ได้ให้พรคือท่านรับด้วยความสงบ ท่านเอาจิตเมตตาด้วยความสงบ แล้วท่านก็เดินไป

แต่ทุกวันนี้เขาก็ทำกันทั่วประเทศละทีนี้ เพราะตัวอย่างมันกระจายทั่วไป พระท่านเกรงใจไม่กล้าบอกโยม เราก็เลยบอกว่า เราจะสอนเขาให้บอกว่า “ที่ไม่ให้พรเพราะว่าเอาแบบพระพุทธเจ้ามาใช้ ถ้าให้พรแล้วมันผิดพระวินัย วินัยพระปาฏิโมกข์ของพระมีข้อหนึ่งที่ว่ายืนให้พรแล้วโยมก็จะไม่ได้บุญ ก็เป็นบาป” แทนที่ให้พรเป็นบุญแต่ท่านกลับว่าเป็นบาปเพราะว่าผิดพระวินัย เหตุนั้นท่านจึงให้บอกว่าให้มารับพรที่วัด ถ้าคนไหนจะเอาพรหรือคนไหนจะเอาพรวันเกิด ก็ต้องเอาเก้าอี้มาให้ท่านนั่งแล้วก็นั่งรับพร แต่ถ้าตุ๊เจ้ายืนปันพรแล้วโยมนั่งมันผิดวินัยในเสขิยวัตรข้อท้ายๆ ก็เลยบอกให้เข้าใจ เขาก็เข้าใจกันหมดแล้ว...

หลวงปู่ประสิทธิ์ ปุญญมากโร











"พระพุทธเจ้าท่านจึงให้นึกถึงมรณภัย คือความตายนี้ ทุกลมหายใจเข้า ทุกลมหายใจออก "มรณัง เม ภวิสสติ" "มรณะ" "มรณัง" ก็แปลว่าความตาย หรือคือจะต้องตายด้วยกันทั้งหมดสิ้น "เม" ก็หมายถึงเรา เราทุกคนต้องตาย ต้องมองให้เห็นนึกให้ได้ ถ้านึกไม่ได้แล้ว จิตมันจะเป็นไปตามอารมณ์ต่าง ๆ ไม่สงบลงได้

ถ้ามองเห็นแจ้งในจิตในใจว่า อย่างไรเสียต้องตาย รอวันตายอยู่ทุกลมหายใจ ถ้ามาถึงเวลาหายใจเข้าไป บุคคลผู้นั้นก็ตายเวลาหายใจเข้า หรือถึงเวลาหายใจออก บุคคลนั้นก็ตายเวลาหายใจออก มรณภัยคือความตายนี้ ใกล้ที่สุดแค่ลมหายใจนี่เอง"

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร















#คำอธิษฐานของหลวงปู่ขาว_อนาลโย

"พวกเรา เล่าเรียนก็ดี จะได้บำรุงศาสนา
ของพระพุทธเจ้าไว้ บ่ให้เสื่อมสูญ แต่ให้ภาวนากันเน้อ ไม่นั่งก็นอนเอา หลับไปก็
ให้มันหลับไป ภาวนาเสีย
#พุทโธ_ธัมโม_สังโฆ
ภาวนาอย่าให้มันเสียเวลา"

"การภาวนามันได้อานิสงส์มาก พอเห็น
อันนี้ละเลยออกเดินทาง เดินธุดงค์ไปธาตุพนม ไปอธิษฐานที่พระธาตุพนม
นอนกลางคืนอยู่สองคืน ก่อนนอนสวด
ปาฏิโมกข์ถวายบูชาพระธาตุ ตื่นขึ้นเช้า
ก็สวดปาฎิโมกข์ถวายพระธาตุอีก แล้วอธิษฐาน.. "

#ข้าพเจ้าจะทำความเพียร_ทำกรรมฐาน

ถ้ายังไม่พ้นทุกข์ให้ข้าพเจ้าได้เกิดอีก อายุ
สิบปีให้ได้บวชตลอดจนตายคาผ้าเหลือง
สองชาติ สามชาติ สิบชาติ ยี่สิบชาติ ร้อยชาติ ถ้ายังไม่พ้นทุกข์ก็ให้กลับมาเกิดอีก บวชอีกตลอดวันตายทุกๆ ชาติ..
จากนั้นมาอยู่อุดรฯ ไปพระเจ้าองค์ตื้อ พระองค์ตื้อนี่สำคัญ มีเจ๊กฮ่ออยู่เวียงจันทร์
มันเอาดาบไปฟันแขนขาด เลือดพุ่งออกมาจริงๆ ไปเรียกผู้หนึ่งให้เอาทองมาหล่อติดให้ คิดสลดน้ำตาไหล

#มาอธิษฐานที่นี่อีกอย่างเก่า
ขอให้ได้บวชแล้วตาย ตายแล้วเกิด
เกิดแล้วได้บวชอีกจนตาย ไปทุกชาติ
จนกว่าจะพ้นทุกข์ อย่าให้ข้าพเจ้าได้สึก
อย่าให้มีความกำหนัดยินดีในกามทั้งหลาย
นั่นแหละเกิดมาบ่ทุกข์ไม่มี

#หลวงปู่ขาว_อนาลโย












ไปกำหนดว่านั่งกี่ ชม เดินกี่ ชม อันนั้นมันตามกิเลสไม่ทันหรอก เพราะกิเลสมีอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เพราะฉะนั้นให้มีสติรู้ทุกอิริยาบถ

โอวาทธรรม หลวงปู่ฉลวย อาภาธโร









“..เราต้องรู้เรื่องของโลก
ด้วยว่า มันเป็นอย่างนั้นเอง

เป็น"โลกธรรม" โลกธรรม
เลยเปลี่ยนเป็น"มรรค"
โลกธรรม นั้นมีแปดอย่าง
มรรคนั้นก็มีแปดอย่าง

โลกธรรมอยู่ที่ไหน
มรรคก็อยู่ที่นั่น ถ้ารู้แจ้ง
เมื่อใด โลกธรรมเลย
กลายเป็นมรรคแปด

ถ้ายังไม่รู้
มันก็ยังเป็นโลกธรรม..”

โอวาทธรรม
หลวงปู่เคน เขมาสโย











" การที่ยกวิปัสสนาขั้นต่ำ
ขึ้นสู่ "อริยสัจ 4" เป็นข้อ
สำคัญ คือ

ให้เห็นสังขารเป็นตัว
"ทุกข์"
ให้เห็นความไม่รู้เท่า
สังขารเป็น "สมุทัย"
ความรู้เท่าสังขารแล้ว
สังขารดับเป็น "นิโรธ"
ปัญญาที่รู้อาการ
แห่งสังขาร เป็นทุกข์
เป็นสมุทัย เป็นนิโรธ
ชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ เป็น"มรรค" "

โอวาทธรรม
เจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์
(จันทร์ สิริจันโท)









"เลือกคบคนอย่างไร
เราก็จะเป็นอย่างนั้น
ถ้าคบคนพาล คนโกง
หลงกามคุณ ถ้าสติเราไม่ดีพอ
อีกไม่นานเราก็จะซึมซับ
สิ่งเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว
ถ้าไม่มีคนมีศีล มีธรรม
อยู่รอบตัวเลย
จงเลือกเดินคนเดียว
และมีสติเป็นเพื่อน"

- หลวงตาพระมหาบัว










"..พยายาม
เห็นโลกเป็นทุกข์
เห็นวัตถุของโลกเป็นทุกข์

การมีคู่ครอง
มีบุตรธิดาเป็นทุกข์
ถ้ามีอยู่แล้ว
ทำภาระตามหน้าที่
ด้วยความเต็มใจ
ด้วยอำนาจเมตตา

แต่อารมณ์คิดว่า
เราไม่ต้องการอีก
ในชาติต่อไป

ทำอารมณ์ใจไว้เสมอ
ว่า ช่างมันๆๆๆ เป็นปกติ
เท่านี้มีความสุขทั้งชาตินี้
และเมื่อละโลกนี้ไปแล้ว.."

โอวาทธรรม
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง










" เรื่องสามี-ภรรยา
เมื่อกำลังใจยังอ่อน
เราเกิดมาใช้กรรม
ก็อยู่ด้วยกันไปก่อน
มีเมตตา มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

ถ้าคนใดไม่ซื่อสัตย์แล้ว
ก็อย่าเสียดาย
ของไม่ดีจะเสียดายทำไม
เมื่อกำลังใจเข้มแข็ง
มันจะคิดออกจากกาม

ต้องอย่างนี้ซี่ ถ้าอยู่
ด้วยกันก็พากันม้วนลง
ต้องมาทางธรรมนี้
ถึงจะดึงกันขึ้น "

โอวาทธรรม
คุณแม่จันดี โลหิตดี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร