วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2014, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร - วัดถ้ำสหายจันทร์นิมิต

รูปภาพ
พระอาจารย์สมศรี อัตตสิริ - วัดป่าเวฬุวนาราม

:b44: :b44:

ประสบการณ์เที่ยววิเวก
พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร กับ พระอาจารย์สมศรี อัตตสิริ
สองทายาทธรมขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม


บันทึกโดย ครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท

:b44: :b44:

ค้อนไล่ผี

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร ท่านพาหลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ
และสามเณรอีกสองรูปมาพักที่หอผีปู่ตา บ้าน...(ขอสงวนชื่อ)
หลวงพ่อสมศรีท่านบอกที่หมู่บ้านแห่งนี้มีหอผีปู่ตาแปลกกว่าที่อื่น
หอผีปู่ตาบ้านนี้เขาไม่สร้างเป็นอาคาร
เหมือนกับหอผีปู่ตาทั่วไปที่ท่านเคยเห็นมา
บริเวณหอผีของหมู่บ้านที่นี่จะเป็นดงต้นหมากค้อเขียว
รอบบริเวณหอผีแห่งนี้ชาวบ้านร้านถิ่นเขาจะเอาขันตอกดอกไม้
เครื่องเซ่นสรวงต่างๆ นานามาวางเรียงรายเพื่อบูชาผี
พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านเห็นที่นี่สะอาดสะอ้าน
จึงบอกให้หมู่คณะพักค้างคืนกันที่นี่...

หลวงปู่จันทร์เรียนท่านบอกว่า ผีที่นี่มันดื้อดึงเอาเรื่องอยู่นะ
พวกเราไม่ต้องกลัว มันทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก
หลวงปู่จันทร์เรียนท่านบอกให้พากันไหว้พระสวดมนต์
นั่งภาวนาของใครของมันอยู่ในกลด เรื่องทุกอย่างเราจะจัดการเอง
เณรน้อยสององค์ที่มาด้วยกลัวผี
จึงขอท่านหลวงปู่จันทร์เรียนไปนอนรวมกันอยู่ในกลดเดียว
ท่านหลวงปู่จันทร์เรียนว่า กลัวมันทำไมประสาผีเฉยๆ


ท่านเปรียบเปรยให้เณรฟังว่า
ธรรมชาติแขกไปไทยมาเขาก็มาหาพ่อแม่
เขาไม่ไปหาพวกลูกๆ ดอก
เณรน้อยทั้งสองเชื่อในคำพูดของท่าน
แต่คืนนี้ขอนอนด้วยกันเพราะกลัวผีหอปู่ตาหมากค้อเขียว
หลวงปู่จันทร์เรียนท่านก็ไม่ว่าอะไร
เพราะเห็นใจในความกลัวของเด็ก...

พอเข้ากลดภาวนาแล้ว หลวงพ่อสมศรีท่านบอก
ผีอยู่หอปู่ตาหมากค้อเขียวเป็นร้อยๆ
พากันไปหาท่านหลวงปู่จันทร์เรียน
โดยไม่มารบกวนท่านกับเณรน้อยสององค์เลย
ท่านบอกที่ผีไม่เข้ามารบกวนท่านกับสามเณร
เพราะหลวงปู่จันทร์เรียนใช้อำนาจพิเศษปิดกั้นคุ้มภัยไว้ให้
พวกผีจึงเข้ามารบกวนท่านกับสามเณรน้อยไม่ได้


หลวงพ่อสมศรีท่านได้เห็นในอำนาจธรรม
ของหลวงปู่จันทร์เรียน ศิษย์ผู้พี่
ท่านจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ชอบ
จึงไว้วางใจมอบหมายให้หลวงปู่จันทร์เรียนเป็นครูฝึกภาวนา
ให้กับพระเณรรุ่นน้อง ตั้งแต่หลวงปู่จันทร์เรียนท่านพรรษาสี่


เหตุการณ์ภายในหลวงปู่จันทร์เรียน
ท่านเล่าให้หลวงพ่อสมศรีฟังในภายหลังว่า
พวกผีไม่พอใจที่พวกเราเข้ามาพักอยู่ที่นี่
พวกผีจึงจำแลงเป็นหมาดำใหญ่มาข่มขู่ให้เรากลัว
หลวงปู่จันทร์เรียนท่านว่า ป๊าดติโธ่...พวกนี่มึงเก่งมาแต่ใส

หลวงปู่จันทร์เรียนท่านกำหนดจิต
เหาะขึ้นเหนือพวกหมาดำใหญ่ผีจำแลง
ท่านกำหนด “ไม้ค้อน” ขึ้นมาหนึ่งดุ้น
ทำท่าเหมือนจะฟาดใส่ผีพวกนี้
พวกผีเกรงในอำนาจธรรมของท่าน
จึงพากันแตกหนีกระเจิงไปจนหมดหอผีปู่ตาดงหมากค้อเขียว
หลวงปู่จันทร์เรียนบอกหลวงพ่อสมศรีว่า
เฮาหยอกมันเล่นซื่อๆ พวกผีมันหนีไปหมดแล้ว...


พักภาวนาอยู่หอผีปู่ตาดงหมากค้อเขียวหนึ่งคืน
หลวงปู่จันทร์เรียนพาหลวงพ่อสมศรีมาฝึกภาวนาที่บ้านสานตม
ออกจากบ้านสานตมก็ไปพักภาวนาที่บ้านกลาง ตีนภูหลวง
ที่บ้านกลางแห่งนี้องค์ท่านหลวงปู่ชอบ
เคยพาหลวงปู่จันทร์เรียนมาฝึกภาวนาแล้ว


:b44:

ว่ามาถึงตรงนี้ขอเขียนแทรกเรื่องที่หลวงปู่จันทร์เรียน
ศิษย์ผู้พี่ท่านเล่าให้ฟังซักเล็กน้อย...


หลวงปู่จันทร์เรียนบอกท่านเป็นคนกลัวช้างมาแต่ไหนแต่ไร
ตอนพรรษาที่สาม องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาท่านมาฝึกภาวนาที่บ้านกลาง
หลวงปู่จันทร์เรียนบอก “หลังสรงน้ำพ่อแม่ครูอาจารย์แล้ว
หลวงปู่ชอบท่านบอกให้รีบสรงน้ำก่อนตะวันตกดินเด้อ
สรงน้ำแล้วก็ให้พากันกลับไปเดินจงกรมภาวนาอย่ามานั่งคุยกัน
ค่ำมาแลงมาเสือช้างสัตว์ป่ามันจะออกหากิน
พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านบอก
วันนั้นไม่รู้เป็นอะไรเราเปรี้ยวปากอยากคุยหลาย
จึงชวนเณรมานั่งคุยกันจนค่ำโพล้เพล้...


พอค่ำลงช้างป่าภูหลวงลงมาหากินทางวัดบ้านกลาง
เรานั่งคุยกับเณรได้ยินเสียงช้างหักไม้ไผ่ดังโพล๊ะเพละๆ เข้ามาทางวัด
พอตนเองมองเห็นช้างเท่านั้น
เราบอกเณรให้กลับที่พัก ช้างป่ามันมาแล้ว
ตนเองรีบกลับที่พักเอากลดลงนั่งมองดูช้างมันกินใบไผ่
คิดในใจว่า ช้างเอ้ยมึงอย่ามาทางนี้เด้อกูย่าน (กูกลัว)
คิดในใจบ่อยากให้ช้างมันมาทางเจ้าของ ปานบอกให้มันมาหา...

ช้างมันเดินมาทางที่เฮาอยู่ ช้างมันเอางวงมาดมกลด
เฮาตกใจย่านช้างหลาย (กลัวช้างมาก)
เฮาฮ้องพุทโธแฮงๆ ในใจบาดเดียวเท่านั่น
จิตรวมพรึ่บสว่างไสวอยู่ในอัปปนาสมาธิ
ตั้งแต่หกโมงแลงจนถึงหกโมงเช้า
พอจิตรวมแล้วช้างกะช้างเถอะ จิตสงบแล้วกูบ่ย่านมึงดอก”


หลวงปู่จันทร์เรียนท่านเล่าไปหัวเราะไปอย่างขำขัน
ตนเอง (ครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท) ขำกลิ้งขำหงาย
กับเรื่องที่หลวงปู่จันทร์เรียนศิษย์ผู้พี่ท่านเล่าให้ฟัง บอกท่าน
ท่านอาจารย์เป็นลูกศิษย์ของพ่อแม่ครูอาจารย์ชอบอีกรูปหนึ่ง
ที่อาจหาญชาญชัยในธรรม ทำไมท่านอาจารย์ต้องกลัวช้างด้วย
กระผมยังไม่แจ้งใจ...

ท่านบอก

“ฮ่วย...บ่ย่านมันจั๋งใด๋ ซ้างมันโตใหญ่กว่าเฮาแหม๋
ไปหือไปเก่งกับมันตี้ มันสิเหยียบเอาขี้แตกตาย
เรื่องนี้อย่าไปว่าให้ผู้ใด๋ฟังเด้อ”


ตนเองบอกท่านอย่างมั่นเหมาะ
“บ่รับปาก ผมเป็นคนปากบอน กล้วยรู้ โลกรู้”

หลวงปู่จันทร์เรียนท่านเลยสรรเสริญ
ด้วยคำมูลสมัยพ่อขุนรามคำแหงเป็นที่สนุกสนาน
ในการสนทนากันแบบพี่น้องร่วมอุทรธรรมขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ


หลวงปู่จันทร์เรียนบอก

“ตอนเช้าพอจิตถอนออกมา เห็นพ่อแม่ครูจารย์ชอบยืนอยู่หน้ากลด
เพิ่นบอก เรียนไปเอาบาตร เฮาจะบิณฑบาตแล้ว
พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นว่าให้ อาจารย์ชอบนี่บ่มีวาสนาสอนลูกศิษย์
ให้จิตสงบคืออาจารย์ช้างเน๊าะ ต่อไปให้ท่านเรียนเอาช้างเป็นอาจารย์เด้อ
ว่าให้แล้วพ่อแม่ครูจารย์เพิ่นกะยิ้มย้วยๆ (ยิ้มหวาน)
พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นฮู้ว่าจิตเฮาเป็นจั่งใด๋
เพิ่นรอให้เฮาถอนจิตออกมาก่อนเพิ่นถึงบอก”


“การได้อยู่ฝึกฝนอบรมธรรม
กับครูบาอาจารย์ผู้รู้จริงอย่างหลวงปู่ชอบนี่
เป็นบุญวาสนามหาศาลหลาย
เกิดอีกร้อยชาติล้านชาติจะได้พบจะได้พ้อ
กับพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ ทรงธรรม อย่างหลวงปู่ชอบอีกบ้อ”


หลวงปู่จันทร์เรียนศิษย์ผู้พี่ท่านเตือน

“คนเราถ้าเชื่อปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
เฮารับรองได้ว่าบ่มีทางที่ผู้นั่นตกจะอบายภูมิ
ผู้ใดเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วมีแต่เจริญไปหน้า
ที่ตกนรกอบายภูมิอยู่ทุกวันนี้เพราะมันบ่เซื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า
มันรั้นเกินธรรมพระพุทธเจ้า เอาแม้คนเราถ้าใจมั่นคง
อยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ใจผู้นั่นบ่มีทางตกนรกดอก”


รูปภาพ
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม - วัดป่าสัมมานุสรณ์

:b40: :b40:

:b47: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=48722

:b47: ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=48908

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2019, 20:10 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2023, 18:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2024, 09:33 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร