วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 01:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 184 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2019, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
ไปนั่งปฏิบัติซะ. จะได้เห็นในสิ่งที่คุณพูดรผูปนามเกิดดับดป็นล้านครั้ง. ที่บอกตายขั่วคราวมันเป็นยังไง.

นั่งจนกายหายแล้วไม่จำเป็นต้องไปนั่งทำไม่รู้ตามคำสอนแบบนั้นอีกเพราะนั่งไปก็ไม่รู้จักขณิกมรณะ555
:b32: :b32:

ภิกษุ ทั้งหลาย !
อานาปานสติอันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
ก็อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำ
ให้มากแล้วอย่างไร จึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ?

ภิกษุ ทั้งหลาย
ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้
หรือเรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ
ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า

เธอนั้นมีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก

คำสอนตรงจริงแปลตรงตัวอักษรตรงความหมาย
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ที่ไปนั่งหลับตาคิดเอง
ไม่ได้กำลังทำสติและปัญญาเพราะปัญญาแปลว่าเข้าใจ
สติ+ปัญญา=ระลึกตามคำสอนได้เข้าใจตามคำสอนไปนั่งทำไม่ฟัง
แปลว่าไม่ทำปัญญาตามลำดับรู้จักคำว่า...ตามลำดับไหม...ตรงปัจจุบันขณะด้วย
การนั่งหลับตาเองในที่เงียบๆไม่พึ่งคิดตามคำสอนไปทำฌานตบะที่เผาธัมมะฝ่ายตรงข้าม
ปัญญามีน้อยอยู่แล้วที่เกิดมาเนี่ยสิ่งที่มีที่ตัวรู้สึกตรงตามคำสอนได้ตอนกำลังฟังใครก็ฟังแทนไม่ได้
ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนั่งหลับตาทำสมาธิตัวหายกายหายก็คิดว่าดีวิเศษรู้ความจริง555นั่นไม่ใช่ปัญญา
จะทำปัญญาตามคำสอนตามลำดับต้องเริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันรู้อารมณ์ตอนกำลังมีวิถีจิต6ทาง
ถ้าไม่เริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันอารมณ์แปลว่าไม่ได้ทำปัญญาคือการระลึกตามคำสอนเข้าใจถูกตาม
:b12:
อ่านเข้าใจไหมเนี่ย...ต้องแปลความตรงคำเข้าใจความหมายตรงคำไม่มีจิตและสัญญาจำอันเก่ามีแต่รู้ไม่ตรง
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มทำปัญญาตรงทางตามเสียงคำตถาคตตรงจริงที่กำลังมีที่ตัว
https://youtu.be/YItxfqGGrNc
:b20:
:b4: :b4:
คงนึกว่าเขาไปนั่งหลับตา เฉยๆหรอครับ. ลืมตาแบบคุณเขารู้กันนานแล้วอะไรคืออะไร. ยังงมโข่งอยู่ไม่หายอีก.จิตที่จะมีกำลังจริงทวารทั้งหกที่เปิดอยู่ไม่ควบคุมทวารสำรวมอินทรีย์ จิตคุณถึงรู้ได้แค่นั้น. การปฏิบัติเขาควบคุมเพื่อให้จิตเพ่งในอารมณ์เดียวเพื่อเกิดสมาธิระดับฌานจิตให้ได้ เพื่อทำกิจในองค์ความรู้ที่พิจารณาความจริงที่เกิดขึ้นมีขึ้นคือธรรมทั้งหลายล้วนเป้นอนิจจัง. ทุกขัง อนัตตา. เพื่อให้ความรู้นี้มีกำลังกำจัดกิเลสได้จริง พระองค์จึงกล่าวว่าสมถะวิปัสนานั้นตะต้องคู่กัน. องค์โพชฌงค์ทั้ง7จึงบริบูรณ์. การพิจารณาธรรมแบบคุณมันก็ความรู้ปรมัถตธรรมแบบผิวเผินสร้างโพชฌงค์ไม่ได้เลยแค่ไว้คุยเพื่อบันเทิงทางอารมณ์เท่านั้นกำจัดกิเลสไม่ได้เลย. สังเกตุตัวคุณดู. ผมไม่เสพกามเพศได้เพราะอะไรสมัยก่อนวันละ2-3อดไม่ได่เลยตอนนี้สบายไม่ต้องเสพนี่คือการหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการปฏิบัติจริงง
ไม่ใช่พวกใบลานเปล่าความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

โมฆะบุรุษคือเดี๋ยวนี้เข้าไม่ถึงปัจจุบันขณะ
รู้จักรอบรู้ในพระพุทธพจน์ทุกคำไหม
ไม่ใช่อ่านตรงไหนก็เลือกที่ชอบเอาไปทำ
รอบรู้ทีละคำตรงปัจจุบันอารมณ์ตรง1ทางที่กายมี
ลมหายใจไม่ดูก็รู้ว่ายังไม่ตายไม่เห็นเหรอมีตัวตนไปไหนนั่นน่ะ
ไปทำไม่รู้เพิ่มบอกไม่ฟังอดีตก็ฟังไม่รู้เรื่องมีแต่คิดอยากจะไปเลือกทำไม่รู้เพิ่ม
คำสอนของตถาคตเป็นการไตร่ตรองเหตุผลเพื่อละไม่รู้ไม่ใช่มีตัวตนไปทำแยกออกไปจากปกติที่กำลังมีไม่รู้
:b12:
บอกยังไงก็ไม่เข้าใจเอาแต่อ่านแล้วจำเอาไปทำบอกว่าวางอดีตสัญญาที่เห็นผิดๆลงแล้วเริ่มต้นฟังตรงปัจจุบัน
ปัจจุบันขณะของตัวเองน่ะมันสั้นมากสั้นจนแยกไม่ออกว่าเดี๋ยวนี้ลมหายใจไม่ติดต่อมันขาดตอนแล้วทุกขณะ
:b32: :b32:
ใช่แล้วคนับไม่ใช่รู้ตรงไหนก็เลือกไปทำ. เหมือนขอบคุณไงรู้แค่นั้นก็นึกว่าต่นเองรู้ถูกทางที่คถณกำละงเรียนอยู่ คาเห้นสีแสงสันฐาน ตาไม่ได้เห็นจิตเห็น จิตเกิดทีละขณะ สลับกับได้อะไรฯลฯ ผมนะเรียนมาตั้วแต่เกือบ20ปีแล้วกับอาจารย์ป้าคุณนี่แหล่ะ. พอฟังไปมากๆชักไม่ใช่แล้ว. คุณก็ได้ประมาณนี้แหล่ะ ยังไม่เคยข้ามฝั่งของจิตที่ดับริวรณ์5หรือกิเลสดับชั่วคราวได้เลยจะไปรู้อะไรว่ารสขาติที่กิเลมาดับมันเป็นอย่างไร. ผมบอกได้แค่นี้นะแล้วแต่บุญกรรม. ผมโชคดีที่เป้นคนไม่ปิดกั้นตนเองจึง เคยอยู่จุดสูงสุดทางโลกและกำลังจะไปสู่จุดสูงสุดทางธรรมได้จริง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2019, 19:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
ไปนั่งปฏิบัติซะ. จะได้เห็นในสิ่งที่คุณพูดรผูปนามเกิดดับดป็นล้านครั้ง. ที่บอกตายขั่วคราวมันเป็นยังไง.

นั่งจนกายหายแล้วไม่จำเป็นต้องไปนั่งทำไม่รู้ตามคำสอนแบบนั้นอีกเพราะนั่งไปก็ไม่รู้จักขณิกมรณะ555
:b32: :b32:

ภิกษุ ทั้งหลาย !
อานาปานสติอันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
ก็อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำ
ให้มากแล้วอย่างไร จึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ?

ภิกษุ ทั้งหลาย
ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้
หรือเรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ
ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า

เธอนั้นมีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก

คำสอนตรงจริงแปลตรงตัวอักษรตรงความหมาย
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ที่ไปนั่งหลับตาคิดเอง
ไม่ได้กำลังทำสติและปัญญาเพราะปัญญาแปลว่าเข้าใจ
สติ+ปัญญา=ระลึกตามคำสอนได้เข้าใจตามคำสอนไปนั่งทำไม่ฟัง
แปลว่าไม่ทำปัญญาตามลำดับรู้จักคำว่า...ตามลำดับไหม...ตรงปัจจุบันขณะด้วย
การนั่งหลับตาเองในที่เงียบๆไม่พึ่งคิดตามคำสอนไปทำฌานตบะที่เผาธัมมะฝ่ายตรงข้าม
ปัญญามีน้อยอยู่แล้วที่เกิดมาเนี่ยสิ่งที่มีที่ตัวรู้สึกตรงตามคำสอนได้ตอนกำลังฟังใครก็ฟังแทนไม่ได้
ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนั่งหลับตาทำสมาธิตัวหายกายหายก็คิดว่าดีวิเศษรู้ความจริง555นั่นไม่ใช่ปัญญา
จะทำปัญญาตามคำสอนตามลำดับต้องเริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันรู้อารมณ์ตอนกำลังมีวิถีจิต6ทาง
ถ้าไม่เริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันอารมณ์แปลว่าไม่ได้ทำปัญญาคือการระลึกตามคำสอนเข้าใจถูกตาม
:b12:
อ่านเข้าใจไหมเนี่ย...ต้องแปลความตรงคำเข้าใจความหมายตรงคำไม่มีจิตและสัญญาจำอันเก่ามีแต่รู้ไม่ตรง
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มทำปัญญาตรงทางตามเสียงคำตถาคตตรงจริงที่กำลังมีที่ตัว
https://youtu.be/YItxfqGGrNc
:b20:
:b4: :b4:
คงนึกว่าเขาไปนั่งหลับตา เฉยๆหรอครับ. ลืมตาแบบคุณเขารู้กันนานแล้วอะไรคืออะไร. ยังงมโข่งอยู่ไม่หายอีก.จิตที่จะมีกำลังจริงทวารทั้งหกที่เปิดอยู่ไม่ควบคุมทวารสำรวมอินทรีย์ จิตคุณถึงรู้ได้แค่นั้น. การปฏิบัติเขาควบคุมเพื่อให้จิตเพ่งในอารมณ์เดียวเพื่อเกิดสมาธิระดับฌานจิตให้ได้ เพื่อทำกิจในองค์ความรู้ที่พิจารณาความจริงที่เกิดขึ้นมีขึ้นคือธรรมทั้งหลายล้วนเป้นอนิจจัง. ทุกขัง อนัตตา. เพื่อให้ความรู้นี้มีกำลังกำจัดกิเลสได้จริง พระองค์จึงกล่าวว่าสมถะวิปัสนานั้นตะต้องคู่กัน. องค์โพชฌงค์ทั้ง7จึงบริบูรณ์. การพิจารณาธรรมแบบคุณมันก็ความรู้ปรมัถตธรรมแบบผิวเผินสร้างโพชฌงค์ไม่ได้เลยแค่ไว้คุยเพื่อบันเทิงทางอารมณ์เท่านั้นกำจัดกิเลสไม่ได้เลย. สังเกตุตัวคุณดู. ผมไม่เสพกามเพศได้เพราะอะไรสมัยก่อนวันละ2-3อดไม่ได่เลยตอนนี้สบายไม่ต้องเสพนี่คือการหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการปฏิบัติจริงง
ไม่ใช่พวกใบลานเปล่าความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

โมฆะบุรุษคือเดี๋ยวนี้เข้าไม่ถึงปัจจุบันขณะ
รู้จักรอบรู้ในพระพุทธพจน์ทุกคำไหม
ไม่ใช่อ่านตรงไหนก็เลือกที่ชอบเอาไปทำ
รอบรู้ทีละคำตรงปัจจุบันอารมณ์ตรง1ทางที่กายมี
ลมหายใจไม่ดูก็รู้ว่ายังไม่ตายไม่เห็นเหรอมีตัวตนไปไหนนั่นน่ะ
ไปทำไม่รู้เพิ่มบอกไม่ฟังอดีตก็ฟังไม่รู้เรื่องมีแต่คิดอยากจะไปเลือกทำไม่รู้เพิ่ม
คำสอนของตถาคตเป็นการไตร่ตรองเหตุผลเพื่อละไม่รู้ไม่ใช่มีตัวตนไปทำแยกออกไปจากปกติที่กำลังมีไม่รู้
:b12:
บอกยังไงก็ไม่เข้าใจเอาแต่อ่านแล้วจำเอาไปทำบอกว่าวางอดีตสัญญาที่เห็นผิดๆลงแล้วเริ่มต้นฟังตรงปัจจุบัน
ปัจจุบันขณะของตัวเองน่ะมันสั้นมากสั้นจนแยกไม่ออกว่าเดี๋ยวนี้ลมหายใจไม่ติดต่อมันขาดตอนแล้วทุกขณะ
:b32: :b32:
ใช่แล้วคนับไม่ใช่รู้ตรงไหนก็เลือกไปทำ. เหมือนขอบคุณไงรู้แค่นั้นก็นึกว่าต่นเองรู้ถูกทางที่คถณกำละงเรียนอยู่ คาเห้นสีแสงสันฐาน ตาไม่ได้เห็นจิตเห็น จิตเกิดทีละขณะ สลับกับได้อะไรฯลฯ ผมนะเรียนมาตั้วแต่เกือบ20ปีแล้วกับอาจารย์ป้าคุณนี่แหล่ะ. พอฟังไปมากๆชักไม่ใช่แล้ว. คุณก็ได้ประมาณนี้แหล่ะ ยังไม่เคยข้ามฝั่งของจิตที่ดับริวรณ์5หรือกิเลสดับชั่วคราวได้เลยจะไปรู้อะไรว่ารสขาติที่กิเลมาดับมันเป็นอย่างไร. ผมบอกได้แค่นี้นะแล้วแต่บุญกรรม. ผมโชคดีที่เป้นคนไม่ปิดกั้นตนเองจึง เคยอยู่จุดสูงสุดทางโลกและกำลังจะไปสู่จุดสูงสุดทางธรรมได้จริง

:b32:
ฟังแล้วไม่เกิดปัญญาเพิ่มใครจะช่วยอะไรคุณได้ไหมล่ะคะ
ถ้าตถาคตยกปัญญาให้ได้คงไม่ต้องเกิดมาเพื่อฟังคำสอนเองหรอกนะ
ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่มีการฟังและไม่มีสติระลึกตามคำสอนคิดว่าปัญญาจะเกิดเพิ่มได้หรือคะ
ปัญญาเจตสิกไม่ใช่สมาธิเจตสิกและไม่ใช่สติเจตสิกเป็นคนละตัวจริงธัมมะเกิดดับพร้อมจิตได้ทีละ1ขณะ
หลับตามีแต่มโนเดาวิถืจิตไม่ตรงทางตามวิถีปกติของแต่ละทางคิดว่าปัญญาจะเพิ่มมาแต่ไหนเหรอคะ555
ฌานไม่ใช่ญาณและฌานเผาไหมธัมมะฝ่ายตรงข้ามถ้ายังมีกิเลสมากอยู่เวลาทำฌานก็เผาปัญญาทิ้งหมด
ถามว่าจิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ไม่มีปัญญารู้ความจริงตรงตามคำสอนตรงทางเลยกิเลสใหม่ก็เพิ่ม
:b32:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2019, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
ไปนั่งปฏิบัติซะ. จะได้เห็นในสิ่งที่คุณพูดรผูปนามเกิดดับดป็นล้านครั้ง. ที่บอกตายขั่วคราวมันเป็นยังไง.

นั่งจนกายหายแล้วไม่จำเป็นต้องไปนั่งทำไม่รู้ตามคำสอนแบบนั้นอีกเพราะนั่งไปก็ไม่รู้จักขณิกมรณะ555
:b32: :b32:

ภิกษุ ทั้งหลาย !
อานาปานสติอันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
ก็อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำ
ให้มากแล้วอย่างไร จึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ?

ภิกษุ ทั้งหลาย
ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้
หรือเรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ
ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า

เธอนั้นมีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก

คำสอนตรงจริงแปลตรงตัวอักษรตรงความหมาย
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ที่ไปนั่งหลับตาคิดเอง
ไม่ได้กำลังทำสติและปัญญาเพราะปัญญาแปลว่าเข้าใจ
สติ+ปัญญา=ระลึกตามคำสอนได้เข้าใจตามคำสอนไปนั่งทำไม่ฟัง
แปลว่าไม่ทำปัญญาตามลำดับรู้จักคำว่า...ตามลำดับไหม...ตรงปัจจุบันขณะด้วย
การนั่งหลับตาเองในที่เงียบๆไม่พึ่งคิดตามคำสอนไปทำฌานตบะที่เผาธัมมะฝ่ายตรงข้าม
ปัญญามีน้อยอยู่แล้วที่เกิดมาเนี่ยสิ่งที่มีที่ตัวรู้สึกตรงตามคำสอนได้ตอนกำลังฟังใครก็ฟังแทนไม่ได้
ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนั่งหลับตาทำสมาธิตัวหายกายหายก็คิดว่าดีวิเศษรู้ความจริง555นั่นไม่ใช่ปัญญา
จะทำปัญญาตามคำสอนตามลำดับต้องเริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันรู้อารมณ์ตอนกำลังมีวิถีจิต6ทาง
ถ้าไม่เริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันอารมณ์แปลว่าไม่ได้ทำปัญญาคือการระลึกตามคำสอนเข้าใจถูกตาม
:b12:
อ่านเข้าใจไหมเนี่ย...ต้องแปลความตรงคำเข้าใจความหมายตรงคำไม่มีจิตและสัญญาจำอันเก่ามีแต่รู้ไม่ตรง
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มทำปัญญาตรงทางตามเสียงคำตถาคตตรงจริงที่กำลังมีที่ตัว
https://youtu.be/YItxfqGGrNc
:b20:
:b4: :b4:
คงนึกว่าเขาไปนั่งหลับตา เฉยๆหรอครับ. ลืมตาแบบคุณเขารู้กันนานแล้วอะไรคืออะไร. ยังงมโข่งอยู่ไม่หายอีก.จิตที่จะมีกำลังจริงทวารทั้งหกที่เปิดอยู่ไม่ควบคุมทวารสำรวมอินทรีย์ จิตคุณถึงรู้ได้แค่นั้น. การปฏิบัติเขาควบคุมเพื่อให้จิตเพ่งในอารมณ์เดียวเพื่อเกิดสมาธิระดับฌานจิตให้ได้ เพื่อทำกิจในองค์ความรู้ที่พิจารณาความจริงที่เกิดขึ้นมีขึ้นคือธรรมทั้งหลายล้วนเป้นอนิจจัง. ทุกขัง อนัตตา. เพื่อให้ความรู้นี้มีกำลังกำจัดกิเลสได้จริง พระองค์จึงกล่าวว่าสมถะวิปัสนานั้นตะต้องคู่กัน. องค์โพชฌงค์ทั้ง7จึงบริบูรณ์. การพิจารณาธรรมแบบคุณมันก็ความรู้ปรมัถตธรรมแบบผิวเผินสร้างโพชฌงค์ไม่ได้เลยแค่ไว้คุยเพื่อบันเทิงทางอารมณ์เท่านั้นกำจัดกิเลสไม่ได้เลย. สังเกตุตัวคุณดู. ผมไม่เสพกามเพศได้เพราะอะไรสมัยก่อนวันละ2-3อดไม่ได่เลยตอนนี้สบายไม่ต้องเสพนี่คือการหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการปฏิบัติจริงง
ไม่ใช่พวกใบลานเปล่าความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

โมฆะบุรุษคือเดี๋ยวนี้เข้าไม่ถึงปัจจุบันขณะ
รู้จักรอบรู้ในพระพุทธพจน์ทุกคำไหม
ไม่ใช่อ่านตรงไหนก็เลือกที่ชอบเอาไปทำ
รอบรู้ทีละคำตรงปัจจุบันอารมณ์ตรง1ทางที่กายมี
ลมหายใจไม่ดูก็รู้ว่ายังไม่ตายไม่เห็นเหรอมีตัวตนไปไหนนั่นน่ะ
ไปทำไม่รู้เพิ่มบอกไม่ฟังอดีตก็ฟังไม่รู้เรื่องมีแต่คิดอยากจะไปเลือกทำไม่รู้เพิ่ม
คำสอนของตถาคตเป็นการไตร่ตรองเหตุผลเพื่อละไม่รู้ไม่ใช่มีตัวตนไปทำแยกออกไปจากปกติที่กำลังมีไม่รู้
:b12:
บอกยังไงก็ไม่เข้าใจเอาแต่อ่านแล้วจำเอาไปทำบอกว่าวางอดีตสัญญาที่เห็นผิดๆลงแล้วเริ่มต้นฟังตรงปัจจุบัน
ปัจจุบันขณะของตัวเองน่ะมันสั้นมากสั้นจนแยกไม่ออกว่าเดี๋ยวนี้ลมหายใจไม่ติดต่อมันขาดตอนแล้วทุกขณะ
:b32: :b32:
ใช่แล้วคนับไม่ใช่รู้ตรงไหนก็เลือกไปทำ. เหมือนขอบคุณไงรู้แค่นั้นก็นึกว่าต่นเองรู้ถูกทางที่คถณกำละงเรียนอยู่ คาเห้นสีแสงสันฐาน ตาไม่ได้เห็นจิตเห็น จิตเกิดทีละขณะ สลับกับได้อะไรฯลฯ ผมนะเรียนมาตั้วแต่เกือบ20ปีแล้วกับอาจารย์ป้าคุณนี่แหล่ะ. พอฟังไปมากๆชักไม่ใช่แล้ว. คุณก็ได้ประมาณนี้แหล่ะ ยังไม่เคยข้ามฝั่งของจิตที่ดับริวรณ์5หรือกิเลสดับชั่วคราวได้เลยจะไปรู้อะไรว่ารสขาติที่กิเลมาดับมันเป็นอย่างไร. ผมบอกได้แค่นี้นะแล้วแต่บุญกรรม. ผมโชคดีที่เป้นคนไม่ปิดกั้นตนเองจึง เคยอยู่จุดสูงสุดทางโลกและกำลังจะไปสู่จุดสูงสุดทางธรรมได้จริง

:b32:
ฟังแล้วไม่เกิดปัญญาเพิ่มใครจะช่วยอะไรคุณได้ไหมล่ะคะ
ถ้าตถาคตยกปัญญาให้ได้คงไม่ต้องเกิดมาเพื่อฟังคำสอนเองหรอกนะ
ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่มีการฟังและไม่มีสติระลึกตามคำสอนคิดว่าปัญญาจะเกิดเพิ่มได้หรือคะ
ปัญญาเจตสิกไม่ใช่สมาธิเจตสิกและไม่ใช่สติเจตสิกเป็นคนละตัวจริงธัมมะเกิดดับพร้อมจิตได้ทีละ1ขณะ
หลับตามีแต่มโนเดาวิถืจิตไม่ตรงทางตามวิถีปกติของแต่ละทางคิดว่าปัญญาจะเพิ่มมาแต่ไหนเหรอคะ555
ฌานไม่ใช่ญาณและฌานเผาไหมธัมมะฝ่ายตรงข้ามถ้ายังมีกิเลสมากอยู่เวลาทำฌานก็เผาปัญญาทิ้งหมด
ถามว่าจิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ไม่มีปัญญารู้ความจริงตรงตามคำสอนตรงทางเลยกิเลสใหม่ก็เพิ่ม
:b32:
:b16: :b16:
เอาตามสบายบายเลยนะครับ ผมขี้เกียจย้อนอดีตไป17ปีที่แล้วน่าเบื่อผมขออยู่กับปีติสุขกับลมหายใจที่แสนวิเศษกับนิวรณ์ ตามที่พระองค์สอนไว้ดีกว่า.จบการสนทนาทั้ง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2019, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
ไปนั่งปฏิบัติซะ. จะได้เห็นในสิ่งที่คุณพูดรผูปนามเกิดดับดป็นล้านครั้ง. ที่บอกตายขั่วคราวมันเป็นยังไง.

นั่งจนกายหายแล้วไม่จำเป็นต้องไปนั่งทำไม่รู้ตามคำสอนแบบนั้นอีกเพราะนั่งไปก็ไม่รู้จักขณิกมรณะ555
:b32: :b32:

ภิกษุ ทั้งหลาย !
อานาปานสติอันบุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
ก็อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำ
ให้มากแล้วอย่างไร จึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ?

ภิกษุ ทั้งหลาย
ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้
หรือเรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ
ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า

เธอนั้นมีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก

คำสอนตรงจริงแปลตรงตัวอักษรตรงความหมาย
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้ที่ไปนั่งหลับตาคิดเอง
ไม่ได้กำลังทำสติและปัญญาเพราะปัญญาแปลว่าเข้าใจ
สติ+ปัญญา=ระลึกตามคำสอนได้เข้าใจตามคำสอนไปนั่งทำไม่ฟัง
แปลว่าไม่ทำปัญญาตามลำดับรู้จักคำว่า...ตามลำดับไหม...ตรงปัจจุบันขณะด้วย
การนั่งหลับตาเองในที่เงียบๆไม่พึ่งคิดตามคำสอนไปทำฌานตบะที่เผาธัมมะฝ่ายตรงข้าม
ปัญญามีน้อยอยู่แล้วที่เกิดมาเนี่ยสิ่งที่มีที่ตัวรู้สึกตรงตามคำสอนได้ตอนกำลังฟังใครก็ฟังแทนไม่ได้
ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนั่งหลับตาทำสมาธิตัวหายกายหายก็คิดว่าดีวิเศษรู้ความจริง555นั่นไม่ใช่ปัญญา
จะทำปัญญาตามคำสอนตามลำดับต้องเริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันรู้อารมณ์ตอนกำลังมีวิถีจิต6ทาง
ถ้าไม่เริ่มต้นที่สุตมยปัญญาตรงปัจจุบันอารมณ์แปลว่าไม่ได้ทำปัญญาคือการระลึกตามคำสอนเข้าใจถูกตาม
:b12:
อ่านเข้าใจไหมเนี่ย...ต้องแปลความตรงคำเข้าใจความหมายตรงคำไม่มีจิตและสัญญาจำอันเก่ามีแต่รู้ไม่ตรง
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มทำปัญญาตรงทางตามเสียงคำตถาคตตรงจริงที่กำลังมีที่ตัว
https://youtu.be/YItxfqGGrNc
:b20:
:b4: :b4:
คงนึกว่าเขาไปนั่งหลับตา เฉยๆหรอครับ. ลืมตาแบบคุณเขารู้กันนานแล้วอะไรคืออะไร. ยังงมโข่งอยู่ไม่หายอีก.จิตที่จะมีกำลังจริงทวารทั้งหกที่เปิดอยู่ไม่ควบคุมทวารสำรวมอินทรีย์ จิตคุณถึงรู้ได้แค่นั้น. การปฏิบัติเขาควบคุมเพื่อให้จิตเพ่งในอารมณ์เดียวเพื่อเกิดสมาธิระดับฌานจิตให้ได้ เพื่อทำกิจในองค์ความรู้ที่พิจารณาความจริงที่เกิดขึ้นมีขึ้นคือธรรมทั้งหลายล้วนเป้นอนิจจัง. ทุกขัง อนัตตา. เพื่อให้ความรู้นี้มีกำลังกำจัดกิเลสได้จริง พระองค์จึงกล่าวว่าสมถะวิปัสนานั้นตะต้องคู่กัน. องค์โพชฌงค์ทั้ง7จึงบริบูรณ์. การพิจารณาธรรมแบบคุณมันก็ความรู้ปรมัถตธรรมแบบผิวเผินสร้างโพชฌงค์ไม่ได้เลยแค่ไว้คุยเพื่อบันเทิงทางอารมณ์เท่านั้นกำจัดกิเลสไม่ได้เลย. สังเกตุตัวคุณดู. ผมไม่เสพกามเพศได้เพราะอะไรสมัยก่อนวันละ2-3อดไม่ได่เลยตอนนี้สบายไม่ต้องเสพนี่คือการหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการปฏิบัติจริงง
ไม่ใช่พวกใบลานเปล่าความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

โมฆะบุรุษคือเดี๋ยวนี้เข้าไม่ถึงปัจจุบันขณะ
รู้จักรอบรู้ในพระพุทธพจน์ทุกคำไหม
ไม่ใช่อ่านตรงไหนก็เลือกที่ชอบเอาไปทำ
รอบรู้ทีละคำตรงปัจจุบันอารมณ์ตรง1ทางที่กายมี
ลมหายใจไม่ดูก็รู้ว่ายังไม่ตายไม่เห็นเหรอมีตัวตนไปไหนนั่นน่ะ
ไปทำไม่รู้เพิ่มบอกไม่ฟังอดีตก็ฟังไม่รู้เรื่องมีแต่คิดอยากจะไปเลือกทำไม่รู้เพิ่ม
คำสอนของตถาคตเป็นการไตร่ตรองเหตุผลเพื่อละไม่รู้ไม่ใช่มีตัวตนไปทำแยกออกไปจากปกติที่กำลังมีไม่รู้
:b12:
บอกยังไงก็ไม่เข้าใจเอาแต่อ่านแล้วจำเอาไปทำบอกว่าวางอดีตสัญญาที่เห็นผิดๆลงแล้วเริ่มต้นฟังตรงปัจจุบัน
ปัจจุบันขณะของตัวเองน่ะมันสั้นมากสั้นจนแยกไม่ออกว่าเดี๋ยวนี้ลมหายใจไม่ติดต่อมันขาดตอนแล้วทุกขณะ
:b32: :b32:
ใช่แล้วคนับไม่ใช่รู้ตรงไหนก็เลือกไปทำ. เหมือนขอบคุณไงรู้แค่นั้นก็นึกว่าต่นเองรู้ถูกทางที่คถณกำละงเรียนอยู่ คาเห้นสีแสงสันฐาน ตาไม่ได้เห็นจิตเห็น จิตเกิดทีละขณะ สลับกับได้อะไรฯลฯ ผมนะเรียนมาตั้วแต่เกือบ20ปีแล้วกับอาจารย์ป้าคุณนี่แหล่ะ. พอฟังไปมากๆชักไม่ใช่แล้ว. คุณก็ได้ประมาณนี้แหล่ะ ยังไม่เคยข้ามฝั่งของจิตที่ดับริวรณ์5หรือกิเลสดับชั่วคราวได้เลยจะไปรู้อะไรว่ารสขาติที่กิเลมาดับมันเป็นอย่างไร. ผมบอกได้แค่นี้นะแล้วแต่บุญกรรม. ผมโชคดีที่เป้นคนไม่ปิดกั้นตนเองจึง เคยอยู่จุดสูงสุดทางโลกและกำลังจะไปสู่จุดสูงสุดทางธรรมได้จริง

:b32:
ฟังแล้วไม่เกิดปัญญาเพิ่มใครจะช่วยอะไรคุณได้ไหมล่ะคะ
ถ้าตถาคตยกปัญญาให้ได้คงไม่ต้องเกิดมาเพื่อฟังคำสอนเองหรอกนะ
ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่มีการฟังและไม่มีสติระลึกตามคำสอนคิดว่าปัญญาจะเกิดเพิ่มได้หรือคะ
ปัญญาเจตสิกไม่ใช่สมาธิเจตสิกและไม่ใช่สติเจตสิกเป็นคนละตัวจริงธัมมะเกิดดับพร้อมจิตได้ทีละ1ขณะ
หลับตามีแต่มโนเดาวิถืจิตไม่ตรงทางตามวิถีปกติของแต่ละทางคิดว่าปัญญาจะเพิ่มมาแต่ไหนเหรอคะ555
ฌานไม่ใช่ญาณและฌานเผาไหมธัมมะฝ่ายตรงข้ามถ้ายังมีกิเลสมากอยู่เวลาทำฌานก็เผาปัญญาทิ้งหมด
ถามว่าจิตเกิดดับนับแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้ไม่มีปัญญารู้ความจริงตรงตามคำสอนตรงทางเลยกิเลสใหม่ก็เพิ่ม
:b32:
:b16: :b16:
เอาตามสบายบายเลยนะครับ ผมขี้เกียจย้อนอดีตไป17ปีที่แล้วน่าเบื่อผมขออยู่กับปีติสุขกับลมหายใจที่แสนวิเศษกับนิวรณ์ ตามที่พระองค์สอนไว้ดีกว่า.จบการสนทนาทั้ง

:b32:
ศึกษาแบบไหนล่ะนั่นน่ะ
สงบจากกิเลสไม่ใช่ความสุข555
ปัญญารู้อะไรก็ยังไม่รู้เลยประมาณกิเลสตัวเองสิ
เดี๋ยวนี้ดับนับได้แสนโกฏิขณะคือความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เออนะ
ลืมตาดูอยู่เนี่ยไม่เห็นเหรอกิเลสใหม่เพิ่มขึ้นแล้วตั้งแสนโกฏิขณะแล้วยังไปหลับตาทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่ฟังคำสอน
ประมาทกิเลสตัวเองระดับไหนเหรอคะ555เราน่ะมีตัวตนอยากทำให้ถึงนิพพานเร็วๆด้วยความอยากมว๊าก
ฟังเพราะเข้าใจแล้วว่ากิเลสใหม่เพิ่มถึงแสนโกฏิขณะที่ไม่พึ่งคิดตามคำสอนอยู่เดี๋ยวนี้แหละทำอะไรก็ไม่รู้ไง
กิเลสแปลว่าไม่รู้คือยังมีอวิชชาอยู่...อวิชชาแปลว่าโง่...แสดงว่ายังโง่อยู่เพราะยังอยากถึงนิพพานถึงรีบเร่งทำ
ปัญญาไม่มีเพิ่มขึ้นเนื่องจากขาดการฟังและไม่ฉลาดไตร่ตรองตามคำสอนของตถาคตให้รอบรู้ในกิเลสที่มี
คิดแต่จะไปทำความรู้สึกตัวที่คิดตามความจำที่ไปท่องมารู้ไหมมีปัญญาไม่พอต้องพึ่งคำสอนจนกว่าไม่อยาก
:b32: :b32: :b32:
ฟังให้เข้าใจก่อนจิตออกจากร่างนี้มันย้อนเวลากลับมาฟังไม่ได้เข้าใจไหมคะ
ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ต้องกลับมาเกิดอีกน๊าก็ปัญญามีไม่พอไงคะ
https://youtu.be/ewClhL_02Ac
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2019, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
กรรมที่เคยทำไว้ในอดีตจะมาปรากฏให้เกิดเป็นอะไรไม่มีใครรู้
เพราะไปแบบไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาเลือกเกิดอีก
เราอ่ะไปนั่งหลับตาเดาความรู้สึกส่งเดชตามคิดเห็นผิด
อ่านตามตัวอักษรน่ะช้ากว่าฟังเสียงตรงปัจจุบันขณะ
จะรีบเร่งเอาตัวตนไปทำด้วยความอยากถึงนิพพาน
อยู่ในฐานะอัครสาวกก็ไม่น่าจะใช่จริงไหมล่ะ555
จำแม่นๆกิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกตอนเห็น
ปัญญาเกิดตอนกำลังพึ่งคิดตามคำตถาคต
ไตร่ตรองเหตุผลสิว่าควรทำอะไรที่สุด
ตอบแบบไม่เอาใจกิเลสฟังจนกว่าจะถึงนิพพาน
https://youtu.be/73Ww901N-lA
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 00:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
กรรมที่เคยทำไว้ในอดีตจะมาปรากฏให้เกิดเป็นอะไรไม่มีใครรู้
เพราะไปแบบไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาเลือกเกิดอีก
เราอ่ะไปนั่งหลับตาเดาความรู้สึกส่งเดชตามคิดเห็นผิด
อ่านตามตัวอักษรน่ะช้ากว่าฟังเสียงตรงปัจจุบันขณะ
จะรีบเร่งเอาตัวตนไปทำด้วยความอยากถึงนิพพาน
อยู่ในฐานะอัครสาวกก็ไม่น่าจะใช่จริงไหมล่ะ555
จำแม่นๆกิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกตอนเห็น
ปัญญาเกิดตอนกำลังพึ่งคิดตามคำตถาคต
ไตร่ตรองเหตุผลสิว่าควรทำอะไรที่สุด
ตอบแบบไม่เอาใจกิเลสฟังจนกว่าจะถึงนิพพาน
https://youtu.be/73Ww901N-lA
onion onion onion
ดูแล้วรู้มากดีนะ. ถามได้อะไรบ้างนะกับความรู้ที่เรียนมา. สรุปให้หน่อย

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 06:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


555เชื่อตำราอ้างแต่ตำราอยู่นั่นแหละ
พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ให้เชื่อแม้ตำรา
ตรงกับกาลามสูตรข้อไหนไปหามา
เออไม่เชื่อตาที่ตัวเองดูหูตัวเองที่ฟัง
บอกว่าทางหูน่ะมีแต่เสียงสูงหรือเสียงต่ำ
แต่ใจตัวเองไปหมายมั่นว่าเป็นเสียงอะไรแล้วนั้น
มันเป็นนิมิตเสียงต่างๆที่เกิดตามสัณฐานเสียงที่ดับนับไม่ถ้วน
ดูสิน่ะไม่เห็นเหรอคะกิเลสตัวเองดับไปแสนล้านขณะรอเกิดไปให้ผลในอนาคตแล้ว
กิเลสหนาขึ้นทุกแสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่เข้าไม่ถึงความจริงที่กายใจตัวเองกำลังมีตรง1ทางตรงปัจจุบันขณะ


อ้างคำพูด:
555เชื่อตำราอ้างแต่ตำราอยู่นั่นแหละ
พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ให้เชื่อแม้ตำรา


คุณโรสไม่เชื่อตำรา พ่ะน่ะ แล้วไปเอาจากไหนมาพูด ตอบสิ คิกๆๆ

ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีในตำราไหม ตอบหน่อย :b32:

พระไตรปิฎกเป็นตำราไหม ตอบ :b13:

เสร็จแน่งานนี้ แทบจะขายสำนักเลยแหละ

:b12:
กาลามสูตร10ก็ไม่รู้ไม่เข้าใจ
คิดตรงทางตรงขณะก็ไม่เข้าใจนะ
แล้วจะเข้าใจหลักความจริงได้ยังไงคะ
คนเราเนี่ยมีปกติไม่รู้ว่าตัวเองมีกิเลสรู้ป่าว
ตถาคตสอนให้รู่จักกิเลสแล้วที่ก็อปแปะจำคำมากๆ
รู้ตัวไหมว่าเพิ่มกิเลสไม่ใช่เพิ่มปัญญาตามคำสอนนะคะ
คำสอนเป็นการสอนให้ละความไม่รู้ที่กำลังมีด้วยการอบรมจิตตอนกำลังฟัง
เข้าใจไหมแต่ละคนที่เขาฟังคำสอนเข้าใจเขาพาคนอื่นกลับมาเฝ้าฟังคำตถาคตจากพระโอษฐ์
ส่วนคนที่ไม่ชอบฟังคำสอนจากพระโอษฐ์เขาก็ไปเฝ้าเกจิอาจารย์อื่นๆค่ะ(เกจิแปลว่าอื่นๆ)เข้าใจไหมล่ะ
https://youtu.be/wstIXQTjxVs
:b12:
:b32: :b32:



ตอบตรงกับโจทก์สะที่ไหนน่า เขาถามว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในตำราพระไตรปิฎกมีไหม ตอบสิ บอกว่าไม่ให้เชื่อตำรา แล้วคุณโรสไปเอาจากไหน จำมาจากใครพูด คิดเองหรอ ไหนลองตอบตรงๆคำถามให้นอนตายตาหลับทีเอ้า :b32:

:b32:
ตำรามีจิตไหม
ตำรามีตาหูจมูกลิ้นกายใจไหม
แล้วตัวตนที่ไปรู้ว่ามีตำรานอกตัวรู้ไหมว่าคิดเห็นผิด
จิตเห็นเกิดแล้วดับทันทีที่ลูกตาดำเป็นกิเลสแล้วแกะเอาสีที่ดับออกมาล้างออกได้ไหมรอให้ผลแล้ว
อะไรที่ดับแล้วเป็นอดีตแล้วเอากลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ต้องแก้ตรงไม่รู้ที่เป็นกิเลสตรงนี้
ตรงนี้คือปัจจุบันกำลังมีถ้าไม่รู้คิดถูกตามตรงคำตามคำสอนของตถาคตก็เพลินไปกับกิเลสตัวเองไงล่ะคะ
:b12:
:b17: :b17:
ฟังหน่อยไหมจะได้สงบจากกิเลสโดยรู้ความจริงที่กำลังมีตรงตามคำตถาคตได้บ้างไงคะ
https://youtu.be/PYkXFvZURpY
:b12:
:b16: :b16:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 16 พ.ค. 2019, 07:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 07:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ความรู้ของผู้สงบคือ
สงบจากกิเลสเพราะ
รู้ตามคำตถาคตอยู่
เดี๋ยวนี้ไม่ฟังก็ไม่สงบ
เพราะกิเลสตัวเองดับเดี๋ยวนี้
นับได้แสนล้านดวงจิตแล้วค่ะ
เพราะต้องเข้าใจถูกตรงตามคำตถาคต
ทีละ1ทางตรงทางที่กายใจตัวเองกำลังมีตรงตามที่กำลังได้ยิน
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
กรรมที่เคยทำไว้ในอดีตจะมาปรากฏให้เกิดเป็นอะไรไม่มีใครรู้
เพราะไปแบบไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาเลือกเกิดอีก
เราอ่ะไปนั่งหลับตาเดาความรู้สึกส่งเดชตามคิดเห็นผิด
อ่านตามตัวอักษรน่ะช้ากว่าฟังเสียงตรงปัจจุบันขณะ
จะรีบเร่งเอาตัวตนไปทำด้วยความอยากถึงนิพพาน
อยู่ในฐานะอัครสาวกก็ไม่น่าจะใช่จริงไหมล่ะ555
จำแม่นๆกิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกตอนเห็น
ปัญญาเกิดตอนกำลังพึ่งคิดตามคำตถาคต
ไตร่ตรองเหตุผลสิว่าควรทำอะไรที่สุด
ตอบแบบไม่เอาใจกิเลสฟังจนกว่าจะถึงนิพพาน
https://youtu.be/73Ww901N-lA
onion onion onion
ดูแล้วรู้มากดีนะ. ถามได้อะไรบ้างนะกับความรู้ที่เรียนมา. สรุปให้หน่อย

ได้ความสงบจากกิเลสเพราะมีพระรัตนตรัยสูงสุดเป็นที่พึ่ง...คำสอนแทนศาสดาพึ่งคิดตามคำตถาคตตามนี้
Rosarin เขียน:
Kiss
ความรู้ของผู้สงบคือ
สงบจากกิเลสเพราะ
รู้ตามคำตถาคตอยู่
เดี๋ยวนี้ไม่ฟังก็ไม่สงบ
เพราะกิเลสตัวเองดับเดี๋ยวนี้
นับได้แสนล้านดวงจิตแล้วค่ะ
เพราะต้องเข้าใจถูกตรงตามคำตถาคต
ทีละ1ทางตรงทางที่กายใจตัวเองกำลังมีตรงตามที่กำลังได้ยิน
:b32: :b32: :b32:

https://youtu.be/TELxut58rk0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
กรรมที่เคยทำไว้ในอดีตจะมาปรากฏให้เกิดเป็นอะไรไม่มีใครรู้
เพราะไปแบบไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาเลือกเกิดอีก
เราอ่ะไปนั่งหลับตาเดาความรู้สึกส่งเดชตามคิดเห็นผิด
อ่านตามตัวอักษรน่ะช้ากว่าฟังเสียงตรงปัจจุบันขณะ
จะรีบเร่งเอาตัวตนไปทำด้วยความอยากถึงนิพพาน
อยู่ในฐานะอัครสาวกก็ไม่น่าจะใช่จริงไหมล่ะ555
จำแม่นๆกิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกตอนเห็น
ปัญญาเกิดตอนกำลังพึ่งคิดตามคำตถาคต
ไตร่ตรองเหตุผลสิว่าควรทำอะไรที่สุด
ตอบแบบไม่เอาใจกิเลสฟังจนกว่าจะถึงนิพพาน
https://youtu.be/73Ww901N-lA
onion onion onion
ดูแล้วรู้มากดีนะ. ถามได้อะไรบ้างนะกับความรู้ที่เรียนมา. สรุปให้หน่อย

ได้ความสงบจากกิเลสเพราะมีพระรัตนตรัยสูงสุดเป็นที่พึ่ง...คำสอนแทนศาสดาพึ่งคิดตามคำตถาคตตามนี้
Rosarin เขียน:
Kiss
ความรู้ของผู้สงบคือ
สงบจากกิเลสเพราะ
รู้ตามคำตถาคตอยู่
เดี๋ยวนี้ไม่ฟังก็ไม่สงบ
เพราะกิเลสตัวเองดับเดี๋ยวนี้
นับได้แสนล้านดวงจิตแล้วค่ะ
เพราะต้องเข้าใจถูกตรงตามคำตถาคต
ทีละ1ทางตรงทางที่กายใจตัวเองกำลังมีตรงตามที่กำลังได้ยิน
:b32: :b32: :b32:

https://youtu.be/TELxut58rk0
สงบยังไงกับกิเลส. กามเพศก็ยังเสพ. อาการก็เลือกกินตามความพอใจ. ไปเที่ยวก็ไปตามความอยากไป. หรือว่าไม่จริงยอดมา

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 07:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
กรรมที่เคยทำไว้ในอดีตจะมาปรากฏให้เกิดเป็นอะไรไม่มีใครรู้
เพราะไปแบบไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาเลือกเกิดอีก
เราอ่ะไปนั่งหลับตาเดาความรู้สึกส่งเดชตามคิดเห็นผิด
อ่านตามตัวอักษรน่ะช้ากว่าฟังเสียงตรงปัจจุบันขณะ
จะรีบเร่งเอาตัวตนไปทำด้วยความอยากถึงนิพพาน
อยู่ในฐานะอัครสาวกก็ไม่น่าจะใช่จริงไหมล่ะ555
จำแม่นๆกิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกตอนเห็น
ปัญญาเกิดตอนกำลังพึ่งคิดตามคำตถาคต
ไตร่ตรองเหตุผลสิว่าควรทำอะไรที่สุด
ตอบแบบไม่เอาใจกิเลสฟังจนกว่าจะถึงนิพพาน
https://youtu.be/73Ww901N-lA
onion onion onion
ดูแล้วรู้มากดีนะ. ถามได้อะไรบ้างนะกับความรู้ที่เรียนมา. สรุปให้หน่อย

ได้ความสงบจากกิเลสเพราะมีพระรัตนตรัยสูงสุดเป็นที่พึ่ง...คำสอนแทนศาสดาพึ่งคิดตามคำตถาคตตามนี้
Rosarin เขียน:
Kiss
ความรู้ของผู้สงบคือ
สงบจากกิเลสเพราะ
รู้ตามคำตถาคตอยู่
เดี๋ยวนี้ไม่ฟังก็ไม่สงบ
เพราะกิเลสตัวเองดับเดี๋ยวนี้
นับได้แสนล้านดวงจิตแล้วค่ะ
เพราะต้องเข้าใจถูกตรงตามคำตถาคต
ทีละ1ทางตรงทางที่กายใจตัวเองกำลังมีตรงตามที่กำลังได้ยิน
:b32: :b32: :b32:

https://youtu.be/TELxut58rk0
สงบยังไงกับกิเลส. กามเพศก็ยังเสพ. อาการก็เลือกกินตามความพอใจ. ไปเที่ยวก็ไปตามความอยากไป. หรือว่าไม่จริงยอดมา

ปัจจุบันอารมณ์ที่คิดตามคำตถาคตขณะนั้นสงบ
ขณะอื่นทำอะไรก็ทำตามกิเลสตัวเองตามที่อยากทำไง
อยากทำไม่ใช่เหรอถึงไปทำอยู่นั่นน่ะแล้วตถาคตบอกให้ฟังไม่ใช่เหรอ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
กรรมที่เคยทำไว้ในอดีตจะมาปรากฏให้เกิดเป็นอะไรไม่มีใครรู้
เพราะไปแบบไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาเลือกเกิดอีก
เราอ่ะไปนั่งหลับตาเดาความรู้สึกส่งเดชตามคิดเห็นผิด
อ่านตามตัวอักษรน่ะช้ากว่าฟังเสียงตรงปัจจุบันขณะ
จะรีบเร่งเอาตัวตนไปทำด้วยความอยากถึงนิพพาน
อยู่ในฐานะอัครสาวกก็ไม่น่าจะใช่จริงไหมล่ะ555
จำแม่นๆกิเลสนอนมาในจิตรอไหลออกตอนเห็น
ปัญญาเกิดตอนกำลังพึ่งคิดตามคำตถาคต
ไตร่ตรองเหตุผลสิว่าควรทำอะไรที่สุด
ตอบแบบไม่เอาใจกิเลสฟังจนกว่าจะถึงนิพพาน
https://youtu.be/73Ww901N-lA
onion onion onion
ดูแล้วรู้มากดีนะ. ถามได้อะไรบ้างนะกับความรู้ที่เรียนมา. สรุปให้หน่อย

ได้ความสงบจากกิเลสเพราะมีพระรัตนตรัยสูงสุดเป็นที่พึ่ง...คำสอนแทนศาสดาพึ่งคิดตามคำตถาคตตามนี้
Rosarin เขียน:
Kiss
ความรู้ของผู้สงบคือ
สงบจากกิเลสเพราะ
รู้ตามคำตถาคตอยู่
เดี๋ยวนี้ไม่ฟังก็ไม่สงบ
เพราะกิเลสตัวเองดับเดี๋ยวนี้
นับได้แสนล้านดวงจิตแล้วค่ะ
เพราะต้องเข้าใจถูกตรงตามคำตถาคต
ทีละ1ทางตรงทางที่กายใจตัวเองกำลังมีตรงตามที่กำลังได้ยิน
:b32: :b32: :b32:

https://youtu.be/TELxut58rk0
สงบยังไงกับกิเลส. กามเพศก็ยังเสพ. อาการก็เลือกกินตามความพอใจ. ไปเที่ยวก็ไปตามความอยากไป. หรือว่าไม่จริงยอดมา

ปัจจุบันอารมณ์ที่คิดตามคำตถาคตขณะนั้นสงบ
ขณะอื่นทำอะไรก็ทำตามกิเลสตัวเองตามที่อยากทำไง
อยากทำไม่ใช่เหรอถึงไปทำอยู่นั่นน่ะแล้วตถาคตบอกให้ฟังไม่ใช่เหรอ
:b32: :b32:
การฟังธรรม การสนทนาธรรม. การบรรยายธรรม การตรึกในธรรม การกระทำในทาน การกระทำในซิ ภาวนานั้นทำให้กุศลจิตเกิดแต่ไม่ใช่ตลอดการกระทำนั้น ตามเหตปัจจัยแต่การกระทำทั่วไปถ้าสติไม่เกิด ก็เป็นไปตามกามวจรภูมินั้นแหล่ะแต่กิเลสของเขาก็ไม่ใช่จะนำเกิดในอบายได้ทุกตัว การปฎิบัติคุณดับกิเลสเป็นสมุทเฉทได้มั้ยล่ะที่ปฏิบัติมา ผมบอกเลยว่าไม่มีทางได้. ตราบใดคุณไม่สามรถดับนิวรณ์5ได้. แล้วเอาความรู้อริยสัจไปพิจารณาในขณะนิวรณ์5ดับไปเพราะจณะนั้นคุณจะมีอกุศลจิตแทรกขั้นตลอด. คุณจะต้องมีสัมมาสมาธิ. และสัมมาสมาธิคืออะไร. ก็ฌาน1-2-3-4นั้นไงไปดุพระสูตรได้เลย. และปกติการใช้ชีวิตต้องมีสติอธิฐานการงาอยู่แล้วถึงจะปิดอกุศลจิตได้แต่ใครล่ะจะชำนาญ. อย่าบอกนะว่าฝึกไม่ได้เพราะเหตุที่คุณบอกว่าเป็นอนัตตา. มนุษย์เป็นผู้ฝึกได้เพราะองค์เป็นปู้ฝึกมนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาสมาธิดูนะ. คุณไม่ปฎิบัติไม่มีทางเกิดขึ้น. และไม่เกิดขึ้นก็ดับกิเลสไม่ได้เลย
และการใช้ชีวิตตามปกติแบบฆราวาสทำกิจการงานจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก. ยิ่งไม่ได้นั่งนิ่งสงบๆยิ่งหมดหนทาง
สัมมาสมาธิ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจาก
อกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่
เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะ
วิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมี
อุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน
ที่พระอริยทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข
เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัส
โทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมา-
*สมาธิ ฯ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ บรรทัดที่ ๖๒๕๗ - ๖๗๖๔. หน้าที่

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิดูนะ. คุณไม่ปฎิบัติไม่มีทางเกิดขึ้น. และไม่เกิดขึ้นก็ดับกิเลสไม่ได้เลย
และการใช้ชีวิตตามปกติแบบฆราวาสทำกิจการงานจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก. ยิ่งไม่ได้นั่งนิ่งสงบๆยิ่งหมดหนทาง
สัมมาสมาธิ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจาก
อกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่
เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะ
วิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมี
อุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน
ที่พระอริยทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข
เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัส
โทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมา-
*สมาธิ ฯ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ บรรทัดที่ ๖๒๕๗ - ๖๗๖๔. หน้าที่

แล้วขณิกสมาธิ
ขณิกมรณะ
เอาไปทิ้งไหน
ขณิกสมาธิมีทุกขณะจิต
เดี๋ยวนี้ดับนับแสนโกฏิขณะ
ไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่รู้ความจริงตามคำสอนอ่ะแปลว่าสะสมแต่อวิชชา
แล้วก็ยังข้ามลำดับปัญญาไปทำตามคิดเองกลายเป็นมิจฉาสมาธิเลือกทำเออนะบอกไม่รู้จักฟังตรงขณะ
:b12:
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 16 พ.ค. 2019, 17:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2019, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool
นางวิสาขาวิคาระมาดามีเพศสัมพันธ์ไหม
มีผัวมีลูกหลานเยอะไหม
บรรลุโสดาบัน
ด้วยปัญญา
ไม่ใช่จีวร
สังฆะรัตนะ
ไม่ใช่สีเสื้อผ้า
:b32: :b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 184 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร