วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2019, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแล้วแยกธรรมะที่เป็นศีลธรรม กับ สัจธรรม ให้เข้าใจก่อน

อ้างคำพูด:
คำสอนในทางพุทธศาสนานี้ มี ๒ ชั้น คือ ธรรมะ หรือพระธรรมมี ๒ ชั้น : ธรรมะที่เป็นศีลธรรมอย่างหนึ่ง กับ ที่เป็นสัจธรรมอีกอย่างหนึ่ง (หรือว่า จริยธรรมอย่างหนึ่ง กับ สภาวธรรม อีกอย่างหนึ่ง)

ศีลธรรมนั้นเป็นคำสอนชั้นธรรมดา ที่มีคล้ายกันทุกศาสนา ศาสนาคริสต์ อิสลาม ฮินดู พุทธ มีคำสอนในด้านศีลธรรมคล้ายกัน ไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก

สัจธรรมเป็นเครื่องแก้ปัญหาเฉพาะคน ถ้าพูดเป็นศัพท์แสงหน่อย ก็เรียกว่า สัจธรรมเป็นเรื่อง “ปัจเจกชน

ศีลธรรมเป็นเรื่อง “สังคม”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55033


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2019, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเข้าใจข้างบนแล้วแยกได้แล้ว มาดูตัวอย่างสัจธรรมหรือสภาวธรรมก่อน

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเกิดหัวมันหมุนโครงเครงไปเอง

เป็นมาได้ประมาณ 3 วันแล้ว เมื่อก่อนนั่งสมาธิก็ไม่เห็นจะมีอาการอะไร แต่เมื่อสามวันก่อนขณะที่นั่งสมาธิ และกำหนดลมหายใจอยู่ เกิดอาการหัวตึงแน่นๆ แล้วคอก็เอียงไปซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แล้วก็มีแบบหัวหมุนไปเองด้วย คือขยับไปเอง ไม่ใช่ขยับในจิตนะ คือ ร่างกายที่ไม่ได้สั่งให้มันขยับเนี่ย มันหมุนไปเอง บ้างก็เอนมาหน้า บ้างก็เอนไปหลังเหมือนคนสับปะหงก แต่ไม่ได้หลับนะครับ มีสติ รู้ตัวตลอด

ตอนแรกผมนึกว่าโดนของ โดนผีเข้า หรือ เป็นอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย แต่ถ้าเป็นอาการโดนของ ผีเข้า หรือเจ็บป่วย ก็ไม่น่าจะมีสติรู้ตัวตลอดเวลาใช่เปล่าครับ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยโดน ตอนนี้เป็นหนักมาก ขนาดที่ว่าไม่ต้องเข้าสมาธิหรอก แค่ตั้งสมาธิอ่านหนังสือ หัวก็หมุนแล้ว เอียงไปซ้ายที ขวาที บางทีหัวก็หมุนไปเอง

แล้วตอนนี้อาการที่ตามมาคือ เวลาออกจากสมาธิมาแล้ว เหมือนคนเฉื่อยๆชาๆ เหมือนอยู่ในภวังค์ตลอดเวลาเลยครับ

รบกวนผู้รู้ด้วยครับว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร ต้องไปต่อยังไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2019, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เฉพาะผู้ปฏิบัติเท่านั้น ผู้ที่ไม่เคยภาวนาไม่เคยปฏิบัติ จะไม่เข้าใจเลย



วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ (เกิดในขณะอุทยัพพญาณอย่างอ่อน - ตรุณวิปัสสนา คือ จิตเริ่มๆจะนิ่งจะสงบแล้ว)

๑. โอภาส เห็นแสงสว่างต่างๆ


๒. ปีติ ๕ อย่าง แต่ละอย่างๆ มีอาการอย่างนี้

1. ขุททกาปีติ จะมีอาการดังนี้

1.1 เยือกเย็น ขนลุกตั้งชันไปทั้งตัว
1.2 ร่างกาย มึน ตึง หนัก
1.3 น้ำตาไหลพราก
1.4 ปรากฏเป็นสีขาวต่างๆ

๒. ขณิกาปีติ จะมีอาการดังนี้

2.1 เป็นประกายดังฟ้าแลบ
2.2 ร่างกายแข็ง หัวใจสั่น
2.3 แสบร้อนตามเนื้อตามตัว
2.4 คันยุบยิบ เหมือนแมลงไต่ตามตัว

๓. โอกกันติกาปีติ จะมีอาการดังนี้

3.1 ร่างกายไหวโยก โคลงแคลง บางครั้งสั่นระรัว
3.2 สะบัดหน้า สะบัดมือ สะบัดเท้า
3.3 น้ำลายสอในปาก คลื่นไส้ อาเจียน
3.4 มีอาการคล้ายๆละลอกคลื่นซัด
3.5 ปรากฏมีสีม่วงอ่อน สีเหลืองอ่อน

๔. อุเพงคาปีติ จะมีอาการดังนี้

4.1 มีอาการคล้ายๆกายสูงขึ้น ตัวเบา ตัวลอย
4.2 คันยุบยิบ เหมือนมีตัวไร ตอมไต่ตามหน้าตา
4.3 ท้องเสีย ลงท้อง
4.4 สัปหงกไปข้างบ้าง ข้างหลังบ้าง
4.5 หัวหมุนไปมา
4.6 กัดฟันบ้าง อ้าปากบ้าง หุบปากบ้าง
4.7 กายงุ้มไปข้างหลังบ้าง ข้างๆบ้าง
4.8 กายกระตุก ยกแขน ยกขา
4.9 ปรากฏสีไข่มุก สีนุ่น

๕. ผรณาปีติ จะมีอาการดังนี้

5.1 ร่างกายเยือกเย็นแผ่ซ่านไปทั้งตัว
5.2 ซึมๆไม่อยากลืมตา ไม่อยากเคลื่อนไหว
5.3 ปรากฏเป็นสีคราม สีเขียว สีบงกด

๓. ญาณ (ความรู้) ปรากฏว่า ตัวมีความรู้เปรื่องปราชญ์ หมดจด อย่างไม่เคยมีมาก่อน


๔. ปัสสัทธิ มีความรู้สึกสงบเยือกเย็น ทั้งกายและใจ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่กระวนกระวาย สงบเงียบดังเข้าผลสมาบัติ

๕. สุข ได้แก่ วิปัสสนาสุข รู้สึกว่ามีความสุขที่สุด อย่างไม่เคยพบมาก่อน ยินดี เพลิดเพลิน ไม่อยากออกจากการปฏิบัติ อยากจะพูด อยากจะบอก ผลที่ตนได้ แก่ผู้อื่น

๖. อธิโมกข์ (สัทธา) มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย เป็นต้น อย่างแรงกล้า

๗. ปัคคาหะ (ความเพียร) ขยันเกินควร ตั้งใจปฏิบัติจริง ยอมสู้ตาย ไม่ถอย จนเกินพอดี

๘. อุปัฏฐานะ (สติ) สติมากเกินไป ระลึกถึงแต่เรื่องในอดีตและอนาคต จนทิ้งอารมณ์ปัจจุบันเสีย

๙. อุเบกขา รู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดี ยินร้าย ใจลอย หลงๆลืมๆ เป็นต้น อะไรมากระทบก็เฉย ขาดการกำหนด ปล่อยใจไปตามอารมณ์


๑๐. นิกันติ (ติดใจ) พอใจในอารมณ์ต่างๆ มีโอภาส เป็นต้น ตื่นหลงผิดคิดไปว่า ตนคงบรรลุ มรรค ผล นิพพานแล้ว เหตุไม่เคยพบมาก่อน

วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ นี้ จะเกิดแก่ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนาถูกวิธีเท่านั้น ส่วนผู้ปฏิบัติผิดหรือไม่เคยปฏิบัติเลยจะไม่ประสบกับสภาวะเหล่านี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2019, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหล่านี้แหละเรียกว่าสภาวะ เรียกเต็ม สภาวธรรม ที่ตนเองต้องกำหนดรู้ตามที่มีที่เป็นทุกๆครั้ง กำหนดไปสังเกตมันไป มันเกิดเพราะเหตุใด หมดไปเพราะเหตุใด

อ้างคำพูด:
จิตเริ่มสงบจะมีอาการคันคอ

เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมาสักครั้งสองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2019, 08:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มันมีมันเป็นของมันเอง คือว่า สภาวะเป็นอย่างนั้นก็ต้องรู้อย่างนั้น ไม่ใช่คิดฟุ้งไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตามที่ตัวเองต้องการให้มีให้เป็นตามความยึดความอยากของตัว ไม่ใช่ กำหนดดูรู้ทันมัน สังเกตมันกิดขึ้น สังเกตมันดับไป

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเหมือนร่างกายลอยจากพื้น

ใช้วิธีอานาปานสติ ช่วงแรกนั่งสมาธิดิ่งลงมากๆจะเห็นแสงสว่างจ้ามากๆเป็นดวงแว๊บๆและสว่างตลอดเวลา
เคยอ่านหนังสือหลวงพ่อสดว่าอย่าวอกแวก เรานึกได้ก็ดูลมหายใจต่อ
จากนั้น ตัวมันเบามาก แถมเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคุยกัน ทั้งๆที่ในห้องก็เงียบมาก และจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพูด "นั่นแหละกำหนดรู้ใจคน"
ก็เกิดตกใจขึ้น ร่างกายที่เคยมี ก็หายไป แต่พอได้สติ นึกได้ก็ภาวนาต่อ
ทีนี้ร่างกายเหมือนจะลอยจากพื้นดิน อาการคือตัวโครงไม่อยู่นิ่งกับพื้น ทีนี้ก็เลยกลัว รีบออกจากสมาธิ
แบบนี้เรียกว่าอะไรครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2019, 05:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ได้ผิดปกติอะไรเลย เป็นธรรมดาๆของมันเอง แต่เนื่องจากเราเองขาดความรู้ด้านชีวิตจิตใจด้านลึก

อ้างคำพูด:
ขนลุกตอนนั่งสมาธิเป็นหนักมาก

ช่วงหลังๆนี้มีอาการผิดปกติกับตัวเองค่ะ คือ มีอาการขนลุกตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนนั่งสมาธิเป็นหนักมาก

ขออนุญาต เล่าเป็นข้อๆดังนี้นะคะ อาการที่เกิด

1.บ่อยครั้งขนลุกบริเวณขาซ้ายเป็นบ่อยค่ะอาการนี้ (เป็นมานาน)

2.อาการขนหัวลุก เสียวท้ายทอยมาก เริ่มมาเป็นช่วงหลังๆมานี่เองค่ะ เกิดชัดครั้งแรก ตอนไปร่วมพิธีไหว้ครูที่นึง เป็นพิธีใหญ่พอสมควร พอเริ่มพิธี เท่านั้นเองก็ขนหัวลุกซู่ ลุกจนเสียวต้นคอ และบริเวณท้ายทอยมาก พอซักพัก นั่งร้องไห้แบบไม่ทราบสาเหตุค่ะ ร้องแบบสะอึกสะอื้น งงตัวเองนะคะว่า ร้องไห้ทำไม อายก็อายค่ะ แต่ฝืนตัวเองไม่ได้เลย อยู่ในพิธี เป็นอยู่แบบนี้ ทั้งขนหัวลุกและร้องไห้ 3 - 4 รอบสลับกันไปจนจบพิธีอาการก็หายค่ะ นี่คือครั้งแรกค่ะ

แต่ที่จะถามต่อคือ มาช่วง นี้ 3-4 วัน ก่อนที่จะโพสถามนี่ อาการกลับมาค่ะ แต่หนักและถี่แรงกว่าปกติ คือเริ่มต้นจากอยู่ๆ ก็ขนลุกน้อยๆทั้งตัวบ้าง ขนลุกบริเวณขาซ้ายบ้าง เป็นอย่างงี้ทั้งวันค่ะ (ปกตินานๆทีแต่ครั้งนี้เป็นตลอดวัน)

แต่ที่หนักสุด พอมานั่งสมาธิ (ปกตินั่งสมาธิเกือบทุกวันไม่เคยมีอาการขนหัวลุกหรือเสียวต้นคอเลย) อยู่ๆคราวนี้ พอเริ่มนั่งเริ่มกำหนด ไม่ถึงนาที อาการขนหัวลุกเสียวต้นคอ -ท้ายทอย มาหนักมาก กำหนดอย่างอื่นไม่ได้เลย เลยกำหนดไปที่อาการนี้ คือ ขนลุกหนอ เสียวท้ายทอยหนอ อยู่แบบนี้
พอหายซักพัก ก็ไปกำหนดท้องพองยุบ หรือกำหนดตามจิตเราที่ไปกระทบปกติ เดี๋ยวอาการขนหัวลุกก็มาแทรกอีก เป็นอย่างนี้สลับไป

สังเกตตัวเองว่า หลังจากนั้นเป็นต้นมา เวลาใช้ชีวิตปกติก็ขนลุกตลอดเวลา ทั้งวัน แต่ไม่แรง
พอวันที่ 2 นั่งสมาธิใหม่ก็ขนหัวลุกอีก อาการจะแรงช่วงนั่งสมาธิค่ะ กังวลมาก ไม่รู้ไปทำไรผิดเข้ารึเปล่า ใครรู้ช่วยบอก หรือแก้อาการทีค่ะ


วิธีของมรรคปฏิปทา (จะเรียกแก้อาการ แก้อารมณ์ก็ได้ตามที่เข้าใจกัน) ก็คือกำหนดอาการนั้นๆทุกๆครั้ง แม้กำหนดแล้วมันหายไปแล้วก็ต้องรู้ ต้องสังเกต สภาวะวนมาอีกก็กำหนดอีก (ไม่ใช่กำหนดครั้งเดียวพอเลย ไม่ใช่ กำหนดทุกๆครั้ง ทั้งทางกาย ทางความรู้สึกนึกคิด พอง-ยุบเป็นหลักใหญ่ ส่วนอารมณ์อื่นๆสภาวะอื่นๆแทรกเข้ามา วางพอง-ยุบก่อน ไปกำหนดความรู้สึกนั้นๆตามนั้่น กำหนดรู้แล้วกลับมาจับหลักคือพองยุบต่อไป)

อาการที่ว่า ที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละเป็นอาการของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา :b1: ที่ชอบพูดกัน มันเที่ยงแท้แน่นอนไหมน่ะ บังคับไม่ให้มันเกิดมันเป็นได้ไหมน่ะ ไม่ได้ ดังนั้น หน้าที่ของเรา คือ กำหนดรู้ดูมัน ดูมันเกิดมันดับให้เหมือนดูหนังดูละคร ดูให้ชัด ไม่ใช่จะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ตามใจอยากของตัวเอง ไม่ใช่เลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2019, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ดูอีกตัวอย่างหนึ่งดูแล้วนำไปเทียบกับอาการปีติ 5 อย่างข้างต้นด้วย

เดิมมีอาการทางกายแต่ไม่รู้จะแก้อย่างไรคือกำหนดอย่างไร ตามที่เขาเล่า (นำมานิดหน่อย)


อ้างคำพูด:
ตอนแรก ดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลย จึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก

ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีก เพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัว และเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะ เพราะมันคล้ายหูแว่ว แต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)
กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ
ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ

อาการทางกายล่ะคะ คุณเคยได้ยินว่า มีคนผิดปกติทางกายจากการฝึกสมาธิแล้วไม่หายไหมคะ
เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว จึงไม่กล้าทำอีก เพราะตอนที่เป็นนั้น
เหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา
ตอนออกจากสมาธิก็ยังเป็น
ตอนนั้น ค่อนข้างหวั่นใจ แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะ

(หากเรื่องที่เขาพูดกันว่าหมดวาสนาทางนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนพูดใส่เราแบบนั้นเช่นกัน แต่ดิฉันเองไม่อยากจะเชื่อ ผลของทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุ แต่ดิฉันไม่รู้ว่าเหตุใด ร่างกายเราเกิดอาการผิดปกติเช่นนั้นจากการทำสมาธิแล้วจะไปป้องกัน หรือเลี่ยงมันได้อย่างไร )

ลิงค์นี้

http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 85609.html



.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2019, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สภาวะจำพวกเนี่ยเป็นอาการจากปีติทั้งนั้น โยคีบุคคลต้องกำหนดจิตข้ามให้พ้น บางท่านใช้เวลาหลายวัน แม้ใช้ชีวิตปกติก็เกิดได้ เพราะจิตมันเสพสมาธิถึงระดับหนึ่งซึ่งแรงกว่าสติ เพียงเพ่งอะไรนิ่งๆก็เกิด ทำงานเงียบๆนิ่งๆก็เกิด อย่าตกอกตกใจ คิดฟุ้งวิพากษ์สภาวธรรม อะไรเกิดรับรู้ดูมันโดยการกำหนดนั่นเอง กำหนดทั้งทางกายทางใจความรู้สึกนึกคิดต่างๆ อย่าปล่อยอารมณ์ล่วงไปๆเฉยๆโดยไม่กำหนด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 41 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร