วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พรหมจรรย์ "จริยอันประเสริฐ" "การครองชีวิตประเสริฐ" ตามที่เข้าใจกันทั่วไป หมายถึง ความประพฤติเว้นเมถุน หรือ การครองชีวิต ดังเช่น การบวชที่ละเว้นเมถุน

แต่แท้จริงนั้น พรหมจรรย์ คือ พรหมจริยะ เป็นหลักการใหญ่ที่ใช้ในแง่ความหมายมากหลาย ดังที่อรรถกถาแห่งหนึ่ง ประมวลไว้ ๑๐ นัย คือ

หมายถึง

ทาน

ไวยาวัจจ์ (คือการขวนขวายช่วยเหลือรับใช้ทำประโยชน์)

เบญจศีล

อัปปมัญญาสี่ (คือพรหมวิหารสี่)

เมถุนวิรัติ (คือการเว้นเมถุน)

สทารสันโดษ (คือความพอใจเฉพาะภรรยา หรือ คู่ครองของตน)

ความเพียร

การรักษาอุโบสถ

อริยมรรค

พระศาสนา (อันรวมไตรสิกขาทั้งหมด) เฉพาะอย่างยิ่ง ความหมายสำคัญที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นหลัก คือ ๒ นัยสุดท้าย (อริยมรรค และพระศาสนา)

ในศาสนาพราหมณ์ พรหมจรรย์ หมายถึง การครองชีวิตเว้นเมถุน และประพฤติปฏิบัติตนเคร่งครัดต่างๆ ที่จะควบคุมตนให้มุ่งมั่นในการศึกษาได้เต็มที่ โดยเฉพาะในการเรียนพระเวท โดยนัย หมายถึงการศึกษาพระเวท และหมายถึงช่วงเวลา หรือ ขั้นตอนของชีวิตที่พึงอุทิศเพื่อการศึกษาอย่างนั้น (บาลี พฺรหฺมจริย)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


ในลัทธิเต๋าที่มีรูป "ไท่จี๋" เป็นสัญลักษณ์ คือ รูปวงกลม และมีเส้นโค้ง แบ่งเป็นสองส่วนขาว ดำ อุปมาว่าเป็นปลาสองตัว ปลาสีขาว เป็นตัวแทนของหยาง
ส่วนปลาตัวสีดำ เป็นตัวแทนของหยิน
ตาของปลาสีขาวเป็นจุดดำ แต่ตาของปลาสีดำเป็นจุดขาว คือ ในหยางมีหยิน และในหยินมีหยาง ผสมกลมกลืน


https://asinnaw.wordpress.com/category/ ... %E0%B8%B2/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(หนังสือ ทำอย่างไร จึงจะมีชีวิตยืนยาวและมีความสุข - หน้า 96)

ผู้เขียนมีโอกาสได้อ่านวารสารเศวตของสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนราชวิทยาลัย ได้อ่านพบเรื่อง การรักษาสุขภาพตามแบบของจีน เรียบเรียงโดย...ซึ่งเป็นกรรมการของสมาคมนี้ บทความนี้ ได้ให้ข้อคิดเห็นที่มีหลักฐาน และมีเหตุผลหลายประการที่แปลกไปจากเราท่านรู้ๆกัน

ผู้เขียนใคร่ขออนุญาตต่อบทความนี้ และบางตอนขอคัดข้อความของผู้เขียนบันทึกไว้เพื่อให้เรื่องที่ผู้เขียนได้เรียบเรียงนี้ครบถ้วนตามที่ผู้เขียนได้อ่าน และเห็นว่า มีหลักฐานอ้างอิงได้


ข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า "คนจีนในสมัยหนึ่ง มีความเชื่อ และพะวงถึงแต่เรื่อง ทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตยืนยาว มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง การที่คนมีอายุมาก และเรียกว่า "คนแก่" นั้น เป็นการเรียกด้วยความเคารพคารวะ ยิ่งมีอายุมากเท่าไรก็จะได้รับความเคารพ และยกย่อยมากขึ้นเท่านั้น และจีนถือว่า เมื่อมีอายุมากขึ้น ชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้น เป็นช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดของการมีชีวิต (ขอให้ท่านผู้อ่านเชื่อและคล้อยตามไปพลางก่อน) เพราะตามลัทธิต๋าวนั้น ผู้ที่มีชีวิตยืนยาว แสดงว่าได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎของหยิน และหยาง"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"คนจีนสมัยหนึ่ง เชื่อลัทธิต๋าว กับ ความรักถือเป็นอายุวัฒนะ ตามแบบหยินและหยาง (The Tao of Yin & Yang) (หยิน คือ พลังที่ได้จากฝ่ายหญิง หยาง คือ พลังที่ได้จากฝ่ายชาย)"

"จีนเชื่อว่า การร่วมประเวณีเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ซึ่งต้องการให้ผสมผสานพลังหยิน และหยาง ตามส่วนสัด"


ลัทธิต๋าวบัญญัติไว้ว่า "การทำให้น้ำอสุจิเคลื่อนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ฉะนั้น ในการร่วมประเวณี กับ หญิง 10 ครั้ง ควรจะปล่อยให้น้ำอสุจิเคลื่อนได้ไม่เกิน 3 ครั้ง เป็นอย่างมาก"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ในปี ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) สภาการแพทย์ของกรุงปักกิ่ง ได้จัดงานพิธีฉลองเป็นการระลึกถึงแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีนในสมัยโบราณ ชื่อ "ซุนซุโหมว" ผู้ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้แก่ประชาชนจีนเป็นอันมาก งานชิ้นหนึ่งในหลายๆชิ้น ที่ ซุนซุโหมว เป็นผู้ริเริ่ม ได้แก่ การปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษ เฉพาะงานชิ้นนี้ชิ้นเดียว น่าจะได้ช่วยชีวิตคนเป็นจำนวนล้าน


ซุนซุโหมว ไม่เฉพาะแต่ได้ช่วยผู้อื่น เขายังเป็นผู้รักษาสุขภาพของตัวเขาเองได้เป็นอย่างดีด้วย เขามีอายุถึง 101 ปี คือ ตั้งแต่ปี ค.ศ.581 - 628 และเป็นที่เชื่อได้ว่า เขาเป็นบุคคลที่ทำตามคำสอนที่ตัวเขาเอง ได้เคยสอนแก่ผู้อื่น คำสอนหรือคำแนะนำของเขาคือ "ถ้าท่านร่วมประเวณีเป็นจำนวนร้อยครั้งโดยไม่ปล่อยให้น้ำอสุจิเคลื่อนเลย ท่านจะมีชีวิตยืนยาวนาน"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บทความดังกล่าวนี้ ได้กล่าวถึงพระเจ้าฮ่องเต้อย่างน้อย 5 พระองค์ของจีน ในสมัยที่เชื่อถือลัทธิต๋าว และได้รับการสนับสนุน โดยปรมาจารย์นายแพทย์ซุนซุโหมว ต่างก็มีอายุระหว่าง 98 ปี ถึง 120 ปี หลักฐานดังกล่าวนี้ รวบรวมได้จากสมุดประวัติศาสตร์ ชื่อ ซุมาเซียงชีฉี ซึ่งต่อมานักประวัติศาสตร์ของจีนก็ยอมรับโดยทั่วกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนหนึ่งของบทความนี้ ได้เขียนว่า "ถ้าจะถือกฎอีกกฎหนึ่ง ซึ่งก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงได้เช่นกัน ดังต่อไปนี้

1.โดยทั่วๆไป บุคคลที่แข็งแรงควรจะปล่อยให้น้ำอสุจิเคลื่อนได้เพียงเดือนละ 2 ครั้ง หรือปีละ 24 ครั้ง

2.ผู้ที่มีอายุ 20 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 4 วัน

3.ผู้ที่มีอายุ 30 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 8 วัน

4.ผู้ที่มีอายุ 40 ปี ควรให้

เคลื่อนได้ทุกๆ 10 วัน

5.ผู้ที่มีอายุ 50 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 20 วัน

6.ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่ควรปล่อยให้เคลื่อนเลย แต่ถ้าหากร่างกายแข็งแรงจริงๆ ก็จะปล่อยได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ชายที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ถ้าอดกลั้นไว้นานมากเกินไปก็อาจทำให้ไม่สบายได้ อาจมีอาการเป็นผื่นแดงและคันตามตัว"


"ซุนซุโหมว ไม่แนะนำให้มีการงดเว้นการร่วมประเวณี เพราะจะเป็นการมีชีวิตที่ปราศจากประโยชน์จากความสมดุลที่ควรจะได้รับจากพลังหยิน และพลังหยาง"


คนไข้ถามว่า "มนุษย์เราที่มีอายุยังไม่ถึง 60 ปี ควรจะใช้ชีวิตโดยปราศจากเพศตรงข้ามดีหรือไม่"


ซุนซุโหมว ตอบว่า "ไม่ดี ชายจะไม่สามารถมีชีวิตยืนยาวได้ถ้าไม่มีหญิง และหญิงก็จะไม่สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ถ้าไม่มีชาย
ถ้าชายไม่มีหญิง เขาก็จะเรียกร้องหาหญิงตลอดเวลา การที่มีความอยากได้นี้ จะทำให้จิตใจอ่อนแอ ดังนั้น เมื่อจิตใจอ่อนแรง เขาก็จะมีชีวิตยืนยาวไม่ได้
แต่ถ้าเขาไม่มีความต้องการหญิงจริงๆ ก็จะเป็นการดีของชายสามารถมีอายุยืนยาวได้ แต่บุคคลเช่นนี้พบยากมาก"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ที่พยายามจะเก็บพลังของตนเองเอาไว้ด้วยการอดกลั้น เอาไว้สำหรับปล่อยออกเป็นครั้งเป็นคราวนั้น จะพบว่าการอดกลั้นนั้นยากมาก แต่การปล่อยง่ายนิดเดียว การปล่อยออกอาจมีขึ้นได้ในระหว่างหลับ อาจมีขึ้นได้ในการถ่ายปัสสาวะ อาจมีขึ้นได้ในการฝัน หรือปล่อยออกมาด้วยตนเอง

การปล่อยในลักษณะนี้ ถือว่ามีโทษมากกว่าการปล่อยด้วยใจสมัครสักร้อยเท่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในเรื่องนี้ ถ้าจะเปรียบเทียบการร่วมประเวณี กับ การกินอาหาร ก็หมายถึง การชิมลิ้มรสอาหารในลักษณะกินแต่ละคำด้วยการเคี้ยวอย่างมีรสชาติและอร่อย กินทีละนิดกินบ่อยได้ แต่อย่ากินจนอ้วกฉันใด ก็ฉันนั้น

ขอถามท่านว่า ความอร่อยของอาหารนั้น อิ่มจนท้องแน่นอืดแล้วถึงอร่อยหรือว่าอร่อยตั้งแต่ได้กลิ่น และลิ้นสัมผัสรสตั้งแต่คำแรก ?

ผู้เขียนได้อ่านบทความนี้แล้วอย่างน้อยผู้เขียนเชื่อในหลักของความพอดี และศิลปของกามารมณ์ และเชื่อในการออกกำลังกาย และการบังคับจิตโดยไม่ยอมเสียแรงด้วยการเคลื่อนอสุจิบ่อยครั้ง หรือทุกครั้งที่ร่วม
แต่ถ้าจะไม่เคลื่อนเลยทุกครั้งก็ผิดธรรมชาติ คำแนะนำนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เขามีชีวิตยืนยาวได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ซุนซุโหมว เป็นแพทย์จีนสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-906) ได้เขียนไว้ในตำราแพทย์ว่า การทำให้น้ำอสุจิออกจากร่างกายโดยเปล่าประโยชน์ จะทำให้ผู้นั้นป่วย และถ้าไม่หยุดเขาจะต้องตาย (มีปรากฏเสมอเป็นข่าวหนังสือพิมพ์)
เมื่อชายใดสามารถควบคุมการเคลื่อนได้ เขาผู้นั้น ไม่เพียงแต่รักษากำลังเอาไว้
เขากลับจะได้กำลังเพิ่มขี้นกว่าเดิมอีกมากมาย หญิงคู่นอนของเขาก็จะมีแต่ความพอใจ ซึ่งก็ทำให้เกิดเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น และทำให้เกิดความสามารถในอันที่จะร่วมหลับนอนกับหญิงได้บ่อยครั้งมากขึ้นเท่าที่ทั้งคู่จะมีความต้องการ และโดยที่เขาสามารถร่วมรักได้บ่อยครั้ง และ
แต่ละครั้งด้วยระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ทั้งคู่ก็จะได้รับพลังซึ่งกัน และกัน พลังที่ว่านี้ ได้แก่ พลังหยิน และพลังหยาง
ฝ่ายชายจะได้พลังหยินจากหญิง ฝ่ายหญิงจะได้รับพลังหยางจากชาย อย่างนี้ จึงเรียกได้ว่า ทั้งคู่ได้รับความสงบทางจิต มีความสมดุลด้วยกัน จากการร่วมรักกันตามหลักของต๋าว ดังนี้แล"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อตามลัทธิต๋าวนี้ก็ตาม ย่อมเป็นสิทธิของท่าน ผู้เขียนได้คัดข้อความที่มีผู้แปลและเรียบเรียง...บางท่านอาจจะมีข้อสงสัยว่า วิธีจะปฏิบัติตามลัทธิต๋าวนี้มีเขียนไว้หรือไม่ ตอบว่า มี ผู้เขียนเห็นว่าจะไม่เป็นการเหมาะสมที่จะเขียนไว้ในที่นี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้เขียนเคยคุยกับนักเลี้ยงไก่ชน เพื่อชนไก่เป็นอาชีพ ได้เล่าให้ผู้เขียนฟัง และได้เห็นวิธีการฝึกปรือไก่ชนอย่างไรบ้าง
ได้ความว่า เขาไปซื้อลูกไก่ชนที่เขารู้ประวัติของพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดของมันแล้วเอามาเลี้ยงดูด้วยอาหารที่ถูกต้อง และฝึกให้ออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อขา หน้าอก และคอ พอรุ่นกระทงเขาก็ให้รู้จักลิ้มรสตัวเมียเพียง 1 หรือ 2 หน เขาบอกว่าเพียงให้รู้จักรสชาติเท่านั้น

ต่อจากนั้น เขาไม่ยอมให้ทับตัวเมียอย่างเด็ดขาดไปจนกว่าจะปลดระวาง เขาให้เหตุผลว่า มันจะเสียแรง ตีและชนกับใครไม่ไหว

ถ้าไก่รู้จักวิธีปล่อยให้น้ำเชื้อเคลื่อนทุกครั้งเหมือนมนุษย์ มันก็ตรงกับลัทธิต๋าว แต่ไก่เป็นสัตว์ไม่ประเสริฐเท่ามนุษย์ เขาจึงไม่ยอมให้ทับไก่ตัวเมียอย่างเด็ดขาด ตลอดระยะเวลาที่มันชนให้เจ้าของได้

คิดแล้วก็สงสารไก่ในด้านความสุขอย่างหนึ่ง แต่แน่นอนเหลือเกินว่าความแข็งแกร่งของมันนั้นสูงแน่
ผู้เขียนมิได้นิยมชมชื่นจะให้คนเหมือนไก่หรอก เพียงเสนอเรื่องราวให้เห็นความสำคัญบางอย่างเท่านั้นเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้เขียนได้ลองนำเอาเรื่องลัทธิต๋าวนี้ ไปคุยกับเพื่อนเพื่อศึกษาหาข้อเท็จจริง ผู้เขียนมีเพื่อนอย่างน้อย ๓ คน ล้วนแต่อายุมากกว่าผู้เขียน

เพื่อนทั้งสามปฏิบัติตามลัทธิต๋าวเป็นเวลานานแล้ว โดยเจ้าตัวไม่ทราบเรื่องลัทธิต๋าวมาก่อนเลย ทั้งสามท่านมีสุขภาพอนามัย และสมรรถภาพแข็งแรงดียิ่ง และหลังจากหนังสือเรื่องนี้แพร่หลาย เพราะมีผู้ขอเอาไปพิมพ์เองบ้าง แจกงานศพญาติ หรืองานทำบุญต่างๆ ก็มีผู้นำลัทธิต๋าวไปลองปฏิบัติดู เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่เห็นจริงจัง และปฏิบัติตามลัทธินี้ ทุกคนมีร่างกายแข็งแรงเหนือระดับปกติทั้งสิ้น ขอให้ท่านพิจารณาด้วยตนเองก็แล้วกัน อย่าได้หลงเชื่อผู้เขียน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2019, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนที่ผู้เขียนจะได้อ่านเรื่องลัทธิต๋าวนี้ ได้มีการถกเถียงกันอยู่ในเรื่องนี้โดยยังไม่มีข้อยุติว่า วิธีใดถูกต้องกันแน่ จนได้อ่านเรื่องนี้และได้ทราบว่า เพื่อนรุ่นน้องของพ่อของผู้เขียนบางท่าน รวมทั้งผู้แปลเรื่องนี้ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนราชวิทยาลัย ได้ถือปฏิบัติตามลัทธิต๋าว รวมไปกับการออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆกัน

ท่านเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีสุขภาพอนามัยแข็งแรง อีกทั้งยังมีความหนุ่มแน่นกระชุ่มกระชวยเกินอายุจริงเป็นสิบๆปี
แม้บางท่านผ่านชีวิตเข้าวัยเกิน 7 รอบแล้วก็ตาม ท่านก็ปฏิบัติกิจทางเพศตามลัทธิต๋าวอย่างหน้าตาเฉย อย่างนี้ก็มีด้วย
ลูกหลานต้องเห็นใจท่าน ต้องช่วยเหลือท่านตามควร แต่โอกาส ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านมีอายุยืนยาวนานด้วยความสุข ไปจนกว่าท่านจะสงบไปเอง โปรดอย่าคิดว่าไม่สำคัญหรือหาว่าผิดปกติเลย เรื่องของธรรมชาติแท้ๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร