วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 05:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2019, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่อง "มีแล้วไม่ต้องทำ" ขอให้คุณโรสตอบตรงๆคำถามสักทีเถอะ สาธุ 3 ครั้ง

[quote]
Rosarin
เห็นมีจริงๆไหม
ได้ยินมีจริงๆไหม
ทุกอย่างเลยที่กำลังมี
กำลังเป็นไปเป็นสิ่งที่มีจริง
ชาวมคธเขาใช้คำว่าธัมมะไงคะ
คนไทยทับศัพท์คำว่าธัมมะแต่ไม่รู้คำแปล
คริคริคริพูดคำเดียวกันกับพระพุทธเจ้าแต่ปัญญามีไหมคะ
พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏว่ามีแล้วไม่ต้องทำไงคะ

viewtopic.php?f=1&t=56337&p=454414#p454414

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2019, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2019, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
ขันธ์มีอยู่5ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2019, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
ขันธ์มีอยู่5ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา

:b12:
:b32: :b32:



คิกๆๆสุดยอด คุณโรสขอรับ คุณรีบไปศึกษาไปเรียนให้ชัดๆเถอะขอรับ ยอมรับว่า กรัชกายอายแทนผู้รู้ที่เขามาอ่านจริงๆนะ ไปเอามาแต่ไหน ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ :b32: จบข่าว

เสียเวลารดน้ำต้นไม้ :b13: เหนือยใจแทน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2019, 23:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
ขันธ์มีอยู่5ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา

:b12:
:b32: :b32:



คิกๆๆสุดยอด คุณโรสขอรับ คุณรีบไปศึกษาไปเรียนให้ชัดๆเถอะขอรับ ยอมรับว่า กรัชกายอายแทนผู้รู้ที่เขามาอ่านจริงๆนะ ไปเอามาแต่ไหน ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ :b32: จบข่าว

เสียเวลารดน้ำต้นไม้ :b13: เหนือยใจแทน

:b12:
คนเราเนี่ยนะรู้น้อยว่ารู้มากเริงใจกลกบเกิดอยู่ในสระจ้อย...กบหายไปไหนน๊า
:b32:
พระพุทธเจ้าแสดงพระอภิธรรมละเอียดแบ่งเป็น4ประเภท
1จิต89-121ประเภทคือวิญญาณขันธ์เกิดได้6ทางผ่านอายตนะ6
2เจตสิก52ประเภทมี3ขันธ์คือเวทนาขันธ์1/สัญญาขันธ์1/สังขารขันธ์50
3รูป28คือรูปขันธ์มหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24
4นิพพาน1เดียว
:b1:
ย่อลงมามีจิเจรุนิ
จิต1ขณะมีการเกิดดับดูความหมายที่ขันธ์
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
เด่วนี้ครบขันธ์ทั้ง5
จิตทุก1ขณะ=จิ+เจ+รุ
1ขณะจิตที่ดับไปไม่มีซากตัวตนไม่มีอะไรเป็นคน
ดับแปลว่าขันธ์มันว่างแล้วแปลว่าไม่มีตัวตนแล้ว
:b12:
นิพพานคือนิพพานไม่มีขันธ์ต่อท้ายนิพพานจึงไม่เกิดดับ
:b13:
ไม่เข้าใจก็เกิดใหม่เถอะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/OjrlNUa6Qm8


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 05:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

คนเราเนี่ยนะรู้น้อยว่ารู้มากเริงใจกลกบเกิดอยู่ในสระจ้อย...กบหายไปไหนน๊า
:b32:
พระพุทธเจ้าแสดงพระอภิธรรมละเอียดแบ่งเป็น4ประเภท
1จิต89-121ประเภทคือวิญญาณขันธ์เกิดได้6ทางผ่านอายตนะ6
2เจตสิก52ประเภทมี3ขันธ์คือเวทนาขันธ์1/สัญญาขันธ์1/สังขารขันธ์50
3รูป28คือรูปขันธ์มหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24
4นิพพาน1เดียว
:b1:
ย่อลงมามีจิเจรุนิ
จิต1ขณะมีการเกิดดับดูความหมายที่ขันธ์
ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ
เด่วนี้ครบขันธ์ทั้ง5
จิตทุก1ขณะ=จิ+เจ+รุ
1ขณะจิตที่ดับไปไม่มีซากตัวตนไม่มีอะไรเป็นคน
ดับแปลว่าขันธ์มันว่างแล้วแปลว่าไม่มีตัวตนแล้ว
:b12:
นิพพานคือนิพพานไม่มีขันธ์ต่อท้ายนิพพานจึงไม่เกิดดับ
:b13:
ไม่เข้าใจก็เกิดใหม่เถอะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/OjrlNUa6Qm8


คุณโรสต้องเรียนให้เป็นเรื่องราว ไม่ใช่จับตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยมาต่อกันมาชนกันเอาตามความเข้าใจของตน บอกว่ามันมั่ว มั่ว บอกไม่เชื่อ :b1: ดื้อจริงๆ อยู่ใกล้ๆมือจะหลังแหวนสักที

จริงๆนะอ่านไปขำไป น้ำตาไหลเลย นี่ยังไม่ได้ล้างหน้านะ เปิดดู คคห.คุณโรสก่อน คิกๆๆ

พุทธศาสนาในไทยไปไม่รอด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

คนเราเนี่ยนะรู้น้อยว่ารู้มากเริงใจกลกบเกิดอยู่ในสระจ้อย...กบหายไปไหนน๊า
:b32:
พระพุทธเจ้าแสดงพระอภิธรรมละเอียดแบ่งเป็น4ประเภท
1จิต89-121ประเภทคือวิญญาณขันธ์เกิดได้6ทางผ่านอายตนะ6
2เจตสิก52ประเภทมี3ขันธ์คือเวทนาขันธ์1/สัญญาขันธ์1/สังขารขันธ์50
3รูป28คือรูปขันธ์มหาภูตรูป4+อุปาทายรูป24
4นิพพาน1เดียว
:b1:
ย่อลงมามีจิเจรุนิ
จิต1ขณะมีการเกิดดับดูความหมายที่ขันธ์
ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ
เด่วนี้ครบขันธ์ทั้ง5
จิตทุก1ขณะ=จิ+เจ+รุ
1ขณะจิตที่ดับไปไม่มีซากตัวตนไม่มีอะไรเป็นคน
ดับแปลว่าขันธ์มันว่างแล้วแปลว่าไม่มีตัวตนแล้ว
:b12:
นิพพานคือนิพพานไม่มีขันธ์ต่อท้ายนิพพานจึงไม่เกิดดับ
:b13:
ไม่เข้าใจก็เกิดใหม่เถอะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/OjrlNUa6Qm8


คุณโรสต้องเรียนให้เป็นเรื่องราว ไม่ใช่จับตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยมาต่อกันมาชนกันเอาตามความเข้าใจของตน บอกว่ามันมั่ว มั่ว บอกไม่เชื่อ :b1: ดื้อจริงๆ อยู่ใกล้ๆมือจะหลังแหวนสักที

จริงๆนะอ่านไปขำไป น้ำตาไหลเลย นี่ยังไม่ได้ล้างหน้านะ เปิดดู คคห.คุณโรสก่อน คิกๆๆ

พุทธศาสนาในไทยไปไม่รอด

:b12:
บอกยังไงก็ไม่ฟังเพราะปัญญามีไม่พองัยคะ
:b32:
กว่าจะปรุงขึ้นมาเป็นคนทั้งตัวน่ะไม่มีคน
เห็นเป็นเห็นเกิดรู้ว่าเห็นเพราะมีจิตไม่ใช่มีคน
คนที่คิดว่ามีตัวแล้วคือมีอุปาทานขันธ์ยึดว่ามีตัวคน
:b32:
ยึดตัวเองนั่นแหละเหนียวแน่นมั่นคงมากบอกไม่ฟังกำลังมีกิเลสอวิชชาและกำลังเห็นผิด
ถ้ารู้ความจริงแบบพระพุทธเจ้าว่าเห็นแค่สี1สีสะท้อนแสงมาให้แสบตาดับมืดทันทีจะเห็นผิดไหม
เห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ได้ยินแล้วคิดก็คิดแล้วไม่รู้ตัวว่าคิดเห็นผิดไม่เคยคิดถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
https://youtu.be/T4iEoGjz-uY
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เข้าใจความปกติตามภพภูมิไหมคะ
ถ้าเป็นสวรรค์แต่ละชั้นก็มีหัวหน้าและบริวาร
สำหรับโลกมนุษย์ที่เป็นชมพูทวีปก็มีหลายชนชั้นวรรณะ
จะเป็นคนขอทานหรือเป็นกษัตริย์จะเป็นมนุษย์สัตว์หรือพรหมก็ตาม
หรือจะเป็นอริยบุคคลอยู่ภพภูมิไหนก็ตามยังไม่ดับกิเลสจนถึงนิพพานแล้วนั้น
คุณค่ามันเท่ากันเพราะคือจิต+เจตสิก+รูปหรือจะอยู่ในภพอรูปพรหมก็คือมีกิเลสอยู่ยังต้องเกิดอีก
จะรู้ความจริงตามคำสอนได้ก็ต้องฟังคำสอนให้เข้าใจโดยละเอียดการปลีกตัวออกไปคือการไม่พึ่งตถาคต
เพราะปัญญาไม่เกิดทุกขณะจิต/ปัญญาเกิดได้ตามลำดับต้องกำลังฟังต่อเนื่องสังขารขันธ์จึงปรุงถูกตามได้
และเมื่อปัญญาเกิดจะไม่ขาดสติเพราะมีการระลึกตามคิดตามได้เฉพาะเมื่อระลึกถูกตัวตนตามคำสอนได้อยู่
ส่วนสัญญาคือการจำนั้นมีการจำทุกขณะจิตจะมีหรือไม่มีปัญญาจิตก็จำทุกอย่างโดยเฉพาะจำว่ามีตัวเรา
จึงทำทุกอย่างเพื่อตัวเราจะได้ตัวเราจะดีแต่ไม่เคยจำถูกตามคำสอนเลยว่าตัวเราไม่มีจึงไม่มีคนและวัตถุ
ส่วนการปลีกตัวตนออกไปทำนั้นน่ะขาดการคิดไตร่ตรองตามคำสอนแล้วเพราะมีตัวเราอยากทำมาก
แปลว่าลืมระลึกตามคำสอนแล้วขาดสติแล้วเพราะเอาสัญญาจำเอาไปทำเพื่อความอยากได้เพิ่มมาก
จนไม่ฟังให้เข้าใจไม่ยึดหลักกาลามสูตร10แต่ถือทิฏฐิมานะตนเป็นใหญ่ในการจะทำลืมฟัง
ตถาคตแสดงพระธรรมเพื่อให้ผู้ที่กำลังฟังเข้าใจความจริงถูกตัวตนตามได้ไม่ได้บอกว่า
ให้ไปตั้งสำนักนะทำตามๆกันนะเชื่อครูอาจารย์นะ...อย่างงั้นรึ...บอกไม่ฟังดันทุรังจะทำ
ไปท่องจำตำราเป็นตั้งๆทำไมนั่นน่ะปัญญาของพระพุทธเจ้าเอาสัญญาที่ไปอ่านมาทำ
เลือกเอาบางตอนมาคิดและทำเองโดยหลงเชื่อผู้อื่นบอกให้ทำลืมฟังคำสอน555
ฟังเพื่อทบทวนความจริงที่มีผู้ทำตามๆกันหรือสิ่งที่ตนเองเลือกทำไม่ฟังก็ทำผิด
เดี๋ยวนี้เลยไม่ฟังไม่ไตร่ตรองว่าที่เคยทำมันถูกหรือผิดก็จะไม่เลิกทำเด็ดขาด
ตัวอย่างที่ทำตามกันผิดๆคือบวชแล้วรับเงินรับทองคนให้ไม่รู้คนรับไม่บอก
คนรับคิดว่าอาตมาได้ใช้เงินที่ได้ในชาตินี้แต่โยมได้บุญเอาไว้ใช้ชาติหน้า
โกหกทั้งเพทั้งระยองบุญก็ไม่ได้แถมคนให้จนไม่มีบ้านจะอยู่ข้าวก็ซื้อกิน
บวชแล้วจำวัดมีทั้งคนกราบไหว้และได้เงินฟรีๆกินๆนอนๆงานก็ไม่ต้องทำ
บวชแล้วไม่เห็นเขาจะกลัวตกนรกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยค่ะ555
จะเลิกเอาเงินไปประเคนให้โจรไหมถ้าไม่รู้ว่าการบวชแล้วรับเงินคือมิจฉาอาชีโว
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
เข้าใจความปกติตามภพภูมิไหมคะ
ถ้าเป็นสวรรค์แต่ละชั้นก็มีหัวหน้าและบริวาร
สำหรับโลกมนุษย์ที่เป็นชมพูทวีปก็มีหลายชนชั้นวรรณะ
จะเป็นคนขอทานหรือเป็นกษัตริย์จะเป็นมนุษย์สัตว์หรือพรหมก็ตาม
หรือจะเป็นอริยบุคคลอยู่ภพภูมิไหนก็ตามยังไม่ดับกิเลสจนถึงนิพพานแล้วนั้น
คุณค่ามันเท่ากันเพราะคือจิต+เจตสิก+รูปหรือจะอยู่ในภพอรูปพรหมก็คือมีกิเลสอยู่ยังต้องเกิดอีก
จะรู้ความจริงตามคำสอนได้ก็ต้องฟังคำสอนให้เข้าใจโดยละเอียดการปลีกตัวออกไปคือการไม่พึ่งตถาคต
เพราะปัญญาไม่เกิดทุกขณะจิต/ปัญญาเกิดได้ตามลำดับต้องกำลังฟังต่อเนื่องสังขารขันธ์จึงปรุงถูกตามได้
และเมื่อปัญญาเกิดจะไม่ขาดสติเพราะมีการระลึกตามคิดตามได้เฉพาะเมื่อระลึกถูกตัวตนตามคำสอนได้อยู่
ส่วนสัญญาคือการจำนั้นมีการจำทุกขณะจิตจะมีหรือไม่มีปัญญาจิตก็จำทุกอย่างโดยเฉพาะจำว่ามีตัวเรา
จึงทำทุกอย่างเพื่อตัวเราจะได้ตัวเราจะดีแต่ไม่เคยจำถูกตามคำสอนเลยว่าตัวเราไม่มีจึงไม่มีคนและวัตถุ
ส่วนการปลีกตัวตนออกไปทำนั้นน่ะขาดการคิดไตร่ตรองตามคำสอนแล้วเพราะมีตัวเราอยากทำมาก
แปลว่าลืมระลึกตามคำสอนแล้วขาดสติแล้วเพราะเอาสัญญาจำเอาไปทำเพื่อความอยากได้เพิ่มมาก
จนไม่ฟังให้เข้าใจไม่ยึดหลักกาลามสูตร10แต่ถือทิฏฐิมานะตนเป็นใหญ่ในการจะทำลืมฟัง
ตถาคตแสดงพระธรรมเพื่อให้ผู้ที่กำลังฟังเข้าใจความจริงถูกตัวตนตามได้ไม่ได้บอกว่า
ให้ไปตั้งสำนักนะทำตามๆกันนะเชื่อครูอาจารย์นะ...อย่างงั้นรึ...บอกไม่ฟังดันทุรังจะทำ
ไปท่องจำตำราเป็นตั้งๆทำไมนั่นน่ะปัญญาของพระพุทธเจ้าเอาสัญญาที่ไปอ่านมาทำ
เลือกเอาบางตอนมาคิดและทำเองโดยหลงเชื่อผู้อื่นบอกให้ทำลืมฟังคำสอน555
ฟังเพื่อทบทวนความจริงที่มีผู้ทำตามๆกันหรือสิ่งที่ตนเองเลือกทำไม่ฟังก็ทำผิด
เดี๋ยวนี้เลยไม่ฟังไม่ไตร่ตรองว่าที่เคยทำมันถูกหรือผิดก็จะไม่เลิกทำเด็ดขาด
ตัวอย่างที่ทำตามกันผิดๆคือบวชแล้วรับเงินรับทองคนให้ไม่รู้คนรับไม่บอก
คนรับคิดว่าอาตมาได้ใช้เงินที่ได้ในชาตินี้แต่โยมได้บุญเอาไว้ใช้ชาติหน้า
โกหกทั้งเพทั้งระยองบุญก็ไม่ได้แถมคนให้จนไม่มีบ้านจะอยู่ข้าวก็ซื้อกิน
บวชแล้วจำวัดมีทั้งคนกราบไหว้และได้เงินฟรีๆกินๆนอนๆงานก็ไม่ต้องทำ
บวชแล้วไม่เห็นเขาจะกลัวตกนรกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเลยค่ะ555
จะเลิกเอาเงินไปประเคนให้โจรไหมถ้าไม่รู้ว่าการบวชแล้วรับเงินคือมิจฉาอาชีโว
:b12:
:b32: :b32:



พร่ำใหญ่ :b32: เสียเวลาเปล่า เดียวจะตั้งกระทู้เฉพาะคุณโรสกับสำนักนั่นสักกระทู้หนึ่ง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง 5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์ แปลว่า เกิดดับ
ขันธ์มีอยู่ 5 ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์ 5 รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา
:b12:
:b32: :b32:



ความหมายตระกูลขันแต่ละตระกูลๆ


ขัณฑ์ ส่วน, ท่อน หรือชิ้น ที่ถูกตัด ทุบ ฉีก ขาด หัก แตก หรือแยกกันออกไป, ของที่ถูกตัด ฉีก ขาดเป็นส่วนๆ เป็นชิ้นๆ เป็นท่อนๆ, คำว่า จีวรมีขัณฑ์ ๕ หรือ จีวรห้าขัณฑ์ หมายถึงจีวรที่ประกอบขึ้นจากแผ่นผ้าที่ตัดแล้ว ๕ ชิ้น

ขัณฑสีมา สีมาเล็กผูกเฉพาะโรงอุโบสถที่อยู่ในมหาสีมา มีสีมันตริกคั่น

ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม

ขันธปัญจก หมวดห้าแห่งขันธ์ อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (นิยมเรียก ขันธบัญจก)

ขันธมาร ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นมาร เพราะเป็นสภาพอันปัจจัยปรุงแต่งขึ้น เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ถูกปัจจัยต่างๆ มีอาพาธ เป็นต้น บีบคั้นเบียดเบียนเป็นเหตุขัดขวาง หรือรอนโอกาส มิให้สามารถทำความดีงามได้เต็มที่ หรืออาจตัดโอกาสนั้นโดยสิ้นเชิง

ขันธ์ กอง, พวก, หมวด, หมู่ ลำตัว, หมวดหนึ่งๆ ของรูปธรรมและนามธรรมทั้งหมดที่แบ่งออกเป็น ๕ กอง คือ รูปขันธ์ กองรูป เวทนาขันธ์ กองเวทนา สัญญาขันธ์ กองสัญญา สังขารขันธ์ กองสังขาร วิญญาณขันธ์ กองวิญญาณ เรียกรวมว่า เบญจขันธ์ (ขันธ์ ๕)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
ขันธ์มีอยู่5ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา



เอา ขันติ มาวางเทียบ "มีแล้วไม่ต้องทำ" อีกที

ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม

ก็สมกับที่กรัชกายพูดก่อนหน้าว่า สำนักนี้ไม่ทำห่าไรเลย เพราะไปคิดว่า มีแล้วไม่ต้องทำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 00:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
ขันธ์มีอยู่5ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา



เอา ขันติ มาวางเทียบ "มีแล้วไม่ต้องทำ" อีกที

ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม

ก็สมกับที่กรัชกายพูดก่อนหน้าว่า สำนักนี้ไม่ทำห่าไรเลย เพราะไปคิดว่า มีแล้วไม่ต้องทำ

:b32:
เฮ้อ...
บอกไม่ฟัง
แค่ลืมตาเห็น
ยังไม่ทำอะไร
ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ
พอเห็นผิดก็คิดผิด
คิดผิดก็จำผิดแล้วก็
ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง
:b32:
ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ
ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน
จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน
จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ
ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ
https://youtu.be/zK95sP2ycPI
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"มีแล้วไม่ต้องทำ"

เป็นยังงี้ไหมคุณโรส มีแล้วไม่ต้องทำ เช่น เรามีขันน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว เพราะมีอยู่แล้ว

ตัวอย่าง ขัน มีขันอยู่แล้วไม่ต้องทำ :b12:

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... GuCxHzoj0M:

อีกตัวอย่าง เรามีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำแล้ว เพราะเรามีอยู่แล้ว ใช่ไหม หรือยังไง

ตัวอย่างรถ มีรถอยู่แล้ว มีแล้วไม่ต้องทำ

https://www.google.com/search?q=%E0%B8% ... Zwt-9J0tfM:

ตอบตรงไปตรงมา มีแล้วไม่ต้องทำ


:b12:
เดี๋ยวนี้ที่ตัวมีคือขันธ์ทั้ง5
แต่คิดตามได้ตรงทีละ1
ขันธ์แปลว่าเกิดดับ
ขันธ์มีอยู่5ขันธ์
แต่ไม่มีตัวตน
มีแต่อุปาทานขันธ์
ยึดถือขันธ์5รวมกันเป็นตัว
ไม่ชัดก็ใช้คำนี้กำลังปั้นลมเป็นตัว
เพราะไม่มีตัวอยู่จริงๆมีแต่อากาศธาตุที่เป็นสุญญตา



เอา ขันติ มาวางเทียบ "มีแล้วไม่ต้องทำ" อีกที

ขันติ ความอดทน คือ ทนลำบาก ทนตรากตรำ ทนเจ็บใจ, ความหนักเอาเบาสู้ เพื่อบรรลุจุดหมายที่ดีงาม

ก็สมกับที่กรัชกายพูดก่อนหน้าว่า สำนักนี้ไม่ทำห่าไรเลย เพราะไปคิดว่า มีแล้วไม่ต้องทำ

:b32:
เฮ้อ...
บอกไม่ฟัง
แค่ลืมตาเห็น
ยังไม่ทำอะไร
ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ
พอเห็นผิดก็คิดผิด
คิดผิดก็จำผิดแล้วก็
ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง
:b32:
ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ
ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน
จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน
จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ
ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ
https://youtu.be/zK95sP2ycPI
:b32: :b32:


คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

เฮ้อ...
บอกไม่ฟัง
แค่ลืมตาเห็น
ยังไม่ทำอะไร
ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ
พอเห็นผิดก็คิดผิด
คิดผิดก็จำผิดแล้วก็
ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง
:b32:
ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ
ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน
จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน
จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ
ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ
https://youtu.be/zK95sP2ycPI
:b32: :b32:



คุณโรสเขาเป็นอะไร


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2019, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

เฮ้อ...
บอกไม่ฟัง
แค่ลืมตาเห็น
ยังไม่ทำอะไร
ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ
พอเห็นผิดก็คิดผิด
คิดผิดก็จำผิดแล้วก็
ยิ่งเอาไปทำยิ่งผิด3เด้ง
:b32:
ก็บอกว่าอดทนฟังเพียรฟังให้เข้าใจ
ให้ดูเห็นที่กำลังเห็นให้ถูกตามได้ก่อน
จะได้จำถูกว่าจริงๆกำลังเห็นอะไรตรงตามคำสอน
จำให้ถูกตามคำสอนก่อนแล้วจะไม่ทำผิดอีกต่อไปนะคะ
ตอนอดทนฟังน่ะไม่พอใจเสียงให้เข้าใจว่าอดทนยังไม่พองัยคะ
https://youtu.be/zK95sP2ycPI
:b32: :b32:



คุณโรสเขาเป็นอะไร


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ

ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่า ทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน

:b12:
โรสปกติดี
คิดตามคำสอน
ระลึกตามคำสอน
ตรงที่กำลังเห็นปกติค่ะ
รู้ว่าคนทุกคนลืมตาดูตามปกติเห็นอะไร
:b32:
ตอนนี้ที่เข้าใจถูกตามที่มองเห็นคนห่มจีวรโกนหัวโกนคิ้วรับเงินใช้เงินแบบชาวบ้านค่ะ
ไม่รู้สึกตัวว่าเอานิสัยเดิมแบบคฤหัสถ์ก่อนบวชมาทำตอนที่บวชตั้งสัจจะขอทำตามตถาคต
เป็นคนที่นอกรีตนอกรอยไม่ทำตามที่ลั่นวาจาตอนขอบวชได้แต่ท่องแบบนกแก้วนกขุนทองเป็นโมฆบุรุษ
มีโอกาสเกิดได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่ไม่รู้ไม่เข้าใจว่านักบวชต่างจากชาวบ้านตายตกนรกแน่นอน
:b32:
บอกตร๊งตรงบวชแล้วรับเงินรับเช็คถือเงินใช้เงินในเพศบรรพชิตก็คิดเองไม่ได้...เพราะหน้ามืดโลภอยากได้
:b32: :b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 78 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร